เข้าสู่ระบบ“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”
เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย “อวยพรให้หน่อยสิ” “หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?” “ได้แล้ว แต่อยากได้อีก” สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น “ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร” ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้า พรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล “พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง” ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งนั้น” “หนูก็มีสิทธิ์ตั้งแต่กำเนิดแล้ว ไม่มีใครเอาไปได้หรอก คุณพ่อหนูไม่ได้เหมือนพ่อพี่” “ก็ใกล้แล้วล่ะค่ะ” ธีทัตแกะแขนเธอที่กอดอกออกแล้วจับมือเธอขึ้นมาจูบเบาๆ “แค่พู่พูดออกมาว่าเราจะอยู่ด้วยกัน พี่จะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ต่อให้พ่อจะไล่พี่ไป เราก็อยู่ด้วยกันสองคนก็ได้ พี่จะไม่ให้พู่ลำบาก พี่สัญญา” “งั้น..พี่ธีทำเพื่อหนูได้มั้ย ถ้ารักหนูจริง” “พู่บอกพี่ได้เลย“ พรรณนาราขยับมาใกล้เขา เธอเงยหน้ามองเขาใกล้ๆ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มผู้เป็นรักแรก “พี่ธีต้องแต่งงานกับคนที่พ่อพี่เลือก จนกว่าเขาจะเซ็นยกทุกอย่างให้พี่แต่เพียงผู้เดียว ถ้าพี่ได้ทุกอย่างเมื่อไหร่ ค่อยมาคุยกับหนู” “ทำไม?..พู่” “ก็ดูไปว่าเมื่อพี่มีทุกอย่างแล้ว จะยังคิดถึงผู้หญิงคนนี้อยู่มั้ย? ถึงตอนนั้นพี่อาจไม่สนใจหนูอีกแล้วก็ได้” “พี่ไม่อยากแต่งงานกับใครถ้าไม่ใช่หนู” “ถ้าอยากรอดด้วยกัน..ต้องมีคนใดคนนึงรอดก่อน ถึงจะช่วยอีกคนได้ พี่กลับลงไปได้แล้วค่ะ ก่อนทุกคนจะสงสัย” ธีทัตจู่โจมจูบเธอพร้อมกับกอดที่แข็งแรงแนบแน่น ก่อนจะคลายกอดและถอนปากจากเธอ “เมื่อถึงเวลานั้น หนูจะหนีพี่ไปไหนไม่ได้อีก” จนถึงเวลาห้าทุ่มทุกคนย้ายเข้ามานั่งสรวลเสเฮฮาดื่มกินกันในห้องนั่งเล่น พิชามญช์ได้ขอตัวขึ้นมาดูแลลูกชายและจะพักผ่อน จึงแวะมาเคาะประตูห้องของพรรณนารา “ว่าไงคะแม่?” “ตกลงแกคุยกับคุณธีว่าไงบ้าง? เขาจะแต่งมั้ย?” “พี่ธีจะแต่งงานค่ะ” “นังลูกโง่ ผู้ชายที่ดีแบบนี้ยังปล่อยหลุดมือ” “แม่ได้ไปเยอะแล้ว ต่อให้น้องวินไม่ใช่ผู้ถือครองทุกอย่าง พี่ธีก็ไม่ใจจืดใจดำทิ้งน้องหรือไม่ให้อะไรน้องเลยหรอกค่ะ” “ใช่สิ แกมีทรัพย์สมบัติทางพ่อแล้วนี่จะห่วงอะไรล่ะ” “แม่อย่าลืมนะว่าพ่อมีภรรยากับลูกใหม่แล้ว หนูอาจตกกระป๋องก็ได้” พิชามญช์ทำท่าคิดหนัก มองลูกสาวด้วยความหนักใจ “สรุปลูกฉันทั้งสองคนจะไม่ได้อะไรกันเลยใช่มั้ยเนี่ย..เฮ้อ..” “พ่อถามถึงแม่หลายครั้งนะคะ..ตั้งแต่รู้ว่าแม่ท้องและมีน้องชาย ถามจนภรรยาใหม่พ่อถึงกับหมั่นไส้หนู หาเรื่องกลั่นแกล้งตัดต้นจำปีของคุณยาย เอาของแต่งบ้านที่แม่ซื้อไปทิ้ง” พิชามญช์ถึงกับของขึ้นเมื่อรู้ว่าต้นจำปีที่แม่ของเธอปลูกไว้ให้ตอนที่เธอและอดีตสามีย้ายเข้าบ้านหลังแต่งงานเพื่อเป็นสิริมงคลถูกตัด “ลูกโดนมันแกล้งเหรอ? ทำไมไม่บอกแม่?” “ไม่อยากให้แม่เครียดค่ะ ตอนนั้นแม่ท้อง แล้วภรรยาใหม่พ่อก็ท้องหลังแม่ไม่นาน ช่างเถอะค่ะ หนูแค่พูดให้ฟังเท่านั้น..หนูไม่สำคัญกับพ่อและแม่อยู่แล้ว แม่พักเถอะค่ะ ดึกแล้ว” พรรณนาราแค่ยักไหล่แล้วกำลังจะปิดประตู ก็ได้ยินเสียงของชรันที่พูดประกาศกับทุกคน “มีข่าวดีจะแจ้งด้วยว่า ธีทัตจะแต่งงานกับแบม ชวนทุกคนร่วมงานล่วงหน้าด้วยนะ” ทุกคนพากันส่งเสียงแซวว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันสนุกสนาน พรรณนาราก้มหน้านิ่งแล้วค่อยๆปิดประตู พิชามญช์ที่เห็นสีหน้าท่าทางของลูกสาว กลับทำให้อยู่ๆก็รู้สึกผิดขึ้นมา.. หลังจากนั้นพรรณนาราก็เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้เธอมานอนที่บ้านชรันน้อยลงและอยู่บ้านพ่อของเธอมากกว่าเพราะไปเรียนสะดวก ทำให้ชรันหึงและหวงเธอถึงกับติดจีพีเอสไว้กับรถยนต์ที่เขาซื้อให้ ส่วนธีทัตที่เริ่มทำงานจริงจังในบริษัทของพ่อจึงมีข้ออ้างในการเลื่อนงานแต่งออกไปอีก “จะเลื่อนทำไม? แต่งงานไม่มีผลกับการทำงานสักหน่อย มีหลานไวๆยิ่งดี” “พ่อจะให้ผมตามที่เคยพูดหรือเปล่า? หรืออยากยกให้ภรรยาใหม่?” “แต่งงานแล้วสัญญากับพ่อว่าจะไม่ทิ้งน้องชายของลูก วินยังเล็กมาก ถ้าพ่อเป็นอะไรไปก่อน” “ผมไม่มีวันทิ้งหรอกครับ พ่อสบายใจได้” “อีกเรื่องนึง อย่ายุ่งกับหนูพู่ เธอเป็นสมบัติของพ่อ เข้าใจมั้ย?” “ครับ” ธีทัตฝืนตอบโกหกไปเพื่อให้เขาบรรลุสิ่งที่ตั้งใจก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง ไม่นานนักหลังจากที่พรรณนาราอายุได้ 19 ปี ธีทัตก็แต่งงานกับแบม ภายนอกที่ทุกคนล้วนบอกว่าสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก ทว่าเบื้องหลังธีทัตมีแต่ความห่างเหินที่มอบให้ภรรยา “ธี ทำไมถึงไม่ปฏิเสธการแต่งงานกับแบมเหรอ? ตั้งแต่เราไปเรียนต่อด้วยกันจนถึงตอนนี้ แบมพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อธี มันยังไม่ดีพอใช่มั้ย?” “คุณตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อน ค่อยมาถามผม” “เพราะแบมรักธีไง ธีเป็นรักแรกของแบม เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตแบม” “คุณกับพ่อแม่ผม ตกลงกันลับหลังผมไปหมดโดยไม่บอกผมสักคำ แล้วจะถามผมทำไมอีก” สำหรับธีทัตแล้วการทำหน้าที่สามีนั่นไม่ยาก ยกเว้นเรื่องบนเตียงที่เขาไม่ทำ แบมไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเขายังติดใจอยู่กับ “เด็กรุ่นน้อง” ที่เธอไม่รู้จักคนนั้นหรือว่าโดนจับแต่งงานกับคนที่หมดรักไปแล้วกันแน่ ในวันหนึ่งที่ธีทัตออกไปทำงานที่บริษัทแล้ว แบมได้ไปหาคุณแม่สามีเพื่อสอบถามสิ่งที่เธอคาใจ “คุณแม่คะ ความสัมพันธ์ของหนูกับธีมันนิ่งมากจนหนูเริ่มท้อ” “พึ่งแต่งงานได้แค่เดือนกว่าเองลูก ธีน่าจะงานเยอะ คิดเยอะ ไว้แม่จะลองคุยกับธีว่าเป็นยังไง” “ไม่ใช่หรอกค่ะ มันเป็นมาตั้งแต่บอกเลิกกันก่อนไปเรียนต่อแล้วค่ะแม่ ตอนเรียนขนาดอยู่อพาร์ทเม้นท์เดียวกัน เขาก็รักษาระยะห่างกับหนู ทำเหมือนเป็นแค่รูมเมทกัน” “แล้ว..ได้มีอะไรกันบ้างมั้ย?” แบมส่ายหน้าพร้อมกับก้มหน้าด้วยความเศร้าใจ “ห๊ะ? แล้วแบบนี้หลานแม่จะมาเมื่อไหร่กัน?” “แม่คะ เด็กรุ่นน้องที่ธีเคยชอบ แม่พอจะรู้มั้ยคะว่าเป็นใคร? หนูรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตเขาไม่ไปไหน” กชกรชั่งใจว่าจะบอกดีหรือไม่เพราะอดีตสามีสั่งห้ามไม่ให้บอกใคร “ไม่ต้องไปสนใจหรอกลูก ธีก็แค่คุยช่วงสั้นๆไปไหนก็ไม่รู้แล้วป่านนี้” “ธีเอาโทรศัพท์ติดตัวตลอดแม่กระทั่งตอนนอนก็ไว้ใต้หมอน ใส่รหัสแน่นหนาทุกอุปกรณ์ หนูลองติดจีพีเอสที่รถยนต์ก็ไม่ได้ไปไหนที่ผิดปกติเลย แต่เซ้นส์ของผู้หญิงอะค่ะแม่ หนู..รู้สึกได้” “แม่ว่าไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากนะ ไว้แม่จะเรียกมาปรับทัศนคติสักหน่อย” “เขาปันใจให้คนอื่นก่อนแท้ๆ แต่กลายเป็นหนูที่ผิดซะงั้น..” พรรณนาราอยู่บ้านพ่อเกือบตลอดอาทิตย์ จะมาอยู่บ้านของฝ่ายแม่ก็แค่วันจันทร์หรืออังคารซึ่งเธอมักพาเพื่อนมานอนค้างด้วยเพื่อทำรายงาน ทำให้ชรันเข้าหาเธอยากมากขึ้น ส่วนพิชามญช์ที่เอาแต่ดูแลลูกน้อย ทำให้เขามีเวลาว่างไปเข้ากลุ่มลับที่มีการซื้อขายบริการทางเพศกับเด็กวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จนได้เด็กอายุ 15 มาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดและเขารับมาอุปการะส่งเสียให้เรียนหนังสือและเช่าหอให้ โดยไม่มีใครล่วงรู้ ………………………………………🎆🌷พิชามญช์กลับมาที่บ้านหลังจากทำผมทำหน้าเสร็จ และรีบขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านก็เจอลูกสาวกล่อมน้องชายอยู่ เธอยืนดูลูกสาวเงียบๆอยู่พักหนึ่ง พลางคิดแล้วว่าลูกสาวจะต้องเจอฤทธิ์เดชของชรันยังไง“พู่ มาคุยกับแม่ตอนนี้เลย เวลามีไม่มาก ไปที่ห้องคุณธี”พรรณาราทำหน้างง แต่ก็ตามออกไปโดยดี“เมียคุณธีมาที่นี่ใช่มั้ย? มันโทรไปฟ้องคุณรันว่าสงสัยเรื่องลูกมีอะไรกับผัวมันที่นี่ แล้วตอนนี้เขากำลังจะขึ้นเครื่องกลับ แม่มีคำถามจะถามอย่างหนึ่ง ก่อนจะบอกให้ลูกหนีไปจากที่นี่ หมายถึง..ไม่ต้องกลับมาอีก อย่าให้เขาตามหาลูกเจอ ดูแลตัวเองให้ดี”“แต่เขารู้ว่าหนูเรียนที่ไหน?”“แม่จะหาวิธีดึงเขาให้เลิกสนใจลูกเอง เอาล่ะ..บอกแม่สิ ลูกมีอะไรกับคุณธีหรือเปล่า?”“ไม่มีค่ะ เราแค่คุยกัน”พิชามญช์ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ถามต่อ “เขาจะช่วยลูกได้และลูกคือคนที่จะทำให้เขามีความสุข ต่อสู้เพื่อตัวเอง เราเป็นผู้หญิง ใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์”“แบบแม่น่ะเหรอคะ? หนูไม่ใจร้ายขนาดนั้น”“ไปเก็บของแล้วไปซะ ให้ฟ้ามาช่วยเก็บ”พรรณนาราให้ฟ้ามาช่วยเก็บของทั้งหมดที่จำเป็นรวมถึงกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องที่กุมความลับทุกอย่างในห้องนี้เอาไว้มาหลายปี “น้องพู่ เด
ธีทัตที่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่น มั่นใจในตัวเองและดูเอาแต่ใจมากขึ้น “พี่ธี..อื้ออ..ปล่อย” เขาบังคับเอาจูบจากเธอ สองแขนที่กอดแน่น มือที่จับต้นคอเธอไม่ให้หนีหน้าไปจากเขา ไม่มีอะไรหยุดเขาจากความต้องการที่ปะทุขึ้นได้อีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะ..พี่ธี เดี๋ยวก่อน..อ๊ะ” พรรณนาราถูกจับกดลงบนเตียง นั่นทำให้เธอกลัวมากเพราะยังไม่ได้ตั้งตัว “รออะไร? พี่รอมาสามปีแล้ว” เขาจูบอย่างหนักหน่วง ใช้น้ำหนักตัวกดทับเพื่อไม่ให้พรรณนาราดิ้นหนี มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นลูบไล้ต้นขาและสะโพกของเธอ ก่อนจะพยายามดึงกางเกงแต่อีกฝ่ายต่อต้านด้วยการยื้อไว้ไม่ให้เขาดึงออกไปได้ “พี่ธี…เดี๋ยว ให้หนูทำให้ดีกว่ามั้ยคะ?” ธีทัตมองเธอใกล้ๆด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาต้องการและต้องได้ตอนนี้ “ทำอะไร? ไม่ต้องทำ พี่จะเป็นฝ่ายทำ” เธอกลืนน้ำลายและคิดหาทางเอาตัวรอด จึงเอามือลูบและขยำแก่นกายเขาที่แข็งตัว รูดซิบลงแล้วเอามือล้วงเข้าไปจับข้างในกางเกงแทน “ทำไมไม่อยากให้ทำ ไม่รักพี่แล้วเหรอ? หนูบอกว่าพี่ได้ทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกัน นี่ไง..พี่ได้ทุกอย่างแล้ว” “อย่าพึ่งพูดเลย..ให้หนูทำก่อนนะ” เขาบรรจง
ธีทัตฝากของขวัญวันเกิดให้พรรณนาราที่อายุครบ 19 ปี ผ่านทางแม่บ้านสาวอย่างฟ้า เป็นสร้อยแพลตตินั่มจี้เพชรทรงหยดน้ำที่เขาตั้งใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อเธอ“น้องพู่ คุณธีฝากของขวัญวันเกิดไว้ให้นะคะ แกโทรมาให้พี่เดินออกไปเอาตั้งไกลแน่ะ สงสัยกลัวคนมาเห็น น้องพู่จะมานอนบ้านนี้อีกทีตอนไหนคะ?”“อาจจะวันศุกร์นี้ค่ะ อยู่บ้านพ่อก็เบื่อ เสียงเด็กร้องโวยวายตลอด ลูกสาวคนใหม่ของพ่อดื้อมาก อารมณ์ร้ายน่าดู ไม่พอใจอะไรก็ตะเบ็งเสียง”“ตายจริง ผิดกับน้องชายน้องพู่เลย ยิ้มเก่ง เริ่มพูดเก่งแล้วเนี่ย ถึงพี่จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ แต่เห็นจากไกลๆ ป้าพูดให้ฟังว่าน่ารัก เลี้ยงง่ายมาก”“ไม่อยากเชื่อเลยเนอะ”“ยังไงคะ?”“ก็แม่น่ะ ตอนท้องชอบหงุดหงิดจับผิดไปหมด ชอบวางแผน อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่น้องชายหนูดันตรงข้ามเลย”“ช่วงนี้คุณชรันไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยน่าจะงานยุ่ง คุณป้ามาบอกพี่ว่าคุณแม่น้องพู่บ่นทุกวัน แต่ก็ดีกับน้องพู่นะ”“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าเขาน่าจะมีเด็กใหม่”“หึ..คนมักมาก สักวันโรคจะถามหา”“พี่ฟ้า..หนูอยากให้พี่ได้เจอคนดีๆเหมือนกันนะคะ”“ถ้าพี่ยังจน ความรู้น้อย คงไม่คิดมีแฟนหรอกค่ะ ที่ผ่านมานี่ก็สิ้นคิดพอแล้ว”“ไม่เอาน่า”วั
“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที
ไม่นานนักปริมก็คลอดบุตรสาวที่มีน้ำหนักน้อยมากจนต้องเข้าตู้อบโดยมีแม่บ้านคนสนิทคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สามีและลูกเลี้ยงสาวได้เดินทางมาเยี่ยม “พ่อคิดชื่อไว้แล้ว ชื่อจริง ปนิตา ชื่อเล่น น้องนิต้า ลูกว่าดีไหมพู่กัน?”พรรณนาราแค่ยิ้มรับตามมารยาทแล้วพยักหน้า“ขึ้นต้นคล้ายกับลูกชายของคุณแม่เลยค่ะ ชื่อ ปภาวิน น้องชายหน้าคล้ายหนูกับคุณแม่มาก”เธอพูดกับพ่อจบก็เดินมาที่ปลายเตียงของปริม “ยินดีด้วยนะ..ที่ได้..ลูกสาว อย่าอดอาหารเพราะห่วงจะหุ่นไม่สวยเกินไป ทำเอาน้องตัวนิดเดียวเอง .. พ่อคะ เดี๋ยวไปส่งหนูที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ได้มั้ย?”“หือ จะหัดขับแล้วเหรอ? อ้อ จริงสินะ อีกปีนึงลูกจะจบ ม.6 แล้ว งั้นพ่อจะซื้อรถให้”“ไม่ต้องซื้อค่ะ วันเกิดที่ผ่านมาหนูได้รถเป็นของขวัญแล้ว Porsche 911 Frozen Berry Metallic สีชมพูตามวันเกิด พ่อให้อย่างอื่นหนูก็ได้นะคะ หนูอยากได้ที่พักใกล้มหาวิทยาลัยค่ะ”“แล้วแม่ว่าไง? อนุญาตเหรอ?”“แม่โอเคอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง”“งั้นรอลูกเลือกมหาวิทยาลัยก่อนค่อยมาบอกพ่อแล้วกัน”ปริมที่ได้แต่นอนฟังอย่างไม่มีปากมีเสียง เธอผิดหวังที่มีลูกชายให้เขาไม่ได้ พอจะขอใช้วิธีทางการแพทย์ ณัฐวีย์กลับไ







