แชร์

ตอนที่ 7 ผิดสัญญามีโทษถึงตาย

ผู้เขียน: ท่านจอมยุทธ์1991
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 11:37:53

 เจ้าของโรงประมูลเทียนเฉิง ผู้นี้มีนามว่า ซูจิ่งหลง ชายวัยสี่สิบต้น ๆ ผู้มากด้วยบารมี รอยยิ้มของเขามักสุภาพ อ่อนโยน และน่าคบหา...ทว่าในโลกใต้เงามืดของราชวงศ์ กลับไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ “พ่อค้าแห่งความตาย”

ในหมู่ชนชั้นสูง เขาคือชายที่มีสายเลือดพระญาติสืบทอดจากมารดา เป็นผู้มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับราชสำนักแต่ในโลกมืด…เขาคือ “พ่อค้าแห่งความตาย”ผู้ควบคุมการค้าทุกสิ่งที่ถูกห้าม ไม่ว่าจะเป็นโอสถพิษ อาวุธลับ ไปจนถึงคำสั่งลอบสังหารโรงประมูลเทียนเฉิงของเขา…เปรียบได้กับดวงจันทร์ที่ยิ้มงามในยามราตรี แต่ภายในนั้นกลับซ่อนคมมีดและเลือดนับไม่ถ้วน

วันนี้ เขาเชิญ หลานเยว่ มายังห้องรับรองชั้นสูงสุดของโรงประมูลโต๊ะน้ำชาไม้จันทน์แดง ประดับหยกน้ำผึ้ง เครื่องชาชั้นเลิศจากแดนใต้ กลิ่นหอมลอยคลุ้งอย่างอบอุ่นทุกอย่างถูกจัดเตรียมอย่างประณีต ราวกับต้องการแสดง ความจริงใจ

หลานเยว่มองทุกสิ่งอย่างเรียบเฉย ร่างในชุดคลุมสีดำยืนนิ่งอยู่กลางห้องราวกับเงาในหิมะ นางไม่เอื้อนเอ่ยคำขอบคุณ มิได้ซาบซึ้งต่อความหรูหรานางเพียงหันไปมองบุรุษผู้นั้น ดวงตาเยียบเย็นดุจน้ำแข็งที่ไม่เคยละลาย

“ภายนอกเจ้าดูเป็นบุรุษที่เปี่ยมเกียรติ…แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะซ่อนตัวตนเช่นนั้นไว้ได้แนบเนียน” น้ำเสียงของนางไร้ซึ่งแววตำหนิหรือชื่นชม…แต่กลับฟังคล้ายเหยียดหยามเสียยิ่งกว่าซูจิ่งหลงไม่กล่าวสิ่งใดในทันทีเพียงยกถ้วยชาอย่างสงบ ดวงตาเฉียบคมลอบจับจ้องหญิงสาวตรงหน้า...ราวกับกำลังประเมินค่าของสมบัติหายาก

“เกียรติ…เป็นเพียงฉากหน้าคนที่กล้าเปิดร้านค้ากลางสุสาน ย่อมต้องเข้าใจดี ว่าเหรียญนั้นมีสองด้าน”

ซูจิ่งหลง ชายผู้ผ่านสนามการค้ามาอย่างโชกโชน ย่อมรู้ดีว่า...สิ่งล้ำค่า มิได้มาจากเพียงคุณสมบัติของมัน แต่จาก ความขาดแคลน และ ความหมายที่ถูกใส่ลงไป เขาจึงวางกลยุทธ์ให้ยาพิษของหลานเยว่…มิใช่ของที่วางขายตามร้านโอสถทั่วไปแต่กลายเป็นของลับ ที่จะถูกผลิตออกมาเพียงน้อยนิด ราวกับหยดพิษจากสวรรค์

ทุกขวดจะถูกประมูลอย่างลับเฉพาะในค่ำคืนที่เหล่าผู้มีอำนาจ และผู้มีศัตรูมากเกินไป พร้อมใจกันยื่นเงินทอง ทรัพย์สิน หรือแม้แต่ดวงใจเพื่อแลกกับเพียง หนึ่งโอกาสที่จะทำให้ใครบางคน... หายไปจากโลกนี้ อย่างไร้ร่องรอย

“สมแล้วที่เป็นพ่อค้า...” หลานเยว่เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ดวงตาเปล่งแสงบางเบาแห่งความพึงใจ“เรื่องการค้าขายเช่นนี้ ข้าคงสู้เจ้ามิได้จริง ๆ” คำพูดของนางดูคล้ายชมเชย แต่หากฟังให้ลึก…จะพบว่ามันเปี่ยมด้วยการยอมรับโดยปราศจากอัตตานางเหนื่อยน้อยลง ทว่ากลับได้ผลลัพธ์มากขึ้นนี่คือสิ่งที่นางต้องการและชายตรงหน้า…ก็ทำให้มันเกิดขึ้นจริงแต่แล้วทันใดนั้นในขณะที่บทสนทนาควรจะเดินหน้าไปในเส้นทางแห่งการคำนวณผลประโยชน์หลานเยว่กลับถามคำถามที่ดูแปลกประหลาดจนทำให้ซูจิ่งหลงนิ่งไปชั่วครู่

“ในเมืองหลวงแห่งนี้...เจ้าพอจะรู้จักโรงเรียนไหนดี ๆ บ้างหรือไม่?” คำถามธรรมดา…แต่ไม่ควรออกจากปากของสตรีที่เพิ่งฆ่าคนต่อหน้า และรังสรรค์พิษที่เขย่าโลกมืด

ซูจิ่งหลงชะงัก สีหน้าว่างเปล่าไปชั่วขณะแววตาของเขาฉายความไม่แน่ใจ…ระคนประหลาดใจ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสุภาพเพราะเขารู้ดีว่า...ต่อให้สตรีตรงหน้าเอ่ยขอ “ม้าบินทะลุเมฆ” เขาก็ต้องหามาให้ได้

“ตัวข้านั้น เป็นทั้งพ่อค้า… และมีสายเลือดราชสกุลในร่าง” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ริมฝีปากประดับรอยยิ้มบางเบา“ในเมืองหลวงนี้ ต่อให้เป็นโรงเรียนหลวงขององค์ชาย ข้าก็พอบากหน้าไปฝากใครบางคนเข้าได้”

หลานเยว่เงียบไปเพียงอึดใจ ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นปลดผ้าคลุมใบหน้าของตนเองออกอย่างช้า ๆ หากชายตรงหน้าเปิดเผยความลับให้เห็น นางก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องปิดบังอีกต่อไป

แสงจากโคมไฟสาดส่องต้องดวงหน้าเรียวของนาง ใบหน้างามดุจหยกขาวสะท้อนเงาจางในดวงตาของซูจิ่งหลงชายผู้นั้นถึงกับชะงักงัน ลมหายใจสะดุด ใบหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง

“…เจ้า…เจ้าคือ…!”

เขาแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็นแต่ความทรงจำกลับชัดเจนอย่างน่าหวาดหวั่น

“บุตรสาวของแม่ทัพหลานซือเหยียน...”

เสียงของเขาเอ่ยออกมาในที่สุด ราวกับความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงเขาเคยเห็นใบหน้านี้มาก่อน เคยพบในงานเลี้ยงของขุนนาง เคยได้ยินเสียงซุบซิบถึงสตรีไร้ปราณผู้หนึ่ง ผู้คนต่างกล่าวขานว่านางมีเพียงรูปโฉมที่งดงาม ทว่าไร้ ไร้ค่าจนกระทั่งแม้แต่บิดาแท้ ๆ ยังไม่คิดเหลียวแล แต่บัดนี้ผู้หญิงคนเดียวกันกลับยืนอยู่ตรงหน้าเขาในฐานะ ยมทูตแห่งความตาย

หลานเยว่เพียงยิ้มอ่อน รอยยิ้มของนางอบอุ่น นุ่มนวล ราวกับสายลมยามเช้าแต่กลับทำให้ขนทั่วร่างของซูจิ่งหลงลุกชันโดยไม่ทราบสาเหตุ

“คนทุกคน...ล้วนมีเบื้องหลังของตนเอง จริงไหม ซูจิ่งหลง” คำพูดของนางราวกับเสียงสะท้อนในหุบเหวอ่อนโยน...แต่ลึกจนสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่ซ่อนอยู่ข้างใต้

“เจ้ารู้ใช่หรือไม่...”เสียงของหลานเยว่เปล่งออกมาแผ่วเบา ทว่าทุกถ้อยคำกลับหนักแน่น“…หากเจ้าคิดจะเผยตัวตนของข้า แม้เพียงคำเดียว ผลลัพธ์...จะเป็นเช่นไรกับเจ้า?”

น้ำเสียงของนางเย็นเยียบ ราวกับกระแสน้ำลึกใต้เหวคล้ายดึงผู้ฟังให้จมลงไปสู่ความมืดมิดอย่างไม่มีวันผุดขึ้นอีกซูจิ่งหลงแม้จะเคยพบเจอเล่ห์เหลี่ยมและภัยร้ายจากคนมามากมาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวเยือกถึงสันหลังภาพของเจ้าของร้านโอสถที่ไร้ลมหายใจยังคงฝังอยู่ในหัวของเขาชายผู้นั้นไม่มีโอกาสได้เอ่ยแม้แต่คำขอชีวิตเพียงเพราะผิดสัญญา

นั่นคือสิ่งที่เขาเห็นกับตาตนเองคำขู่ของสตรีนางนี้...ไม่ใช่แค่ลมปากแต่คือประโยคตัดสินชะตา ที่กล่าวแล้ว ต้องมีคนตาย

เขาแทบไม่เชื่อเลยว่า สตรีที่ถูกโลกกล่าวหาว่าไร้ค่า ไร้พลัง ไร้อนาคต กลับยืนอยู่ตรงหน้าเขาในฐานะ...ปีศาจผู้สวมรอยเป็นดอกไม้ นางเงียบ แต่แววตากลับล้ำลึกยิ่งกว่าผืนทะเลราตรีซูจิ่งหลงหัวเราะขึ้นเบา ๆ เพื่อกลบความประหม่าที่ซ่อนไว้แทบไม่มิด

“ฮ่าฮ่า... แน่นอน แน่นอน...”เขายกมือขึ้นเล็กน้อย ประหนึ่งขอความเมตตาแต่ยังคงรักษามาดพ่อค้าไว้ได้

“พวกเราสองคนมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น ข้าย่อมไม่โง่พอจะทำลายเส้นทางแห่งทองคำด้วยมือตนเอง”

เขาเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนเสริมด้วยน้ำเสียงจริงจัง“หากข้าผิดคำ...เชิญเจ้ามาเอาชีวิตข้าไปได้เลย”

คำพูดนั้นแฝงรอยขัน พลางหัวเราะเบา ๆ อีกครั้งแต่เม็ดเหงื่อเย็นที่ไหลช้า ๆ ลงจากขมับกลับเป็นสิ่งที่ซูจิ่งหลงไม่อาจปิดบังได้เพราะในใจลึก ๆ เขารู้ดีว่า...หากวันหนึ่งเขาพลั้งปากแม้เพียงนิดเดียวสตรีตรงหน้า...จะไม่ลังเลที่จะเอาชีวิตเขา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status