ยื้มเงินก็ต้องคืนแต่ถ้าไม่คืน......ลูกสาวแกก็ต้องชดใช้
view moreก๊อกกกกก
เสียงเคาะประตูที่น่าเบื่อในทุกๆ วันที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของฉัน และไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะนั้นคือน้องชายต่างแม่ของฉันนั้นเอง 'กาฟิวส์' ที่เคาะประตูเรียกฉันแบบนี้เป็นประจำในขณะที่ฉันกำลังนอนหลับมาได้แค่ไม่กี่นาทีเพราะฉันต้องออกไปทำงานดึกๆ มาทุกวันและเข้าเรียนตอน10โมงกว่าตลอด
ที่บ้านหลังนี้มีเพียงแค่ฉันและพ่อที่ต้องออกไปทำงานหาเลี้ยง2คนที่เอาแต่ผลาญเงินไปวันๆ และไม่เคยช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านเลยแม้แต่น้อย
ฉันต้องทำงานในช่วงกะดึกที่ผับเพราะเงินดีและเป็นที่ที่รุ่นพี่แนะนำให้รู้จักอีกด้วย แต่ก็พยายามหางานอื่นๆ พิเศษทำควบคู่อีกด้วย ฉันต้องหาเงินให้ได้เยอะพอสมควรเพื่อต้องนำเงินไปผ่อนจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้านและให้ไอ้น้องชายคนนี้อีก
ฉันเรียนอยู่ปี3คณะวิศวกรรมเพราะฉันอยากที่จะตามรอยแม่ที่เรียนมาทางด้านนี้เหมือนกัน ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่เพราะฐานะที่ต่างจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
แต่โชคดีมากที่มีคนคบอยู่อย่างจีจี้ที่เป็นสาวสองที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ม.ต้นและไวพจน์ที่พึ่งเจอกันตั้งแต่ขึ้นปีหนึ่ง
สองคนนี้ถือว่าฉันสนิทกับพวกเขามากมีอะไรก็ปรึกษาสองคนนี้ตลอดโดยเฉพาะเรื่องเรียน ยัยจีจี้ถือว่าเรียนเก่งที่สุดในแก๊งเลยฉันและไวน์พจน์เลยฝากความหวังไว้ที่นางตลอด
ฉันค่อยๆ ลงจากเตียงนอนสุดแข็งและค่อยๆ เดินไปเปิดประตูอย่างช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไรมากเพราะมันก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่มันเคยทำและขอประจำ
"เงินอ่าทำเปิดช้าจังวะ!!! ไปสายทำไง"ไอ้เด็กนิสัยเสียนั้นตะโกนใส่ฉันเหมือนเช่นเคยเพราะมันนี้แหละตัวผลาญเงินตัวดี ถ้าฉันไม่เห็นแก่พ่อฉันคงจะหนีย้ายออกไปให้พ้นๆ 2คนนี้แล้ว
ฉันเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าตังค์และหยิบแบงก์ร้อยใบหนึ่งยื่นให้กับมัน กาฟิวส์ยืนมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจเอามากๆ เพราะปกติมันจะรีดไถฉันวันละ300เป็นต้น
"ทำไมให้น้อยวะ กูไม่พอใช้เว้ย!!!"ฉันไม่ได้สนใจไอ้เด็กนี้เลยด้วยซํ้าเพราะนอกจากมันจะเกเรนิสัยเสียมันยังติดพนันบอลเอามากๆ
"เห้ยยยย!!!เอามาอีกดิวะ กูไม่พอใช้ไง!!"
"กูมีแค่นี้ จะเอาไม่เอาก็ตามใจมึง น่าเบื่อชิป"
"เห้ยยย กูต้องใช้นะเว้ย!!!"ฉันยังคงไม่สนใจและพยายามที่จะปิดประตูห้องนอนของฉันไปก่อนที่มันจะผลักประตูและพุ่งเข้ามาตบแก้มนุ่มๆ ของฉันทันที
ปั้วววว!!!
เลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากทำเอาฉันนิ่งไปเลยทีเดียวและนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่มันเป็นหลายๆ ครั้งแล้วที่ฉันโดนน้องชายต่างแม่ตบแบบนี้
"อย่ามาตอแหลกู"
"ก็ฉันมีแค่นี้อ่ะอีกไม่กี่วันฉันก็ต้องจ่ายค่าเทอมค่านํ้าค่าไฟอีก แกกับแม่แกเคยทำอะไรบ้างปะ ได้แต่แบมือขอเงินอ่ะ ฉันก็เหนื่อยเหมือนกันนะเว้ย!!"ฉันเลือกที่จะตะโกนออกมาก่อนที่ทั้งพ่อและแม่เลี้ยงของฉันจะเดินเข้ามาในห้องนี้เช่นกัน
"อ่านี้ฟิวส์เอาเงินพ่อไปนะ พรไปส่งลูกปะ"ฉันยืนมองเงินที่พ่อยื่นให้มันอย่างไม่พอใจมากนักเพราะกว่าพ่อจะหาเงินมาได้แต่ละบาทและก็ต้องยกให้แม่เลี้ยงนั้นและน้องชายของฉันตลอด
"ไปเหอะฟิวส์ลูก อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์"ฉันกับป้าพรแทบจะไม่สนิทสนมกันเลยด้วยซํ้าและปะทะอารมณ์กันบ่อยมากเพราะเขาเอาแต่ทำตัวเป็นคุณนายไปวันๆ โดยที่ไม่ทำอะไรเลย
"เจ็บไหมมิราส์"
"หนูเจ็บไม่เท่ากับที่พวกมันทำหรอกค่ะ หนูเคยบอกพ่อแล้วนะคะที่หนูทนเพราะหนูเห็นแก่พ่อ แต่ถ้าวันไหนมันไม่ไหวจริงๆ ....หนูจะไปแล้วจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก"ฉันไม่ได้สบตาท่านเลยด้วยซํ้าเพราะสิ่งที่ฉันพูดมันก็แค่ก็คำพูดตอนที่ฉันโกรธก็แค่นั้น
"พ่อเข้าใจนะลูกถ้าวันที่หนูไปจริง หนูก็อย่าลืมติดต่อพ่อมาด้วยนะให้พ่อได้รู้เรื่องราวของลูกบ้างไม่ใช่ว่าหายไปเลย"พ่อพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงแต่ถ้าจะให้ฉันไปจริงๆ ฉันคงไม่ยอมติดต่อกลับมาแน่ๆ เพราะฉันอยากตัดขาดกับคนพวกนี้ซะเว้นแต่พ่อของฉันเองที่ต้องทนอยู่กับคนพวกนี้
"หนูขอตัวก่อนนะคะพ่อ หนูต้องไปมหาลัย"ฉันพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องนํ้า อาบนํ้าแต่งตัวเพื่อจะเดินทางไปมหาลัย ชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอและเสื้อช็อปของคณะ ฉันยอมรับว่ามันโอเครกับฉันเอามากๆ
ฉันเดินถือกระเป๋าผ้าและชีทลงไปยังชั้นล่างเพื่อที่จะเตรียมตัวออกไปทันที แต่ก็มีสายตาของแม่เลี้ยงที่มองมาอย่างไม่พอใจเอามากๆ ฉันเลือกที่จะไม่สนใจและเดินออกไปจากตรงนั้นให้ได้เร็วที่สุด
"ไร้มารยาท ไม่เห็นหรอผู้ใหญ่นั่งเนี่ย"ฉันยืนแน่นิ่งไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยก่อนที่จะหันไปไหว้ผู้เป็นพ่อแต่เพียงผู้เดียวและใส่รองเท้าเดินออกไป
ฉันเดินออกมาจากที่บ้านเพื่อจะไปต่อรถเมล์และเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยและมันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ฉันไม่ได้อยู่กับพ่อตั้งแต่เกิดเพราะพ่อกับแม่หย่ากันและแต่งงานมีลูกใหม่
พ่อไม่เคยเลี้ยงดูหรือส่งเสียฉันเลยเพราะลำพังแค่ตัวท่านก็เกือบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว แต่พอตอนที่ฉันกำลังจะจบจากโรงเรียนแม่ก็ดันโดนรถชนและเสียชีวิตไปจึงทำให้ฉันได้มาอยู่กับครอบครัวใหม่ของพ่อ
ฉันต้องพยายามดิ้นรนหาเงินเองใช้จ่ายทั้งค่าเทอมค่าส่วนตัวแถมแม่เลี้ยงของฉันยังขู่บังคับให้จ่ายค่านํ้าและค่าไฟอีก
ภาระของฉันจึงต้องเพิ่มขึ้นเอามากๆ แต่ก็ยังมีความโชคดีที่ฉันเป็นเด็กทุนแต่ก็ยังไม่พอใช้จ่ายอยู่ดีในแต่ละวัน
@มหาลัย Queen👑 of kun คณะวิศวะ
"ยัยมิราส์ ทางนี้"เสียงเจื้อยแจ้วของจีจี้สาวสองเพื่อนสนิทของฉันเอ่ยทักเมื่อเห็นฉันเดินหงอยๆ เข้ามาอย่างเรื่อยเปื่อย
"มิราส์แกโดนอีกแล้วหรอ"เสียงไวพจน์พูดขึ้นมาพร้อมกับจีจี้ที่ตอนนี้กำลังสำรวจร่างกายของฉันไป ฉันยกยิ้มให้เพื่อนแต่กลับไม่ได้ตอบเพราะยังไงมันก็คือคำตอบเดิมๆ ที่เพื่อนๆ มักได้ยิน
"ฉัน....."ฉันยังไม่ทันได้เริ่มพูดจู่ๆ ไวพจน์ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาทันทีเพราะฉันไม่เคยพูดคำอื่นเลยเพราะนี้คือเรื่องของครอบครัวจึงไม่อยากให้ใครรู้อะไรมาก "ฉันไม่มีเงินให้มัน มันเลยตบฉัน แต่ฉันไม่เป็นไรฉันชินแล้ว ไม่ต้องห่วงนะพวกแก"
"แกก็เป็นแบบนี้ตลอด ย้ายมาอยู่กับฉันเหอะ"จีจี้สาวสองเอ่ยขึ้นมาเพราะเธอพักอยู่คอนโดหรูที่มีอยู่2ห้องพอดีและมันก็บังคับให้ฉันไปนอนคอนโดกับมันด้วยอยู่เป็นประจำ
ฉันค่อยๆ เหงยหน้ามองเพื่อนทั้งสองไปและยกยิ้มให้กับเพื่อนๆ อย่างเช่นเคยอย่างที่เคยทำ ก่อนที่จะก้มดูนาฬิกาข้อมือเพื่อบ่ายเบี่ยงความสนใจของทั้งสอง
"เห้ยยยพวกแก สายแล้วเร็วอาจารย์จะเข้าแล้วเร็วๆ ดิ"ฉันรีบลุกจากที่นั่งตรงนั้นและเดินออกไปทันทีโดยไม่รอเพื่อนๆ แต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงก้าวฉันก็ต้องชะงักเพราะจู่ๆ ฉันก็เกิดชนเข้ากับใครสักคนหนึ่ง
ตุ๊บ!!!
"อ๊ะ!!!"ตอนนี้มือหนาของเขาจับที่เอวบางของฉันไว้เพื่อไม่ให้ล้มลงไป โดยที่ตอนนี้ใบหน้าของฉันกำลังซบลงตรงกลางอกของเขาอย่างจัง นํ้าหอมกลิ่นแบรนด์หรูที่ติดตามเนื้อตัวของเขาไปก่อนที่ชายคนนั้นจะผลักฉันออกมาจากตัวเขา
"ขอโทษนะคะ ฉันไม่ทันได้มอง"ฉันค่อยๆ เหงยหน้าขึ้นไปมองชายคนนั้นที่ดูๆ แล้วสุดขรึมมากและดูเย็นชาที่สุดเขาไม่ได้ยิ้มหรือพูดอะไรแต่กลับมองหน้าฉันนิ่งๆ
"เป็นไงบ้าง เชี้ย!!! เออ..... พวกเราต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะคุณมาฟอร์"มาฟอร์ มาฟอร์งั้นหรอ ฉันทวนชื่อเขาในใจอีกครั้งเพราะเหมือนฉันจะเคยได้ยินชื่อเขามาจากที่ไหนสักแห่ง แต่คงจะเป็นตามแหล่งข่าวเพราะดูจากท่าทางและบอดี้การ์ดที่รายล้อมเขาแล้วคงเป็นพวกที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากแน่ๆ
"หลบทางด้วย!!!!"เสียงแข็งกร้าวของมาฟอร์ที่เอ่ยขึ้นมาทำเอาขนแขนลุกเป็นระนาวเพราะมันทั้งน่ากลัวและดุดันเอามากๆ
เพื่อนๆ ของฉันที่เห็นแบบนั้นจึงรีบพาฉันวิ่งเข้าไปที่ห้องเรียนทันทีและเล่าให้ฉันฟังว่าบุคคลที่ฉันเดินชนนั้นคือมาฟอร์มาเฟียที่โหดที่สุดและมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่เอามากๆ เลยทีเดียว
แถมมาฟอร์คนนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเสือตัวพ่อเอาไม่เลือกหน้าอีกต่างหาก แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะไม่ว่ายังไงเราก็คงจะได้เจอกันครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วและฉันก็ไม่ได้อยากมีปัญหาที่จะเข้าไปยุ่งกับใครอีก
หลังจากนั้นพวกฉันก็นั่งเรียนกับเพื่อนๆ ไปตามปกติและแยกย้ายกันออกมา
ปกติถ้าเลิกเช้าแบบนี้ฉันก็จะไม่กลับบ้านเลยเพราะไม่อยากเจอใครในบ้านจะกลับอีกทีก็คงเป็นตอนเช้าของวันพรุ่งนี้
ฉันกับเพื่อนเดินมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ตรงทางเดินเพราะจู่ๆ ก็มีบอดี้การ์ดชุดดำยืนอยู่และเดินมาทางฉัน
"ฉันว่าแกแย่แน่ไอ้มิราส์"ฉันไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมาเลย แต่ภายในใจนั้นสั่นกลัวมากแค่เดินชนนิดหน่อยเขาจะโกรธฉันไหมหรือเขาจะทำอะไรฉันรึเปล่าฉันได้แต่คิดอยู่ในใจและไม่ได้ตอบอะไรออกมาเลย
"คุณมิราส์ครับ คุณมาฟอร์เชิญให้ไปพบครับ"บอดี้การ์ดคนนั้นผายมือไปยังรถสีดำหรูคันหนึ่งแต่ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมาและหันหน้าไปมองเพื่อนๆ อย่างมึนงง
"ฉันไม่ไป ขอตัวก่อนนะ"ฉันพยายามข่มเสียงที่สั่นคลอนของฉันไปก่อนที่บอดี้การ์ดอีกคนจะมายืนดักทางพวกฉันอีกครั้ง
"อย่าต้องใช้กำลังเลยนะครับ"และเป็นเวลาเดียวกันกับที่ฉันเห็นปืนแวบๆ ทำเอาฉันและเพื่อนถอยก้าวหลังไปทันทีด้วยความกลัว
และฉันก็ไม่รู้อีกด้วยว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อแต่ฉันไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองต้องมาเดือดร้อน ฉันจึงหันไปมองที่รถคันสีดำนั้นอีกครั้งหนึ่ง
"เดินนำไปสิ"
"มิราส์!!//มิราส์"เพื่อนทั้งสองพูดพร้อมกับและจ้องหน้าฉันอย่างขะมักเขม้นแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจและเดินตามบอดี้การ์ดคนนั้นไป
ฉันทั้งกลัวและสั่นในเวลาเดียวกันแต่ก็เลือกอะไรไม่ได้โดยมีสายตาของเพื่อนทั้งสองที่มองมาอยู่ไม่ขาดสาย
ประตูรถถูกเปิดขึ้นทันทีที่ฉันเดินมาถึงแต่ฉันกลับใจเซาะไม่กล้าเข้าไปซะดื้อๆ ก่อนที่บอดี้การ์ดของเขาจะดันตัวฉันเข้าไปในรถหรูนั้น
"อ๊ะ!!!ฉันเจ็บนะ"ฉันยู่หน้าไปเมื่อถูกดันให้เข้ามาในรถคันนี้และเริ่มออกเดินทางไปทันที ฉันมองหน้าชายหนุ่มคนนั้นที่เอาแต่จ้องไอแพดอยู่และไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยด้วยซํ้า
"นายมีอะไร!! ฉันต้องไปทำงานอีกนะ"ไร้เสียงตอบรับใดๆ จากคำพูดนั้นก่อนที่ฉันจะถอดหายใจและหยิบมือถือจากเสื้อช็อปเพื่อไลน์หาเพื่อนแต่แบตโทรศัพท์ก็ดันหมดซะดื้อๆ ทำเอาฉันหัวเสียไปตามๆ กัน
แต่หลังจากนั้นได้ไม่นานจู่ๆ ก็มีนามบัตรบางอย่างยื่นมาหยุดตรงหน้าฉัน ฉันไม่ได้รับและมองบัตรนั้นในมือของมือหนาของเขาไปก่อนที่นามบัตรจะร่วงลงมาอยู่ที่ตัก
"คืออะไร!"แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดต่อชายคนนั้นก็แทรกขึ้นมาทันทีทำเอาฉันต้องนิ่งไปเลยทีเดียว"ฉันเป็นพี่เธอ อย่าปีนเกลียว"
ปกตินิสัยของฉันก็ไม่ใช่คนที่พูดจาไม่ดีกับใครถ้าเขาคนนั้นไม่ทำฉันก่อน ฉันก้มหน้าลงไปเล็กน้อยและสอดส่องมองดูนามบัตรนั้นไปอย่างมึนงง
"ฉันอยากได้ตัวเธอ ถ้าสนใจ....."และคำนั้นแหละทำเอาฉันแทบจะกรี๊ดใส่หน้าเขาทันทีนี้เขาพูดออกมาอย่างไม่อายปากเลยว่างั้นและก็เป็นเวลาเดียวที่รถติดหยุดไฟแดงจึงทำให้ฉันฉุกคิดที่จะหนีออกมาจากเขาแต่ก็ไม่ลืมตบแก้มสากเขาไป
"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนั้น ไอ้บ้า!!"พูดจบฉันก็รีบวิ่งออกไปทันทีและเดินเลี่ยงไปเรื่อยๆ ตามทางของฉันก่อนที่จะเดินไปถึงป้ายรถเมล์ฉันเดินมาไกลเอามากๆ พอสมควรและไม่ได้สนอะไรทั้งนั้นดีกว่าต้องไปติดแหงกกับไอ้บ้าโรคจิตนั้น
@ club yuaa ผับที่สหรัฐเป็นเจ้าของอยู่
"เดี๋ยวมิราส์"หลังจากตอนนั้นฉันก็ต่อรถไปที่คอนโดของจีจี้ที่อยู่ใกล้ๆ ฉันก็นั่งเล่นอยู่ตรงนั้นจนผล็อยหลับไปและจีจี้เองก็ต้องกลับบ้านไปเช่นกัน พอตื่นขึ้นมามันก็สายไปตั้งหลายนาทีแล้วฉันจึงต้องรีบต่อรถไปที่ผับที่ฉันทำงานทันที
พี่หัวหน้างานที่ดูแลพวกพนักงานดักทางฉันเพื่อไม่ให้เข้าไปและใบหน้าที่เศร้าหมองฉันไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือเขาไม่พอใจที่ฉันมาสายแบบนี้
"คือมิราส์ลืมดูเวลาอ่ะค่ะ ขอโทษนะคะครั้งหน้าจะไม่สายอีกแล้วค่ะพี่ส้ม"ฉันเอ่ยขอโทษพี่ส้มทันที ฉันตกจากงานนี้ไม่ได้เพราะทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งให้กำหนดค่าเทอมมาแล้วถ้าฉันไม่ได้นำเงินไปให้เขาจะให้ฉันออก
"พี่ขอโทษนะมิราส์ นี้เงินโชคดีนะลูก"พี่ส้มยื่นซองเงินให้กับฉันและค่อยๆ ยื่นมือเรียวเข้ามาลูบหัวฉันอย่างน่าเอ็นดูแต่ทำไมกัน ทำไมเขาต้องไล่ฉันออกด้วยและฉันต้องทำยังไงต่อดีละ
"พี่ส้มคะแต่หนูออกจากงานนี้ไม่ได้ พี่ส้มช่วยไปคุยกับเจ้าของผับได้ไหมคะ นะคะถือว่าหนูขอ พี่ส้ม"ฉันทั้งไหว้และร้องไห้ไปในเวลาเดียวกันเพราะงานที่นี่ฉันได้เงินเยอะมากพอสมควร ก่อนที่พี่ส้มจะเดินเข้าร้านไปฉันกำหมัดแน่นมองดูซองเงินในมืออย่างใจเจ็บเพราะฉันไม่ได้รับรู้เลยว่าฉันผิดอะไรทำไมถึงโดนไล่ออกแบบนี้ก่อนที่จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินเข้ามาทางฉัน
"เหอะ!!!แค่เธอยอมขายให้ฉัน เธอก็ได้เงินละไม่ชอบหรอสุขสบายอ่ะ"
"ฉันไม่มีวันขายศักดิ์ศรีให้คนอย่างนายหรอก ถอย!!"ฉันกำหมัดแน่นและจ้องมองใบหน้าที่แสยะยิ้มของเขาไปอย่างใจเจ็บไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องมายุ่งกับฉันแบบนี้
"เหอะ!!!อย่าปากเก่ง ถ้าเธอยอมเธอจะสุขสบายกว่านี้แน่"คนตรงหน้าของฉันพูดพร้อมแสยะยิ้มออกมาและเลื่อนมองร่างกายของฉันไปก่อนที่ฉันจะเดินทางต่อรถเพื่อกลับบ้านของฉัน
ฉันเลือกที่จะยังไม่กลับบ้านและนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์เงียบๆ คนเดียวแบบนั้นไป สายตาของฉันที่จ้องมองเงินในมือที่มีแค่ไม่กี่พันก่อนที่จะคิดไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้านและค่าใช้จ่ายค่าเทอมของมหาวิทยาลัยของฉันอีก
"ฉันต้องทำยังไงต่อล่ะ ทำไมชีวิตฉันมันบัดซบแบบนี้วะ!!!!!"และคำพูดนั้นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านของฉันไปที่มีแต่ความมืดและความเงียบฉันพยายามทำอะไรให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากให้คนในบ้านต้องตื่นและมาถามมากอีก
และทั้งคืนฉันก็เอาแต่มองดูรูปแม่พร้อมกับร้องไห้ไปฉันแทบจะต้องอดทนกับอะไรหลายๆ อย่างก่อนที่นามบัตรของคนชั่วๆ นั้นจะหล่นลงมาหาฉัน
"หรือหนูต้องขายศักดิ์ศรีเพื่อความอยู่รอดกันคะ"
"ตื่นได้แล้วครับ เมื่อคืนเหนื่อยหรอหื้มม"สามีของฉันที่ตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมาก็ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล และนี้ก็เวลา7โมงกว่าแล้วและเมื่อคืนกว่าจะนอนได้ก็ดึกมากๆเลยด้วยจึงทำให้ฉันอ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรงที่จะลุกตื่นขึ้นมาในวันนี้แต่ด้วยความเป็นแม่และภรรยาฉันก็พยายามค่อยๆลุกและจะเดินลงจากเตียงแต่ก็ถูกสามีของฉันอุ้มขึ้นทันทีและพาไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆโดยฝีมือของสามีอันเป็นที่รัก"วันนี้พี่ไม่ไปทำงานนะคะ อยากจะอยู่กับเมียกับลูกๆ ได้ข่าวว่าจะทำเค้กกันเลยไม่ไปทำงานดีกว่า""พี่รู้หรอ ไม่เซอร์ไพรส์เลย""อยากให้เซอร์ไพรส์ก็ใส่ชุดเมดมายั่วผัวสิ""แล้วอยากเจอไหมล่าคะ"ถึงความเจ็บจะยังไม่หายแต่ทว่าความกล้าของฉันมันยังคงยั่วยวนเขาอยู่ วันนี้เป็นวันเกิดของเขาฉันตั้งใจจะใส่ชุดเมดแม่บ้านสาวขยี้หัวใจผัวมายั่วยวนมามีถึงเตียงอยู่แล้วจึงใช้มือหยอกล้อเรือนร่างกายของเขาอย่างเสียวสุดๆ"ทำแบบนี้อยากเอาหรอคะคนสวย""หึ รอไปก่อนนะคะ ไปหาลูกแล้ว"พูดจบฉันก็ค่อยๆเดินออกไปจากห้องนอนและเดินลงไปชั้นล่างเพื่อตามหาลูกๆและพบเข้ากับทั้งสามที่กำลังนั่งเล่นของเล่นกันอย่างป
ต่อจ๊วฟ จ๊วฟ จ๊วฟมือของฉันไม่ได้หยุดนิ่งแต่อย่างใดแต่ยังคงทำงานเลื่อนลงไปชักเล่นท่อนเอนของเขาอย่างว่าเล่น ช้าเนิบๆนาบๆโดยที่ไม่ได้สนใจคนพี่เลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร คนอย่างเขายิ่งฉันทำแบบนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่าตัวและผลักฉันให้นอนราบไปกับเตียงนอนขนาดใหญ่ยังไม่ทันที่จะได้พักคนตัวสูงพลิกร่างฉันให้เป็นฝ่ายคุมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาก็ลุกขึ้นดูดนมบีบนมฉันเล่นอย่างมันมือ"อย่าบีบสิคะ เดี๋ยวหนูทำให้"พอพูดจบฉันก็ค่อยๆเลื่อนลงไปหาเจ้าตัวปัญหาของฉันที่ทำให้ฉันต้องทำแบบนี้ ฉันใช้มือชักรูดมันก่อนที่จะค่อยๆก้มลงไปดูดเลียท่อนเอ็นอย่างชำนาญมือเรียวลิ้นบางค่อยๆลากตั้งแต่ปลายจรดยังไข่สองใบและเลียมันเล่นอย่างสนุกสนาน ส่วนมือก็ไม่อยู่เปล่าเพราะค่อยๆชัดท่อนเอ็นชักขึ้นลงอย่างเร็วๆ"ซี๊ดดดด เงี่ยนโว้ยยย""ชอบไหมคะ""ชะ....ชอบครับคนสวย"ฉันแสยะยิ้มออกไปถึงความเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะก้มตัวลงไปครอบงำลูกชายของเขาและขยับหัวเข้าออกตามจังหวะ มือหนาเลื่อนมากดหัวของฉันให้เข้าออกตามจังหวะขอ
หลังจากที่ฉันและเพื่อนพูดคุยกันจนเพลิดเพลินและมาฟอร์ก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวเลยเพราะเขา อยากให้ความเป็นส่วนตัวของพวกเราก่อนที่เพื่อนๆจะพากันกลับบ้านและฉันก็พาลูกๆดื่มนมจนหลับใหลไป สองเท้าค่อยๆย่างก้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานของมาฟอร์อย่างช้าๆชายหนุ่มที่นั่งกุมขมับหลับพักสายตาพิงพนักพิงที่เก้าอี้โดยมีเอกสารและหน้าจอคอมพิวเตอร์และไอแพดตั้งโชว์ด๋าอยู่อย่างกระจัดกระจาย ฉันเดินเข้าไปตรวจดูงานอย่างถือวิสาสะเพราะถึงยังไงแล้วฉันก็คือเลขาของเขาซึ่งฉันก็มีสิทธิ์ที่จะต้องตรวจดูงานด้วยแต่ยังไม่ทันที่จะได้อ่านเอกสารจบจู่ๆมือหนาก็กระชากตัวฉันให้นั่งลงบนตักของเขาและสวมกอดไว้แน่นทำเอาฉันตกใจแทบแย่"อาบน้ำไม่รอเลยนะครับที่รัก""แล้วนี้งานมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ ให้หนูช่วยไหม"มาฟอร์ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใดแต่เลือกที่จะสวมกอดฉันไว้แน่นกว่าเดิม ฉันทำได้แค่ปล่อยให้เขากอดอยู่แบบนั้นก่อนที่สายตาจะเหลือบหันไปมองกล่องแหวนที่คับคล้ายคั
@คฤหาสน์แม่มาฟอร์หลังจากวันนั้นจนเวลาผ่านไปเนิ่นนานแต่ก็ไม่ได้นานมากสักเท่าไหร่ตอนนี้ฉันท้องลูกของเขาได้3เดือนแล้วด้วย ฉันแทบจะไม่แพ้ท้องเลยด้วยซํ้าแต่จะเป็นฝั่งของมาฟอร์มากกว่าที่แพ้ท้องขั้นหนักแต่ก็ไม่ใช่อะไรเพราะเขารังแกฉันนั้นแหละมั้งส่วนทางราเชลล์ตอนนี้พี่ฟ้าได้พาไปรักษาตัวอยู่ที่ลอนดอนแล้ว ฉันและมาฟอร์พากันไปเยี่ยมน้องบ่อยๆอีกด้วยพอหายก็คงกลับมาวิ่งเล่นที่ไทยได้แล้ว"เป็นไงบ้างลูก แพ้ท้องหนักไหม""ไม่เลยค่ะแม่ คนที่แพ้คงจะเป็นพี่มากกว่าค่ะ""ดีแล้วลูกที่หนูไม่เป็นอะไรมาก ตามาร์ฟคงรังแกหนูตามที่พ่อเค้าบอกล่ะสิ"แม่พูดออกมาและหันไปจ้องมองพ่อและมาฟอร์สลับกันไปทำเอาฉันรับรู้ได้เลยว่าที่เขารังแกฉันตลอดแทบจะทุกคืนเพราะแผนของใครและหลังจากพูดคุยกันไปพวกเราก็พากันไปทานข้าวกันไปพูดคุยกันไปต่อจนแยกย้ายกันไปขึ้นห้อง
หลังจากวันนั้นจนเป็นเวลาหลายเดือนต่อมาตอนนี้ฉันท้องลูกของมาฟอร์ได้7เดือนแล้วและลูกในท้องของฉันนั้นเป็นลูกแฝดแต่เป็นแฝด3ด้วยและอีกอย่างหนึ่งคือน้องราเชลล์ได้ทำการเปลี่ยนหัวใจใหม่แล้วเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากหัวใจของน้องได้มีคนบริจาคให้กับเด็กสาวคนนี้โดยที่ทุกคนต่างพยายามพลิกแผ่นดินตามหาหัวใจที่เข้ากับน้องได้จนสำเร็จเด็กสาวร่าเริงคนนั้นได้กลับมาแล้วอีกครั้งน้องมาพักอยู่กับพวกฉันบ้างในบางครั้งและยังคงตื่นเต้นที่จะมีน้องไปทั้ง3คนอีกต่างหาก"แด๊ดดี๊ ราเชลล์อยากเห็นน้อง""เดี๋ยวน้องก็คลอดแล้วลูก""ราเชลล์มาทานข้าวได้แล้วลูกมั๊มมี๊ทำของโปรดไว้ให้หนูเยอะแยะเลยคนเก่ง"ฉันที่อยู่ในห้องครัวเพื่อทำอาหารกับแม่บ้านที่มาฟอร์ได้จ้างมาให้กับเด็กน้อยและสามีได้ทานราเชลล์ที่นั่งพูดคุยกับมาฟอร์ที่โซฟาในห้องรับแขกนั้นรีบวิ่งกรู่มาหาฉันทันทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อาหารจานโปรดของเด็กน้อยกลิ่นลอ
วันต่อมาฉันและมาฟอร์นัดกันที่จะไปเยี่ยมราเชลล์แต่เช้าแต่อาการแพ้ท้องของฉันมารุนแรงอย่างหนักจึงต้องไปสายหน่อยโดยมีสามีของฉันที่ยืนอยู่ข้างๆฉันเองฉันและเขาพากันเข้าไปในห้องที่ตอนนี้เด็กน้อยกำลังเล่นของเล่นอยู่บนเตียงกับพี่เลี้ยงอย่างเงียบๆพอเห็นฉันและมาฟอร์กลับยิ้มดีใจและพยายามจะมาหาพวกเรา"มัมมี๊ แด๊ดดี๊ ราเชลล์คิดถึงมัมมี๊กับแด๊ดดี๊ที่สุดเลยค่ะ คิดถึงมากๆ""มัมมี๊กับแด๊ดดี๊ซื้อของเล่นมาฝากราเชลล์ด้วยนะคะเยอะแยะเลย""ตั้งแต่ราเชลล์เข้าโรงพยาบาลรอบนี้ทุกคนดูใส่ใจราเชลล์มากๆเลย"คำพูดของเด็กน้อยไร้เดียงสาพูดออกมาทำเอาพวกฉันถึงกับนิ่งไม่รู้ว่าเด็กน้อยจะรู้รึป่าวว่าตัวเองอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ฉันก็เลี่ยงที่จะคุยกันเรื่องนี้เพราะตอบไม่ได้จริงๆ"มัมมี๊คะ ราเชลล์อยากได้น้อง มัมกับแด๊ดบอกว่ามีน้องน้อยให้ไม่ได้แล้ว""มัมมี๊ของหนูกำลังมีน้อ
Mga Comments