Home / วัยรุ่น / Promise me สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกัน / ตอนที่ 8 เล่าให้ฟังได้นะ

Share

ตอนที่ 8 เล่าให้ฟังได้นะ

last update Last Updated: 2025-12-04 10:03:39

“ครูคะ หนู ... ขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหมคะ” สาวน้อยพูดพร้อมยกมือขึ้น ท่ามกลางความเงียบสงัดภายในห้อง

“อ่า --- รีบไปรีบมาครับ ถึงเวลาสอบแล้ว” ครูเหลียวมองนาฬิกา แล้วเดินวางกระดาษคำตอบต่อ

สาวน้อยรุดตัวออกจากห้องสอบ มองซ้ายขวาหาใครคนนั้น เห็นเพียงโถงทางเดินชั้นระเบียงตึกที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนสัญจร

ด้วยที่เธอขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ เธอจึงไปเข้าห้องน้ำตามที่ขออนุญาตไว้

“เอ้าป๊อบ ... ถึงเวลาสอบแล้วนี่ จะไปไหน ?” เสียงที่คุ้นหูเอ่ยขึ้นขณะที่เธอกำลังมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำมุมตึก

“เอ่อ ... อ่อ ... ป๊อบกำลังจะไปเข้าห้องน้ำน่ะ กานต์รีบเข้าห้องสอบเร็ว ครูแจกข้อสอบแล้ว” เธอหันหน้ากลับไปยังทิศของห้องน้ำ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลในก่อนหน้า พลันหายไปในพริบตา

หนุ่มน้อยเดินไปยังห้องสอบอย่างเชื่องช้า ไม่รีบไม่ร้อน เธอแอบมองเขาอยู่มุมข้างห้องน้ำ จนเขาเข้าไปในห้องสอบ เธอถึงออกมา มุ่งหน้าไปยังห้องสอบตามหลังติด ๆ

“กานต์ทวี ก้องกิจตระกูลครับ” หนุ่มน้อยก้าวเข้าห้อง พร้อมขานชื่อตัวเอง

“นั่งที่ได้เลยครับ จะสอบแล้ว” ครูเอ่ยบอก

หนุ่มน้อยดึงเก้าอี้ทิ้งทั้งตัวลงเก้าอี้ไม้ ยกตัวดึงชิดโต๊ะ ยืดหลังตรงพร้อมสอบ

“ปานใจ จงใจรักค่ะ” สาวน้อยเดินตามมาติด ๆ เอ่ยชื่อ พร้อมนั่งลงที่ตัวเอง เยื้องหลังหนุ่มน้อยสองแถวล่าง

“เริ่มทำข้อสอบได้ครับ” ครูป่าวประกาศบอกนักเรียนทั้งห้อง

ในขณะที่ทุกคนก้มหน้าตั้งใจทำข้อสอบ สาวน้อยกลับนั่งครุ่นคิดรำพัน เพราะสัมผัสได้ถึงพลังงานความเศร้าที่แผ่ออกมาจากสีหน้าของหนุ่มน้อย ที่เพิ่งทักทายกันไปเมื่อครู่

“เริ่มทำข้อสอบได้ครับ” เสียงทุ้มหนาของครู มุ่งตรงมาที่เธอเพียงคนเดียว

“คะ ... ค่ะ” สาวน้อยก้มหน้าเปิดข้อสอบ

เวลาผ่านไปราวเกือบจะค่อนครึ่งชั่วโมง เสียงเปิดกระดาษไปหน้าถัดไปดังสลับกันทั่วห้อง เพียงแต่ในกระดาษคำตอบของสาวน้อยนั้นเพิ่งมีรอยขีดเขียนได้เพียงสิบข้อ พร้อมยังค้างอยู่หน้าเดิม เธอได้แต่เงยหน้าค้าง ทั้งที่คนอื่น ๆ ยังคงก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อ

เธอมองเฉียงไปที่หนุ่มน้อยที่ตั้งใจ เอาจริงเอาจังกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างสุด ๆ อย่างที่สาวน้อยเคยเห็นมาตลอด ไม่ว่ากานต์จะอยู่ในสถานการณ์อะไรก็ตาม เมื่อเขาตั้งใจทำอะไรสักอย่างแล้วเขาจะเอาจริงเอาจังกับสิ่งนั้นมาก ๆ

“เก่งจังเลยนะกานต์ นายเก่งและเท่ในแบบของนายแบบนี้ไปนาน ๆ นะ” สาวน้อยยืดแขนเรียบพื้นโต๊ะ หัวเองนอนราบทับแขนมองเฉียงดูหนุ่มน้อย

“เห้ย !” สาวน้อยตกใจตัวโยน เมื่อมีวัตถุขนานหน้าบังมิดมุมมองของเธอ

“มองอะไร --- ปานใจ” ครูยกกระดาษขวางทางเพ้อคิดของเธอ เอียงคอเพ่งดูชื่อที่หน้าอก

“น่ะ ... หนู ... ง่วงค่ะครู ของีบสักพักนะคะ” สาวน้อยอ้ำอึ้งตอบกลับแบบตะกุกตะกัก

“ก็แล้วไป นึกว่าส่งสัญญาณลอกกัน” ครูเดินผ่านหน้าไป พร้อมหันกลับมามองเธอ ที่ยังคงเอียงนอนทับแขนตัวเองอยู่

สาวน้อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะสะบัดหัวละทิ้งเรื่องในหัว แล้วก้มหน้าทำข้อสอบต่อ

จนเวลาผ่านไปเกือบจะครบชั่วโมง เพื่อนในห้องบางคนและอีกหลาย ๆ คน เริ่มสวมปลอกปากกากลับคืน เก็บปากกา ดินสอ อุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากระเป๋า เอนตัวคลายกับพนักพิง เหลือเพียงแต่ ...

“เหลือเวลาสิบนาที” ครูลุกยืนป่าวประกาศจากหน้าห้อง

“หา ... เหลืออีกตั้งเยอะ” สาวน้อยบ่นกับตัวเอง ที่ในกระดาษคำตอบยังมีช่องว่างอีกหลายช่อง ทั้งที่คนรอบข้างเกือบทั้งห้อง บิดขี้เกียจ ผ่อนคลายความเครียด พร้อมที่จะส่งแล้ว

สาวน้อยมุ่งทำต่อด้วยความล่กอย่างขีดสุด เหงื่อมือเริ่มไหลออกมา จนเปียกกระดาษบางเป็นปื้นใหญ่

“เหลืออีกหนึ่งนาที นักเรียนตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองด้วยนะครับ” ครูเริ่มเก็บข้อสอบจากหัวแถว

“อีกห้าข้อเอง ครูอย่าเพิ่งเดินมา” สาวน้อยคิดบ่นในใจให้กับเวลาที่เดินเร็ว ทำไมมันเดินเร็วขนาดนี้ ขอเพิ่มอีกสักสิบนาทีได้ไหม

“ต้องส่งแล้วครับ” ครูยื่นมือหยิบดึงปลายกระดาษ ที่เธอกำลังกาคำตอบ

“ครูคะ ... หนูเหลือสามข้อ” เธอดึงกลับ

“แต่ ! มันหมดเวลาแล้วนะครับ”

“แต่ ! หนูเหลืออีกสามข้อค่ะ”

“หนูต้องส่งแล้ว”

“หนูยังไม่เสร็จ”

แรงดึงกระดาษของทั้งสอง ทำให้กระดาษคำตอบของเธอตึงเสียยิ่งกว่าหนังกลอง กระดาษลอยเหนือโต๊ะไม้ สั่นไหวไปมาด้วยแรงดึง

“หนูเหลือสามข้อ หนูขอสามวิได้ไหมคะ” สาวน้อยขมวดคิ้ว เงยหน้ามองดูหน้าครูหนุ่ม ที่ขมวดคิ้วสู้แรงดึงชนิดที่ว่าไม่ยอมง่าย ๆ

“สามวินะ” ครูกัดฟันพูด พร้อมปล่อยแรงดึงกลับ จนสาวน้อยหลังกระทบกับที่เอนหลัง ขาเก้าอี้ลอยเหนือพื้นต่ำด้วยแรงกระแทก

“นับ ...หนึ่ง”

สาวน้อยกวาดสายตาอ่านโจทย์ ด้วยความเร็ว รีบกาลงบนกระดาษคำตอบ

“... สอง”

เธอเปิดไปยังหน้าสุดท้ายด้วยความเร็ว เธอน่าจะช็อกถ้าเวลาเหลือเยอะกว่านี้อีกสักหน่อย เพราะโจทย์ข้อสุดท้ายมีถึงครึ่งหน้า เธอเลือกที่จะวาดสายตาแบบลวก ๆ

“...สาม”

“ไม่อ่านแล้ว” เธอส่ายหัวอย่างรับไม่ได้ จี้ปลายปากกาสุ่มกาข้อคอควายในข้อสุดท้าย ที่เหลือเวลาเพียงเสี้ยววิ

“หมดเวลา” ครูดึงกระดาษคำตอบพ้นมือ ผ่านสายตาที่เธอมองนิ่ง และยังคงจับปากกามือสั่น สายตายังมุ่งดูพื้นโต๊ะไม้ต่อ คล้ายวิญญาณยังค้างอยู่ที่ข้อสอบข้อนั้น

“นักเรียนตรวจสอบสัมภาระของตัวเองให้ดี แล้วออกจากห้องได้ครับ ขอให้โชคดีทุกคนนะครับ” / “ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” ครูเก็บกระดาษคำตอบของคนสุดท้าย จับสันรวมเคาะเข้ากับพื้นโต๊ะ

“ข้อสอบง่ายมากเลยนะ โดยเฉพาะข้อสุดท้าย เหมือนข้อฟรีเลย

/ ใช่ ๆ เค้าทำเสร็จตั้งแต่สิบนาทีแรกอะ

/ เค้าก็เสร็จตั้งนานแล้ว เวลาเหลือจนเค้าวาดพี่ภีมจนเสร็จ นี่เหมือนไหม

/ อร้ายยยยยยย กรี๊ดดดดดดด พี่ภีม” เสียงบทสนทนาพูดคุยด้วยความรื่นเริงเดินผ่านหลังเธอไป ราวกับเอาค้อนตอกเธองลงกับพื้นดินโคลน จนแทบจะหายเข้าไปในดิน

“จิ้ ~ ง่ายเหรอ ? เวลาเหลือเยอะเหรอ ? ไม่แบ่งมานี่บ้างงงงง !” สาวน้อยกำปากกาแน่น แค้นที่ตัวเองทำไม่ทัน จนต้องสุ่มกามั่วในสองข้อสุดท้าย

“กลับบ้านได้เลยนะครับนักเรียน” ครูพุ่งเสียงตรงมาหาเธอ ที่นั่งเหลืออยู่คนเดียวภายในห้อง

“นะ ... หนู ขอจูนอารมณ์แป๊บค่ะครู” สาวน้อยกัดฟันตอบกลับ

“เอิ่ม ... งั้น ... หนูยกเก้าอี้ขึ้นโต๊ะช่วยป้าแม่บ้านด้วยนะ” ครูยื่นข้อเสนอ

“หนู ! ไปก็ได้ค่ะครู หนูโอเคแล้วค่ะ” สาวน้อยถอนหายใจแรง รวบสายกระเป๋าคล้องเข้าแขนเล็ก

“กานต์ !” สาวน้อยพอนึกขึ้นได้ เมื่อหลุดจากภวังค์ ก็วิ่งตามหาหนุ่มน้อยทั่วตึก

จนเธอเหลือบไปเห็นหนุ่มน้อย ที่เช็ดมือเปียกด้วยผ้าเช็ดมือผืนคุ้นเคยที่เธอจำได้

“กานต์” สาวน้อยยกมือสูงทักทาย แล้ววิ่งลิ่วเข้าไปหา

“อ้าวป๊อบ ยังไม่กลับอีกเหรอ ?” หนุ่มน้อยยกมือทักทายกลับ

“ป๊อบนั่งช็อกกับข้อสอบอยู่ เลยไม่ทันมองว่ากานต์ออกมาแล้ว”

“ช็อกอะไร ข้อสอบง่ายจะตาย กานต์เสร็จตั้งแต่สิบนาทีแรก”

สาวน้อยกัดฟัน บีบมือตัวเองจนเล็บแทบจะเข้าไปฝังฝ่ามือ

“เนอะ ... ง่ายจนป๊อบช็อกไปเลยอะ ฮ่า ๆ” สาวน้อยฝืนหัวเราะด้วยเสียงแห้ง ๆ

“ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เห็นมาเล่นด้วยกันเลยอะ กานต์มีเพื่อนใหม่เหรอ ป๊อบเล่นกับเพื่อนใหม่กานต์ได้นะ” สาวน้อยร่ายคำถามยาวใส่หนุ่มน้อย ที่ยืนเหม่อลอยอยู่ตรงหน้า

“ขอโทษนะ --- พอดีช่วงนี้กานต์มีเรื่องให้ต้องคิดเยอะน่ะ” หนุ่มน้อยถอนหายใจสั้น

“เป็นเรื่องที่คุยกับคนอื่นไม่ได้ใช่ไหม ?” สาวน้อยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ

“เอิ่ม ... ก็ ...” หนุ่มน้อยอ้ำอึ้งกับคำถาม

“เล่าให้ฟังได้นะ” สาวน้อยแทรกขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Promise me สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกัน   ตอนที่ 19 ไปกินปังเนยกัน 2

    ณ ร้านน้ำปั่นลุงใจดี“อ้าว หนูป๊อบ หวัดดี”“หวัดดีค่ะลุง”“ไม่มาหาลุงนานเลยนะ เป็นไงบ้างแม่สบายดีไหม ?”“สบายดีค่ะลุง”ลุงวาฬ เจ้าของร้านน้ำปั่นลุงใจดี ยกมือที่ถือช้อนก้านยาวทักทายสองหนุ่ม เอ่ยทักทายสาวน้อยที่เดินมาด้วยกัน สาวน้อยมาที่นี่ตั้งแต่จำความได้ เนื่องแม่ของสาวน้อยเป็นเพื่อนรัก ที่แอบเคยรักกันสมัยเรียนวาสอุดมวิทยารุ่นเดอะ ๆ แม่พาเธอมาบ่อยครั้ง เธอจำได้ว่าทุกครั้งที่มาลุงจะทำนมเย็นปั่นหวานหอมมาให้เสมอ เธอนั่งดูนมเย็นตามประสา นั่งฟังผู้ใหญ่สองคนระบายทุกข์สุข หัวเราะกลบกันไป จนเธอเริ่มโตขึ้นหน่อยก็มาบ่อยกับกานต์ แต่คำทักทายที่ถามว่า “แม่สบายดีไหม ?” ก็ยังคงเป็นคำถามทักทาย ที่ต้องได้ยินอยู่ตลอด“นั่งก่อนเด็ก ๆ” ลุงเก็บของบนโต๊ะ ที่ลูกค้าคนก่อนเพิ่งลุงปัดก้นไปเมื่อครู่“เอาไรกันบ้างอะ เดี๋ยวลุงทำให้” ลุงปัดมือกับผ้ากันเปื้อนลายปลาวาฬน่ารัก ที่ขัดกับหนวดดำแกมหงอกบนใบหน้า“ผมเอาโกโก้ปั่นครับ” พีทตอบ“เอิ่ม ... ผมด้วยครับ” กานต์เปิดดูเมนู เอียงคอซ้ายขวาลังเลนิดหน่อย ก่อนจะเอาเมนูตามพีท“เหมือนเดิมก็ได้ค่ะ” ป๊อบปิดเมนูที่เพิ่งเปิดได้แค่หน้าหมวดขนมหวาน“เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน” ลุงทำท่

  • Promise me สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกัน   ตอนที่ 18 ไปกินปังเนยกัน

    กริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงง ~ เสียงสัญญาณดังลั่นทั่วโรงเรียน เป็นเสียงสัญญาณที่บอกว่าวันทั้งวันที่เหน็ดเหนื่อยนี้ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขอให้พวกเจ้ากลับไปใช้ชีวิตต่อที่บ้านนะ หนุ่มน้อยเดินรั้งท้ายกลุ่มคู่กับเพื่อนเนิร์ดแว่น ที่กระเป๋าสะพายหลังแอ่น ปลายทางคือหน้าโรงเรียน ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยร้านขายของกิน เต็มแน่นทั่วทางเท้า ในช่วงหลังเลิกเรียน สิ่งที่นักเรียนใฝ่หามากกว่าการได้กลับบ้านคือของกิน การเรียนทั้งวัน โดยมีอาหารตกถึงท้องแค่ตอนเที่ยงกับช่วงเปลี่ยนคาบ ที่แอบแวะร้านค้าโรงเรียน ไม่เพียงพอต่อความต้องการเลยสักนิด การได้กินของอร่อย ๆ หลังเลิกเรียนนับเป็นสิ่งวิเศษสุด ๆ แล้วในแต่ละวัน “เอาลูกชิ้นหกไม้ครับ” บอลชะโงกหน้า สั่งแม่ค้าที่ง่วนอยู่กับออเดอร์ก่อนหน้า “ไม่ไปกินน้ำปั่นร้านลุงใจดีกับเราจริงดิ” พีทออดอ้อนกอดแขนล่ำสูงของบอล “โทษทีว่ะเพื่อน กูต้องไปซ้อมว่ายน้ำอะ” “มึงจะว่ายน้ำไปตลอดชีวิตเลยเหรอวะ” “ว่ายน้ำน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่กูทำได้ดีที่สุดว่ะ” “เออนะ ตั้งแต่เริ่มเรียนว่ายน้ำด้วยกันมาตอนปอหนึ่ง มึ

  • Promise me สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกัน   ตอนที่ 16 ระเบิดลงกลางโรงอาหาร

    2 สัปดาห์ผ่านไป‘ประกาศถึงนักเรียนโรงเรียนวาสอุดมวิทยาทุกคน ในวันพรุ่งนี้ในคาบเรียนที่เจ็ด จะมีการเลือกชุมนุม ณ หอประชุมศิษย์เก่าสัมพันธ์วาสวิทฯ ให้ทุกคนตรวจดูรายชื่อชุมนุมที่สนใจในรายชื่อที่แนบมาให้นี้ สวัสดี // สภานักเรียนวาสอุดมวิทยา’กานต์เปิดดูข้อความอัตโนมัติ ที่แจ้งเข้ามาในมือถือ พร้อมเพื่อน ๆ ในห้องถึงข่าวแจ้งถึงการเลือกชุมนุม เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทันที เมื่อทุกคนได้อ่านข้อความดังกล่าว“มีแต่ชุมนุมที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย”“นั่นดิ เลือกอะไรดี”“บอล มึงจะเลือกชุมนุมไรวะ”“กูว่าจะเลือกว่ายน้ำว่ะ” บอล หนุ่มน้อยที่ดูน่าจะดูแตกเนื้อหนุ่มที่สุดในกลุ่ม ผิวแดงดำแดด กับรูปร่างทรงนักกีฬา สูงใหญ่ ค่อนข้างล่ำเมื่อเทียบกับเด็กมอหนึ่ง“เออ มึงเคยไปเรียนพิเศษมาหนิ ใช่ป้ะ // นายล่ะ แคน”“เราลังเลอะ ว่าจะเลือกแลปวิทย์ฯหรือจินตคณิตดี” แคน หนุ่มน้อยผมหยิกดำ ร่างบางสูงผอม ผิวสีน้ำผึ้ง เอ่ยตอบ ด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย“เราก็คิดเหมือนนายเลย แคน” เซคัล หนุ่มน้อยแว่นหนาเตอะ ตัวเล็กขาวผ่อง ตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้น เพราะน่าจะมีเพื่อนในกลุ่มลงชุมนุมด้วย“นายสองคนก็หนีจากวิทย์ฯคณิตสักหน่อยก็ไม่ได้เลยเนอ

  • Promise me สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกัน   ตอนที่ 15 แล้วเจอกันนะ 2

    “ไม่ปล่อย บอกมาก่อนว่าชื่ออะไร”“อ๋อ...ปานใจ” ชายหนุ่มอ่านชื่อบนหน้าอกของเธอ“งั้นพี่เรียกเรียกน้องปานใจนะ”“หนูชื่อเจสซี่ค่ะพี่ อยู่มอหนึ่งห้องแปด” เสียงแหลมแจ๋วพูดโทนสองสามสี่ แทรกขึ้นพร้อมชะโงกหน้าคั่นผู้สนทนาทั้งสอง“น้องปานใจกำลังหลบเรียนเหรอคะ ?” ชายหนุ่มผลักหน้าเจสออกจากเรดาร์ เอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงหวานปนสายตาเจ้าเล่ห์“ไม่ได้หลบค่ะ กำลังเข้าเรียน” สาวน้อยตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะอยากคุยด้วย“หลบแหละพี่ว่า --- พี่ควรจะบอกครูดาหวันไหมนะ” ชายหนุ่มมองชะเง้อเข้าไปในห้อง ที่ครูกำลังพูดคุยกับนักเรียนอยู่“หนูว่าพี่ควรปล่อยแขนหนูก่อนค่ะ” สาวน้อยมองส่งสัญญาณมาที่แขน ที่ชายหนุ่มกำลังกำแน่น“อ่า --- พี่ลืม โอเค ปล่อยแล้ว” ชายหนุ่มยกมือขึ้นข้างตัว‘เดชผล ปานใจ’ เสียงครูเรียกเช็กชื่อในห้องดังลอดออกมาข้างนอก‘น่าจะหลบค่ะครู’ สาวน้อยผมหยิกหน้าห้องตอบกลับ และครูก็กำลังวางปากกาลงกระดาษที่ถืออยู่ในมือ เพื่อเช็กชื่อขาด“ครูครับ น้องปานใจอยู่นี่ครับ” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงดัง ทำเอาคนทั้งห้องมองหันมายังต้นเสียงสาวน้อยเบิ่งตาโตเต็มไปด้วยสีหน้าตกใจ หันหน้าหนีจากกลุ่มเพื่อน ที่พยายามชะโงกหน้าผ่านช

  • Promise me สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกัน   ตอนที่ 14 แล้วเจอกันนะ

    กริ้ง ~ สิ้นเสียงสัญญาณเข้าห้องเรียนในคาบแรก หนุ่มน้อยรีบเบิ่งพรวดเข้ามาในห้องพยาบาล มองควานหาสาวน้อย จนพบร่างเล็กน้อยห่มผ้าคลุมโปงอยู่สุดห้อง“ป๊อบ เป็นไงบ้าง”“ป๊อบดีขึ้นแล้วกานต์ --- กานต์มาทำไม ทำไมไม่ไปเรียน”“กานต์กำลังจะไปเรียนแล้ว คาบแรกวิชาสุขศึกษาน่ะ ห้องข้าง ๆ นี่เอง”“อ่อ”“ว่าแต่ป๊อบห่มผ้าทำไมน่ะ หนาวเหรอ”“นิดหน่อยน่ะกานต์”“แต่ ... ป๊อบเหงื่อชุ่มเลยนะ” หนุ่มน้อยก้มลงปาดเหงื่อข้างขมับของสาวน้อย“เอิ่ม ... ป๊อบเพิ่งกินยาไป สงสัยยากำลังออกฤทธิ์ กานต์ไปเรียนเถอะ ป๊อบอยู่คนเดียวได้”หนุ่มน้อยมองออกกลับมาหน้าห้อง ที่มีกระจกใสบานใหญ่กั้น“โอเค งั้นกานต์ไปเรียนแล้วนะ ถ้ามีอะไรให้กานต์ช่วยบอกได้เลยนะ”“โอเค”หนุ่มน้อยเดินออกจากห้องจนลับสายตา สาวน้อยสาดตามองจนสุดสาย ก่อนจะถีบผ้าห่มหนาพ้นตัวสาวน้อยครุ่นคิดว่าจะออกไปเรียนดีไหม ในเมื่อตอนนี้อาการก็ปกติดีที่สุดแล้ว หรือจะนอนเป็นผักอบร้อนคนเดียวในนี้ คิดไปคิดมามันก็เหงาอยู่ไม่น้อย ที่ต้องอยู่คนเดียวในห้องที่มีเตียงว่างเรียงรายนับสิบ จนเกิดความคิดในหัวว่า ‘วันนี้ไม่มีใครป่วยเลยหรือไงนะ’เพียงไม่นานเมื่อสิ้นความคิด เสียงเปิดประตูที่เ

  • Promise me สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกัน   ตอนที่ 13 สาวน้อยชุบแป้งทอด 2

    สาวน้อยมองซ้ายมองขวา หาเพื่อนร่วมห้องที่น่าจะคุ้นตาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เจอ มีเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ผ่านเธอไปอย่างมีจุดหมาย ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะวันที่ครูให้แนะนำตัว เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตา เธอจึงแทบจะจำหน้าใครในห้องไม่ได้เลย และในตอนนี้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูก ครั้นจะเดินไปขอเข้าแถวกับกานต์ก็คงไม่ถูก จะเดินผ่านสายตาที่มองแบบเด่น ๆ ไปเดาหัวแถวข้างหน้าก็กลัวจะหน้าแตกเธอยืนงกงงท่ามกลางผู้คนผ่านไปผ่านมาเฉียดเบียดข้างกายเธอ เหงื่อที่มือผุดเม็ดออกมาจนเปียกชื้น แผ่นหลังเปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ไหลเป็นทางจนเปียกแฉะ เสียงหวานของพี่แจนประชาสัมพันธ์ผ่านไมค์เริ่มแผ่วเบาภายในหู เสียงรอบข้างเริ่มค่อย ๆ แผ่วลง แต่มีเสียงอู้อี้วี้ดดังขึ้นในหู ภาพนักเรียนเข้าแถวภายหน้ากลายเป็นภาพซ้อน ที่เพิ่มจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า ลมหายใจถี่ รู้สึกเหมือนหายใจเข้าไม่ถึงปอด“ป๊อบ !” เสียงแหลมเล็กเรียกดังลั่น นี่น่าจะเป็นเสียงเดียวที่เธอได้ยินในตอนนี้ตุ้บ !“ป๊อบ เป็นไร ลุกขึ้นก่อน ๆ” ท่อนแขนเล็กเรียวประคองแผ่นหลังเธอ ขึ้นมาจากพื้นดินกรุ่นฝุ่น ผู้คนกรู่เข้ามามุงดู เธอยังคงรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ใน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status