Share

#76 พ้นความตาย

last update Last Updated: 2025-08-12 10:57:53

น้ำรอบตัวเงียบ…เงียบจนหัวใจของดรานเต้นดังราวกับเสียงกลองในโถงก้อง ราชินีใต้น้ำค่อย ๆ ลอยลงจากบัลลังก์ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนฝัน แต่ดวงตานั้นคม และแน่นิ่งพอจะทำให้เขาลืมหายใจ

“เจ้ามีดวงตาของคนที่เคยทรยศทะเล” เธอเอ่ย เสียงเหมือนกระซิบข้างหูแต่แทรกเข้ามาในหัวโดยตรง

ดรานขยับดาบขึ้น…แต่ร่างกลับหนักเหมือนถูกมัดด้วยโซ่มองไม่เห็น น้ำรอบขาเขาหมุนวนเป็นเกลียวสีดำแล้วค่อย ๆ ดึงเขาลงไปช้า ๆ

นีราร้อง “ดราน! อย่าให้เธอมองตา!”

สายเกลียวสีดำพันขึ้นมาถึงเอว ดรานฟันลงไป แต่ดาบกลับทะลุผ่านราวกับฟันเงา ราชินีลอยเข้ามาใกล้จนผมยาวของเธอพันกับแขนเขาเย็นเหมือนน้ำแข็ง และริมฝีปากนั้นกระซิบเพียงคำเดียว

“นอน…”

ดวงตาของดรานค่อย ๆ ปิด เสียงทุกอย่างหายไป ร่างเขาเริ่มหย่อนวูบเหมือนร่างไร้วิญญาณ

คาเอลกับนีร่าพุ่งเข้ามา แต่คลื่นแรงมหาศาลปะทุขึ้นจากราชินี โถงทั้งโถงกลายเป็นพายุหมุนที่ผลักพวกเขากระเด็นออกไปติดผนังหิน

ราชินีเงยหน้าขึ้น ดวงตาสว่างวาบ เตรียมจะดึงวิญญาณของดรานเข้าสู่ความว่างนิรันดร์

ฟุ่บ!

เงาสองร่างพุ่งจากด้านบนของโถงน้ำเหมือนลูกศร เสียงโลหะเฉือนน้ำแหลมสูง อีธานใช้แรงน้ำหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนดาบใหญ่ของเขาจะฟาดลงบนคอของราชินีอย่างแม่นยำ ในจังหวะเดียวกัน ไอล่าแทงหอกสั้นเข้าใต้กระดูกไหปลาร้าเพื่อปักร่างเธอให้อยู่กับที่

เลือดสีฟ้าเข้มพุ่งออกมากลางน้ำ เหมือนหมึกละลายไปรอบตัว แรงกระแทกทำให้ราชินีปล่อยดรานทันที ร่างเขาลอยอิสระก่อนคาเอลจะโฉบเข้าไปรับไว้

ราชินียังหันกลับมา ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและไม่ยอมจำนน ริมฝีปากของเธอกำลังจะร่ายเวทครั้งสุดท้าย—แต่ไอล่าหมุนหอกบิดเต็มแรง เสียงกระดูกคอแตกดัง “กร๊อบ” ตามด้วยแรงฟันสุดท้ายของอีธานที่ตัดผ่านกระดูกจนขาดสนิท

หัวของราชินีใต้น้ำลอยช้า ๆ กลางน้ำ ผมยาวฟุ้งเหมือนดอกไม้ทะเล ดวงตายังคงจ้องทุกคนราวกับคำสาปจะตามไปถึงปลายโลก ก่อนที่แสงสีเขียวในตาจะดับลงเหลือเพียงความว่างเปล่า

ทันใดนั้น แสงจากประตูที่พวกเขาเข้ามาก็เริ่มร้าว เสียงแตกดังสะท้อนเหมือนแก้วแตกใต้น้ำ อาณาจักรของราชินีเริ่มสั่นไหว พื้นปะการังถล่มเป็นฝุ่นคลุ้ง น้ำหมุนแรงขึ้นเป็นหลายเท่า

อีธานตะโกน “ทุกคน! ออกไปเดี๋ยวนี้!”

เสียง “ครืดดดดดด” ดังลั่นเหมือนโลกใต้ทะเลกำลังแตกออกเป็นสองส่วน เศษปะการังและหินทะเลร่วงหล่นจากเพดานเป็นสาย ฝุ่นตะกอนลอยหนาทึบจนมองแทบไม่เห็นหน้าเพื่อนที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่ช่วงแขน

อีธานเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหว “ตามมา! อย่าแยกกัน!” เสียงตะโกนของเขาถูกกลืนในกระแสน้ำเชี่ยว แต่ทุกคนก็รีบพุ่งตามทันที

ทางออกที่พวกเขาเข้ามาเมื่อครู่กลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป—ซากปะการังขวางเต็มและกระแสน้ำหมุนวนเหมือนกรงคุมขัง ดรานที่เพิ่งฟื้นยังไม่เต็มที่กัดฟันฝ่าไปข้างหน้า ไอล่าใช้หอกช่วยงัดเศษหินออก คาเอลคอยยิงเวทน้ำแรงดันสูงเปิดทางเป็นช่วง ๆ

แต่ทุกครั้งที่พวกเขาคิดว่าหลุดพ้น เสียง “ครืนนนนน” ก็ดังจากด้านหลัง พร้อมเงาดำขนาดมหึมาพุ่งเข้ามา—มันคือพี่ชายราชินี เขาไม่ได้วิ่งตาม… เขา “ไหลไปกับน้ำ” อย่างเป็นส่วนหนึ่งของมัน ดวงตาสีเงินเข้มจับจ้องพวกเขาเหมือนนักล่ามองเหยื่อ

“เขาไม่ปล่อยเราไปแน่!” นีร่ากัดฟัน “ต้องรีบให้พ้นเขตของราชวงศ์ก่อนที่น้ำจะปิดตัวเอง!”

พวกเขาพุ่งไปตามอุโมงค์โบราณที่ผนังเต็มไปด้วยสัญลักษณ์เก่าแก่ แสงจากด้านปลายอุโมงค์คือความหวังเดียว แต่ทุกก้าวที่เข้าใกล้ เสียงพายุน้ำด้านหลังยิ่งดังขึ้นจนความดันแทบทำให้หูเเทบแตก

ทันใดนั้น เศษซากโบราณจากเพดานถล่มลงขวางทาง ไอล่ารีบตะโกน “หลบ!” อีธานใช้แรงทั้งหมดฟันเปิดช่องเล็กพอให้คนผ่านทีละคน คาเอลดันดรานเข้าไปก่อน ตามด้วยนีราที่เหลียวกลับมามอง—เห็นร่างมหึมาของพี่ชายราชินีเพียงไม่กี่ก้าวหลังพวกเขา

แสงเงินในดวงตาของเขาเหมือนคมมีดที่บาดลึกลงในใจ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือมาคว้าข้อมือของนีราทันเวลา—แต่นีราหมุนตัวหลบผ่านช่องออกไปได้ในเสี้ยววินาที

เสียงคำรามต่ำก้องสะท้อนตามน้ำ “เราจะพบกันอีก… และครั้งหน้า พวกเจ้าจะไม่มีทางขึ้นถึงผิวน้ำ”

ช่องทางออกพังทลายปิดผนึกทันที ราวกับกำแพงน้ำแข็งตัดขาดทุกเสียงและภาพของเขา เหลือเพียงความมืดและแรงสั่นที่ค่อย ๆ จางลง

แสงแดดบ่ายสาดลงมากระทบผิวน้ำ พวกเขาลอยขึ้นสู่ผิวน้ำทีละคน หอบหายใจแรงเหมือนเพิ่งวิ่งหนีตายมาเป็นชั่วโมง เสียงคลื่นกระทบเรือไม้ขนาดกลางดังแว่วมา พร้อมเงาหนึ่งทอดยาวทาบเหนือพวกเขา

“โอ้โห… นึกว่าปลาเน่าลอยมา” เสียงผู้ชายเอ่ยขึ้นอย่างกวนประสาท น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขี้เล่น แต่ก็เหมือนตั้งใจจงใจให้คนฟังโมโห

พวกเขาเงยหน้าขึ้น—ฟรอเรสยืนบนดาดฟ้าเรือ มือหนึ่งถือขวดเหล้า อีกมือเท้าเอว มองพวกเขาราวกับชมละครตลก

นีร่าเช็ดน้ำออกจากหน้าแล้วตะโกนกลับทันที “ฟรอเรส! แกกล้ามาพูดแบบนี้หลังจากทิ้งพวกเราให้สู้ตายเหรอ?!”

ฟรอเรสยักไหล่ ยิ้มมุมปาก “ก็เห็นพวกเจ้าสนุกอยู่เลยไม่อยากขัด… ไหน ๆ ก็ออกมาได้ครบ นับว่าฝีมือใช้ได้” เขากวาดตามองพวกที่เปียกโชกและมีบาดแผลเล็กน้อย “หรือว่าไม่ครบ… ขอโทษนะ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะนับผิด”

อีธานถอนหายใจ

แต่ฟรอเรสกลับทำหน้าทำตาเหมือนคิดหนัก “อืม… ถ้าข้าดึงขึ้นมา พวกเจ้าจะทำตัวดี ๆ หรือจะมาว่าข้าทีหลัง?”

นีร่าโวยลั่น “ฟรอเรส!!”

เสียงหัวเราะของเขาดังลั่นไปทั่วทะเลก่อนที่เขาจะโยนบันไดเชือกลงมา “เอ้า ขึ้นมาเร็ว ๆ ก่อนที่พวกเจ้าจะกลายเป็นอาหารปลาจริง ๆ”

ทุกคนปีนขึ้นเรือทีละคน ดรานแทบจะล้มลงนั่งทันที ฟรอเรสมองเขาแล้วทำเสียงกระซิบเหมือนคุยกับตัวเอง “โห… หน้าเจ้าซีดมาก

แม้บรรยากาศจะกวนประสาทสุด ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสียงหัวเราะของฟรอเรสช่วยคลายความตึงเครียดจากนรกใต้น้ำเมื่อครู่ได้ไม่น้อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #76 พ้นความตาย

    น้ำรอบตัวเงียบ…เงียบจนหัวใจของดรานเต้นดังราวกับเสียงกลองในโถงก้อง ราชินีใต้น้ำค่อย ๆ ลอยลงจากบัลลังก์ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนฝัน แต่ดวงตานั้นคม และแน่นิ่งพอจะทำให้เขาลืมหายใจ“เจ้ามีดวงตาของคนที่เคยทรยศทะเล” เธอเอ่ย เสียงเหมือนกระซิบข้างหูแต่แทรกเข้ามาในหัวโดยตรงดรานขยับดาบขึ้น…แต่ร่างกลับหนักเหมือนถูกมัดด้วยโซ่มองไม่เห็น น้ำรอบขาเขาหมุนวนเป็นเกลียวสีดำแล้วค่อย ๆ ดึงเขาลงไปช้า ๆนีราร้อง “ดราน! อย่าให้เธอมองตา!”สายเกลียวสีดำพันขึ้นมาถึงเอว ดรานฟันลงไป แต่ดาบกลับทะลุผ่านราวกับฟันเงา ราชินีลอยเข้ามาใกล้จนผมยาวของเธอพันกับแขนเขาเย็นเหมือนน้ำแข็ง และริมฝีปากนั้นกระซิบเพียงคำเดียว“นอน…”ดวงตาของดรานค่อย ๆ ปิด เสียงทุกอย่างหายไป ร่างเขาเริ่มหย่อนวูบเหมือนร่างไร้วิญญาณคาเอลกับนีร่าพุ่งเข้ามา แต่คลื่นแรงมหาศาลปะทุขึ้นจากราชินี โถงทั้งโถงกลายเป็นพายุหมุนที่ผลักพวกเขากระเด็นออกไปติดผนังหินราชินีเงยหน้าขึ้น ดวงตาสว่างวาบ เตรียมจะดึงวิญญาณของดรานเข้าสู่ความว่างนิรันดร์ฟุ่บ!เงาสองร่างพุ่งจากด้านบนของโถงน้ำเหมือนลูกศร เสียงโลหะเฉือนน้ำแหลมสูง อีธานใช้แรงน้ำหมุนตัวหนึ่งรอบก่อนดาบใหญ่ของเ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #75 ผู้ใดหลงเข้ามา ผู้นั้นจะไม่มีชีวิตกลับออกไป

    ความมืดกลืนทุกสีและทุกเส้นเงา เหลือเพียงประกายจาง ๆ จากหอกของนีรากับดวงตาหลายคู่ของสัตว์เกราะใต้ทะเลที่ยังขยับช้า ๆ แต่มั่นคงเสียงแหวกน้ำมาจากรอบทิศ ไม่ใช่เสียงเดียว…แต่เป็นหลายสิบ หลายร้อย แทรกอยู่ในคลื่นหัวใจของทุกคน คาเอลกำมีดแน่นจนข้อนิ้วซีด เขาพยายามเพ่งมองหาเงาแต่สิ่งเดียวที่เห็นคือน้ำที่ขุ่นขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนมีอะไรคนมันจากทุกด้าน“มันกำลังไล่ต้อนเรา” แบร์กตันกระซิบ ทั้งที่รู้ว่าเสียงคงไม่ช่วยพรางจากสิ่งมีชีวิตที่ใช้คลื่นน้ำเป็นหูทันใดนั้น สิ่งหนึ่งพุ่งเข้ามาจากมืดด้านบน มันเร็วเกินจะเห็นรูปร่างชัด คาเอลปัดออกด้วยมีดแต่แรงปะทะกลับทำให้เขาหมุนควงกลางน้ำ ดรานคว้าข้อมือเขาดึงกลับมาด้วยแรงพอให้รู้ว่า ถ้าพลาดแม้เพียงครั้งเดียว พวกเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นเสียงของราชินีดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ชัดและใกล้เหมือนอยู่ข้างหู"หัวใจของเจ้าจะเต้นถึงกี่ครั้ง… ก่อนที่มันจะหยุด"นีร่าข่มใจแล้วตะโกน “แบร์กตัน! มีทางออกไหม?”ชายแก่ชี้ไปยังผนังฝั่งซ้าย “มีโพรงแคบหลังเสาหินนั่น! แต่ต้องเสี่ยงวิ่งผ่านพวกมันทั้งหมด!”เหมือนคำพูดยังไม่ทันหมด ฝูงเงาก็พุ่งออกจากความมืด—เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายปลากระโทงครีบขาดเก

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #74 เผชิญหน้ากับความตาย

    สายฝนหยุดลงเพียงชั่วคราวเหมือนฟ้าต้องการให้พวกเขาเคลื่อนตัวต่อ แบร์กตันม้วนแผนที่เก็บอย่างระวัง เสียงน้ำหยดจากกิ่งไม้ดังเป็นจังหวะเหนือหัว คาเอลยกถุงเสบียงขึ้นพาดบ่า “เอาล่ะ ไปเจอมังกรยักษ์ของราชินีกัน”นีร่าไม่ได้ตอบ เธอกำลังคิดถึงสัญลักษณ์รูปตาที่ติดบนแผนที่ เส้นรัศมีสามเส้นที่แผ่ออกมาราวกับกำลังจับจ้องคนมองกลับ—มันให้ความรู้สึกเหมือนสิ่งนั้นกำลัง ‘มอง’ เธออยู่จริง ๆเส้นทางลัดของแบร์กตันพาพวกเขาเลาะไปตามเนินหินที่ชื้นและเต็มไปด้วยเถาวัลย์สีดำ รากไม้บิดเกลียวเหมือนงูคอยเกี่ยวข้อเท้าผู้บุกรุก เสียงคลื่นเบื้องล่างค่อย ๆ จางลง เหลือเพียงเสียงน้ำหยดและสายลมพัดผ่านโพรงหินเมื่อข้ามโขดหินใหญ่ด้านหน้า พวกเขาก็มองเห็นทะเลสาบกว้างเงียบสนิทอยู่กลางป่า ผิวน้ำดำราวกระจกที่ดูดซับแสงทั้งหมด ไร้คลื่น ไร้แม้แต่เสียงกบร้องแบร์กตันหยุดแล้วพูดเสียงต่ำ “นั่นคือ ‘ประตูกลางน้ำ’… ทางลงสู่รังของราชินี”คาเอลย่นคิ้ว “แล้วเราจะลงไปยังไง? ว่ายลงไปแล้วเคาะประตูหรือ?”“มันมีทางเดินใต้น้ำ” แบร์กตันชี้ไปที่ผนังหินริมทะเลสาบ “แต่ต้องกลั้นลมหายใจนานพอควร ”นีร่าเอาหอกเคาะพื้นเบา ๆ “เรามีทางเลือกอื่นไหม”แบร์กตันส่

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #73 เเผนที่นำไปสู่หายนะ

    เพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันของแบร์กตันที่ไหววูบตามจังหวะลม พวกเขาเดินเลาะชายป่า เสียงคลื่นเริ่มถูกแทนที่ด้วยเสียงแมลงยามค่ำ “ทางนี้มันดู… ไม่ค่อยเป็นมิตรนะ” คาเอลกระซิบ พลางมองไปทางพุ่มไม้ที่ไหวอย่างไร้ลม “เจ้าคิดว่ามีอะไร” ดรานถาม คาเอลยกไหล่ “อาจจะเป็นเสือ… หรือแค่กระรอกตัวใหญ่พิเศษที่ชอบแทะหัวคน” แบร์กตันหยุดกะทันหัน ยกมือเป็นสัญญาณให้เงียบ ทุกคนก้มลงตามสัญชาตญาณ เสียง “ซ่า…” ดังจากโคลนเบื้องหน้า ราวกับมีอะไรลากตัวผ่านน้ำตื้น จากเงามืดนั้น ร่างบางอย่างโผล่ขึ้น—ไม่ใช่สัตว์บนบก แต่เป็นสิ่งที่มีเกล็ดเงินแวววาว และแขนยาวเกินมนุษย์ ดวงตากลมโตราวลูกแก้วจับจ้องพวกเขา ก่อนที่มันจะส่งเสียงแหลมก้อง ราวกับโลหะขูดกัน “เฮ้… มีเพื่อนมาทักทายแล้ว” คาเอลพึมพำ แต่เสียงสั่นนิด ๆ “เจ้านี่… ไม่ใช่กระรอก” สิ่งนั้นกระโจนพุ่งใส่ทันที! ดรานชักดาบต้านไว้ เสียงโลหะปะทะเกล็ดดัง ก๊อง! แต่แรงกระแทกทำเอาเขาถอยไปสองก้าว นีร่าใช้หอกสั้นฟันสวน แต่โดนเพียงปลายแขนเกล็ดที่แข็งราวเหล็ก แบร์กตันสบถเบา ๆ ก่อนจะขว้างตะเกียงใส่ มันแตกเป็นเปลวไฟกระจายบนโคลน สิ่งนั้นกรีดร้องลั่น ถอยกลับไปในเงามืด—แต่เสียงเคลื่อน

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #72 ร่วมมือเพื่อโค่นราชินีดำ

    ผืนทรายชื้นเย็นของชายฝั่งเกาะเงียบงันรับร่างของนีร่าที่ล้มลงคว่ำ หน้าอกกระเพื่อมแรงจากการหอบหายใจ ดรานและคาเอลตามมาติด ๆ ทั้งคู่เปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า น้ำเกลือกัดผิวจนแสบดรานทรุดนั่งพิงตอไม้ใหญ่ “ข้า… แทบเดินไม่ไหวแล้ว” เสียงแหบพร่า แววตาขุ่นมัวด้วยความเหนื่อยล้าคาเอลนั่งลงข้าง ๆ พลางหัวเราะเบา ๆ แบบติดตลกแม้จะหมดแรง “ถ้าเจอปลาหมึกยักษ์อีก ข้าจะยอมให้มันกลืนไปเลย… อย่างน้อยคงไม่ต้องทนหิวแบบนี้”นีร่ามองทั้งสองด้วยสายตาหนักแน่น แต่แฝงความกังวล “เราต้องหาอะไรกินเดี๋ยวนี้ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ พวกเจ้าจะหมดแรงจนเดินไม่ไหว”รอบตัวมีเพียงป่าโปร่งที่ทอดยาวขึ้นไปบนเนิน กลิ่นดินชื้นและใบไม้ปนกับกลิ่นไอทะเล ลมพัดเอาเสียงบางอย่างมาจากในป่า คล้ายเสียงกิ่งไม้แตกเป็นระยะดรานพยายามยันตัวขึ้นยืน “อาหาร… น้ำจืด… อะไรก็ได้”คาเอลเหลือบมองไปรอบ ๆ “ข้าเห็นอะไรเป็นเงา ๆ ตรงโน้น อาจจะเป็นหมู่บ้าน หรือไม่ก็…” เขาหยุดพูดก่อนจะยิ้มมุมปาก “ก็อาจจะเป็นกับดักของพวกที่เราไม่รู้จัก”นีร่าเม้มปากแน่น “ถ้ามันเป็นกับดัก เราก็จะได้รู้ก่อนที่เราจะอดตาย”ทั้งสามคนค่อย ๆ เดินตามเส้นทางทรายที่เริ่มกลายเป็นดินโคลน ใบ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #71 ค่ำคืนที่เงียบสงบ

    เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นท่ามกลางสายลมทะเล ฟลอเรสเดินไปหาเอเรนที่กำลังจัดเก็บเครื่องมืออย่างขะมักเขม้น แต่สายตากลับดูเหนื่อยล้า“เอเรน เจ้าเคยคิดไหม ว่าเราจะยังได้เห็นแสงแดดอีกนานแค่ไหน?” ฟลอเรสถามเอเรนหันมายิ้มบางๆ “ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากเห็นมันอีกนานๆ แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดจนกว่าจะหมดลมหายใจ”ฟลอเรสหัวเราะ “คำพูดเจ้าโหดร้ายยิ่งกว่าปลาหมึกยักษ์อีกนะ”เอเรนขมวดคิ้ว “อย่าแหย่ข้านักล่ะ!”เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ ทำให้บรรยากาศที่เคยเครียดค่อยๆ ผ่อนคลายลง ลูกเรือคนอื่นก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ทั้งเรื่องข่าวสาร เรื่องตลกเล็กๆ หรือเรื่องบ้านเกิดที่แต่ละคนคิดถึงมาเรียเดินมาหาฟลอเรสพร้อมถือลูกอมในมือ “นี่เจ้า ต้องใช้พลังงานนะ จะได้ไม่หมดแรง”ฟลอเรสรับลูกอมมาแล้วอมไว้ในปาก “ขอบใจเจ้า นี่แหละที่ทำให้ข้ายังเดินต่อไปได้”จู่ๆ เสียงร้องหัวเราะดังมาจากมุมเรือ ใครบางคนกำลังเล่นเกมทายคำกับลูกเรือคนอื่นๆ ทำให้หลายคนหยุดงานมาช่วยกันเล่นฟลอเรสเดินไปดู พบว่าเป็นบรรยากาศที่พวกเขาแทบลืมไปว่ากำลังอยู่กลางทะเลที่เต็มไปด้วยอันตราย“ถ้าพวกเจ้าลืมเรื่องร้ายๆ สักพัก ข้าก็ยินดี” ฟลอเรสพูด พลางมองไปยังฟ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status