แชร์

บทที่ 22 สหายของท่านแม่ (ครึ่งแรก)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:22:05

บทที่ 22

สหายของท่านแม่ (ครึ่งแรก)

            7 วันให้หลังโดยประมาณ หน้าร้านตกแต่งเรียบร้อย โกดักเก็บสินค้าก็สร้างเสร็จแล้วเช่นกัน เหลือก็แต่บ้านหลังใหม่กับขนย้ายวัตถุดิบเข้าโกดังกับร้าน

            ลู่ซินฟางไม่กลัวว่าต้องทำงานหนัก แต่กำลังคิดหนักว่าจะพาคนจากมิติออกมาอย่างไรให้แนบเนียนที่สุด

            แม้ว่ายุคโบราณนี้ผู้คนยังไม่มีบัตรและเลขประจำตัว แต่ถ้าพูดถึงหลักฐานการมีตัวตน คงเป็นชื่อในทะเบียนราษฎร์ ทว่าตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา ได้ยินมาว่าหมู่บ้านชนบทบางแห่งอยู่ลึกเข้าไปในป่า บางคนก็ไม่ได้แจ้งชื่อขึ้นในทะเบียนราษฎร์ ปัญหาสำคัญกว่านั้นจึงเป็นเรื่องจะให้พวกเขาแวบไปแวบมาระหว่างมิติอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา 

            ลู่ซินฟางมาปรึกษากับหลางไป๋ ทางนั้นแนะนำว่าควรหาสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เงียบสงบ และไม่มีคนพลุกพล่าน 

            เดิมที ลู่ซินฟางตั้งใจจะรอจนกว่าบ้านใหม่ในไร่สร้างเสร็จก่อน แล้วค่อยพาทุกคนออกมา แต่หลางไป๋แย้งว่า แบบนั้นธุรกิจของนางจะล่าช้าเกินไป ท้ายที่สุด นางจึงเช่าบ้านหลังเล็กในตรอกแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมามากนัก

            พอเรียกทุกคนมารวมตัวกัน ให้พวกเขาเปลี่ยนมาสวมชุดที่เตรียมไว้ให้ ลู่ซินฟางก็เปิดประตูมิติ พาหลางไป๋ หลางชุน ซินหลิน พ่อลูกสยงจวินกับสยงอู๋ มายังเมืองเล่ออัน 

            เมื่อทุกคนเห็นบ้านไม้หลังเล็กหน้าตาไม่เหมือนบ้านไม้ที่ตนอาศัย ต่างก็เบิกตาโตด้วยความตื่นเต้น

            “บ้านนี้เล็กไปหน่อย แต่ว่า ลวดลายที่ตกแต่งตามบานประตูกับหน้าต่างกลับดูประณีตจริงๆ” นอกจากทำงานในไร่ พ่อหมีสยงจวินยังมีความสนใจงานไม้ พอเห็นงานแกะสลักที่ไม่นับว่าประณีตเท่าไรบนกรอบหน้าต่างและประตู เขาจึงมีท่าทีสนใจไม่น้อย

            บ้านไม้ในมิติ เป็นบ้านไม้ที่สร้างรูปทรงสไตล์ยุโรปและติดกระจก แตกต่างจากจีนโบราณยุคนี้อย่างสิ้นเชิง

            “ท่านพ่อ ข้าเดินดูทั่วแล้ว ที่นี่ไม่มีกระจกสักบาน แปลกจัง”

            สยงอู๋ ลูกชายของสยงจวินอยู่ในวัย 16 ปี เดินเข้ามาบอก ถึงเขาจะอายุแค่ 16 แต่เพราะเป็นเผ่าหมีจึงมีร่างกายสูงใหญ่ บวกกับทำงานในไร่มาตั้งแต่เล็ก ร่างกายเลยเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แข็งแรงเกินวัย

            “ในยุคนี้ พวกเขาน่าจะยังไม่รู้ขั้นตอนการทำกระจก แต่ก็เป็นแค่สิ่งที่ข้าคาดเดาเท่านั้น บางทีกระจกอาจมีใช้เฉพาะกลุ่มชนชั้นสูงก็ได้” ลู่ซินฟางบอก “ชาวบ้านอย่างข้า กระจกที่ใช้ส่องหน้าทำมาจากโลหะที่ผสมทองแดงขัดจนเงา พวกเขาเรียกกันว่าคันฉ่องน่ะ”

            “แบบนี้เอง” สยงอู๋พยักหน้า ในแววตาส่องประกายวิบวับอย่างสนอกสนใจ ไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ 

            คราวนี้ลู่ซินฟางหันมาเข้าประเด็นสำคัญ “ขอโทษทีนะทุกคน บ้านสวนยังสร้างไม่เสร็จ ข้าต้องเช่าบ้านเล็กๆ ให้พวกเจ้าไปกลับระหว่างสองมิติกันก่อน อาจจะเสียเวลาเดินทางสักหน่อย”

            ระหว่างรอเถี่ยฮ่าวซือสร้างบ้านสวน คงต้องให้พวกเขาเดินทางไปกลับระหว่างเมืองกับหมู่บ้านที่อยู่นอกเมือง ไหนจะเดินทางผ่านสองมิติอีก ยุ่งยากน่าดู

            ทว่า...พ่อหมีสยงจวินกลับโพลงถามด้วยความอยากรู้

            “สร้างบ้านเหรอ!?”

            “อืม ข้าจ้างคนรู้จักสร้างบ้านเอาไว้ให้ข้าและพวกเจ้าไว้พัก แต่...”

            ลู่ซินฟางยังพูดไม่จบดี สยงจวินก็แสดงสีหน้าแน่วแน่ออกมา

            “ข้าอยากสร้างบ้านด้วยขอรับ”

            “เอาจริงเหรอ?” ลู่ซินฟางถามซ้ำ “ให้มาบุกเบิกช่วยงานในไร่ ยังต้องมาสร้างที่อยู่กันเองอีก แบบนั้นเหนื่อยแย่เลย” 

            “จริงอยู่ที่บ้านหลังนี้อาจล้าหลังกว่าบ้านที่พวกเราอาศัย แต่ดูแล้วประณีตมาก ท่านซินฟาง ข้าอยากเรียนรู้วิธีสร้างบ้านของที่นี่ขอรับ” สยงจวินยืนยันความตั้งใจของตน

            “ถ้าเจ้าพูดแบบนั้น ตอนไปดูงานที่ไร่ ข้าจะฝากเจ้ากับคนรู้จักแล้วกันนะ”

            “ขอบคุณ ท่านซินฟาง!”

            “อะแฮ่ม...” หลางไป๋ปิดปากกระแอมราวกับตั้งใจขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขา

            ทุกคนจึงหันไปทางชายหนุ่มเผ่าหมาป่าเงินเป็นตาเดียว

            ว่าไปแล้ว หลางไป๋เข้ากับชุดจีนโบราณไม่น้อยเลยนะ หลางไป๋ไม่ได้สวมชุดเข้ารูปแบบชาวไร่ชาวนาเหมือนกับพวกสยงจวิน ด้วยรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ใบหน้าหล่อเหลา ลู่ซินฟางคิดว่าหลางไป๋น่าจะเหมาะกับลุคบัณฑิต ดังนั้นจึงซื้อเสื้อคลุมตัวยาวสีฟ้าอ่อนแบบพอดีตัวให้ หลางไป๋ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาเหมือนนายแบบที่สวมใส่อะไรก็ขึ้น ตอนนี้หลางไป๋เหมือนคุณชายมากชาวสวนเสียอีก 

            “หลางไป๋ มีอะไรติดคอเจ้ารึ!?” เพราะเป็นคนตรงๆ สยงจวินถามแบบไม่อ้อมค้อม แถมยังติดตลกหน่อยๆ

            หลางไป๋ถลึงตาใส่พ่อหมีร่างยักษ์แวบหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “ตามที่ตกลงกัน มาอยู่ที่นี่ พวกเราต้องเรียกท่านซินฟางว่า ‘นายหญิง’ ไม่ใช่หรือ”

            “มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรือ” ลู่ซินฟางถามอย่างแปลกใจ

            จริงๆ แล้ว พวกเขาจะเรียกนางแบบไหนก็ได้ ท่านซินฟางก็ดี นายหญิงก็ไม่เลว หรือจะเรียกซินฟางเฉยๆ นางก็ไม่ติด

            “ในเมื่อท่านซินฟางจะทำธุรกิจ ท่านที่เป็นเจ้านายของทุกคน ควรถูกเรียกว่านายหญิงขอรับ” หลางไป๋ย้ำ

            คนคนนี้ บทจะเข้มงวดก็เข้มงวดจริงๆ

            “นั่นสิ ข้าลืมไป” สยงจวินเกาหัวพลางหัวเราะแห้งๆ

            “เอาเถอะ พวกเจ้าจะเรียกข้ายังไงก็ได้ ตอนนี้ไปดูที่ดินที่จะทำไร่กันดีหรือไม่” ลู่ซินฟางตัดบท

            ทุกคนตอบพร้อมกัน

            “ดีขอรับ/ดีเจ้าค่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status