Главная / LGBTQ+ / จะลูปไหนก็รักเธอ / บทที่ 10 นั่งรอในร้านกาแฟ

Share

บทที่ 10 นั่งรอในร้านกาแฟ

Aвтор: Me.Daisy
last update Последнее обновление: 2025-03-02 19:01:39

              เขียนโดยเพนนี  ปัจจุบัน  ลูปที่ 2

              "คุณเพนนีคะ  ตื่นได้แล้วค่ะ"  อ้อยอิ่งส่งเสียงเรียกฉัน  ฉันอยากนอนต่ออีกนิดหนึ่ง  จึงไม่ได้ตื่นตามคำบอกของหุ่นยนต์เอไอ  "ถ้าไม่ตื่น  อ้อยอิ่งจะจูบนะคะ"

              ตาเบิกโพล่งขึ้นมาทันที  เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความรักของมนุษย์กับเอไอ  อย่างน้อยๆ ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่ยอม  ฉันจัดการตัวเอง  แล้วนึกย้อนไปเมื่อวาน  เป็นฝันที่สมจริงทีเดียว  ฝันว่าได้รับข้อความวีดิโอจากผู้บังคับบัญชา  ได้เจอเพื่อนร่วมทีมที่ชื่อเพียงออ และคนสวยอีกคนที่ชื่อแกรมม่า  ฉันอมยิ้มเมื่อนึกถึงเธอ

              "มีข้อความจากกรมตำรวจค่ะ"  อ้อยอิ่งเอ่ย  ฉันว่าฉันเห็นหล่อนหงุดหงิด  นี่ขนาดอ่านใจได้เลยเหรอเนี่ย  ว่ากำลังคิดถึงผู้หญิงคนอื่น  แต่ฉันไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นให้หุ่นยนต์รักฉันเสียหน่อย  แค่มีความจงรักภักดีเท่านั้นเอง  ฉันขยี้ตาแล้วให้อ้อยอิ่งเปิดข้อความ

              ฉันตกใจ  เมื่อได้ยินข้อความเหมือนเมื่อวาน  มีการแนะนำให้ไปรู้จักกับเพียงออ  แล้วตามมาด้วยการปรากฎตัวของแกรมม่า!

              เห้ย  หรือฉันจะฝันเห็นอนาคต!

              ก่อนที่เราจะล็อคอินเข้าไปในโลกเสมือน  ฉันมีบางอย่างต้องทำ

              "เพนนีขอโทรหาลุงกานก่อนนะ  เรื่องสำคัญจริงๆ"

              ฉันบอกอ้อยอิ่งให้ติดต่อลุงกาน  ยอมให้เพื่อนทั้งสองคนฟังด้วยกัน  เพราะจะได้ไม่ต้องมาเล่าอะไรอีกรอบ  แกรมม่านั่งลงบนเก้าอี้  ส่วนเพียงออเงียบเสียงลง

              "ว่าไง  เพนนี"

              "หนูว่าหนูกำลังวนลูปค่ะ  ลุงกาน"  ฉันเอ่ยเพียงสั้นๆ  "จำเรื่องจดหมายที่ลุงบอกหนูไว้ได้ไหมคะ"

              "จำได้สิ  แล้วเราก็พยายามจะวิจัยเรื่องนี้อยู่นะ  แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าไหร่  ก่อนที่จะรู้ว่ามันมีอันตรายหรือเปล่า  ลุงขอให้หนูหยุดวนลูปไปก่อน"

              "ไม่ได้ค่ะ  หนูว่าหนูติดอยู่ในนี้ซะแล้ว  ไม่รู้ว่าเพราะอะไร  หนูแค่อยากรู้ว่าลุงจะมีข้อมูลอะไรไหม"

              ลุงกานไม่ตอบ  แต่ถามกลับมาว่า

              "หนูวนลูปมากี่รอบแล้ว"

              "รอบนี้รอบที่สองค่ะ"

              "แล้วเพนนีรู้สึกร่างกายไม่ปกติตรงไหนหรือเปล่า"  แกรมม่าถามด้วยความเป็นห่วง  เอื้อมมือมาจับไหล่ฉัน  ฉันยิ้มอ่อนๆ แต่ในใจลิงโลดซะไม่มี

              "เปล่านะคะ"

              จากนั้นฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดออกมา

              "เอาล่ะ  เรามาทำภารกิจตามข้อมูลที่ได้กันดีกว่า  นั่นก็คือไม่ไปกระตุ้นให้ยัยตุ๊กตาบาร์บี้อยากชัตดาวน์ระบบแล้วกันนะ" 

              เพียงออเป็นคนเอ่ย  ฉันมีเซ้นส์ว่าเพียงออเป็นผู้หญิงล่ะ  ฟังดูซิ  ผู้ชายไม่ใช่คำว่ายัยหรอก  เชื่อฉัน

              เสียงเคาะประตูดังขึ้นในระหว่างนี้  ฉันเปิดประตูให้เขาเข้ามา

              "ฉันส่งข้อความไปหาเรย์เองล่ะ  เขาเป็นนักเรียนที่รู้เรื่องบลูคิลเลอร์ดี  และก็ชำนาญในโลกเสมือนด้วย"

              เรย์ยกมือไหว้พวกเราอย่างอ่อนน้อม  หางตาของฉันเห็นว่ามุมปากของเรย์กระตุกขึ้น  เมื่อเห็นแกรมม่า  น้อยๆ หน่อย  แกเพิ่งเลิกกับแฟนไม่ใช่เรอะ  หมอนี่มันน่านัก

              "นี่เพียงออกับแกรมม่า  และนี่เรย์"   ฉันผายมืออย่างสุภาพก่อนนั่งลงบนโซฟา  "เราตามสืบเรื่องบลูคิลเลอร์อยู่  แล้วอาจารย์ก็คิดว่าจะจับเป็น  เรย์มีข้อมูลอะไรจะแบ่งปันไหม  อ่อ  ห้ามไปยั่วโมโหเขาด้วยนะ  เดี๋ยวเรื่องจะบานปลาย"

              "ครับ  ก่อนหน้าที่ผมจะไปขโมยเพชรเขา  ผมเข้าไปนั่งในร้านกาแฟในย่านคนรวยมาน่ะครับ  ปกติแล้วเราจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน  พวกที่แต่งตัวแปลกๆ จะมีคนเข้ามาแซวเยอะ  บลูคิลเลอร์เขาแต่งตัวธรรมดาที่สุดแล้ว  ผมเดาล้วนๆ ว่าเขาน่าจะเป็นที่น่าสนใจในชีวิตจริง  เลยไม่อยากให้คนมาทักอะไรกันมากมาย  เราก็เลยคุยกัน  แล้วผมก็รู้ว่าเขารวย"

              "อะฮะ"  ฉันเอื้อมมือไปตบเข่านักเรียนทีหนึ่ง  "นายนี่มัน"

              "เดี๋ยวก่อนครับ  แต่ผมก็ไม่ใช่คนไม่มีคุณธรรมขนาดนั้น  ผมได้ยินข่าวลือมาจากคนอื่นว่า  หมอนี่รวยจากธุรกิจมืด  พวกฟอกเงิน  ค้ายา  และค้ามนุษย์  แล้วก็เบื่อโลกที่ตัวเองอยู่  เลยมาสร้างตัวตนปลอมๆ ในนี้"

              "ถึงเขาจะไม่ดี  ก็ไม่ได้แปลว่าเราควรขโมยเงินเขานะคะ"

              แกรมม่าเอ่ยอย่างหงุดหงิด  นั่นทำให้ฉันอมยิ้มอีกครั้ง  อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ตกหลุมรักไอ้เจ้านักเรียนของฉัน

              "แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ  เขาล็อคเอาท์โดยที่ผมไม่รู้ทุกครั้ง  ผมเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร  แต่สำหรับเขาแล้ว  การล็อคเอาท์ของผมเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะตามสืบ  ถ้าอยากรู้  ผมมีวิธีนะครับ"

              เรย์ยิ้ม  เป็นรอยยิ้มที่ฉันต้องเสียวสันหลังทุกที

.

.

              "เรารอมาสามวันแล้วนะ"

              ฉันเอ่ยด้วยความหงุดหงิด  นั่งบนเก้าอี้กับแกรมม่าและเรย์  มีกาแฟที่กินไม่ได้  แต่ได้กลิ่นมาจากอุปกรณ์  พวกเราเปลี่ยนอวตารให้ดูน่าสนใจน้อยที่สุด  คือหน้าตาแบบพวกเรา  แต่งตัวแบบพวกเราตามปกติ

              "อาจารย์  หรือเราต้องใช้ยาแรง"  เรย์หันมากระซิบฉัน

              "คงไม่ได้หมายถึง  อะไรที่มันแหวกแนวอีกใช่ไหม"  แกรมม่าเลิกคิ้ว  เธอคงรับไม่ได้ตั้งแต่ฟังเรื่องจากเรย์ตั้งแต่วันนั้น

              "ผมพิมพ์ข้อความนี้ไปดีไหมน้า"  เขากระซิบข้อความทางนาฬิกาให้มันพิมพ์เองอัตโนมัติ  "มารำลึกความหลังกับผมที่ร้านกาแฟไหม  จากเรย์" 

              เขากดสั่งโดยไม่ถามอะไรฉัน

              "เห้ย  เดี๋ยวก่อน"

              ฉันกับแกรมม่าอุทานพร้อมกัน  แต่ไม่ทันเสียแล้ว  ข้อความส่งไปหาบลูคิลเลอร์  พวกเรานั่งอย่างไม่สงบสุขในร้านกาแฟ  เพียงสองนาที  เขาก็ปรากฎตัวในร้าน  ลุคเดิม  แม่สาวตุ๊กตาบาร์บี้

              เธอหันไปทั่วร้าน  ไม่รู้ว่าคนไหนส่งข้อความมา  ได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ

              "ตามสืบทุกคนในร้าน"

              เธอสั่งผ่านทางนาฬิกาข้อมือ  บอดี้การ์ดกรู่กันเข้ามาในร้าน  ซึ่งมีลูกค้านั่งกันแค่สิบคน  บอดี้การ์ดปล่อยยุงที่สามารถตามพิกัดได้หรือจีพีเอสไปยังลูกค้าทุกคน  ฉันเหงื่อชุ่มไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี  คนที่เหลือที่ไม่รู้เรื่อง  ต่างก็แปลกใจที่เห็นชายชุดสูทดำหลายคน  แต่แล้วเขาก็ออกไปเมื่อถูกติดจีพีเอสเรียบร้อยแล้ว

              เราสามคนนั่งในร้านกาแฟ  ไม่กล้าล็อคเอาท์  ไม่กล้าผลัดกันไปเข้าห้องน้ำหรือเดินเล่นใดๆ ทั้งสิ้น  จนกระทั่งบลูคิลเลอร์ย่างสามขุมมาที่โต๊ะเรา

              "ไอ้ชั่วเรย์"

              เธอพูดภาษาอังกฤษ  หูฟังไฮเทคแปลภาษาให้ทันที  เป็นภาษาไทยใสแจ๋ว

              เราถูกยิงเดี๋ยวนั้นเลย  ทรัพย์สมบัติของเรย์และเราสองคนหายไปจนหมดเกลี้ยง  พวกเรากลับมาโผล่ที่อพาร์ทเม้นท์ของฉัน  หายใจหอบด้วยความลุ้นระทึก

              "หวังว่าได้เงินคืนแล้ว  จะไม่มายุ่งกับเราอีกนะ"

              ฉันโล่งอก  หันไปสำรวจดวงหน้าหวานของแกรมม่า  เธอยิ้มให้ฉันเพื่อแสดงว่าไม่ได้รับอันตราย 

              ในสายตาฉัน  เธอไม่เพียงสวย  แต่ยังนิสัยดี  เหมาะจะเป็นแม่ของลูกที่สุด  เหอๆ

              "ใครบอก"  เรย์ยิ้มทะเล้น  "ผมโอนเงินเข้าบัญชีแม่ไปหมดแล้ว  ฮ่าๆๆ"

              "ตัวแสบ" 

              ฉันกับแกรมม่าเอ่ยพร้อมกัน

              เราถอดชุดสูทและอุปกรณ์อื่นๆ ออกจนหมด  มีเสียงเคาะประตูหน้าบ้าน  ฉันดีดตัวขึ้นจากเก้าอื้แล้วเดินไปเปิดประตู  ข้อมือขาวพร้อมรอยสักรูปสัญลักษณ์แปลกตาเข้ามาในโสตประสาทฉัน  ก่อนเสียงดัง

              ฟุ่บ

              ฉันถูกยิงที่กลางหน้าผาก  แล้วก็ตายอีกครั้ง!

Продолжить чтение
Scan code to download App

Latest chapter

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 29 เมื่อแสวงหารักที่ดีได้แล้ว(ตอนจบ)

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 4 เดือน ลูปที่ 6 ฉันพาแกรมม่ามาที่ห้องพักบ่อยครั้ง พวกเราค่อนข้างหวานแหวว ตัวติดกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกเปลี่ยนไปตั้งแต่มีเธอ นั่นคือ… อ้อยอิ่ง หุ่นยนต์แม่บ้านเอไอทำตัวแปลกออกไป อย่างที่ฉันสงสัยมาเสมอ ว่าเธอถูกใส่โปรแกรมให้รักเจ้านายเข้าไปด้วย หรือไม่วิวัฒนาการก็ทำให้เธอมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ อ้อยอิ่งไม่ฮัมเพลงเวลาทำกับข้าว อ้อยอิ่งไม่รีบมาเวลาฉันเรียก และอ้อยอิ่งประชดประชันฉันบ่อยขึ้น “หุ่นยนต์เอไอ” ฉันเรียกเธอ “ค่ะ เจ้านาย” แทนที่จะต่อปากต่อคำให้ฉันเรียกชื่อเหมือนอย่างเคย แต่เธอกลับตอบรับอย่างไม่มีชีวิตชีวา “งอนเหรอ” “หุ่นยนต์ไม่สามารถมีความรู้สึกได้ นอกจากยินดีทำตามคำสั่งค่ะ และอ้อยอิ่งก็เป็นแค่หุ่นยนต์” ฉันต้องแคร์ไหมเนี่ย เอา ก็ได้วะ “ขอบคุณอ้อยอิ่งมาก ที่ทำงานรับใช้ฉันอย่างดีเสมอมา” ฉันไม่รู้จะจบประโยคนี้ได้อย่

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 28 แล้วครอบครัวที่หายไปก็กลับมา

    เขียนโดยนิวตัน เมื่อ 16 ปีก่อน พ่อแม่ของเรามาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ่อยๆ จนพี่เพนนีจำหน้าพ่อกับแม่ได้ เธอจะยิ้มกว้างทุกครั้งที่เห็นพวกท่าน เพราะท่านจะเข้ามาพูดคุยกับเด็กๆ ไม่เว้นแม่แต่กับเธอ เด็กในนี้จะโหยหาความรัก และอยากให้คนมาสนใจ อันที่จริง เพราะอยากจะมีโอกาสได้คุยกับพี่เพนนีด้วย แต่ไม่อยากให้มันโจ่งแจ้งนัก กระทั่งพ่อกับแม่เป็นห่วงพี่เพนนีมาก จนแม่ต้องร้องไห้ทุกคืน “เดี๋ยวผมจะไปอยู่กับพี่เพนนีเองครับ” ผมอาสา “เราเสียลูกสาวให้ส่วนรวมไปแล้ว ยังต้องเสียลูกชายไปด้วยเหรอคะคุณ” แม่ทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ “ผมจะดูแลพี่เพนนี จะเอ็นเตอร์เทนจนพี่ต้องร้องขอพัก” ผมหัวเราะคิกคัก “ผมจะเล่าให้ฟังว่าเราทำอะไร กินอะไร นอนยังไงนะครับ แม่จะได้หายกังวล” หลังจากนั้นอีกสามวัน ผมก็เข้ามาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมเป็นเด็กใหม่ที่ค่อนข้างอ้วน หลายๆ คนจึงเข้ามาบูลลี่ผม เพราะเด็กที่นี่หุ่นสมส่วนทุกคน “ไอ้เด็กอ้วนๆ มันจะโดนไม้เสียบๆ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริงๆ ร

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 27 วันรวมญาติของเพนนี

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 93 วัน ลูปที่ 6 ภาพรอบๆ ตัวฉันเป็นสีขาวโพลน แวบแรกฉันคิดว่า นี่คือสวรรค์หรือไม่ก็โลกหลังความตาย มีคนตายกี่คนที่จะกลับมาบอกเราว่า โลกหลังความตายเป็นอย่างไร แล้วภาพก็ค่อยๆ กระจ่างชัดขึ้น ฉันจึงเห็นว่าสวรรค์แห่งนี้ ดูเหมือนโรงพยาบาล "ตื่นแล้วเหรอ" "คอแห้งมากเลย" ฉันตอบกลับเสียงนั่นเบาๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นแกรมม่า เป็นแกรมม่าเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เห็นนานแล้ว นั่นคือเวอร์ชั่นที่ไม่อมทุกข์ "รู้สึกอย่างไรบ้าง" ฉันสำรวจแขนขาตัวเอง ก็ยังผอมบางเหมือนเดิม แต่รู้สึกได้ว่ามีกำลังวังชายิ่งกว่าเดิม เหมือนได้รับยาเพิ่มพลังชีวิตอย่างไรอย่างนั้น "ก็ดี" "พูดให้เจาะจงหน่อย" "รู้สึกมีแรงมากขึ้น ตัวเบาขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน" "วิเศษมาก!!" แกรมม่าแทบจะตะโกน "ตอนนี้เพนนีหายแล้วนะ เพนนีจะไม่ตายแล้ว" "ว่าไงนะ บุญช่วยงั้นเหรอ" ฉันเอ่ยอย่างใสซื่อ ไม่รู้จะนึกเรื่องไหนได้อีกแล้ว "เพนนีจะไม่ตายจ

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 26 แล้วไวรัสก็ระบาด

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 3 เดือน ลูปที่ 6 "เพนนีเป็นยังไงบ้าง" แกรมม่าถามเมื่อเห็นสีหน้าฉันขาวราวกับกระดาษ โธ่ ลืมปัดแก้มอีกแล้ว "ก็ยังสบายดีค่ะ เพนนีเคลียร์งานนี้เสร็จ จะไปกินข้าวด้วยนะ" "แกรมม่ามีเรื่องจะบอก" เธอทำหน้านิ่ง จนฉันกลัวอีกแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่น่ารู้ก่อนที่ฉันจะตายอีกไหมนะ แต่ก็อีกเป็นปีๆ แหละนะ "แกรมม่าจำได้ทั้งหมด ทุกครั้งที่มีการวนลูป" "หะ?" ฉันอุทาน "ได้ยังไง" "แกรมม่าจดจำเรื่องทุกอย่างได้เพราะ โธ่ อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้น ก็แค่จำได้ ลุงกานเลยคุยกับแกรมม่าเพื่อยืนยันเรื่องของเพนนี ตลอดเวลาที่เราวนลูป" "แล้วยังไงอีก" "หมายความว่าไง ก็บอกไปทุกเรื่องแล้ว" เธอก้มหน้าหงุด รู้ว่าถึงฉันจะวนลูป แต่ในใจก็มีเธอเสมอ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ฉันได้บอกรักเธอ หน้าฉันเลยมีสีจัดขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ "แล้ว...แล้ว...แล้ว" "แล้วอะไร" แกรมม่าคงจะเขินจริงๆ "แล้วรักเพนนีบ้างหรือยัง"

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 25 ของใครก็ของคนนั้น

    เขียนโดยเรย์ หลังจากนั้น 8 วัน ลูปที่ 6 ภายหลังนาดาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ อาจารย์เพนนีก็มาหาผมที่บ้าน และขอคุยกับผมตามลำพังในห้องรับแขก “อาจารย์เข้าเรื่องเลยละกัน” “มีนัดต่อกับพี่แกรมม่าเหรอครับ” ผมดักทาง เหม็นกลิ่นความรัก “ขอเขกหัวทีเถอะ ไอ้เด็กนี่” ไม่พูดเปล่า แต่ยกมะเหงกขึ้นมาด้วย แต่ผมหลบไวกว่า ผู้หญิงหรือจะไวสู้ผู้ชายได้ อาจารย์เลยทำหน้าเคร่งขึ้นมา “มานั่งให้ดีๆ” “ครับ” “ไปหาคุณฮาริสที่เพนเฮาส์ ไปต่อหน้าอาจารย์นี่แหละ” “ครับ” ผมสวมเสื้อสูท VR ส่วนอาจารย์เพนนีเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวเพื่อติดตามบทสนทนาระหว่างเรา ผมขึ้นลิฟท์ไปแบบอารยชน ไม่ได้ไปในฐานะขโมยหรือผู้ร้าย ผมรู้จากคำบอกเล่าของอาจารย์เพนนีที่ว่า ผมกระตุ้นให้เกิดเรื่องร้ายแรงในประเทศเรา และกำลังจะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องเดือนร้อนจำนวนมาก ถึงขั้นตายเลยเสียด้วยซ้ำ “ผมขอโทษครับ” ผมก้มกราบคุณฮาริสที่อยู่ในรูปร่างบลูค

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 24 ผมมาเพื่อปลดแอกนาดา

    เขียนโดยฮาริส หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ลูปที่ 6 ผมเข้าประชุมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อขอปลดแอกประเทศนาดาจากประเทศมหาอำนาจและช่วยให้พ้นความยากจน เพื่อทำแนวทางใหม่สู่ความยั่งยืนและความเสมอภาค ในเวทีนี้ ผมคาดหวังว่าจะได้รับไอเดียดีๆ และพันธมิตรที่จะมาช่วยเหลือนาดาได้สำเร็จ ประธานในที่ประชุมกล่าวต้อนรับเรา และชี้แจงวัตถุประสงค์ในการประชุมวันนี้ ผมตื่นเต้นจนมือเปียก น้ำลายหนืด แถมปากแห้งไปหมด ถึงอย่างนั้น แต่ผมหันหน้าสี่สิบห้าองศาให้กล้องที่กำลังถ่ายทอดสดพวกเราอยู่ แหม ต้องขอบคุณเพื่อนนายแบบที่สอนทริคนี้ให้ผม ส่วนตัวผมกล่าวขึ้นแถลงเป็นคนถัดไป ผมซ้อมมาหลายวันกว่าจะกล้าขึ้นเวทีในวันนี้ ผมบอกตัวเองหลายรอบแล้ว ว่าผมคือพระเอกในวันนี้ พระเอกที่ทำทุกอย่างอย่างที่ควรเป็น เลิกเสียทีการสละเลือดเนื้อ เพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน “ในประเทศของเรา ความยากจนเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะเชื่อมโยงความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาและสิทธิในการเข้าถึงโอกาสทางการปกครอง โดยเฉพาะเมื่อประเทศที่ปกครองเราอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status