Home / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 8 ในเงามืดแห่งความสงสัย

Share

ตอนที่ 8 ในเงามืดแห่งความสงสัย

Author: Abyssgloom
last update Last Updated: 2024-10-28 23:07:41

"น่าสนใจใช่ไหม?" หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง เธอมองเขาอย่างพึงพอใจ "แต่ล่ะคนก็มีแนวทาง และ วิธีรับมือต่างกันไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถเข้ากับมันได้"

เธอสบัดมือ คริสตัลที่รายล้อมหายไปในพริบตา พื้นดินที่เคยถูกกดทับกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรอยู่ตรงนั้น กลิ่นหอมจางๆของหญ้าสดโชยขึ้นมาจากบริเวณที่โดนกดทับ พร้อมกับมานาที่ซึมลงดินอย่างแผ่วเบา ราวกับมันพยายามทำให้พื้นที่นั้นกลับมาเหมือนเดิม

เขามองสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงระวังตัว "พวกเขาสมัครใจรับการทดสอบเองงั้นหรอ?"

หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบเรียบๆ “แน่นอนอยู่แล้ว ทุกคนที่มาที่นี้ต่างก็สมัครใจรับการทดสอบ”ก่อนจะพูดปิดท้ายอย่างเย้ยหยัน

"มีแค่นายเท่านั้นแหละทีี่ไม่รู้อะไรเหมือนคนอื่น"ก่อนจะยักไหล่น้อยๆตอบ น้ำเสียงดูเหมือนจะไม่ใส่ใจนัก

"เอาเถอะ ครั้งนี้การทดสอบมันยากเกินไป ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครได้มันไปอยู่แล้ว"

คำว่า "ครั้งนี้" ทำให้เขาสะดุด ใจเขาเริ่มตั้งคำถาม—แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ?

เขาจ้องเธออีกครั้ง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย "แล้วของรางวัลก่อนหน้านี้ล่ะ?"

หญิงสาวไม่ตอบในทันที เธอเพียงยิ้มบางๆ ก่อนส่ายหัวช้าๆ "นายถามเยอะเกินไปแล้ว" น้ำเสียงของเธอแฝงความประชดประชันเล็กน้อย "ถึงเวลาที่นายต้องตอบคำถามของฉันบ้าง"

ความเงียบโรยตัวลงทันที เสียงลมพัดผ่านเหมือนช้าลง อากาศเริ่มเย็นยะเยือกจนรู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เหมือนจะเจาะลึกเข้าไปในจิตใจ

"นายน่ะ เคยมาที่นี้ใช่ไหม?" เธอกล่าวพลางเอนตัวเล็กน้อย คำถามของเธอ ทำให้เขาเผลอสะดุ้งเล็กน้อย พยายามจะเก็บอาการ แต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของเธอ

"...ท่าทางของนายไม่เหมือนกับคนอื่นๆ" เธอพูดต่อ น้ำเสียงแฝงความสงสัย

“พวกเขามักจะตื่นตระหนก หวาดระแวง เมื่อมาที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก แต่ไม่ใช่กับนาย”เธอพูดเสร็จ ราวกับมีสายตานับพันจ้องมองเขาอยู่โดยรอบ พลังเวทย์ของเธอกำลังแฝงอยู่ในอากาศ ทำหน้าที่ดั่งดวงตาสังเกตุการณ์อย่างละเอียด

“นายดูคุ้นเคย เหมือนกับว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต….. นั้นยิ่งทำให้ฉันสงสัย”เธอเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ ราวกับความอยากรู้อยากเห็นของเธอกำลังเพิ่มสูงมากยิ่ง

“อะไรที่ทำให้นายสามารถเข้ามาที่นี้ได้ โดยที่ไม่ต้องได้รับอนุญาติจากฉัน?”สิ้นเสียงของเธอ แรงกดดันมหาศาลก็เริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้อยู่ในระดับยังทำให้เขาสามารถหายใจได้ แม้ร่างกายจะหนักหน่วงก็ตาม

ชายหนุ่มยืนนิ่ง ความเงียบรอบตัวแผ่ขยายออกไป มีเพียงเสียงลมพัดผ่านใบไม้ที่ดังแผ่วเบาเหมือนเป็นเสียงประกอบฉากความลังเล ดวงตาของหญิงสาวมองลึกเข้าในดวงตาของเขา เธอยังคงรอคำตอบอย่างแน่วแน่ สายตาแสดงออกถึงความคาดหวังที่เขาไม่ต้องการตอบสนอง

“ชักจะยุ่งยากแล้วสิ เรื่องที่เคยมาที่นี้รึเปล่า มันไม่สำคัญหรอก การออกไปจากที่นี้ต่างหากคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ยังไงก็ได้ข้อมูลมาแล้ว….”

เขาบอกตัวเองในใจ พลางปิดการใช้งานกล้องวิดิโอที่ซ่อนอยู่ด้วยการสัมผัสที่แหวน คลื่นสัญญาณถูกส่งไปที่การ์ดสีดำที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าหน้าอก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกขนาดพกพาที่ไม่ได้อาศัยเวทมนตร์ในการทำงาน ได้บันทึกเหตุการณ์สำคัญตรงหน้าไว้หมดแล้ว เท่านี้ก็ได้หลักฐานทั้งหมดในการจบคดี ที่เหลือก็แค่ออกไปจากที่นี้…

กล้องวิดีโอที่เขาใช้ ถึงแม้มันจะเป็นรุ่นเก่า แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเวทมนตร์ได้ ถือเป็นข้อดีอันน้อยนิดที่มันเหลืออยู่ แถมเขายังดัดแปลงให้รูปร่างของมันดูเป็นเหมือนการ์ดธรรมดา ต่อให้เป็นคนที่รู้จัก หรือ เคยเห็นสิ่งนี้ ก็ยากที่จะมองออกว่ามันคืออะไร

ชายหนุ่มจ้องมองไปที่สายตาของหญิงสาวอีกครั้ง ถึงเธอจะคาดหวังให้เขาเล่าอะไรออกมา แต่เขาไม่มีความตั้งใจที่จะบอก เหตุผลนั้นชัดเจน—เธอเป็นคนแปลกหน้า เป็นคนที่เขาไม่ไว้ใจโดยสัญชาตญาณ ยิ่งมองเข้าไปในสายตาเธอ ยิ่งเห็นเงาของบางสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้

เขาย้ำกับตัวเองว่าไม่ที่จำเป็นต้องพูดถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแม้จะโดยสายตานั้นจับต้อง ยังไงเขาก็ตั้งใจจะลาออก เพื่อออกเดินทางอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปขุดคุ้ยถึงอดีต

แม้สถานการณ์ในตอนนี้จะอันตราย แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ เขาก็สามารถออกไปจากที่ได้ แม้อาจจะต้องเลื่อนการเดินทางไปอีกสักเดือน เพราะผลกระทบจากการโดนครอบงำก็ตาม

แต่ตอนที่เขาตั้งใจจะปฏิเสธคำถามของเธออย่างชัดเจน อารมณ์บางอย่างกลับผุดขึ้นมาในใจ เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเก็บซ่อนไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา—ความเสียใจ

มันเป็นความเสียใจที่เขาเคยเกิดขึ้นในอดีต สัญชาติญาณของเขา กำลังร้องเตือนเหมือนกับวันนั้นอีกครั้ง

วันที่เธอหายตัวไปเป็นวันหยุดที่หาได้ยากยิ่งสำหรับเขา แต่มันกลับไม่ได้สงบสุขอย่างที่ควรจะเป็น เธอไม่ได้หยุดด้วย เพราะดันมีภารกิจสำคัญที่ต้องไปทำ เลยออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่

ภาพความทรงจำเหล่านั้นยังคงแจ่มชัดในหัว พวกเรากินอาหารเช้าด้วยกันตามปกติ เธอเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส ก่อนจะทิ้งท้ายประโยคที่เรียบง่ายแต่ยังดังก้องอยู่ในความทรงจำ “อย่าทำหน้าเครียดเกินไปสิ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

สำหรับเธอแล้ว เขาคงเปรียบเสมือนน้องชายคนหนึ่ง คนที่เธอตั้งใจจะชี้นำให้เดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง ในตอนนั้นเขาก็เคยคิดเช่นเดียวกัน คิดว่าความรู้สึกที่มีให้เธอเป็นเพียงความผูกพันแบบพี่น้อง

แต่เมื่อเธอหายตัวไป ความจริงที่เขาไม่เคยยอมรับก็เริ่มเปิดเผยตัวมันเอง เขาไม่ได้มองเธอเป็นเหมือนพี่สาวหรือครอบครัว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันลึกซึ้งและซับซ้อนกว่านั้น การสูญเสียเธอไป ก่อนจะได้พูดความในใจ กลายเป็นบาดแผลที่ยังคงฝังลึกอยู่ในทุกวันนี้

ในตอนนี้ สัญชาตญาณเดียวกันกับในตอนนั้นกำลังกู่ร้องบอกเขาอีกครั้ง ให้เขาอย่าเมินเฉย และ เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ไม่งั้นอาจจะเสียใจอีกครั้ง

เขาหลับตาแน่น สูดหายใจลึกเพื่อระงับความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ในอก ก่อนจะเปิดตามองหญิงสาวอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ที่จะใช้เหตุผล และ ลองเสี่ยงเชื่อในสัญชาติญาณของตัวเองดู

"ก็ได้..." เขาพึมพำเบาๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น

“ฉันยอมบอกเธอก็ได้ ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไรอยู่แล้ว”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงราวกับประชดประชัน อดีตที่เขาเขาพยายามจะทิ้งไป บัดนี้ ได้หวนกลับมาอีกครั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 45 รากไม้ที่ชอนไช

    แสงแดดยามบ่ายแผดเผาลงบนพื้นกรวด ผ่านหลังคากระเบื้องเก่าจนเกิดเงาแสงวูบวาบ รถม้าที่ประดับตราสัญลักษณ์ของตระกูลแล่นช้าๆ ไปตามถนน ผู้คนริมทางยังคงเดินกันขวักไขว่เช่นทุกวัน เพียงแต่คราวนี้ สายหลายคู่ก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองรถม้าคันนั้นด้วยความสงสัยและกระซิบกระซาบกันเบาๆม่านผ้าถูกแง้มออกเล็กน้อยจากด้านใน เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่หลบซ่อนอยู่ เอเลน่านั่งนิ่งอยู่ตรงเบาะเบื้องหลัง มือวางบนตักขณะกุมกล่องในมืออย่างเรียบร้อย ดวงตาเหม่อมองภาพผู้คนที่เคลื่อนไหวอยู่ภายนอกโดยไม่เอ่ยถ้อยคำใดตั้งแต่ลงจากสถานี เธอก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในสายตาของผู้คนรอบตัว สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย และ ความไม่ไว้ใจ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าเดินมาถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาล ข่าวลือแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวเธอเองในตอนนี้ก็ยังไม่อาจออกมาชี้แจงอะไรได้ เพราะหลักฐานยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่การรอให้การสืบสวนเสร็จเรียบร้อยแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอปฏิเสธไม่ได้ เธอเป็นคนพาชายคนนั้นไปที่โรงพยาบาลเอง โดยที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเขาอันตรายหรือไม่ จนกระทั่ง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 44 ผู้เฝ้ามองจากเบื้องล่างบัลลังก์

    “ถ้าอย่างนั้น ก็ตามที่ตกลงกันไว้” เอลดริกกล่าวเสียงหนักแน่น ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกสี ดวงตาที่ซึ่งเคยแฝงด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้สงบลงเล็กน้อย ราวกับความเคลือบแคลงก่อนหน้านี้ได้ถูกคลี่คลายสลายไปจนหมด“ข้าจะกลับไปจัดการเรื่องให้มันเรียบร้อบ พวกเราจะได้รับรองว่าท่านเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบอย่างถูกต้องจริงๆ”เอรอสในรูปลักษณ์อาร์วิน เมื่อได้ฟังก็เอนหลังลงเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้เนื้อดี เสียงลมหายใจที่หลุดออกมาราวกับปลดภาระในใจบางอย่าง แต่แม้เขาจะพยักหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่าในแววตากลับยังไม่ลดความระวังลง“ในเมื่อเรื่องสำคัญตกลงกันได้แล้ว…ก็มาเข้าสู่เรื่องต่อไป”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นทางการขึ้นเล็กน้อย“ข้าได้ส่งคนไปนำเครื่องตรวจสอบพลังเวทย์มาแล้ว อีกไม่นานก็คงมาถึง… หากผลออกมาเป็นไปตามที่ว่าจริงๆ ก็จะสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้”เอรอสเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นนิดหนึ่งคล้ายจะเย้ยขัน “จำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ?”“จำเป็น?” เอลดริกกล่าวเสียงเรียบ ดวงตาที่เคยมองด้วยความเกรงใจเปลี่ยนเป็นแน่วแน่“เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี และ เพื่อความชัดเจนว่าท่านคือผู้เสียหายจริงๆ เร

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 43 เมื่อเงาในอดีตทับซ้อนกับปัจจุบัน

    โจชัวเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้านิ่งเงียบ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้ดังแผ่วเบาในห้องรับรองอันเงียบสงัด แสงแดดยามเช้าผ่านม่านผ้าเนื้อบางที่ปลิวไหว เฉดสีทองอบอุ่นสะท้อนผ่านแว่นตาทรงเรียบที่เขาสวมอยู่ ท่ามกลางแสงนั้น ใบหน้าของเขายิ่งดูเย็นชาและยากจะคาดเดาพื้นไม้โอ๊คขัดมันสะท้อนเงาของหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วในมุมห้อง โซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มรับร่างของเธอไว้ราวกับรู้ตำแหน่งอย่างเหมาะสมที่สุดคาร์ลินนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างามบนเก้าอี้ไม้บุหนัง ผมยาวเป็นลอนคลื่นสีม่วงเข้มถูกรวบไว้อย่างหลวมๆ ด้านหลัง ดวงตาสีชมพูจางทอประกายราวอัญมณีต้องแสง ภายใต้แสงสลัวในห้อง มันดูราวกับกำลังเรืองแสงอยู่เบาๆเธอสวมชุดคลุมจอมเวทย์สีดำแต่งขอบม่วงเข้ม ลายอักขระเวทแผ่เรืองแสงบางๆ ตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวและผ้าคลุมไหล่ยาวที่ปักตราสัญลักษณ์ขององค์กรอย่างประณีต ท่าทางของเธอสงบเฉย...แต่ไม่อาจมีใครละสายตาได้แม้จะไม่เอ่ยสักคำ แต่พลังของเธอก็แผ่ซ่านอย่างชัดเจน หนาวเย็น ลึกลับ และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกันมือเรียวของเธอถือถ้วยชาพอร์ซเลนเนื้อดี ลวดลายสีม่วงอมเทาทอแสงเบาบางจากเวทเสริมพลังที่สลักอยู่ที่ก้นถ้วย...ชาร้อนนั้นแทบ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 42 เงามืดนำทาง

    แสงอรุณยามเช้าส่องผ่านม่านเมฆจางๆ ทอแสงลงมาบนถนนหินเปียกชื้นจากน้ำค้าง รถม้าค่อยๆโยกไปตามเส้นทางที่เงียบสงบ ทำให้บรรยากาศภายในยิ่งหนักอึ้งขึ้นไปอีกโจชัวนั่งนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งของรถม้า ดวงตาสีฟ้าทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่สายตากลับไม่ได้จับจ้องสิ่งใดโดยเฉพาะ เขาเพียงมองออกไปเพื่อไล่ความไม่สบายใจที่เก็บไว้เท่านั้นเมื่อคืนมันแย่พอสมควรสำหรับเขา แม้ตอนนี้จะเก็บอารมณ์ไว้ แต่ใครที่รู้จักเขาดีพอ ย่อมรู้ว่าเขากำลังอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนเขาถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่ใช่เพราะมันยากหรือเสี่ยงอันตราย แต่เพราะมันทำให้เขานึกถึงอดีต—อดีตที่เขาต้องทนมองดูภรรยาถูกกระทำการทดลองต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากจดจำภาพนั้นฝังลึกเข้าไปในใจ เพื่อเฝ้ารอวันที่จะได้แก้แค้นมาถึงและคนที่ขอให้ทำการผ่าตัดในครั้งนี้ ก็รู้ดีว่าเขาผ่านเหตุการณ์อะไรมา ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังบังคับให้เขาทำ โดยอ้างเรื่องบุญคุณ แม้ว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ และ นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณแล้ว ก็มีแต่ต้องทำแต่สิ่งที่ได้รับหลังจากนั้น…ไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดแรกที่ได้รับหลังจากทำการผ่าตัดเสร็จ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 41 ความจริงที่ถูกบิดเบือน

    "ท่านอาร์วิน จอมเวทย์จากหอคอยเวทมนตร์ต้องการเข้าพบขอรับ"เอรอสในรูปลักษณ์ของอาร์วินลืมตาขึ้นจากความคิด เขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดบอกให้รู้ว่าอีกสักพักใหญ่เอเลน่าถึงจะเดินทางกลับมาที่เมือง ซึ่งมันก็ดีแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้เธอเข้ามาวุ่นวายเกี่ยวกับการเจรจาในครั้งนี้แน่นอนว่าหัวข้อเจรจาคงเป็น เรื่องที่อาร์วินถูกจับทรมาณอยู่ในคุกลับใต้ดินตลอดเวลาที่ผ่านมาโดยที่พวกมันไม่รู้ตัว และ มันก็ยากจะปกปิดเพราะเอเลน่าดันอุ้มเขาออกมากลางถนน...ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะมาก ทำให้ผู้คนต่างเห็นว่าพวกเราออกมาจากพื้นที่ของหอคอย และ มันกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ทำไมชายที่หายตัวไปถึงออกมาจากที่นั้น? หรือว่าหอคอยจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวคู่หมั้นของตระกูลวัลธอเรนจริงๆ?และที่สำคัญยิ่งกว่า...คนที่จับตัวมาจริงๆมันหายไปไหน เขารู้อะไรรึเปล่า? แล้วในการทอดสอบ เขาได้รับอะไรกลับมา นั้นคือสิ่งที่พวกมันอยากรู้จริงๆเขาหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดต่อว่า… แต่ก็พอดี เขาเองก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงต้องเผาโรงพยาบาล ในหนังสือพิมพ์ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้ชี้แจงอะไร ถ้าอยากรู้ก็คงต

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 40 ในที่สุด ฉันก็เจอคุณ

    ภายในห้องพักที่เงียบสงัด แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่าง ความทรงจำพร่าเลือนราวกับเป็นเพียงเงาของอดีตค่อยๆไหลซึมหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับเป็นลางบอกเหตุถึงเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นเธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองได้ไปสถานที่แห่งหนึ่งกับชายคนนึง จำได้ว่าได้รับขนมรสขมและชาสมุนไพรจากหมอคนนั้น และ หลังจากนั้น……ว่างเปล่าคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในอก‘…ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?’ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา สาวใช้ในชุดเครื่องแบบสีเรียบก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สงบนิ่ง ราวกับไม่รู้ว่าคนในห้องได้สติอยู่ เธอถือพานน้ำชาที่ควันลอยขึ้นเป็นสายบางๆ วางลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างนุ่มนวลเมื่อสาวใช้หันกลับมา สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับหญิงสาวที่กำลังลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง สีหน้าที่เรียบนิ่งของสาวใช้ก็เปลี่ยนไปในทันที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้มหน้านอบน้อม“คุณ...คุณฟื้นแล้วหรือคะ?” เสียงของเธอแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความโล่งใจ“ข้า...ข้าขอโทษที่เข้ามารบกวน ข้าจะรีบไปแจ้งท่านอาร์วินให้ทราบในทันที”ชื่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status