LOGIN"ไม่ใช่หรอก นี่คือ 'หญ้าเงิน' เป็นสมุนไพรที่ช่วยบำรุงกำลังและแก้ปวดเมื่อยได้" หลิงเหม่ยเม่ย อธิบาย เธอเริ่มเก็บหญ้าเงินใส่ตะกร้าอย่างระมัดระวัง น้อง ๆ มองพี่สาวด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าผักป่าชนิดนี้มีสรรพคุณเช่นนี้ พวกเขาเดินต่อเข้าไปอีกไม่นาน หลิงเม่ยเม่ยก็ต้องหยุดชะงัก ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อสายตา เบื้องหน้าของเธอคือต้นไม้ใหญ่ที่ล้มลง
และที่โคนต้นนั้นเอง เธอเห็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับกลองรบ "โสม... โสมร้อยปี!" เธออุทานเสียงแผ่วเบา มือของเธอสั่นเทาเมื่อเห็นรากโสมขนาดใหญ่สองหัวที่โผล่พ้นดินขึ้นมา รากโสมนั้นมีลักษณะคล้ายร่างมนุษย์ บ่งบอกถึงอายุ ที่ยืนยาวและพลังชีวิตที่เข้มข้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของโสมลอยมาแตะจมูก ทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกสดชื่น ขึ้นมาทันที
"โสมหรือพี่ใหญ่? มันคืออะไรหรือ?" จินเป่าและหงส์เป่าถามด้วยความสงสัย พวกเธอไม่รู้จักสมุนไพรล้ำค่าชนิดนี้ "มันคือสมุนไพรวิเศษที่จะช่วยให้พวกเราแข็งแรง และมีอายุยืนยาว" หลิงเหม่ยเม่ย อธิบายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เธอรีบใช้มีดพร้าขุดดินรอบๆ รากโสมอย่างระมัดระวังที่สุด ไม่ต้องการให้รากโสมเสียหายแม้แต่น้อย ขณะที่กำลังขุดโสม อยู่นั้น สายตาของหลิงเม่ยเม่ยก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่านั้นอีก
บนท่อนไม้ผุๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากโสมนัก เธอเห็นเห็ด ขนาดใหญ่สีน้ำตาลอมแดงสามดอกขึ้นอยู่ เห็ดเหล่านั้นมีลักษณะเป็นแผ่นขนาดใหญ่ ผิวกระด้างแข็ง แต่เป็นมันเงา และส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ "เห็ดหลิงจือป่า!" เธออุทานอีกครั้งด้วยความดีใจสุดขีด เห็ดหลิงจือธรรมชาติขนาดใหญ่ถึงสามดอก! นี่มันโชคดีอะไรเช่นนี้ เห็ดหลิงจือเป็นสมุนไพรชั้นเลิศที่หายาก ยิ่งกว่าโสมเสียอีก มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย รักษาโรค และช่วยให้อายุยืนยาว
หลังจากเก็บโสมและเห็ดหลิงจือได้แล้ว หลิงเม่ยเม่ยก็รู้สึกเหนื่อยล้าจนแทบหมดแรง แต่ความดีใจที่ได้พบของวิเศษเหล่านี้ก็ทำให้เธอมีกำลังใจขึ้นมาอย่างมหาศาล เธอตัดสินใจพาพวกน้อง ๆ กลับบ้านทันที เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลิงเหม่ยเม่ยก็รีบนำโสมและเห็ดหลิงจือไปวางไว้บนโต๊ะอย่างระมัดระวัง เธอจ้องมองสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นด้วยแววตาเป็นประกาย "เอาล่ะ ถึงเวลาอัพเกรดระบบแล้ว!" เธอคิดในใจ
เธอเรียกใช้ระบบในความคิดทันที เสียงหวานใสของระบบก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “คุณต้องการขายสมุนไพร เพื่ออัพเกรดระบบหรือไม่?" "ใช่!" หลิงเหม่ยเม่ย ตอบอย่างรวดเร็ว "ฉันต้องการขายเห็ดหลิงจือ สองดอกและโสมหนึ่งหัว" เธอตัดสินใจเก็บเห็ดหลิงจือหนึ่งดอกและโสมหนึ่งหัวไว้สำหรับขายในตลาด เพื่อนำเงินมาซื้อของจำเป็นให้น้อง ๆ
"ยืนยันการขายเห็ดหลิงจือ สองดอก 200 ตำลึงเงินและโสมหนึ่งหัว มูลค่า 200 ตำลึงเงิน ระบบจะทำการอัพเกรดทันที" สิ้นเสียงของระบบ เห็ดหลิงจือ สองดอกและโสมหนึ่งหัวก็พลันหายวับไปจากโต๊ะ แสงสีทองสว่างจ้ากว่าเดิมสาดส่องเข้ามาในความคิดของหลิงเหม่ยเม่ย พร้อมกับเสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ระบบซูเปอร์มาร์เก็ตของคุณได้รับการอัพเกรดเป็นระดับ 2 แล้ว! คุณสามารถเข้าถึงสินค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น และโกดังเก็บของของคุณก็ขยายใหญ่ขึ้นด้วย! นอกจากนี้ คุณยังได้รับสิทธิ์พิเศษในการเลือกประเภทอาหารที่จะได้รับในแต่ละมื้อได้มากกว่าเดิม!" หลิงเหม่ยเม่ยดีใจจนแทบกรี๊ดออกมา เธอรีบเปิดหน้าต่างระบบดูทันที สินค้าในร้านค้าเสมือนจริงปรากฏขึ้นมามากมายกว่าเดิม ทั้งเมล็ดพันธุ์พืชผักหลากหลายชนิด อุปกรณ์การเกษตรที่ทันสมัย อาหารสำเร็จรูปที่ดูน่ากิน และแม้กระทั่งเสื้อผ้าและเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน
โกดังเก็บของก็ขยายใหญ่ขึ้นจนน่าตกใจ เธอสามารถเก็บของได้มากมายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่อีกต่อไป "เย้! เราทำได้แล้ว!" หลิงเม่ยเม่ยอุทานด้วยความดีใจ น้อง ๆ มองพี่สาวด้วยความงุนงง แต่ก็สัมผัสได้ถึงความสุขที่แผ่ออกมาจากตัวพี่ใหญ่
"พี่ใหญ่... เกิดอะไรขึ้นหรือ?" หลิงห้าวจื่อถามด้วยความสงสัย "ไม่มีอะไรหรอกน้อง ๆ แค่ของวิเศษของท่านเซียนมันขยายใหญ่ขึ้นน่ะ" หลิงเหม่ยเม่ย ตอบพลางยิ้มกว้าง "เอาล่ะ ตอนนี้เรามีเงินแล้ว เราจะไปตลาดกัน! เพราะของบางอย่างมันไม่สามารถที่จะให้คนอื่นๆเห็นได้” เธอหยิบเห็ดหลิงจือที่เหลือหนึ่งดอกและโสมอีกหนึ่งหัวใส่ตะกร้า พร้อมกับเหรียญเงินสามสิบสามเหรียญที่ได้จากการขายผักป่าและหน่อไม้เมื่อวานไปใช้
โดยให้พี่รองถือไว้ 10 เหรียญเงินอีก 23 หลิงเหม่ยเม่ยถือไว้ และเงินที่ได้จากการอัปเกรดอีก 400 เหรียญเงิน เธอเก็บไว้ในระบบ กันการศูนย์หาย เธอรู้สึกถึงความมั่งคั่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตนี้
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับพร้อมกันเลย” “น้อง ๆ แน่ใจหรือว่าไม่เสียดายชีวิตในวัง” “ไมเสียดายเลย แต่จะเสียดายมากถ้าจะไม่มีบะหมีซองให้กินอีก” “ดี ถ้าอย่างนั้นพี่มีข่าวดีจะบอกพวกเจ้า " “ข่าวดี!..ข่าวดีอะไรหรือพี่ใหญ่?” “ก็ข่าวดีที่ว่าระบบของพี่ สามารถอัพเกรดขั้นสูงสุดแล้วนะสิ “..”จริงหรือๆ…ข้าดีใจยิ่งนัก แล้วระบบใหม่สามารถทำอะไรได้บ้างละเจ้าคะ ”. “สามารถทำได้ทุกอย่างเลย โดยเฉพาะ สามารถไปไหนก็ได้ และพาใครไปก็ได้ พี่จะพาน้อง ๆ ไปยังอีกโลกหนึ่ง ถือเป็นการพักผ่อนและท่องเที่ยว น้องสองคนจะไปกับพี่ไหม?” “ไปสิ ๆ พี่ใหญ่ ไม่ว่าท่านพี่จะไปไหน ที่นั่นต้องมีของอร่อยที่นั่นแน่ๆ" …"งันดีเลย พี่จะพาน้องไปช้อปปิ้งไปเสริมสวย ไปกินของอร่อยๆมากมาย และที่สำคัญจะพาไปเที่ยวบาโฮสด้วยดีไหม?” ทั้งสองพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้นเอาไว้จะไปเมื่อไหร่พี่จะบอก" "เจ้าค่ะท่่านพี่ ถ้าอย่างนั้นหลับตาแล้วจับมือกัน หากว่าพี่ไม่บอกให้ลืมตาก็อย่าลืมตาขึ้นมาเด็ดขาด"เมื่อมาถึง แล้ว ทั้งสามปรากฏตัวในห้องของโรงแรมหรู ก่อนที่จะบอกให้น้องๆลืมตาขึ
วันหนึ่ง อ๋องอี้ส่งเทียบเชิญพิเศษมายังหลิงเหม่ยเม่ย เขาจัดงานเลี้ยงสำคัญระดับสูง เพื่อต้อนรับทูต จากแคว้นเพื่อนบ้าน และตัดสินใจเชิญหลิงเหม่ยเม่ย เข้าร่วมในฐานะ นักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์และมีส่วนช่วย ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเมืองหลวง นี่เป็นโอกาสสำคัญที่เธอจะได้ก้าวเข้าสู่สังคม ชั้นสูงอย่างเต็มตัว หลิงเหม่ยเม่ยตื่นเต้นกับงานเลี้ยงนี้ เป็นอย่างมาก เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่การเข้าร่วมงานเลี้ยง ธรรมดาๆ แต่เป็นการประกาศสถานะ และบทบาทของเธอในสังคม เธอตัดสินใจใช้เงินจากระบบ เพื่อซื้อชุดราตรีที่สวยงามและทันสมัยที่สุดเท่าที่จะหาได้ในยุคนี้ ชุดนั้นทำจาก ผ้าไหมเนื้อดี สีครามเข้ม ปักลวดลายดอกโบตั๋นสีเงิน อย่างประณีต การออกแบบเรียบหรูแต่สง่างาม เน้นรูปร่างที่เพรียวบางของเธอให้เด่นชัดและงดงามยิ่งนัก และยังช่วยขับผิวพรรณ ที่เปล่งปลั่งให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ในวันงานเลี้ยง หลิงเหม่ยเม่ยปรากฏตัวในชุดราตรีสีครามเข้ม เธอเดินเข้ามาในห้องโถงจัดเลี้ยงด้วยท่าทางสง่างามและมั่นใจ ผมเผ้าถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่ดูมีรสนิยม ประดับด้วยปิ่นปักผมเงินฝังอัญมณีเล็กน้อย ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง
ร้านผักดองของเธอยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ชื่อเสียงของเธอในฐานะ แม่ค้าผักดองอัจฉริยะ และ คุณหนูหลิงผู้พิทักษ์" ยิ่งทำให้มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย หลิงเม่ยเม่ยบริหารจัดการธุรกิจด้วยความสามารถ ที่เหนือกว่าคนในยุคนี้ เธอใช้หลักการบริหารจัดการสมัยใหม่ การตลาด และการควบคุมคุณภาพ ทำให้ธุรกิจของเธอเติบโตอย่างก้าวกระโดด เธอขยายกิจการด้วยการเปิดสาขาเพิ่มในย่านการค้าสำคัญของเมืองหลวง และเริ่มมองหาโอกาสในการส่งออก ผักดองและสินค้าเกษตรแปรรูป ไปยังเมืองอื่นๆ อีกด้วย เธอจ้างคนงานเพิ่มขึ้นและดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ทำให้คนงานทุกคนรักและภักดีต่อเธอ ส่วนน้อง ๆ ของเธอ จินเป่าและหงส์เป่า ได้รับการดูแลอย่างดีในวัง พวกเธอปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความเฉลียวฉลาดจากน้ำยาอัจฉริยะ ทำให้พวกเธอเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและโดดเด่น กว่าเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียนสตรี ในวัง อิงอ๋องเองก็ให้ความเมตตาและดูแลพวกเธอประหนึ่งลูกแท้ๆ ทำให้ชีวิตของเด็กหญิงทั้งสองเต็มไปด้วยความสุขและโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนหลิงห้าวจื่อ เองก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำนักศึกษาเหวินอี้
เธอเล็งและยิงออกไปอย่างต่อเนื่อง สังหารนักฆ่า ไปจนหมดสิ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงร่างไร้วิญญาณ ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นดิน ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วป่าหลังเสียงปืนนัดสุดท้ายสิ้นลง อ๋องอี้และองครักษ์ต่างก็มองหลิงเม่ยเม่ยด้วยแววตา ที่เต็มไปด้วยความสงสัยและตกตะลึงในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ดูบอบบางเช่นนี้ จะครอบครองอาวุธที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้อย่างไร"นี่... นี่มันคืออะไรกันคุณหนูหลิง" อ๋องอี้ถามเสียงแผ่วเบา ดวงตาจับจ้องไปที่ปืนในมือของเธอ หลิงเม่ยเม่ยเก็บปืนกลับเข้าไปในระบบอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าเธอต้องหาคำโกหกที่น่าเชื่อถือที่สุด "ท่านอ๋อง... มันคืออาวุธประหลาดที่ข้าได้ซื้อมาจากพ่อค้าชาวตะวันตกเมื่อไม่กี่วันก่อนเพคะ" เธอพยายามทำสีหน้า ให้เป็นธรรมชาติที่สุด"พวกเขาบอกว่ามันเป็นเครื่องมือป้องกันตัวที่หาได้ยากยิ่ง ข้าไม่คิดว่าจะได้ใช้มันในสถานการณ์เช่นนี้" อ๋องอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย "พ่อค้าชาวตะวันตกอย่างนั้นหรือ." เขาทบทวนในใจ เขาเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อค้าแปลกหน้า ที่นำของแปลกๆ เข้ามาในแผ่นดินอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าจะมีอาวุธที่ร้ายกาจถึงเพียงน
บัดนี้ จินเป่าและหงส์เป่าอยู่ในฐานะที่สูงส่งกว่าบรรดา คุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านั้นไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าดูถูกหรือกลั่นแกล้งพวกเธออีกต่อไป ในงานเลี้ยง ดวงตาของจินเป่าและหงส์เป่า ฉายแววความสุข พวกนางสวมชุดที่สวยงามปราณีต ได้รับการดูแลอย่างดี และมีรอยยิ้มบนใบหน้าตลอดเวลา หลิงเหม่ยเม่ยมองภาพน้อง ๆ ที่มีความสุขด้วยความอบอุ่นในหัวใจ เธอรู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของอ๋องอี้ คือของขวัญอันล้ำค่าที่สุดสำหรับครอบครัวของเธอท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย คุณหนูที่โดดเด่นคนหนึ่งในงานคือ รั่ว ม่านอี้ บุตรสาวของเสนาบดีกรมคลัง นางเป็นหญิงสาวที่งดงามและเติบโตมาในตระกูล ที่ร่ำรวยและมีอำนาจ และเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายคน และมักจะเป็นที่หนึ่งในหมู่คุณหนูทั้งหลายเสมอ รวมถึงเป็นคนที่เคยชินกับการเป็นที่สนใจและได้รับการปฏิบัติอย่างพิเศษ เธอเองก็เป็นหนึ่งในนักเรียนของโรงเรียนสตรีในวัง และเป็นหนึ่งในผู้ที่เคยดูถูกจินเป่าและหงส์เป่า เมื่อรั่วม่านอี้ ได้เห็นภาพของเด็กหญิงสองคนนั้น ที่นางเคยดูถูกเหยียดหยาม บัดนี้กลับได้รับการยกย่องให้มีฐานะเทียบเท่าเชื้อพระวงศ์ ดวงตาของเธอก็ลุกวาวด้วยความ ไม่พอใจปนความอิจฉ
หลังจากที่หลิงเม่ยเม่ยได้ส่งน้อง ๆ ทั้งสามคน เข้าสู่เส้นทางของการศึกษา หลิงห้าวจื่อเข้าเรียนที่สำนักศึกษาเหวินอี้ ของอ๋องอี้ ส่วนจินเป่าและหงส์เป่าได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้เข้าศึกษาในโรงเรียนสตรีในวังของอิงอ๋อง แม้นั่นจะเป็นเพียงโรงเรียนสำหรับเด็กหญิง แต่ก็เป็นสถานที่ ที่รวมลูกหลานของเหล่าขุนนาง และเชื้อพระวงศ์น้อยใหญ่ไว้ด้วยกัน เด็กหญิงทั้งสองที่เพิ่งก้าวเข้ามาจากชีวิตที่ยากไร้ ย่อมเป็นเป้าสายตาของเด็กผู้หญิงที่เติบโตมาในกรอบของสังคมชั้นสูง ผู้ที่คุ้นชินกับการแข่งขันและแบ่งชนชั้นเพียงไม่กี่วันผ่านไป อิงอ๋องก็ได้รับข่าวจากเหล่าพี่เลี้ยง และครูบาอาจารย์ในโรงเรียน เกี่ยวกับพฤติกรรม ของนักเรียนบางคน ที่เริ่มแสดงออกถึงความรังเกียจ และดูถูกจินเป่ากับหงส์เป่า พวกคุณหนูเหล่านั้นนินทาเรื่องฐานะที่ต่ำต้อยของสองพี่น้อง ตลอดจนรูปลักษณ์ ที่ยังคงผอมบางเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเด็กที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี และแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่หลิงเม่ยเม่ยเลือกสรรมาให้แล้วอย่างดีที่สุด ก็ยังคงถูกมองว่าไม่คู่ควรกับ "สถานที่สูงส่ง" เช่นในวัง อิงอ๋องผู้เป็นน้องสาวของอ๋องอี้ เป็นคนใจดี และมีคุณธรรมสูงส่งไม่







