LOGINซ้อนรักเมียเก็บ เขียนโดย ตงหยาง(ตะวันอ้อมข้าว) การที่เธอเป็นเลขาให้กับเขามันไม่ได้หมายความว่าเธอนั้นอยากที่จะเดินเข้ามาเป็นผู้หญิงที่เรียกว่ามือที่สามของคนอื่น แต่ใครจะไปรู้ว่าการที่เธอ เดินออกมายืนที่ที่เธอคิดว่าเป็นของเธอกลับเป็นที่ที่มีอีกคนยืนอยู่ก่อนแล้ว “ถ้าการที่คุณเอกจะให้ วดีเดินออกไปจากตรงนี้มันคงเป็นสิ่งที่นะคะ” “คนอย่างเธอรู้จักฉันดี เธอคงรู้ว่าฉันทำอะไรได้บาง” “ไปเอามันออก…” “แต่เขาเป็นลูกคุณนะ” “ใช่ลูกฉัน แต่คนที่สามารถจะมีลูกให้ฉันได้มีแต่เอมเท่านั้น เธอไม่มีสิทธิ์” “เมื่อไหร่…เมื่อไหร่จะปล่อยวดีไป” “……” “ผู้หญิงแพศยาแบบเธอนี้เอง…รู้อะไรไหม ถ้าการเดินเข้ามาเป็นเลขาให้เอกแล้วหวังจะขึ้นมาเป็นเมียเขา ฉันว่าเธอคิดผิดนะ ราชาวดี…ผู้หญิงอย่างเธอ เป็นได้แค่อีตัวให้เอกเขาปลดปล่อยเท่านั้นแหละ” “แล้วต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกันคะที่คุณเอกยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ยอมนอนด้วย” “ราชาวดี…นักแพศยา แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดจากับฉันแบบนี้” “แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันก่อนละคะ”
View Moreบทนำ
“สวัสดีเราชื่อราชาวดี ผู้หญิงที่จะเรียกว่าโง่ก็ได้นะ ที่กลับไปหลงรักคนๆหนึ่ง ซึ่งเราเคยคิดว่าเขารักเรามาตลอด จนวันนี้เราได้รู้แล้วว่าทั้งหมดที่เขาทำ เพราะคำว่าความใคร่มากกว่าเรื่องอื่น เราจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง จะด่าเราก็ได้นะ โดยที่อย่าลืมไปว่าถ้าเป็นเราจะตัดสินใจทำแบบนี้หรือเปล่า”
“ที่คุณเอกพูดทั้งหมดหมายความว่ายังไงคะ” เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามอย่างสงสัยต่อผู้ชายตรงหน้าของเธอ เขาคือ ทิติเอก กรวลัยลักษณ์ เป็นลูกชายเพียงของตระกูล กรวลัยลักษณ์
“ฉันบอกว่าจะให้เธอ ย้ายเข้าไปอยู่บ้านที่ฉันซื้อให้แทนที่นี่” สายตาของชายหนุ่มมองไปยังห้องพักของหญิงสาว ที่เขาให้การดูแลเธอมาตลอดตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยปีสอง จนตอนนี้เธอเรียนจบมาได้เกือบจะครบเดือนแล้ว
“แต่วดีว่า…วดีอยู่ที่นี่ดีกว่านะคะ อีกอย่างการที่คุณจะให้วดีย้ายเข้าไปอยู่ที่นั้น เข้าไปในฐานะอะไรคะ” ราชาวดี หญิงสาวที่มาจากบ้านเด็กกำพร้า เธอเติบโตมาโดยไม่เคยรู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้ว่าตัวเองมาจากที่ไหน
เธอใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า จนเข้าเรียนมหาลัย เธอก็ได้ย้ายมาอยู่ที่หอ แต่ชีวิตของเด็กสาวที่เรียกว่าไม่มีต้นทุนอะไรในชีวิตเลย ทำให้การใช้ชีวิตของเธอเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบากมากกว่าเด็กสาวในรุ่นเดียวกัน
จนวันที่เธอได้เจอกับทิติเอก ผู้ชายที่เขามาช่วยเธอจากพวกบ้ากามและกลายมาเป็นคนที่เลี้ยงดูส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ
“ฉันไม่ได้อยากให้เธอถามหาฐานะจากฉัน นะวดี เธอก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร…อย่าต้องให้ฉันย้ำ”
“ค่ะ…แต่วดีไม่ย้ายนะคะ”
“ไม่ย้าย ทำไมจะอยู่ที่นี่เพราะมันแอบฉันไปทำงานได้ใช่ไหม เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเธอทำอะไรบ้างตอนที่อยู่ที่นี่”
“วดีขอโทษค่ะ" หญิงสาวก้มใบหน้าลงเล็กน้องก่อนที่จะยกมือไหว้ทิติเอกอย่างที่เธอจะทำทุกครั้งที่เธอทำผิด
“งั้นก็ย้าย”
“เดี๋ยวสิคะ คุณเอกจะพาวดีไปไหน” ราชาวดีเอ่ยถาม เมื่อคนตัวโตจับที่ที่ข้อมือของเธอ ก่อนที่จะดึงให้หญิงสาวเดินตามตัวเองออกไปจากห้องพักของเธอ
ทิติเอกมาที่นี่ได้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ด้วยที่เขาไม่ชอบ และทุกครั้งที่เขาอยากเจอหญิงสาว เขาจะเป็นคนให้เธอไปหาที่คอนโดของตัวเองมากกว่าที่จะให้ตัวเองมาที่นี่ การเดินทางมาหาหญิงสาวที่นี่ในครั้งนี้ เป็นเพราะเขานั้นได้รับรายงานจากผู้เป็นลูกน้องของตัวเอง เรื่องที่หญิงสาวนั้นได้ไปสมัครงาน หลังจากที่เธอเรียนจบได้เพียงแค่อาทิตย์เดียว
"ฉันไม่เคยให้เธอลำบาก ไม่เคยลดเงินเธอเลยสักครั้ง แล้วทำไมถึงเที่ยวไปหาสมัครงาน ฉันไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ" ราชาวดีที่ถูกติเตียนเรื่องนี้จากชายหนุ่มหลายต่อหลายครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ เธอก็ยังคงทำเหมือนเดิม คือการที่เธอเอาแต่ก้มหน้ารับผิดอย่างไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา
"วดี..ต่อไปนี้เธอไปทำงานที่บริษัทของฉันในฐานะเลขาไม่ใช่อย่างอื่น และฉันหวังว่าเธอคงไม่พยายามทำให้ตัวเองขึ้นมาเหนือคนอื่นหรอกนะ"
"ค่ะคุณเอก" ราชาวดียังคงรับคำชายหนุ่มอย่างไม่กล้าขัดใจ เมื่อเธอได้รับรู้ว่าอีกคนนั้นมีความหงุดหงิดตัวเองเพื่อมากกว่าเดิม
"ดี"
สามปีผ่านมา"อคิณ...มาหาแม่มาลูก"ราชาวดีเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงวิ่งเข้าไปภายในบริษัทของผู้เป็นพ่ออย่างสนุกสนานต่างจากผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้หมดแรงแม้แต่จะเดินแล้ว"คุณแม่ตามสิครับ เร็วๆตามมา"เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าเรียกแม่ของตัวเองด้วยเสียงที่สนุกสนาน"ว้า...จับได้แล้ว"ราชาวดีที่เห็นลูกชายถูกยกลอยขึ้นจากพื้นก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจไม่ได้เพราะถ้าให้เธอวิ่งตามอีกคงได้เป็นลมแน่ๆ"คุณพ่อ" เสียงของเด็กชายเอ่ยออกมาก่อนที่จะโอบคอของทิติเอกพร้อมหอมลงที่ใบหน้าของเขาอย่างคิดถึง"ทำไมแกล้งแม่แบบนี้ครับ" ทิติเอกใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้กับลูกชายก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างเอ็นดูแม่ลูกคู่นี้ ที่ลูกชายเขาไม่รู้ไปได้นิสัยขี้แกล้งมาจากใคร วันๆเอาแต่แกล้งผู้เป็นแม่ให้วิ่งตาม แต่ด้วยนิสัยของราชาวดีไม่เคยจับลูกชายของเธอทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ไม่ได้แกล้งเลย....คุณแม่" อคิณเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังราชาวดีที่ยิ้มให้กับสองพ่อลูกอยู่"แม่น่าจะอุ้มเราไม่ไหวแล้วนะคะครับ" ทิติเอกเอื้อมมือไปหาผู้เป็นแม่เพื่อที่จะให้อุ้มตัวเอง"ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ""ครับ...อคิณครับเดี๋ยวไปกับลุงบดินทร์นะครับ""ไปไหนคะ" รา
"มันจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะคุณอรวี ทิติเอกเป็นทายาทหมื่นล้าน ราชาวดีไม่มีอะไรเลย การที่นายหัวพูดแบบนั้นมันก็ทำให้คุรนักใจที่จะรับเธอมาเป็นสะใภ้ ดิฉันจะยกทรัพย์สินของฉันส่วนหนึ่งให้กับราชาวดี แต่เป็นทั้งหมดที่อยู่ภายในกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียงเราคำนวณแล้วก็เทียบเท่ากับทรัพสินย์ของคุณตอนนี้เลย แบบนี้เหมาะสมกันหรือยังคะ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างพยายามจับทางของอรวี"มันไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ ทิติเอกเก็บราชาวดีไว้ ไม่ได้เปิดเผย เธอเสียชื่อเสียงกับทางเราไปมากแล้วนะคะ"อรวีเอ่ยออกมาอย่างพยายามที่จะอธิบาย ด้วยเธอกลัวทิติเอกจะไม่เห็นด้วยเพราะเธอเคยผิดพลาดกับลูกชายของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง"งั้นยิ่งต้องตกลงเลย เพราะผมจะรับผิดชอบเธอ"ทิติเอกเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดิมหนักใจไม่น้อย กลัวลูกชายเธอจะไม่เห็นด้วยถ้าเธอรับทางโน่นเลย แต่กลับกัน ทิติเอกอยากจะรับผิดชอบราชาวดีมากจนเธอคาดไม่ถึง"ว่ายังไงครับ"สิงหราชเอ่ยถามออกมาอย่าต้องการคำตอบเช่นเดียวกับทุกคนที่นี่"ค่ะ เห็นสมควรกันขนาดนี้ วีไม่กล้าขัดแล้วค่ะ"คำพูดของอรวีที่เอ่ยออกมาทำให้ทิติเอกดีใจไม่น้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับลงที่มือของคนตัวเล็กที่น
หลังจากการเดินทางมาที่บ้านของทิติเอกอีกครั้ง หลังจากที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเดินทางกลับมาที่นี่อีก จนแม่ของเขาให้เข้ามาคุยธุระอย่างวันนี้และพ่อของราชาวดีและรัตนาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับแม่ของเขาในวันนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรออกมาได้นอกจากทำตามที่อรวีต้องการเท่านั้น"เอกมาแล้วหรอลูก"อรวีที่อยากจะเอ่ยคำขอโทษลูกชายของเธออย่างนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงตอนนี้สายตาของอรวีประทะเข้ากับร่างของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแต่เมื่อเธอได้เห็นว่าอรวีได้หันมามองที่เธอ"สวัสดีค่ะคุณหญิงอรวี"ราชาวดีเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่เต็มสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะเอ่ยออกไป เพราะถ้าไม่เอ่ย ก็เท่ากับว่าเธอเสียมารยาท"เข้าบ้านก่อน"อรวีเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้าไป ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกร็งตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีในตอนนี้ แต่มือหนาของชายข้างกายเธอกลับบีบที่ข้อมือของเธอย้ำๆทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักให้กับเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในบ้านของทิติเอกตามที่ชายหนุ่มได้จับมือเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน"เดี๋
ราชาวดีที่เพิ่งทานอาหารจากที่ทิติเอกเป็นคนค่อยป้อนให้เธอเสร็จ หญิงสาวก็ได้มานั่งจับจ้องที่ทีวี และเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เพื่อที่หมอจะได้แน่ใจว่าเธอจะไม่กลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง"ดูอะไร"ทิติเอกที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียงนอนก็เอ่ยถามออกมาเมื่อหญิงสาวยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่คิดที่จะสนใจอย่างอื่น"ข่าวทั่วไปค่ะ แล้วไปไหนมาคะไม่ไปทำงานหรอ"ราชาวดีอดที่จะเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัยไม่ได้ เพราะเธอเห็นว่าทิติเอกแต่งตัวด้วยชุกลำรองนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ไปทำงาน"ไม่อ่ะ...นักข่าวเยอะรำคาญ....ปวดหัวมากเลยเป็นอะไรไม่รู้"ทิตเอกเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆก่อนที่จะซบแขนของคนตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ว่าการอยู่ใกล้ราชาวดีมันทำให้เขานั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"ให้วดีเรียกหมอให้ไหมคะ...""ไม่เอา อยู่แค่นี้ก็หายแล้ว"คนตัวโตเอ่ยออกมาพร้มจับมือของเธอมาซบเอาไว้ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาหาทิติเอก"ข่าววันนี้เป็นข่าวที่น่าตกใจมากเลยนะคะ ไฮโซสาวอย่างคุณแพรไพลินที่เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีมีข่าวออกมาว่าเธอท้อง แต่ฝ่ายชายไม่รับ คุณแพรพรรณลายเลยจับให้เธอแต่งงานกับคุณทิติเอกเม





