“ได้ข่าวว่าเอซรับภรรยาเข้ามาในคฤหาสน์ริชแมนเพิ่ม…”
ใบหน้าที่เย้ายวนของมิลาด้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ เธอเพียงยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มเท่านั้น “ก็เป็นเรื่องปกติของเขาไม่ใช่รึไง ท่านยังไม่ชินอีกงั้นหรือคะ?” เธอวางแก้วไวน์ลงก่อนจะยกมือขึ้นไปกอดคอของบุรุษที่กำลังจ้องมองเธออยู่ “มิลดี้…รักษากริยาหน่อยข้ากำลังจะแต่งงาน…” มิลาด้าหัวเราะ เธอเลื่อนมือลงมาแกะกระดุมของชายเบื้องหน้าออก “อ่า…หากว่าท่านดยุคกำลังจะแต่งงานเช่นนั้นข้าก็ยิ่งต้องครอบครองท่านไม่ใช่รึไง เพราะถ้าหากว่าท่านแต่งงานไปแล้วเราคงจะหาโอกาสมาเจอกันได้ยาก…” “ข้าแต่งงาน ก็เพราะเจ้าเป็นคนสั่งให้ข้าแต่ง” มิลาด้ายกยิ้มอย่างเย้ายวน “เลดี้เคนเนดี้งดงามมากนะคะ เด็กสาวเช่นนั้นอาจจะมาสั่นคลอนหัวใจของท่านได้มากกว่าสตรีเช่นข้า…” “เจ้าก็รู้…ว่าข้ารักเพียงเจ้าคนเดียว เมื่อไหร่เจ้าจะยอมหย่ากับเอซสักที!” “โลเวล ท่านก็รู้ว่าข้ายังไม่ได้ในสิ่งที่ข้าต้องการ” “แม็คซิมัสมิได้ด้อยไปกว่าริชแมนเลย!!” มิลาด้าโน้มใบหน้าของโลเวลมากอดจูบอย่างเร่าร้อน!! เธอผลักเขาลงไปที่เตียงราคาถูกของร้านเหล้าที่เรามักจะนัดพบกันเพื่อพูดคุยและทำเรื่องที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ เธอมีสามีแล้ว ส่วนเขาก็กำลังจะแต่งงาน..มันน่าสนุกสุดยอดไปเลยไม่ใช่รึไง! …… เบลล่ายกแก้วเหล้ารัมขึ้นมาดื่ม ก่อนจะส่งสายตาไปที่โต๊ะข้างหลัง “เบล เหตุใดวันนี้เจ้าดื่มเหล้ารัม?” “ชาวบ้านไม่ค่อยจะมีเงินซื้อไวน์หรอกนะ อีกทั้งเหล้ารัมยังสามารถทำเองได้ทุกบ้าน ตอนนี้เราเป็นสาวชาวบ้านก็ควรจะแสดงให้สมบทบาทไม่ใช่เรอะ!!” “อา..แบบนี้นี่เอง” “ขอโทษนะสาวน้อยผู้งดงามทั้งสอง…นายท่านของข้าอยากจะทำความรู้จักพวกเจ้า…” เบลล่ามองไปที่โต๊ะด้านบน..เธอก็เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของชายผู้หนึ่ง พอดูจากการแต่งตัวเขาแล้ว น่าจะเป็นคนมีฐานะพอสมควร… เบลล่ายกยิ้ม “พวกข้าพึ่งเคยมาเที่ยวในที่แห่งนี้…เลยมิได้ทราบธรรมเนียมของที่นี่ ท่านอัศวินสุดหล่อพอจะบอกได้ไหมคะว่านายท่านของท่านอัศวินเป็นใคร?” คิร่ามองไปที่เบลล่าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ชายที่ดูป่าเถื่อนเช่นนี้นะเรอะ! คืออัศวินสุดหล่อ? “นายท่านคือเซอร์วัลโด้…” “อื้อ!!..ชีวิตสาวชาวบ้านเช่นพวกข้าจะได้พบท่านเซอร์ที่สูงส่งจริงๆ งั้นหรือคะพี่ชาย!!” ชายผู้นั้นพาเบลล่าและคิร่าขึ้นมายังชั้นบนของร้านเหล้า โดยที่เธอยังไม่ทันได้ตอบตกลงหรือว่าปฏิเสธ “ต้องทำขนาดนี้เลยงั้นหรือ?” คิร่ากล่าวถามเบลล่า “เป็นคนโง่นั้นดีที่สุด…เจ้าจะได้เห็นเรื่องราวในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยหากว่าเจ้าแสร้งเป็นคนโง่ เพราะพวกเขาก็จะคิดว่าเราไร้หัวคิดและหลอกลวงยังไงก็ได้….” คิร่ามองเบลด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความเศร้า เบลเคยบอกกับเธอว่าในวัยเด็กของเบลลำบากมาก… การกระทำในวันนี้ของเบลมันยิ่งตอกย้ำคำพูดของเบลได้เป็นอย่างดี ว่าชีวิตมันยากลำบากแค่ไหน สตรีที่แสนงดงามประดุจดอกไม่ที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน แต่เบลก็ยังรอดมาจากเหล่าแมลงที่บินเข้ามา ท่าทางจะยากลำบากพอสมควรเลยทีเดียว “ข้าดีใจที่เจ้าทั้งสองยอมขึ้นมา…” เบลล่ายกยิ้ม ดูจากที่เขานั่งอยู่ชั้นบนอีกทั้งยังคอยคุมบุรุษอีกหลายคนที่ยืนล้อมรอบที่นี่ แสดงว่าเขาจะต้องมีอำนาจพอสมควร “ท่านเซอร์ใช่ไหมคะ ข้าไม่ทราบว่าจะต้องพูดกับท่านแบบไหนดีเพราะว่าข้าไม่เคยคุยกับขุนนางมาก่อนเลย” “คุยปกติได้เลย ข้ามิใช่คนที่จะมานั่งถือสา สตรีที่งดงามอยู่แล้ว…” เบลล่ามองไปรอบๆ ก็พบว่าด้านบนนั้นมีห้องมากมายเรียงรายอยู่…ราวกับว่าเป็นโรงแรมขนาดย่อมๆ.. “พวกเจ้าชื่อว่าอะไรกันบ้าง?” “ข้าชื่อเบล ส่วนนี่เป็นเพื่อนของข้าชื่อว่าคาร่าค่ะ” “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะท่านเซอร์วัลโด้…” เขามองไปที่ใบหน้าของคิร่าอย่างถูกใจ สตรีสองคนนี้สะดุดตามากทีเดียว คนหนึ่งงดงามอ่อนหวานเย้ายวน ส่วนอีกคนให้ความรู้สึกราวกับเป็นนางพญา งดงามและแข็งแกร่ง โดยส่วนตัวเขามิชอบสตรีที่อ่อนหวานสักเท่าไหร่ สตรีที่ชื่อคาร่าจึงถูกใจเขามากทีเดียว เบลล่ายกยิ้มเพราะเธอสัมผัสได้ถึงความพึงพอใจในสายตาของชายผู้นั้น แสดงว่าเขาคงจะถูกใจคิร่าสินะ… “สั่งอะไรมาทานสิ มื้อนี้ข้าเลี้ยงเอง!” คิร่าส่งยิ้มให้วัลโด้ “ข้าทานที่ด้านนอกมาจนอิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณท่านเซอร์ที่มีน้ำใจ” ส่วนหนึ่งที่เบลล่าอยากจะพาคิร่ามาที่ร้านเหล้านี้เพราะอยากจะให้คิร่ามีความมั่นใจในตัวเอง ทั้งด้านหน้าตาและด้านการเข้าสังคม การเริ่มที่สังคมชนชั้นสูงนั้นอาจจะยากเย็นอยู่บ้าง เบลล่าก็เลยพาคิร่ามาเริ่มที่สังคมง่ายๆ สบายๆ อย่างสังคมของชาวบ้าน “เช่นนั้นข้าจะสั่งไวน์ให้เจ้าดื่ม…” “ข้าไม่ดื่มไวน์ค่ะ ข้า..ควรจะชอบดื่มเหล้ารัม!!” “…..” เบลล่าถึงกับยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อ คือมันเกือบจะดีอยู่แล้วเชียว “อ่า..เคลไปสั่งเหล้ารัมมาสองแก้ว…” นักดนตรีด้านล่างเริ่มบรรเลงเพลงที่ดูสนุกสนานจนมีบุรุษและสตรีมากมายเต้นรำ…เบลล่าลุกขึ้นไปยืนที่ระเบียงเพื่อดูชาวบ้านเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน “มาร์ควิสบาเลียอยู่ห้องไหน!!!” มีสตรีผู้หนึ่งเดินขึ้นมาพร้อมกับชายอีกราวสิบคน ใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำด้วยความโมโห!! เจ้าของร้านเหล้ารีบไปห้ามเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถที่จะขัดขวางชายที่มากับสตรีผู้นั้นได้เลย เบลล่ามองเรื่องราวตรงหน้าอย่างนึกสนุก.. “ผลัวะ!!..กรี๊ด!!!” สตรีผู้นั้นพังห้องแรกเข้าไปก็พบว่ายังไม่ใช่สามีที่เธอกำลังตามหา แต่บุรุษและสตรีในห้องนั้นที่กำลังเข้าได้เข้าเข็มกร่นด่าออกมา…จนมันเกิดเป็นความวุ่นวายขึ้น ประตูห้องพักยังคงถูกพังเรื่อยๆ จนมาถึงห้องสุดท้าย “หากเจ้ากล้าพังประตูเข้ามา…ไม่ว่าเจ้าจะสูงส่งมาจากไหนข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!” มีเสียงดังออกมาจากด้านในห้องนั้น ทุกคนที่ชั้นบนต่างสงบปาก…ส่วนที่ด้านล่างน่าจะไม่มีใครได้ยินเพราะเสียงเพลงดังมากๆ คิร่ามองไปที่ห้องสุดท้ายด้วยสายตาที่กำลังประเมินสถานการณ์ เสียงนี้…ดยุคโลเวล? “รออะไร!! พังเข้าไปสิ!!” สตรีผู้นั้นไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ในการหาสามีของเธอเลย ชายที่มากับเธอก็จัดการพังประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว เบลล่าจับสังเกตอาการผิดปกติของคิร่าได้..เธอเองก็มองไปที่ห้องนั้นเช่นกัน…เซอร์วัลโด้มองไปที่คิร่าก่อนที่เขาจะยกยิ้มออกมา “เหตุใดถึงสนใจเช่นนั้น ในห้องนั้นคือสามีของเจ้างั้นหรือ?” คิร่ากลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะยกแก้วเหล้ารัมขึ้นมาดื่ม “ใครๆ ต่างก็สนใจเรื่องชาวบ้านทั้งนั้นไม่ใช่หรือคะ” “ผลัวะ!!!” “เคร้ง!!” ดาบที่แหลมคมจ่อที่คอของสตรีผู้นั้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายที่เดินออกมาจากห้อง ฉายแววไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด.. ใบหน้านั้นทำให้เบลล่าตกใจ!!! นั่นมันดยุคแม็คซิมัส…เธอรีบเดินมานั่งข้างคิร่าเพื่อที่จะบังคิร่าเอาไว้ไม่ให้ท่านดยุคมองเห็น “บางทีข้าก็คิดนะ ว่าการมาเที่ยวในวันนี้ มันสนุกได้ขนาดนี้เลยงั้นหรือ!” คิร่ากล่าวพร้อมทั้งยกแก้วเหล้ารัมในส่วนของเบลล่าขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว ให้ตายเถอะ!! นี่มันเหตุการณ์อะไรกันแน่! เธอมองไปที่ดยุคแม็คซิมัส เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตด้านในเท่านั้น นั่นหมายความว่าเขาน่าจะพึ่งทำ หรือว่ากำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่แน่นอน สิ่งที่ยืนยันความคิดของเบลล่าได้ดีที่สุดก็คือใบหน้าของสตรีที่เดินออกมาจากห้อง สตรีผู้นั้นยกมือขึ้นมาจับมือของดยุคแม็คซิมัสเพื่อให้เขาลดดาบที่จ่อคอสตรีร่างท้วมลง ก่อนจะจับจูงมือของเขาเข้าไปในห้อง “เขาไม่น่าจะใช่คนที่เลดี้ตามหา รีบไสหัวไปเถอะค่ะ….” หลังจากกล่าวจบเธอก็ปิดประตูห้องทันที ถึงแม้จะเห็นใบหน้านั้นเพียงแค่พริบตาเดียวเดียว แต่เบลล่าก็จำใบหน้านั้นได้ เพราะเธอเคยเห็นในรูปภาพ… เคาน์เตสริชแมน!!! คิร่าหลับไปแล้ว เบลล่าถึงกับต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ “การแสดงถือว่าสนุกดีนะ….” เธอเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของเซอร์วัลโด้ เขายกยิ้มให้เธอพร้อมกับส่งถุงเงินให้สตรีร่างท้วมผู้นั้น…. หมายความว่ายังไงกัน.? เบลล่ามองไปรอบๆ อย่างระวังตัวและหาทางหนี ชั้นบนไม่มีคนอื่นอยู่เลยนอกจากเธอและเขา แต่ในห้องด้านหลังมีพวกชนชั้นสูงอยู่ อีกทั้งด้านล่างก็ยังมีคนจำนวนมาก เขาไม่น่าจะกล้าทำอะไรเธอกับคิร่า “มีคนเคยบอกรึเปล่าว่าแววตาของเจ้านี่ใช้ได้เลย..!” “ดูท่าท่านคงจะไม่ใช่เซอร์วัลโด้” เขาหัวเราะชอบใจ “เจ้าและนางก็คงจะไม่ใช่ เบลกับคาร่าที่เป็นหญิงสาวชาวบ้าน…” “ข้ากับนางก็แค่มาเที่ยว..เหตุใดท่านถึงวางแผนการ…” “คุยอะไรกัน ท่าทางเครียดเชียว…” เบลล่าคิดว่าชีวิตของเธอนั้นมันยังมีเรื่องให้ตกใจไม่พอรึไงกัน! เพราะบุรุษที่นั่งลงข้างเธอตอนนี้คือท่านเคาน์ริชแมน! “พระองค์รังแกภรรยาของข้างั้นหรือครับ?” วัลโด้เลิกคิ้วก่อนจะหัวเราะ “…เสียใจด้วยเอซ นางไม่ใช่สตรีในแบบที่ข้าชอบ” “เอาล่ะ พวกท่านควรจะบอกข้า ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่!!” เบลล่ากล่าวพร้อมกับมองไปที่เคาน์ริชแมนและชายอีกคนเบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ