"น้องเพียงออเป็นนักศึกษาป.โท น้องออครับนี่ไอ้วัชเพื่อนพี่ มันมาทำด็อกเตอร์หลายปี ใกล้จบแล้วครับ"
สีหราช เพื่อนสนิทของชายหนุ่มกล่าวแนะนำหญิงสาวให้รู้จักกับศิวัช ในงานเลี้ยงของคนไทยที่สถานทูตไทยจัดขึ้นทุกสามเดือน
"สวัสดีค่ะ พี่วัช" เธอทักทายเขา
จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองรุดหน้าอย่างรวดเร็ว หญิงสาวมักจะใช้เวลาว่างจากการเรียนนัดพบศิวัชที่ห้องสมุดหรือโรงอาหารเสมอ
จนกระทั่งเขาชวนเธอไปที่อพาร์ทเม้นท์ของเขาแทนในระยะหลังๆ แม้ไม่มีคำบอกรักหรือการขอคบกันอย่างเป็นทางการ แต่อรุณีมาลาก็มองโลกในแง่ดีว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด
บ่ายวันหนึ่งเธอมาหาเขาตามปกติ ซึ่งหญิงสาวจะมาหาเขาที่ห้องสัปดาห์ละสองวันหลังจากที่รับประทานอาหารกันอิ่มแล้ว หญิงสาวช่วยเขาเก็บล้างของในครัว
"อุ๊ย พี่วัช" เธอสะดุ้งเมื่อท่อนแขนแข็งแรงสอดมากอดรอบตัว ในขณะที่เธอยืนหน้าซิงค์ล้างจาน ไออุ่นที่แนบชิดมาจากด้านหลังทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก
"อย่าเพิ่งล้างเลยครับ คุยกับพี่ก่อนดีกว่า" เขาจับผมยาวของเธอปัดไปอีกทาง ฝังจมูกลงไปตามซอกคอขาวผ่อง เขาเอื้อมมือปิดน้ำจับตัวเธอให้หันหน้ากลับมาหาเขา
จูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากก่อนจะเพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอยืนไม่อยู่ต้องใช้สองมือเกาะร่างเขาไว้แน่น ศิวัชสำรวจไปทั่วร่างแน่งน้อยนั้นอย่างใจเย็น
"อย่าค่ะพี่วัช" เสียงเธอเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน
"ทำไมล่ะครับ ออไม่อยากให้พี่ทำเหรอ" เขาถามพึมพำกับใบหูบาง
หญิงสาวหน้าแดงก่ำกับคำถามของเขา เมื่อเธอไม่ตอบเขาจึงอุ้มร่างบางขึ้นออกจากห้องครัว ตรงเข้าไปที่ห้องนอนของเขาเอง
ศิวัชวางร่างของเธอลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวล เลิกชายเสื้อเธอร่นขึ้นไปตามช่วงตัวจนมันหลุดไปจากศีรษะของเธอ เขาจูบลงที่แอ่งชีพจรดูดดุนผิวเนื้อบางๆ จนมันเป็นรอยคิสมาร์ก มือข้างหนึ่งสอดเข้าใต้แผ่นหลังสะกิดตะขอบราให้หลุดจากกัน
ทรวงอกกลมกลึงขนาดพอดีตัว ปรากฏต่อสายตาเขาอดใจไม่ได้ที่จะใช้ลิ้นสากลากเลียไปตามผิวเนื้อนั้น ยอดบัวหดชูชันเรียกร้องให้เขาหยอกล้อกับมันเนิ่นนาน
อรุณีมาลาบิดตัวเป็นเกลียวทันทีที่ลิ้นของเขาแตะแต้มไปตามทรวงอกสล้าง สมองเธอขาวโพลนไม่หลงเหลือความยับยั้งชั่งใจใดๆ เหลืออยู่ ศิวัชถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ก่อนจะกลับมาซุกซบกับปทุมถันคู่งาม
หญิงสาวลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเขา เธอกัดฟันแหงนหน้าเมื่อเขาใช้ปลายลิ้นตวัดยอดอกหายเข้าไปในปาก
ชายหนุ่มปลดตะขอกางเกงของเธอออกและค่อยๆ รูดมันลงไปตามลำขา เธอขยับสะโพกอำนวยความสะดวกให้โดยไม่รู้ตัว ศิวัชแตะต้องไปทั่วร่าง ทุกจุดที่มือเขาสัมผัสเหมือนมีไฟนาบลงไป หญิงสาวเหมือนลอยเคลิ้มอยู่ในภวังค์ เธอเกร็งที่ท้องน้อยเมื่อมือเขาลูบผ่านไปยังบิกีนี่ตัวบาง
ชายหนุ่มดึงขอบบิกินี่เธอลงจนมันพ้นสะโพกแทนที่ด้วยมือและปากของเขา เขาไม่ได้หวังว่าอรุณีมาลาจะเป็นสาวพรหมจรรย์แต่คิดว่าเธอคงมีประสบการณ์รักมาไม่มาก
หญิงสาวเกร็งตัวเมื่อเขาดื่มชิมความหวานจากกลีบดอกกุหลาบงาม เธอครวญครางในคอมือจิกเส้นผมของเขา
“ไม่ไหวแล้วค่ะ พอเถอะ” เธอร้องขอให้เขาหยุด เนื้อตัวสั่นระริก ศิวัชหยุดเพื่อถอดเสื้อผ้าที่เหลือที่ยังติดกายอยู่ ก่อนจะกลับมาหาร่างที่นอนระทดระทวยตาปรือ
เขาจูบเธอใหม่อีกครั้งเธอตอบรับแลกลิ้นกันอย่างร้อนแรง ขณะที่กดสะโพกลงหาความคับแคบอุ่นชื้น มันบีบรัดและเกร็งจนเขาฉุกใจถาม
“ออไม่เคยเหรอ”
หญิงสาวพยักหน้ารับหางตาเธอมีน้ำตาไหลซึม เขาเริ่มจูบเธอใหม่อย่างปลอบโยน เขาไม่อยากให้เธอเจ็บจนกลัวการมีความสัมพันธ์ทางเพศ หลังจากที่ปลุกเร้าเธอใหม่จนหญิงสาวคลายเจ็บลง เธอเริ่มขยับสะโพกเพื่อให้อึดอัดน้อยลงจากการที่เขายังอยู่ในตัวเธอ
ชายหนุ่มเริ่มถอนตัวเองช้าๆ และย้ำลงไปใหม่จนทางรักเริ่มปรับตัวได้ เธอยกสะโพกตอบรับเมื่อความเจ็บหมดไป เขาขยับตัวเนิบช้าสลับรัวเร็ว จนสามารถส่งหญิงสาวไปถึงฝั่งได้ร่างเธอเกร็งหอบ เขาเปลี่ยนเป็นนั่งคุกเข่ายกขาเรียวข้างนึงของเธอพาดบนท่อนแขนเพื่อเร่งจังหวะตามเธอ เมื่อใกล้ถึงปลดปล่อยตัวเองให้ถึงฝั่งตามเธอไปติดๆ
ศิวัชนอนพักชั่วครู่ เขาอุ้มร่างเธอพาเข้าไปในห้องน้ำ
“พี่วัช ไม่ค่ะออจะอาบน้ำเอง”
หญิงสาวยังเขินอายอยู่มาก แต่ชายหนุ่มดื้อดึงเขาเปิดน้ำจากฝักบัวให้รินรดร่างทั้งสองคน
“พี่อยากทำให้”
เขาพูดและกดสบู่เหลวลูบไล้ไปทั่วตัวหญิงสาว น้ำเย็นที่ไหลผ่านร่างไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิร้อนฉ่าภายในห้องน้ำนั้นได้เลย เขาปิดน้ำเมื่อล้างฟองสบู่ออกจากตัวจนหมด จับเธอหันหลังบอกหญิงสาวให้เกาะผนังห้องน้ำไว้ กดแผ่นหลังเธอให้โน้มลง ดึงสะโพกเธอยกสูงกดแทรกตัวตนลงไป เสียงครางดังไปทั่วห้องน้ำ กว่าที่เขาและเธอจะออกมาจากห้องน้ำก็ใช้เวลาเกือบสองชม.ในนั้น
หลังจากวันนั้นเธอและเขามีสัมพันธ์กันเรื่อยมา แม้ไม่มีคำขอคบเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ แต่หญิงสาวก็หลอกตัวเองว่าศิวัชไม่ใช่คนชอบพูดมาก ตราบใดที่เขายังปฏิบัติต่อเธอเฉกเช่นคนรักและไม่มีคนอื่น
สีหราชถามศิวัชในวันหนึ่งที่เขาแวะมาหาเพื่อน
“นายคิดยังไงกับน้องออ”
“ก็ไม่ยังไง นายถามทำไม” ศิวัชตอบเสียงเรียบไม่บอกอารมณ์
“กูเป็นพี่ก็ต้องถาม มีคนพูดกันว่าน้องออมาที่นี่บ่อยๆ ถ้านายจะคบออจริงจังก็ดี”
สีหราชพูดในฐานะที่เขาเป็นญาติกับอรุณีมาลา และเป็นคนที่แนะนำให้ลูกพี่ลูกน้องรู้จักกับเพื่อนตนเอง
“ก็คงจะคบแบบ friend with benefit มั้ง ไม่ผูกมัดกัน” ศิวัชตอบ
“แล้วออรู้ไหมว่านายคิดแค่นี้”
สีหราชข่มอารมณ์ไม่พอใจที่เริ่มมี เขารู้ดีว่าญาติสาวรักไอ้หมอนี่เต็มเปา
“ฉันไม่ได้บอกตรงๆ แต่คิดว่าออน่าจะรู้ เพราะฉันไม่เคยขอออเป็นแฟน” ศิวัชพูดตามที่คิด
“ไอ้เพื่อนชั่ว... มึงบอกว่าไม่เคยคิดอะไรแต่มึงนอนกับน้องสาวกูเนี่ยนะ” สีหราชเหลืออดแต่ยังยั้งใจทันห้ามตัวเองไม่ให้ชกหน้าหล่อๆ ของมัน
“ถ้ามึงไม่คิดอะไรกูจะบอกให้รู้ไว้ว่าออเขาคิด และถ้ามึงแน่ใจว่าไม่รักน้องกูจริงๆ ก็ไปบอกเลิกคบกับออซะอย่าให้เขามีความหวังไปเรื่อยๆ ถ้ามึงยังคิดว่าจะยังเป็นเพื่อนกูอยู่” ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้องของศิวัชด้วยความโมโห
ต่อมาอรุณีมาลาตื่นขึ้นมาด้วยอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน เธอแทบจะรับประทานอาหารอะไรไม่ได้มาหลายวันแล้ว หญิงสาวคิดทบทวนว่าตนเองเป็นอะไร ก่อนจะใจหายวาบเมื่อนึกได้ว่าประจำเดือนไม่มาตั้งแต่เดือนก่อน หญิงสาวแข็งใจไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ก่อนจะเกือบล้มทั้งยืนเมื่อผลตรวจบอกว่าเธอกำลังท้อง
“ออเป็นอะไรน่ะ” อรุณประภา ฝาแฝดของเธอที่อยู่อพาร์ทเม้นท์เดียวกัน ถามแฝดผู้น้องอย่างสงสัยเธอเข้ามาจับตัวเพียงออ
“ตัวเย็นนี่ แต่อาเจียนใช่ไหม พิณได้ยินเมื่อคืน”
“เปล่าน่ะ คงไม่เป็นไรมากหรอก พิณมีเรียนไม่ใช่เหรอไปเถอะ” อรุณประภาละล้าละลัง แต่ก็ยอมไปในที่สุด
“งั้นเราจะรีบกลับ อย่าออกไปไหนนะออ” เธอสั่งก่อนจะออกไปเรียนอย่างกังวล
อรุณีมาลาดูปฏิทินเห็นว่าวันนี้ศิวัชไม่มีเข้าแลป เธอควรไปบอกเขาหญิงสาวล้างหน้าล้างตา ไปเตรียมอาหารให้เขาอย่างกระตือรือร้น
"พี่วัชคะ ออทำกับข้าวมาฝากค่ะ" อรุณีมาลาเคาะประตูอพาร์ทเม้นท์ของชายคนรัก เธอรู้ว่าช่วงนี้เขาคร่ำเคร่งกับงานวิจัยจนแทบไม่มีเวลาหาอะไรทานจึงทำกับข้าวมาให้ และเธอมีข่าวดีจะบอกเขาด้วย
"ออ พี่มีเรื่องจะบอก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองเธอที่กำลังจัดอาหารให้เขาด้วยความลำบากใจ
"ช่วงนี้พี่ต้องเร่งธีสิต พี่คงไม่มีเวลาดูแลออ เราเลิกกันเถอะ"
หญิงสาวมองเขาอย่างตกใจ
"พี่วัชล้อเล่นเหรอคะ ไม่พูดแบบนี้สิ" หากแต่แววตาของเขาไม่มีแววล้อเล่น
"แต่ออกำลัง.." เธอพูดไม่จบ เขายกมือขึ้นบอกว่า
"พี่คิดดีแล้ว ที่ผ่านมาถ้าพี่ทำให้ออเข้าใจผิด พี่ขอโทษนะ พี่ขอให้ออเรียนจบกลับไทยไวๆ นะครับ"
หญิงสาวน้ำตาคลอเมื่อแน่ใจว่าเขาไม่ได้พูดเล่น เธอพยักหน้ายอมรับไม่พูดอะไรอีก ถอยหลังหันกลับออกไปจากห้องของเขาเงียบๆ
เย็นนั้นอรุณีมาลาพาร่างอ่อนระโหยกลับถึงห้องพัก และเจอว่าคู่แฝดสาวอรุณประภานั่งรออยู่แล้ว
“ออไปไหนมา เราบอกตัวว่าให้อยู่ห้องไงถ้าเกิดเป็นลมกลางทางจะทำยังไง” แฝดสาวเป็นห่วง
“เอ่อ..เราอุดอู้น่ะ เลยไปเดินเล่น ขอโทษนะพิณ”
อรุณีมาลาแก้ตัวก่อนจะหน้าซีดเมื่ออรุณประภาหยิบที่ตรวจครรภ์ออกมาวาง ตามด้วยคำถามว่า
“ออไปหาเขามาใช่ไหม”
เพียงแค่นั้นก็เหมือนทำนบพัง เพียงออร้องไห้อย่างยั้งไม่อยู่อรุณประภาทำได้แค่กอดน้องสาวไว้ เธอไม่ต้องถามว่าผลของการไปหาผู้ชายคนนั้นคืออะไร ท่าทีของน้องสาวฝาแฝดก็ชัดเจนมากพอแล้ว
“ไม่เป็นไรนะออ เราจะแก้ปัญหาด้วยกัน” เธอลูบหลังน้องสาวจนอีกฝ่ายเงียบลง
ศิวัชรู้สึกเงียบเหงาตั้งแต่อรุณีมาลาก้าวออกไปจากห้อง เธอไม่เอาอะไรออกไปเลยแม้แต่พวกตะกร้าที่ใส่ของกินมาให้เขา
เขาไม่เคยนิยามความสัมพันธ์ของเขากับเพียงออด้วยซ้ำว่าคบกันในฐานะไหน รู้แค่ว่าถ้ายังสบายใจกันอยู่ไม่มีการล้ำเส้นกันเขาก็ยินดีคบเธอต่อไป
แต่ที่เขาต้องบอกเลิกเพราะไม่อยากผิดใจกับสีหราช และเกรงว่าหญิงสาวเองจะเสียเวลากับเขามากไปกว่านี้ เพราะเขาคงไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวหรือมีใครแบบจริงจังอย่างที่เธอคาดหวัง
แต่แปลกใจที่เขารู้สึกเหงาทั้งที่ส่วนมากเขาก็อยู่คนเดียว ก่อนหน้าที่เขาจะรู้จักเพียงออเขาก็ไม่เคยเหงาแบบนี้ ชายหนุ่มถอนใจเขาอาจจะแค่รู้สึกผิดกับเธอ แต่ต่อไปมันจะดีกับทุกฝ่าย
อรุณีมาลาไม่ไปพบศิวัชอีกหลังจากนั้น และในอีกสองเดือนต่อมาเธอตัดใจเรียนให้จบเทอม เพื่อที่เธอจะดรอป 1 ปีในปีหน้าและย้ายไปเรียนที่เมืองอื่น อรุณประภาตัดสินใจย้ายที่เรียนของตัวเองด้วย เพื่อจะได้ตามไปดูแลคู่แฝดได้
เมื่อเธอเคลียร์เรื่องที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อย สองพี่น้องพากันย้ายและไม่กลับมาที่เมืองนั้นอีกเลยจนกระทั่งกลับเมืองไทย
อรุณีมาลาปิดประตูห้องนอนกดล็อกแน่นหนา เธอกอดลูกสาวคนเล็กที่กำลังร้องไห้เพราะตกใจ “แม่ขอโทษนะลูก” หญิงสาวกอดลูกแล้วร้องไห้เงียบๆ จนในอีกไม่กี่นาทีต่อมามือเล็กๆ ของเด็กหญิงจับที่หน้า เช็ดน้ำตาให้มารดา“แม่อย่าร้อง หนูไม่ร้องแล้ว” คำพูดของเด็กหญิงทำให้น้ำตาที่เริ่มแห้ง เพราะว่าเธอพยายามจะหยุดร้องไห้มันกลับมาอีก หญิงสาวกอดลูกไว้แน่นพึมพำขอบคุณเด็กน้อยนาทีนั้นเธอตัดสินใจที่จะกลับบ้านดังนั้นเธอจึงเริ่มเก็บของใช้ส่วนตัวเงียบๆ อรุณีมาลาคิดว่าคืนนี้หากเธอไม่อยู่ในงานปาร์ตี้พี่สาวคงเข้าใจและไม่ว่าอะไร เธอเก็บของใส่กระเป๋าทั้งของตัวเองและลูกสองคนแล้วอุ้มเด็กหญิงลงมาข้างล่าง ในห้องโถงทุกคนไปกันหมดแล้วจึงเธอโล่งใจที่ไม่ต้องตอบคำถามใครหญิงสาวพาลูกขึ้นรถ เธอถอยรถออกก่อนจะชะลอเมื่อเจอแม่บ้าน เธอลดกระจกสั่งข้อความถึงพี่สาวว่า“ฝากบอกพี่อัญด้วยนะว่าฉันมีธุระด่วนต้องกลับกรุงเทพฯ ก่อน มีอะไรเดี๋ยวฉันโทรหาพี่อัญเอง” “ได้ค่ะคุณออ” อีกฝ่ายรับคำไม่สงสัยอะไรเธอขับรถออกจากบ้าน ผ่านหน้าตึกใหญ่โดยไม่แวะทักใคร เมื่อออกพ้นประตูแล้ว หญิงสาวโทรหาอรุณประภาคุยผ่านสมอลทอล์ค“พิณเหรอ ตอนนี้อยู่ไหน”
การแข่งขันตกลงกันว่าจะใช้ปืนสั้น ยิงคนละสิบนัด ใครเข้าเป้ามากที่สุดคนนั้นชนะ ผู้ที่ร่วมแข่งคือหนุ่มๆ ทุกคนได้แก่ เมฆา พัทธดนย์ คิรินทร์ ศิวัชและคมกริช “น้องออไม่แข่งเหรอครับ” พัทธดนย์ถาม“ไม่ล่ะค่ะ ซ้อมมาตั้งแต่เช้าแล้ว” ในขณะที่การแข่งขันกำลังจะเริ่ม เสียงร้องไห้จ้าดังมาจากในบ้าน อรุณีมาลาทิ้งทุกอย่างรีบเข้าไปดูลูก ทุกคนพากันวิ่งตาม หญิงสาวพบว่าลูกสาวหกล้มเพราะแม่บ้านทำน้ำหกไว้ยังไม่ทันได้เช็ด “โอ๋...เจ็บตรงไหนแม่เป่าให้ค่ะ” เด็กหญิงล้มหน้าคะมำกับพื้นปากเป็นแผลเลือดออกนิดหน่อย แต่น่าจะเจ็บมาก“เดี๋ยวแม่ทำแผลให้นะ หนูมีแผลตรงไหนคะต้นข้าวให้แม่ดูหน่อย” เธอปลอบลูกที่ยังไม่คลายสะอื้น แม่บ้านเข้ามาขอโทษหญิงสาวโบกมือบอกไม่เป็นไร“ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็ระวังหน่อย” อรุณีมาลาพูดแค่นั้น เธอเข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้“พวกพี่ออกไปเล่นเกมกันตามที่คุยไว้เถอะค่ะ ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้ว” แต่หลายคนส่ายหน้าบอกว่าไม่สนุกแล้ว“พาลูกไปหาหมอดีกว่าไหมออ เดี๋ยวพี่ขับรถพาไปให้ก็ได้” ศิวัชพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอไม่รีบพาลูกไปหาหมอแต่คำพูดของเขาทำให้ทุกคนหันมาม
อรุณีมาลาสงบจิตสงบใจทำสมาธิเมื่ออรุณประภาส่งภาพ “แขก” ของพี่สาวมาให้ เธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะได้พบกับผู้ชายคนนั้นอีก ไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นญาติกับเมฆา“ออ ตอนนี้อยู่ไหนแล้ว” อรุณประภาโทรมาหลังจากที่ส่งภาพมาให้ทางแชทสองนาทีก่อน“กำลังจะถึง อีกไม่เกินห้านาที” เธอกำลังเลี้ยวรถยนต์ผ่านประตูใหญ่เข้ามาพอดี“พี่อัญบอกว่าให้ออแวะที่ตึกใหญ่อย่าเพิ่งเข้าบ้าน จะแนะนำให้ออรู้จักญาติพี่เมฆ ออจะไหวไหม” พี่สาวฝาแฝดถาม“ไหว เดี๋ยวเจอกัน”เธอตอบสั้นๆ การที่จะเข้าบ้านโดยไม่ผ่านตึกใหญ่ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยเพราะบ้านเธอกับพี่สาวฝาแฝดอยู่หลังสุดท้ายด้านในสุด มาถึงตอนนี้ไม่ไหวก็ต้องบอกไหว ทันทีที่หญิงสาวจอดรถหน้าตึกใหญ่ ทุกคนในห้องอาหารก็หันมามองเป็นตาเดียว“คุณแม่”“แม่ออขา”เด็กสองคนรีบวิ่งออกจากห้องไปรับมารดาที่เพิ่งมาถึง อรุณีมาลาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเปิดประตูรถ ส่งยิ้มให้ลูกๆ เธอเดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อนเยื้องย่างดุจนางพญา โปรยยิ้มให้พี่สาวและว่าที่พี่เขย“สวัสดีค่ะพี่อัญ พี่เมฆ” ศิวัชจ้องคนที่เพิ่งมาถึงตาไม่กระพริบโดยไม่รู้ตัว กิริยาของเขาอยู่ในสายตาของคิรินทร์ เจ้าของฟาร์มมุ
อรุณประภาเลี้ยวรถเข้าเขตบ้านฉัตรอรุณในเวลาประมาณสิบแปดนาฬิกา เธอจอดรถหน้าบ้านพักของเธอและอรุณีมาลา ในบรรดาพี่น้องฉัตรอรุณทั้งห้าคน คือ อัญญา อิงควัต ไอยวรินทร์ อรุณีมาลาและตัวเธอเอง ทุกคนมีบ้านพักของตนเองที่สร้างแยกเป็นส่วนตัว บนเนื้อที่ในเขตของตระกูลฉัตรอรุณประมาณสามไร่ แต่บ้านของเธอและอรุณีมาลาถูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยวสองหลังที่เชื่อมติดกันเพื่อความสะดวกในการไปมาหาสู่“เฮ้...ถึงแล้ว” ต้นกล้าร้องอย่างดีใจเมื่ออรุณประภาเปิดประตูรถให้ลง ส่วนต้นข้าวหลับไปแล้วหญิงสาวจึงตั้งท่าจะอุ้มหลานลงจากรถ“พิณกับเด็กๆ มาถึงกันแล้วเหรอ” อิงควัตพี่ชายคนรองไปตรวจความเรียบร้อบรอบบ้านๆ เขาวนรถผ่านมาพอดี ชายหนุ่มจึงจอดรถแวะลงมาคุยกับน้องสาวและหลานๆ “ว่าไงหนุ่มน้อย เมารถไหมวันนี้” ชายหนุ่มทักหลานชายวัยสี่ขวบเด็กชายต้นกล้าพนมมือไหว้คุณลุง และตอบฉะฉานว่า“หวัดดีครับ ต้นกล้าโตแล้วคนโตไม่เมารถหรอกลุงอิง” อรุณประภาหัวเราะเมื่อได้ยินคนที่บอกว่าโตแล้วตอบ“พิณกับเจ้าสองแสบเพิ่งมาถึงกันเองค่ะพี่อิง แล้วพี่ล่ะมาตั้งแต่ตอนไหน” “พี่มาสักพักเพิ่งไปตรวจรอบๆ บ้านมา เดี๋ยวว่าจะออกไปทักทายว่าที่พี่เขยกับญ
ห้าปีต่อมา ณ โรงแรมฉัตรอรุณพัทยา ในเครือฉัตรอรุณกรุ๊ป“ไม่ลืมหรอกค่ะงานแต่งงานพี่สาวสุดที่รัก ออจะลืมได้ไงเดี๋ยวไปเจอกันที่นั่นเลยนะคะพี่อัญ บายค่ะ” อรุณีมาลาซึ่งตอนนี้ดำรงตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารของโรงแรมฉัตรอรุณ คุยโทรศัพท์กับ ‘อัญญา ฉัตรอรุณ’ เซเลปสาวชื่อดังพี่สาวคนโตของตระกูลฉัตรอรุณอัญญากำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับแฟนหนุ่ม ‘เมฆา วิชิตดำรง’ นักธุรกิจหนุ่มชื่อดังในแวดวงเจ้าของสัมปทานรังนกและธุรกิจไข่มุกทางใต้ในเร็ววันนี้ เจ้าสาวต้องการจัดงานปาร์ตี้สละโสดโดยมีแต่แขกญาติใกล้ชิดและเพื่อนสนิทของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่บ้านพักส่วนตัวในอาณาจักรของตระกูลฉัตรอรุณ อรุณีมาลาผู้เป็นน้องสาวคนเล็กในจำนวนห้าคนจึงต้องไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้หญิงสาวเคลียร์งานต่ออีกราวครึ่งวัน อรุณประภาพี่สาวฝาแฝดไข่คนละใบได้โทรหาเธอในตอนบ่ายสาม“ออ จะไปตราดเมื่อไหร่พิณไปรับเด็กๆ ที่โรงเรียนมาแล้วนะ” อรุณประภาผู้ซึ่งมีบทบาทในการเลี้ยงดูเด็กชายหญิงฝาแฝดมาไม่น้อยกว่าเธอที่เป็นแม่แท้ๆ ได้ไปรับพวกแกมาจากโรงเรียนอนุบาลก่อนแล้วจึงโทรหาน้องสาว“พิณกับเด็กๆ ไปก่อนก็ได้จะได้ไม่ถึงโน่นค่ำมาก เดี๋ยวเย็นเลิก
"น้องเพียงออเป็นนักศึกษาป.โท น้องออครับนี่ไอ้วัชเพื่อนพี่ มันมาทำด็อกเตอร์หลายปี ใกล้จบแล้วครับ" สีหราช เพื่อนสนิทของชายหนุ่มกล่าวแนะนำหญิงสาวให้รู้จักกับศิวัช ในงานเลี้ยงของคนไทยที่สถานทูตไทยจัดขึ้นทุกสามเดือน "สวัสดีค่ะ พี่วัช" เธอทักทายเขา จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองรุดหน้าอย่างรวดเร็ว หญิงสาวมักจะใช้เวลาว่างจากการเรียนนัดพบศิวัชที่ห้องสมุดหรือโรงอาหารเสมอจนกระทั่งเขาชวนเธอไปที่อพาร์ทเม้นท์ของเขาแทนในระยะหลังๆ แม้ไม่มีคำบอกรักหรือการขอคบกันอย่างเป็นทางการ แต่อรุณีมาลาก็มองโลกในแง่ดีว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดบ่ายวันหนึ่งเธอมาหาเขาตามปกติ ซึ่งหญิงสาวจะมาหาเขาที่ห้องสัปดาห์ละสองวันหลังจากที่รับประทานอาหารกันอิ่มแล้ว หญิงสาวช่วยเขาเก็บล้างของในครัว "อุ๊ย พี่วัช" เธอสะดุ้งเมื่อท่อนแขนแข็งแรงสอดมากอดรอบตัว ในขณะที่เธอยืนหน้าซิงค์ล้างจาน ไออุ่นที่แนบชิดมาจากด้านหลังทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก "อย่าเพิ่งล้างเลยครับ คุยกับพี่ก่อนดีกว่า" เขาจับผมยาวของเธอปัดไปอีกทาง ฝังจมูกลงไปตามซอกคอขาวผ่อง เขาเอื้อมมือปิดน้ำจับตัวเธอให้หันหน้ากลับมาหาเขา จูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากก่อนจะเพิ่มดีกรีความร