Share

บทที่ 3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-25 15:25:08

ห้องประชุมคณะกรรมการนักศึกษา, มหาวิทยาลัย X

เกลกับข้าวฟ่างกำลังก้มหน้าปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด โต๊ะเต็มไปด้วยกระดาษสเก็ตช์และนิตยสารแฟชั่นเล่มหนา

“ฉันคิดว่าเราควรใช้ผ้าดิบเป็นหลักนะเกล” ข้าวฟ่างเสนอ

“แล้วค่อยใช้เทคนิคการปัก การลงสี และการพิมพ์ลายแบบศิลปะเข้ามา มันจะสื่อถึงคอนเซปต์เข้าถึงยาก ได้ชัดเจน”

“อืม… ดีเลยข้าวฟ่าง” เกลตอบขณะที่กำลังวาดโครงสร้างคอเสื้อที่ดูแปลกตา

“เราต้องออกแบบชุดสำหรับผู้หญิงให้เสร็จก่อน แล้วค่อยปรับให้เข้ากับสรีระนายแบบที่จะมาเดินคู่กัน แต่ปัญหาคือนายแบบน่ะสิ” เรื่องนางแบบเธอไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะเมษาจะรับหน้าที่นั้น เสียงประตูเปิดผางออกอย่างไม่สุภาพ ก่อนที่พิชชี่จะพุ่งเข้ามาพร้อมเมษาตามมาติด ๆ

“เจอแล้ว! คนที่จะมาเป็นนายแบบของแกแล้ววเกล!” พิชชี่ประกาศเสียงดัง เขาลากเก้าอี้มานั่งข้างเกลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปิดโทรศัพท์มือถือที่เซฟรูปชายหนุ่มในอินสตาแกรมไว้แล้ว

“ดูนี่สิ! วิน! ลูกชายเจ้าของแกลเลอรี่! เขาคือความดิบที่แสนจะแพง! เขาคือความหล่อของประเจ้าเลย”

เกลหยิบโทรศัพท์ของพิชชี่มาดูอย่างพิจารณา ภาพชายหนุ่มที่ดูเย็นชาในชุดเสื้อผ้าเรียบ ๆ แต่มีร่องรอยของสีและผงฝุ่นจากการทำงานศิลปะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

ทันใดนั้น ดวงตาของเกลก็เบิกกว้างเล็กน้อย... วิน! หนุ่มหล่อคมขาว ดีกรี รองเดือนคณะ เขาหล่อโดดเด่นจนเธอเคยกรี๊ดเขาตอนที่เขายังเป็นแค่ปีหนึ่ง

“วิน?” เกลถามเสียงเบา พยายามเก็บความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมา

“ใช่สิยะเกล!” พิชชี่ตอบอย่างตื่นเต้น

“ฉันนี่โง่จริง ๆ ที่ลืมเขาไปได้! เขาไม่ใช่แค่หล่อแต่เป็นถึงรองเดือนคณะเลยนะ! แถมยังอยู่ในกลุ่มตัวท็อป ตัวแรงของมหาวิทยาลัยอีก!” ข้าวฟ่าง โน้มตัวเข้ามาดูด้วยความตื่นเต้น

“โอ้โห… หล่อมากเลยค่ะ แถมกลุ่มนี้หล่อทุกคนเลยนะคะ ทั้ง เดย์ ไนท์ วิน คิริน!” เกลชะงักกับชื่อสุดท้าย 'คิริน' เล็กน้อย

เมษารีบพูดสรุปสถานการณ์ “สรุปคือเขาชื่อ วิน อยู่กลุ่มตัวท็อปของมหาลัย แต่ก็เข้าถึงยากที่สุดเหมือนกันค่ะเกล ถ้าเราได้เขามาเดินโชว์... คะแนนโหวตสาธารณะต้องพุ่งแน่นอน!”

เกลวางโทรศัพท์ของพิชชี่ลงอย่างช้า ๆ รอยยิ้มอันมั่นใจค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ แม้ในใจจะมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สบายใจกับชื่อกลุ่มนี้ก็ตาม

พิชชี่ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดหวังอีกครั้ง “นั่นแหละปัญหาใหญ่ กลุ่มนี้น่ะดังสุดๆ มีทั้งรุ่นเรา รุ่นพี่ เคยไปขอให้กลุ่มนี้ช่วยงานคณะอื่น ๆ แต่โดนปฏิเสธกันหมด”

ข้าวฟ่างทำหน้าครุ่นคิด “หรือเราจะให้อาจารย์ที่ปรึกษาช่วยดีคะ?” เมษาส่ายหน้า

“อาจารย์คงไม่ได้หรอกเพราะมันเป็นการแข่งขันไม่งั้นมันจะเหมือนช่วยโกงอะสิ”

เกลมองภาพสเก็ตช์ชุดใหม่ของตัวเองสลับกับภาพของวินในโทรศัพท์

“คนที่ดูไม่สนใจโลกอย่างเขา คงไม่สนใจข้อความที่มาจากคนแปลกหน้าหรอกพิชชี่” เกลพูดอย่างมั่นใจ

“ถ้าอยากได้ของหายาก เราต้องทำอะไรที่แตกต่างและน่าจดจำ”

เกลวางโทรศัพท์ของพิชชี่ลงอย่างช้า ๆ รอยยิ้มไม่มั่นใจปรากฏบนใบหน้า แม้จะมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สบายใจกับกลุ่มเพื่อนของวินก็ตาม

“ฉันขออาสาไปคุยเองค่ะ” เมษาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น

พิชชี่เด้งตัวขึ้นจากโซฟาอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอเมษา!”

“ฉันรู้จักกับ เดย์ และ ไนท์ เพื่อนของวินอยู่บ้าง เราเคยทำงานกิจกรรมร่วมกันตอนปีหนึ่งนิดหน่อย อาจจะพอคุยกับพวกเขาเรื่องนี้ได้บ้าง” เมษากล่าวต่อ

ข้าวฟ่างพยักหน้าเห็นด้วย “ดีเลยเมษา! ถ้าอย่างนั้นเมษาต้องไปทาบทามแบบนุ่มนวลและมีชั้นเชิงนะคะ”

เกลยิ้มกว้างเป็นครั้งแรกในรอบหลายชั่วโมง

“โอเค” เมษายืนยัน “ถ้าเราได้วินมาถ่ายแบบให้ งานนี้ก็ชนะไปแล้วเกินครึ่ง”

ข้าวฟ่างปรบมือเบา ๆ “สุดยอดเลยค่ะ! ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปติดต่อเดย์กับไนท์เลยนะคะเมษา”

เมษามองดูนาฬิกาข้อมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดพิมข้อความส่งไปหาเพื่อนเป้าหมาย

โซนรับรองพิเศษ, ตึกคณะบริหารฯ อินเตอร์

วิน รองเดือนมหาลัยนั่งอยู่ตรงโซนรับรองพิเศษของคณะบริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ เขาผ้าปิดตาร่างสูงเอนนอนบนโซฟาหรู ข้างๆ เขา เดย์กำลังพิมพ์ตอบแชทสาวๆ ที่เข้ามาอย่างมากมาย ขณะที่ไนท์แฝดคนน้องของเดย์นั่งพิงโต๊ะเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย เดย์กับไนท์เป็นแฝดที่หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่จะแยกทั้งสองคนออกจากกันนั้นมันไม่ยากเลยสักนิด

“ไนท์ น้องคนนี้เขาคิดว่า กูเป็นมึงอีกแล้ววะ ทักมากะจะจีบมึงนะเนี่ย” เดย์พูดพร่างมือพิมพ์ตอบพราง เสียงขบขำของแฝดคนพี่ ทำให้ไนท์มองบนอย่างเอื่อมระอา

คิรินกำลังเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถืออยู่เพลินๆ เขาเงยหน้าหล่อขึ้นมาสนใจคำกวนตีนของเดย์ ที่มันเริ่มแหย่แฝดตัวเองอีกแล้ว ในกลุ่มนี้คงมีมันแหละที่เจ้าชู้ที่สุด ไม่ใช่คนอื่นไม่มีสาวเข้ามา แชทของแต่ละคน มีสาวทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องทักมากันทุกวัน แต่วินกับไนท์ สองคนนั้นมันไม่ค่อยจะสนใจหรอก ส่วนเขา ก็อาจจะมีตอบบ้างตามอารมณ์

จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเดย์ก็สั่นขึ้นมา ตาคมของเดย์ก้มลงมองหน้าจอทันที ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นสาวส่งมานัดเดท แต่ที่ไหนได้ ดันเป็นข้อความจาก เมษา เพื่อนร่วมรุ่นจากคณะศิลปกรรมศาสตร์

เมษา: เดย์! เมษานะ จำได้ไหม? อยากให้ช่วยคุยเรื่องงานหน่อยได้มั้ย พอดีอยากให้วินช่วยงานคณะเราจริงๆ น่ะ

เดย์เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ เขาหันไปมองวินที่นอนอยู่ข้างๆ ซึ่งดูเหมือนจะหลับ ไปแล้วโดยที่ไม่สนใจใครแล้ว

“โอ๊ย ไม่ต้องไปทักมันเลยเดย์” ไนท์ที่นั่งพิงโต๊ะอยู่เป็นคนตอบเดย์นิ่งๆ โดยไม่ต้องรอให้เดย์ถาม “มันไม่ไปหรอกแค่ตื่นยังยากเลย”

คนอื่นๆ คงจะคิดว่าวินเงียบๆ หล่อๆ นั่งเท่ๆ ไปวันๆ ใครจะคิดล่ะว่าไอนี่อะ มันนอนทั้งวัน เพราะตอนกลางคืนชอบไปรับงานดีเจที่ผับซึ่งรุ่นพี่ของเขาเปิด

“ใครทักมาหรอ?” คิรินถามเดย์น้ำเสียงดูไม่สนใจเท่าไหร่ แต่แววตาฉายความสงสัยเล็กน้อย

“เมษาหน่ะ” เดย์ตอบ “เมษา คณะศิลปะการแสดงอะนะ”

คิรินชะงักมือจากเกมที่เล่นอยู่เล็กน้อย “เมษา... เอกการแสดงอะนะ?” เขาทวนคำ น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าเริ่ม สนใจขึ้นมาในใจของคิริน พลันนึกไปถึง ร่างบางที่เขาเคยสนิทกันตอน ม.ปลาย แต่พอขึ้นมหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยจะยอมตอบเขาเลย

“ใช่ เมษา” เดย์ยักไหล่ “มาขอให้วินไปเดินแบบให้อีกแล้ว”

ไนท์หัวเราะเบาๆ “บอกไปเลยว่าฝันไปเถอะ! วินไม่ลุกจากเตียงเพื่อเรื่องแบบนี้หรอก”

คิรินไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เขามองไปที่วิน ที่กำลังหลับอยู่ ก่อนจะยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดดูอะไรบางอย่างเงียบๆ

คิรินไม่ได้พูดอะไรต่อเขายังคงมองไปยังวินที่กำลังหลับอยู่ภายใต้ผ้าปิดตาผืนหรู ก่อนจะยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดดูอะไรบางอย่างเงียบๆ แววตาคมกริบของเขาฉายแววครุ่นคิดเมื่อเห็นชื่อบัญชีโซเชียลของใครบางคน

จังหวะนั้นเองคิรินก็ลดโทรศัพท์ลงเท้าที่สวมรองเท้าผ้าใบราคาแพงก็เหยียดออกไปเตะเข้าที่สีข้างของวินอย่างไม่รีบร้อน แต่ก็หนักแน่นพอที่จะทำให้คนขี้เซาตื่น

“เฮ้ย! ไรวะ!”

วินสะดุ้งสุดตัว เขาดึงผ้าปิดตาออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมกริบที่เพิ่งตื่นเต็มไปด้วยความงุนงง มองไปรอบๆ อย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

คิรินเท้าคางอย่างสบายอารมณ์ แม้จะเพิ่งปลุกเพื่อนอย่างรุนแรงไปหยกๆ “มึงจะไปเป็นนายแบบปะ”

วินกะพริบตาปริบๆ มองคิรินที่มาพร้อมคำถามที่ไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนจะหันไปมองเดย์และไนท์ที่นั่งทำหน้างงอยู่ข้างๆ เขาเหมือนกัน วินส่ายศีรษะเบาๆ ให้กับความขี้เซาของตัวเองที่ทำให้จับต้นชนปลายไม่ถูก คิรินมองอาการของเพื่อนแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับความขี้เซาของวิน

“ถ้าไม่” คิรินพูดเรียบๆ “กูสนใจวะ”

สิ้นคำของคิรินทั้งเดย์และไนท์ที่ทำท่าจะกลับไปสนใจโทรศัพท์ ต่างหันมามองเขาเป็นตาเดียว เดย์ถึงกับตกใจ จนมือที่กำลังพิมพ์ตอบแชทสาวๆ หยุดชะงักลงทันที

“ห๊ะ?” เดย์เลิกคิ้วสูง “ไอ้คิน! ปกติมึงไม่ใช่คนที่จะเสนอหน้าไปทำกิจกรรมอะไรแบบนี้สักหน่อย มีพิรุจนะมึงอะ”

คิรินวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะใบหน้าหล่อเหลาจริงจังขึ้นเล็กน้อย “ก็แค่สนใจ”

“มึงสนใจเมษาหรือคิน!” เดย์ยิงคำถามตรงประเด็น สีหน้าแสดงความประหลาดใจอย่างที่สุด เพราะเขารู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัว

“คิน” คือชื่อเล่นที่เพื่อนสนิทมักใช้เรียกเขา เพราะพวกมันบอกว่าการเรียก ‘คิริน’ นั้น “ลำบากปาก”

คิรินไม่ตอบคำถามของเดย์ เพียงแต่เสมองไปทางอื่นเล็กน้อย

สิ้นคำของคิริน ทั้งเดย์และไนท์ที่ทำท่าจะกลับไปสนใจโทรศัพท์ ต่างหันมามองเขาเป็นตาเดียว เดย์ถึงกับตกใจ จนมือที่กำลังพิมพ์ตอบแชทสาวๆ หยุดชะงักลงทันที

“ห๊ะ?” เดย์เลิกคิ้วสูง “ไอ้คิน!กูขอความจริง”

“งานแฟชั่นั่นแหละ” คิรินตอบปัดๆ “ก็กูสนใจ มึงจะอะไรละ”

เดย์กับไนท์มองหน้ากันอย่างรู้ทันในความไม่ตรงไปตรงมาของเพื่อน

“ฮึ่มมมม… งานแฟชั่น” ไนท์ ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย เขาเท้าคางมองแฝดพี่อย่างเยาะเย้ย

“มึงนี่มันเป็นคนดี๊คนดีนะไอ้คิน! เห็นแก่ส่วนรวมสุดๆ”

“ไปตายซะไนท์” คิรินตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“กูว่าไม่ใช่แค่งานหรอกมั้ง คิน” เดย์ ไม่ปล่อย เหมือนแฝดนรกคนพี่จะคิดอะไรได้  

“เกลใช่ไหม เกลชัวร์ เมียหลวงมึงปะ” เดย์ สรุปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “กูตอบรับเมษาไปแล้วนะ”

“เมียหลวง?” ไนท์มองอย่างงงๆ เขาจำไม่ได้ว่าคิรินมีเพื่อนผู้หญิงมากก่อนนะ นอกจากคู่ขา แต่ก็จำไม่ได้ว่ามีคนชื่อเกล

คิรินมองเดย์กลับด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“เมียหลวงไรละ” คิรินถามเสียงเรียบ “ก็แค่เพื่อนเคยสนิทกันตอน ม.ปลาย พอขึ้นมหาลัยต่างคนต่างยุ่งเลยไม่ค่อยได้คุยกันเฉยๆ ”

คินไม่ต้องมาทำเป็นรู้จักเกลนะ เกลละเบื่อสาวของคิรินไม่ไหวแล้ว

คิรินนึกไปถึงใบหน้าหวานที่พูดด้วยคำขาด ในวันสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลาย

“โอ๊ยยยยย!” เดย์ทำเสียงยาวล้อเลียน “ปากแข็งจริงพ่อคุณ แค่เพื่อนสนิทที่ยอมวุ่นวายไปช่วยงานคณะศิลปกรรมฯ เนี่ยนะ? กูไม่เชื่อหรอก”

“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง” คิรินตอบปัดๆ พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู

ไนท์ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาในความกวนตีนของเดย์ ละความปากแข็งของคิริน แต่ก็แอบยิ้มตามในความเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย

“มึงจะไปไหม วิน” เดย์รีบคว้าแขนวินไว้ “ถ้ามันมีเรื่องถ่ายแฟชั่นเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อไหร่มันแปลว่าต้องมี สาวๆ ตามมา! มึงจะพลาดได้ไงวะไอ้คุณชายวิน!”

วินส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย

“เอาเป็นว่า… กูตอบรับเมษาไปแล้ว” เดย์ สรุปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ไนท์ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาในความเจ้าชู้และกวนตีนของเดย์ แต่ก็แอบยิ้มตามในความเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 7

    เกลเดินเข้าห้องคอนโดมาอย่างเงียบเชียบ เธอรีบล็อกประตูถึงสองชั้น ความเหนื่อยล้าทางร่างกายผสมกับความหวาดระแวงทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่ามีใครติดตามมาหรือไม่ เกลโชคดีที่มาถึงคอนโดโดยปลอดภัยเธอไม่ได้สนใจจะเปิดไฟมากนัก ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนแรง และพยายามบังคับตัวเองให้ข่มตาหลับเพื่อหนีความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันแต่หลังจากที่เธอนอนหลับไปได้ไม่นานก๊อก... ก๊อก... ก๊อก...เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เป็นจังหวะสั้น ๆ แต่ดังชัดเจนในความเงียบสงัดของยามวิกาลเกลสะดุ้งสุดตัว เธอผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที หัวใจเต้นรัวราวกับกลองที่ถูกรัวตีด้วยความหวาดกลัวที่กลับมาอีกครั้ง เธอตกใจมากจนต้องร้องไห้นี่มันก็ตีสองแล้ว!เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ดังและถี่ขึ้น เกลมองไปที่ประตูห้องด้วยความหวาดผวา เธอรู้ดีว่าคนที่พักอยู่ในคอนโดนี้ส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะ และไม่มีใครมาเคาะประตูบ้านคนอื่นในเวลานี้แน่ๆเธอไม่รู้ควรโทรไปหาใครดี จะโทรหาเมษาหรือข้าวฟ่างตอนนี้ก็คงจะรบกวนมากเกินไป และเธอก็ไม่กล้าปลุกใครมือของเธอสั่นเทาเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอกวาดมองรายชื่อในสมุดโทรศัพท์อย่างว้าวุ่น

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 6

    เมษาเรียกคิรินให้ยืนตรงหน้าหุ่นตัดเสื้อพร้อมสายวัดในมือ ตอนแรกเมษาจะวัดให้ เอง แต่ทันใดนั้น เดย์ก้มลงกระซิบที่ข้างหูเมษา ประโยคสั้น ๆ ที่ทำให้ใบหน้าของเมษาเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเมษาดูเหมือนจะ ลังเล อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะหันไปทางเกลด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ“เกล... ฝากวัดตัวคิรินก่อนได้มั้ย พอดีข้าวฟ่างอยากจะปรึกษาฉันเรื่องผ้าข้างนอกน่ะ”เกลไม่ทันจะพูดถามเหตุผลหรือปฏิเสธ เมษาและข้าวฟ่างก็รีบลากเดย์ที่ยังยืนทำหน้ากวนประสาทออกไปจากสตูดิโออย่างรวดเร็ว ทุกคนในห้องนอกจากเธอกับคิรินก็ออกไปกันหมดคิรินยิ้มอย่างได้ใจ เขายืนกอดอกมองเกลที่กำลังถือสายวัดอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นก็ได้ครับ ดีไซเนอร์” คิรินพูดกวน ๆเกลไม่พูดอะไร แต่ความโมโหทำให้เธอต้องระบายออก เธอฟาดไปที่ต้นแขนคิรินแน่นทันที ด้วยม้วนสายวัดที่อยู่ในมือ เสียงดัง "เพียะ" ดังขึ้นเบาๆคิรินไม่ได้เจ็บ แต่เขายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก“โอ๊ย! ทำอย่างกับไม่อยากอยู่ด้วยเลยนะครับ เพื่อนรัก”เกลกัดฟันแน่น เธอตระหนักได้ทันทีว่าการวัดตัวนี้คือ กับดัก ที่คิรินกับเดย์วางแผนไว้แน่นอนนอกห้องสตูดิโอเมษาที่เพิ่งออกจากห้องมาพร้อมกับข้าวฟ่างและ

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 5

    ทั้งแปดคนมานั่งรวมกันที่ร้านหมูกระทะชื่อดังที่อยู่ข้างๆ มหาวิทยาลัย โต๊ะถูกจัดแยกออกเป็นสองชุด ซึ่งทำให้ พิชชี่ ต้องบ่นออกมาเสียงดังก่อนจะยอมไปนั่งโต๊ะข้าง ๆ“ฉันไม่อยากนั่งกินกับเธอย่ะเกล คนอะไรมากินหมูกระทะ ไม่ยอมกินหมูสามชั้น!” พิชชี่ว่าพลางกอดอกอย่างงอนๆ ทำเหมือนจำยอมต้องไปนั่งกับเดย์และข้าวฟ่างที่อีกโต๊ะหนึ่งโต๊ะนั้นเหมือนจะมีเสียงเฮฮามาตลอดส่วน แต่โต๊ะนี้ดูจะเงียบและมีบรรยากาศตึงเครียดกว่ามากเกลนั่งอยู่ข้างเมษาโดยมีคิรินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมีไนท์แฝดน้องของเดย์ที่บอกว่ารำคานพี่ตัวเองขอมานั่งโต๊ะนี้แทนดังนั้นโต๊ะของเกลจึงมีเพียงเกลนั่งอยู่ข้างเมษาโดยมีคิรินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมีหม้อไฟหมูกระทะที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นอยู่ตรงกลาง เกลกินอย่างกับคนระบายอารมณ์ แต่สิ่งที่เธอเลือกนั้นถูกเรื่องแต่คลีนๆไว้ เมษาค่อยส่งเนื้อหมูส่วนเนื้อแดงให้เธอเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่ที่เธอกินจะเป็น กุ้ง ปลา และผักมากกว่าเพื่อกันน้ำหนักที่จะขึ้นหลังกินมื้อนี้โต๊ะข้างๆ ดูจะมีสีสันมากกว่าโต๊ะของเธอมากเพราะแค่เธอต้องสบตากวนประสาทของไอ้เด็กเลี้ยงแกะแล้วมันก็โคตรจะน่าหงุดหงิดเลยคิรินใช้ตะเกียบของเขาคีบหมูสามชั้นช

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 4

    ห้องสตูดิโอของคณะศิลปกรรมศาสตร์ดูวุ่นวายกว่าปกติ เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงฝีเท้าของนางแบบที่กำลังซ้อมเดินอยู่บนเวทีชั่วคราวเกลอยู่ในชุดนักศึกษาที่เสื้อเข้ารูปและกระโปรงสั้นตามแฟชั่น เธอผมบลอนด์อ่อน และแต่งหน้าอย่างประณีตราวกับเป็นนางแบบเสียเอง เธอนั่งอยู่ตรงกลางโต๊ะกรรมการอย่างมาดมั่น ข้างๆคือข้าวฟ่างผู้กำลังจดบันทึกด้วยความตั้งใจและพิชชี่ ผู้ทำหน้าที่วิจารณ์ด้วยความละเอียดถี่ถ้วน“คนนี้ดีไซน์สวยมาก แต่แววตาดูนิ่งๆไปหน่อย เราน่ะมันต้องใช้คนที่มี จิตวิญญาณนะยะ ไม่ใช่หุ่นยนต์!” พิชชี่บ่นพลางโบกมือปฏิเสธนางแบบคนที่สิบ“ใจเย็นๆ นะคะพิชชี่” ข้าวฟ่างพยายามปราม “เราเน้นที่รูปร่างก่อนค่ะ เพราะชุดของเรายังไม่เสร็จ”“แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถ้านางแบบเราหากันไม่ได้จริงๆ ก็ให้เมษานี้แหละถ่าย” เกลสรุปเพราะตอนนี้เธอยังไม่เจอใครถูกใจเลย เมษารูปร่างสูงเพียวเหมือนนางแบบ ที่เธอกำลังเครียดตอนนี้คงจะเป็น นายแบบชายมากกว่าเมษา ในฐานะผู้ประสานงานหลัก ยืนอยู่ใกล้ประตู เธอกำลังใช้โทรศัพท์มือถือจัดการธุระอย่างเคร่งเครียด ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมกับกลุ่มนักศึกษาชายสามคนที่ก้าวเข้ามาเดย์ เดินนำหน้ามา

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 3

    ห้องประชุมคณะกรรมการนักศึกษา, มหาวิทยาลัย Xเกลกับข้าวฟ่างกำลังก้มหน้าปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด โต๊ะเต็มไปด้วยกระดาษสเก็ตช์และนิตยสารแฟชั่นเล่มหนา“ฉันคิดว่าเราควรใช้ผ้าดิบเป็นหลักนะเกล” ข้าวฟ่างเสนอ“แล้วค่อยใช้เทคนิคการปัก การลงสี และการพิมพ์ลายแบบศิลปะเข้ามา มันจะสื่อถึงคอนเซปต์เข้าถึงยาก ได้ชัดเจน”“อืม… ดีเลยข้าวฟ่าง” เกลตอบขณะที่กำลังวาดโครงสร้างคอเสื้อที่ดูแปลกตา“เราต้องออกแบบชุดสำหรับผู้หญิงให้เสร็จก่อน แล้วค่อยปรับให้เข้ากับสรีระนายแบบที่จะมาเดินคู่กัน แต่ปัญหาคือนายแบบน่ะสิ” เรื่องนางแบบเธอไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะเมษาจะรับหน้าที่นั้น เสียงประตูเปิดผางออกอย่างไม่สุภาพ ก่อนที่พิชชี่จะพุ่งเข้ามาพร้อมเมษาตามมาติด ๆ“เจอแล้ว! คนที่จะมาเป็นนายแบบของแกแล้ววเกล!” พิชชี่ประกาศเสียงดัง เขาลากเก้าอี้มานั่งข้างเกลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปิดโทรศัพท์มือถือที่เซฟรูปชายหนุ่มในอินสตาแกรมไว้แล้ว“ดูนี่สิ! วิน! ลูกชายเจ้าของแกลเลอรี่! เขาคือความดิบที่แสนจะแพง! เขาคือความหล่อของประเจ้าเลย”เกลหยิบโทรศัพท์ของพิชชี่มาดูอย่างพิจารณา ภาพชายหนุ่มที่ดูเย็นชาในชุดเสื้อผ้าเรียบ ๆ แต่มีร่องรอยของสีและผงฝ

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 2

    โรงอาหารกลาง มหาวิทยาลัย Xกลุ่มเพื่อนทั้งสี่คนมานั่งรวมกันที่โต๊ะประจำในโซนที่เงียบสงบที่สุดของโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยเกลซึ่งมีใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีตราวกับเพิ่งออกจากสตูดิโอกำลังกินสลัดไก่ย่าง ที่ไร้น้ำสลัดรสจัดจ้านเพื่อควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด ขณะที่ข้าวฟ่างกินข้าวมันไก่ชามโตได้อย่างสบายอารมณ์“นี่! ฉันบอกแล้วไงว่าปีนี้เด็ดจริง! ฉันเห็นน้องปีหนึ่งสาขาการแสดงคนหนึ่งชื่อ ต้า” พิชชี่เริ่มเปิดประเด็นเม้าท์มอยทันทีที่นั่งลง เขาเลือกสั่งบะหมี่เกี๊ยวและกำลังใช้ช้อนเขี่ยหมูแดงส่วนมัน ๆ ออกอย่างประณีต“ไม่ต้องเขี่ยก็ได้มั้งพิชชี่” เมษาที่นั่งตรงข้ามพูดพลางหัวเราะเบา ๆ เธอเลือกเมนูมังสวิรัติ“ไม่ได้ย่ะ! ฉันเป็นศิลปะการแสดง! ฉันต้อง Maintain หุ่น! ไม่เหมือนพวกดีไซเนอร์บางคนที่กินแต่ผักกาดหอมจนจะกลายเป็นกระต่าย” พิชชี่ว่าพลางเหลือบมองจานสลัดของเกลเกลตักผักเข้าปากอย่างใจเย็น เธอจัดระเบียบเส้นผมสีบลอนด์และตรวจสอบการเขียนขอบตาของตัวเองผ่านกระจกในตลับแป้งเล็ก ๆ อย่างรวดเร็ว แม้จะกินสลัด เธอก็ยังคงไว้ซึ่งความงามที่สมบูรณ์แบบ“แล้วต้าที่ว่านั่นมันดียังไงเหรอ?” ข้าวฟ่างถามอย่างสนใจ ด

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status