Share

๒๖ จุดจบของตัวร้าย

last update Last Updated: 2025-10-17 22:18:03

กาลเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของปี 1989 โลกได้หมุนไปข้างหน้าอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง...

ณ กรุงปักกิ่ง หลินเยว่ซิน หลินต้าเฉียง และหลินซิวอิงได้กลายเป็นนักศึกษาที่โดดเด่นในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ บริษัทหลิวเยว่ แฟชั่นกรุ๊ปได้เปิดสำนักงานใหญ่และสาขาแฟล็กชิปที่เมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อย และได้กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับชาติที่ทรงอิทธิพล

ทว่า

ณ อำเภอหลิวอันที่ห่างไกล ช่วงนี้ได้มีข่าวลือระลอกใหม่เกิดขึ้นในวงน้ำชาของเหล่าแม่บ้าน ข่าวลือที่เกี่ยวกับบุคคลที่แทบจะถูกลบหายไปจากความทรงจำของผู้คนแล้ว

“นี่เธอได้ยินเรื่องนั้นหรือยัง?” หญิงคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนบ้าน “เห็นว่านังหนูซูเหม่ยลี่อะไรนั่นกำลังจะกลับมาแล้วนะ”

“หา?! กลับมาอะไรกัน?” อีกคนถามด้วยความไม่ใส่ใจ

“ก็ฉันได้ยินมาว่าเธอไปเจอผู้อุปถัมภ์คนใหม่ เป็นถึงเถ้าแก่จากต่างเมืองที่ร่ำรวยมากเลยล่ะ เห็นว่าเธอกำลังจะกลับมาทวงทุกอย่างคืน เธอบอกกับคนไปทั่วว่าความจริงทั้งหมดกำลังจะถูกเปิดโปง ที่แท้หลินเยว่ซินนั่นแหละคืออสรพิษตัวจริง!”

ในอดีต ข่าวลือที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้คงจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุดไปแล้ว แต่ในวันนี้ปฏิกิริยาของผู้คนกลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

หญิงคนที่สองหัวเราะเยาะออกมาเบา ๆ “เหอะ! ใครเขาจะไปเชื่อคำพูดของแม่นั่นอีก” เธอกล่าวพลางแคะเมล็ดทานตะวันกินอย่างสบายอารมณ์ “เธอก็คงเป็นเหมือนกับในนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะนั่นแหละ โกหกจนไม่มีใครอยากจะเชื่ออะไรอีกแล้ว ป่านนี้คงจะสิ้นไร้ไม้ตอกจนต้องกุเรื่องขึ้นมาหลอกเงินจากคนโง่ ๆ สักคนกระมัง”

บทสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น ไม่มีใครให้ความสนใจอีก...

ข่าวลือของซูเหม่ยลี่ในวันนี้มันเป็นเพียงฟองสบู่ที่แตกสลายเมื่อสัมผัสกับอากาศธาตุ มันไร้ค่าน่าสมเพชจนไม่คู่ควรแม้แต่จะถูกนำมาใส่ใจ

ทว่าความจริงอันโหดร้ายก็คือข่าวลือเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องโกหกที่ซูเหม่ยลี่แต่งขึ้นมาเอง

ไม่มีเถ้าแก่ ไม่มีผู้อุปถัมภ์ ไม่มีแผนการล้างแค้นใด ๆ ทั้งสิ้น

เธอยังคงอาศัยอยู่ในห้องเช่าอันมืดมิด และอับชื้นห้องเดิมกับพ่อแม่ที่สิ้นหวังของเธอ

ชีวิตในแต่ละวันของเธอเปรียบดั่งภาพวาดสีเทาที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง...

ทุกเช้าเธอจะต้องทนฝืนลุกขึ้นมาจากเตียงนอนที่แข็งกระด้าง สูดดมกลิ่นอับชื้นและกลิ่นยาฉุนที่คละคลุ้งอยู่ในห้อง มองดูสภาพของซูเจิ้งกั๋วผู้เป็นบิดาที่บัดนี้กลายเป็นชายแก่ขี้โรคที่เอาแต่ไอและเหม่อลอย มองดูเผยฮุ่ยหลันผู้เป็นมารดาที่สติฟั่นเฟือนไปแล้ว เธอมักจะนั่งฮัมเพลงงิ้วเก่า ๆ และพูดคุยกับตัวเองถึงความรุ่งโรจน์ในอดีต

ซูเหม่ยลี่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนทำในสิ่งที่เธอเคยรังเกียจมาตลอดชีวิต เธอต้องออกไปต่อรองราคาผักเหี่ยว ๆ ในตลาด ต้องไปยืนรอคิวซื้อยาให้ผู้เป็นพ่อ ต้องทนรับสายตาดูแคลนและเสียงซุบซิบนินทาจากผู้คนที่เคยนอบน้อมต่อเธอ

วันนี้เธอจึงได้รวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย พยายามจะจุดไฟแห่งความขัดแย้งขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจที่จัเดินเข้าไปหาคุณนายหวัง สตรีที่เคยเป็นหนึ่งในสหายสนิทในวงสังคมของเธอ

“ป้าหวังคะ เหม่ยลี่มีข่าวสำคัญจะบอกค่ะ” เธอกระซิบด้วยท่าทีลึกลับ “ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับนังหลินเยว่ซินกำลังจะถูกเปิดโปงแล้วนะคะ เหม่ยลี่เจอคนที่พร้อมจะช่วยเราแล้ว...”

คุณนายหวังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

“คุณหนูซู” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและห่างเหิน “ฉันกำลังยุ่งอยู่ อย่ามาทำให้ฉันต้องเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระของเธอเลย”

ว่าแล้วเธอก็หันหลังเดินจากไปทันที ราวกับว่าซูเหม่ยลี่เป็นเพียงอากาศธาตุ

ซูเหม่ยลี่หน้าชา เธอพยายามจะไปพูดกับคนอื่น ๆ อีกสองสามคน แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม บางคนก็เดินหนี บางคนก็มองด้วยความสมเพช และบางคนก็หัวเราะเยาะออกมาอย่างไม่ปิดบัง

ไม่มีใครฟังเธอ ไม่มีใครเชื่อถือ และที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครให้ความสนใจเธอเฉกเช่นที่ผ่านมาแล้ว

เธอได้กลายเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อนที่ถูกลบเลือนไปจากความทรงจำของผู้คน อาวุธเพียงอย่างเดียวที่เธอเคยมี ลิ้นสองแฉกที่พ่นพิษร้ายได้ บัดนี้มันได้กลายเป็นของไร้ค่าไปเสียแล้ว

ซูเหม่ยลี่จำต้องเดินกลับมายังห้องเช่าที่น่าสังเวชของเธอด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้งราวกับมีโซ่ตรวนพันธนาการอยู่ โลกภายนอกยังคงสดใสและดำเนินต่อไป แต่โลกของเธอได้หยุดหมุนและพังทลายลงไปนานแล้ว

เธอเปิดประตูเข้าไปในห้อง ภาพที่เห็นคือบิดาที่กำลังไอจนตัวงอ และมารดาที่ยังคงนั่งฮัมเพลงในโลกแห่งความฝันของเธอ พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นภาระสำหรับเธอ

เธอเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าเศษกระจกเงาที่แตกร้าวที่แขวนอยู่บนผนัง ซึ่งภาพที่สะท้อนกลับมานั้นคือหญิงสาวที่มีใบหน้าซูบตอบ ดวงตาขุ่นมัวและกลวงโบ๋ ริมฝีปากที่เคยเผยอยิ้มอย่างหยิ่งผยอง บัดนี้กลับเม้มแน่นเป็นเส้นตรงด้วยความขมขื่น

และในวินาทีนั้นเอง เธอก็ได้ตระหนักถึงความจริงอันน่าสยดสยอง...

ความจริงที่ว่าไม่ใช่หลินเยว่ซินที่ทำลายเธอ แต่เธอต่างหากที่ทำลายตัวเอง

ความหยิ่งทะนง ความริษยา ความโหดร้าย กิเลสทั้งหมดนี้เป็นผู้ออกแบบนรกขุมนี้ขึ้นมาให้กับเธอด้วยตัวของเธอเอง...

กรรมตามสนองนั้นได้เดินทางมาถึงตัวเธอแล้วอย่างสมบูรณ์

ซูเหม่ยลี่ทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียงที่ยวบยาบข้าง ๆ มารดาของเธอ ความอาฆาตแค้นที่เคยลุกโชนอยู่ในใจของเธอได้มอดดับลงแล้ว มันไม่หลงเหลืออะไรอีกแล้วนอกจากความว่างเปล่าที่หนาวเหน็บและลึกสุดหยั่ง

เธอไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้กรีดร้อง เธอเพียงแค่นั่งนิ่ง ๆ จ้องมองเข้าไปในความมืดมิดที่ไร้ที่สิ้นสุดเบื้องหน้า...

เธอกำลังตายทั้งเป็น!

ความตายอาจจะเป็นการปลดปล่อย การลบเลือนอาจจะเป็นความเมตตา แต่โชคชะตากลับมีบทลงโทษที่โหดร้ายกว่านั้นเตรียมไว้ให้ซูเหม่ยลี่ นั่นก็คือเธอถูกสาปให้มีชีวิตอยู่ต่อไป...

มีชีวิตอยู่กับเงาของสิ่งที่เธอได้สูญเสียไป และมีชีวิตอยู่กับภาพสะท้อนอันน่ารังเกียจของตัวตนที่เธอได้กลายเป็น

***

ฤดูสารทของปี 1989 กรุงปักกิ่ง

สายลมเย็นที่พัดพากลิ่นหอมของดอกกุ้ยฮวาลอยอบอวลไปทั่วทั้งเมืองหลวง วันนี้คือวันมงคล เป็นวันที่ท้องฟ้าโปร่งใสและเป็นใจที่สุด วันวิวาห์ของลู่เฟิงและหลินเยว่ซิน

งานแต่งงานของพวกเขาถูกจัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่ของโรงแรมปักกิ่ง สถานที่อันทรงเกียรติที่สุดแห่งหนึ่งในยุคนั้น แม้จะดูยิ่งใหญ่และหรูหราสมฐานะของตระกูลลู่ แต่ทุกรายละเอียดกลับถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยรสนิยมอันแสนอบอุ่นของเยว่ซิน

เจ้าบ่าวลู่เฟิงอยู่ในเครื่องแบบทหารเต็มยศอีกครั้ง แต่ในวันนี้ รัศมีความน่าเกรงขามของเขาได้ถูกเจือจางลงด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าอย่างไม่ปิดบัง เขายืนรอเจ้าสาวของเขาด้วยหัวใจที่พองโตและเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก

และแล้ว ประตูห้องโถงก็เปิดออก...

หลินเยว่ซินก้าวเข้ามา เธอไม่ได้สวมชุดแต่งงานสีขาวแบบตะวันตก แต่กลับอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสดอันเป็นมงคลที่เธอลงมือออกแบบและตัดเย็บด้วยตนเอง บนผืนผ้าไหมชั้นเลิศนั้นปักด้วยดิ้นสีเงินเป็นลวดลายของใบไหวที่กำลังเริงระบำอยู่ท่ามกลางหมู่นกฟีนิกซ์ เสมือนสัญลักษณ์ของการเดินทาง และการเกิดใหม่ของเธอ

เธองดงาม... งดงามจนแทบจะหยุดทุกลมหายใจ...

แขกเหรื่อในงานต่างพากันตกตะลึง ฝั่งหนึ่งคือเหล่าผู้นำระดับสูงในกองทัพและแวดวงการเมืองของตระกูลลู่ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือครอบครัวหลินที่บัดนี้แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมที่สวยงามไม่แพ้กัน พวกท่านอาจจะดูประหม่าไปบ้าง แต่แววตาของทุกท่านกลับเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวลูกสาวหรือน้องสาวอย่างสุดซึ้ง

พิธีการดำเนินไปอย่างราบรื่นและเปี่ยมด้วยความหมาย...

คำสาบานของพวกเขานั้นเรียบง่ายแต่กลับลึกซึ้ง ลู่เฟิงให้คำสัตย์ว่าจะขอเป็นเกราะกำบังให้เธอไปชั่วชีวิต ส่วนเยว่ซินก็ให้คำมั่นว่าจะขอเป็นบ้านที่อบอุ่นให้เขาได้กลับมาพักพิงเสมอ

และช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุดก็คือพิธียกน้ำชา

เยว่ซินบรรจงรินชาให้ท่านนายพลลู่และคุณนายลู่อย่างนอบน้อม คุณนายลู่รับถ้วยชามาดื่มแล้วสวมกอดว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู

จากนั้นก็ถึงตาของลู่เฟิง เขายกถาดน้ำชาแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าหลินเจี้ยนกั๋วและจ้าวซู่เฟิน

ภาพที่บุรุษผู้สูงศักดิ์ หลานชายแห่งท่านนายพลใหญ่กำลังคุกเข่ายกน้ำชาให้ชาวนาธรรมดา ๆ สองคน ทำให้พ่อหลินแม่หลินถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น ประดุจดังเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกท่านเคยได้รับมาในชีวิต

“พ่อครับ แม่ครับ โปรดรับน้ำชาจากลูกเขยคนนี้ด้วยครับ” ลู่เฟิงกล่าวอย่างหนักแน่น

พ่อหลินพยักหน้ารับด้วยมือที่สั่นเทา บัดนี้ครอบครัวทั้งสองได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วอย่างสมบูรณ์

.

.

.

หนึ่งปีต่อมาในค่ำคืนวันไหว้พระจันทร์ ปี 1990 ณ บ้านทรงลานสี่ทิศหลังใหญ่ของตระกูลหลินในกรุงปักกิ่ง...

เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยดังเคล้าคลอไปกับกลิ่นหอมของอาหารมื้อค่ำที่อบอวลไปทั่วทั้งบ้าน ภาพที่ปรากฏบนโต๊ะอาหารกลมตัวใหญ่ในค่ำคืนนี้คือภาพของคำว่าครอบครัว

พ่อหลินและแม่หลินมีใบหน้าที่เปี่ยมสุข กำลังคีบอาหารใส่ชามให้ลูก ๆ ไม่หยุดหย่อน

ต้าเฉียง บัดนี้คือหนุ่มนักศึกษาสถาปัตย์ปีสองแห่งมหาวิทยาลัยชิงหวา กำลังเล่าเรื่องโครงการออกแบบตึกที่เขาเพิ่งได้รับคำชมจากอาจารย์อย่างออกรสออกชาติ

ซิวอิง นักศึกษาสาวสวยแห่งคณะอักษรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กำลังหยอกล้อกับพี่ชายด้วยการพูดภาษาอังกฤษสำเนียงใสแจ๋วที่เธอเพิ่งเรียนมา และที่สำคัญที่สุดคือสมาชิกคนใหม่ของโต๊ะอาหารอย่างลู่เฟิง

เขาไม่ได้นั่งอยู่ในฐานะแขกเฉกเช่นเคย แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้อย่างสมบูรณ์แล้ว เขากำลังนั่งรินเหล้าให้พ่อหลินอย่างนอบน้อม และคอยฟังเรื่องราวของพี่ชายภรรยาอย่างตั้งใจ

หลินเยว่ซินนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา เธอมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขจนแทบจะล้นออกมา เธอไม่ได้เป็นเพียงแค่นักศึกษาอัจฉริยะ ไม่ได้เป็นเพียงนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ แต่เธอเป็นภรรยาและลูกสาวที่มีความสุขที่สุดในโลก

มือใหญ่และอบอุ่นของลู่เฟิงเลื่อนมาจับมือเธอไว้ใต้โต๊ะเบา ๆ เขาสบตาเธอ แล้วรอยยิ้มที่เข้าใจกันทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสอง

เสียงหัวเราะของครอบครัวยังคงดังก้องกังวาน เยว่ซินเอนศีรษะซบไหล่ของสามีเบา ๆ แล้วหลับตาลง...

ภาพความทรงจำในชาติที่แล้ว ภาพห้องเช่าที่หนาวเหน็บ ภาพความตายอันโดดเดี่ยวได้เลือนหายไปจนหมดสิ้น ถูกแทนที่ด้วยไออุ่นและความรักที่อยู่รอบตัวเธอในขณะนี้

เธอเคยคิดว่าครอบครัวคือสายเลือดคือสิ่งที่เธอต้องไล่ตามไขว่คว้ามาเพื่อให้ได้รับการยอมรับ แต่เธอคิดผิด และเมื่อเธอได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มองใบหน้าของพ่อแม่หลินผู้ซึ่งมอบความรักให้เธอโดยไม่มีเงื่อนไข มองใบหน้าของพี่ชายพี่สาวผู้ซึ่งยอมเสียสละเพื่อเธอได้ทุกอย่าง และสุดท้ายนี้เธอมองใบหน้าของลู่เฟิง ชายผู้ซึ่งรักในตัวตนที่แท้จริงของเธอ

และในวินาทีนั้นเอง เธอก็เหมือนได้ค้นพบสัจธรรมอันยิ่งใหญ่...

‘ครอบครัวที่แท้จริงไม่ได้วัดกันที่สายเลือดที่ร่วมกันมาแต่กำเนิด แต่มันวัดกันที่ความรักที่ร่วมกันสร้าง วัดกันที่ความเสียสละที่มอบให้แก่กันโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และวัดกันที่การเลือกที่จะยืนอยู่เคียงข้างกัน ไม่ว่าจะในยามสุขหรือยามทุกข์’

เยว่ซินหันไปสบตากับลู่เฟิง เขายกมือขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาเม็ดเล็ก ๆ ที่ไหลรินออกมาจากหางตาของเธอด้วยความสุข

เธอจึงแย้มรอยยิ้มออกมา ซึ่งก็เป็นรอยยิ้มที่มาจากก้นบึ้งของจิตวิญญาณ รอยยิ้มที่สว่างไสวและงดงามยิ่งกว่าแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ

สวรรค์ก็ได้มอบของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดอย่างครอบครัวอันสมบูรณ์แบบให้กับเธอแล้ว...

จบบริบูรณ์

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Sripu
สนุกค่ะ อ่านจนลืมเวลาเลย
goodnovel comment avatar
Wendy Park
เนื้อเรื่องสนุกอ่านเพลินเลย ขอบคุณนะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๖ จุดจบของตัวร้าย

    กาลเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของปี 1989 โลกได้หมุนไปข้างหน้าอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง...ณ กรุงปักกิ่ง หลินเยว่ซิน หลินต้าเฉียง และหลินซิวอิงได้กลายเป็นนักศึกษาที่โดดเด่นในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ บริษัทหลิวเยว่ แฟชั่นกรุ๊ปได้เปิดสำนักงานใหญ่และสาขาแฟล็กชิปที่เมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อย และได้กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับชาติที่ทรงอิทธิพลทว่าณ อำเภอหลิวอันที่ห่างไกล ช่วงนี้ได้มีข่าวลือระลอกใหม่เกิดขึ้นในวงน้ำชาของเหล่าแม่บ้าน ข่าวลือที่เกี่ยวกับบุคคลที่แทบจะถูกลบหายไปจากความทรงจำของผู้คนแล้ว“นี่เธอได้ยินเรื่องนั้นหรือยัง?” หญิงคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนบ้าน “เห็นว่านังหนูซูเหม่ยลี่อะไรนั่นกำลังจะกลับมาแล้วนะ”“หา?! กลับมาอะไรกัน?” อีกคนถามด้วยความไม่ใส่ใจ“ก็ฉันได้ยินมาว่าเธอไปเจอผู้อุปถัมภ์คนใหม่ เป็นถึงเถ้าแก่จากต่างเมืองที่ร่ำรวยมากเลยล่ะ เห็นว่าเธอกำลังจะกลับมาทวงทุกอย่างคืน เธอบอกกับคนไปทั่วว่าความจริงทั้งหมดกำลังจะถูกเปิดโปง ที่แท้หลินเยว่ซินนั่นแหละคืออสรพิษตัวจริง!”ในอดีต ข่าวลือที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้คงจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุดไปแล้ว แต่ในวันนี้ปฏิกิริยาของผู้คนกลับแตกต

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๕ คำตอบรับ

    วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ท่านนายพลลู่และภรรยาเดินทางกลับไปแล้ว บ้านของตระกูลหลินก็ยังคงอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขและความตื่นเต้นไม่จางหาย ทุกคนต่างพูดคุยกันถึงเรื่องงานมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขท่ามกลางความชื่นมื่นนั้น หลินเยว่ซินกลับรู้สึกว่าหัวใจของตนเองยังคงมีม่านหมอกบาง ๆ ปกคลุมอยู่ เธอยอมรับการสู่ขอ แต่ทว่าเธอยังไม่เคยได้ให้คำตอบแก่เขาจากหัวใจของเธออย่างแท้จริงเลยบ่ายวันนั้น ขณะที่เธอกำลังนั่งออกแบบเสื้อผ้าชุดใหม่อยู่ในห้องทำงาน ลู่เฟิงในชุดลำลองสบาย ๆ ก็เดินเข้ามาหาอย่างเงียบ ๆ“เยว่ซิน” เขาเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ไปเดินเล่นกับฉันหน่อยได้ไหม?”แม้จะเป็นคำเชิญที่เรียบง่าย แต่กลับแฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง นี่คือการนัดหมายครั้งแรกของพวกเขาในฐานะคู่หมั้นอย่างเป็นทางการเยว่ซินพยักหน้ารับเบา ๆ เธอรู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองเสียทีทั้งสองเดินเคียงข้างกันออกจากตัวเมือง ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่สวยงามหรือโรแมนติกใด ๆ แต่กลับเดินไปตามเส้นทางดินสายเก่าที่ทอดตัวมุ่งตรงไปยังหมู่บ้านหงซิง จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดส

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๔ คำขอจากใจจริง

    ฤดูสารทของปี 1988 ได้นำพาสายลมเย็นสบายและใบไม้สีทองโปรยปรายมาสู่เมืองหลิวอัน ครอบครัวหลินกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เปี่ยมสุขและวุ่นวายที่สุด พวกเขากำลังเตรียมการใหญ่สำหรับการย้ายไปตั้งรกรากที่เมืองหลวงของต้าเฉียง ซิวอิง และเยว่ซินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าท่ามกลางความวุ่นวายนั้นเอง จดหมายฉบับหนึ่งจากลู่เฟิงก็ได้ถูกส่งมาถึง ซึ่งเนื้อหาข้างในนั้นก็ค่อนข้างที่จะสั้นกระชับ แต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของเยว่ซินเต้นไม่เป็นส่ำ เขาเขียนว่าเขาจะกลับมาเยี่ยมบ้านในสัปดาห์หน้า และครั้งนี้เขาจะไม่ได้มาคนเดียวสัญชาตญาณของเยว่ซินร้องบอกว่าการมาเยือนในครั้งนี้จะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด และดูเหมือนว่าทุกคนในบ้านก็จะรู้สึกได้เช่นเดียวกัน แม่หลินถึงกับลงมือทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่และสั่งให้พ่อหลินไปซื้อใบชาต้าหงเผาชั้นดีที่สุดมาเตรียมไว้ต้อนรับแขกเช้าวันหนึ่งที่อากาศแจ่มใส รถยนต์เก๋งหงฉีสีดำมันวาวสองคันแล่นเข้ามาจอดเทียบที่หน้าประตูบ้านทรงลานสี่ทิศของตระกูลหลินอย่างเงียบเชียบแต่แฝงไว้ด้วยบารมีอันน่าเกรงขาม การปรากฏตัวของรถยนต์ระดับผู้นำประเทศเช่นนี้ทำให้เพื่อนบ้านที่สัญจรผ่านไปมาถึงกับต้องหยุดยืนมองด้วยความตก

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๓ ตระกูลใหม่ที่รุ่งโรจน์

    ฟ้าหลังฝนสำหรับครอบครัวหลินแล้ว ท้องฟ้าของพวกเขาในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะสดใสไร้เมฆหมอกบดบัง แต่มันยังประดับประดาไปด้วยดวงดาวแห่งเกียรติยศที่ส่องประกายเจิดจรัสอีกด้วยเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของปี 1988 หนึ่งปีกว่านับตั้งแต่การล่มสลายของตระกูลซู ช่วงเวลาที่ปราศจากมารผจญนี้เองที่ทำให้ธุรกิจใบไหวดีไซน์ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดราวกับมังกรทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์บัดนี้ หลิวเยว่ แฟชั่นกรุ๊ป ไม่ได้เป็นเพียงร้านค้าในอำเภอเล็ก ๆ อีกแล้ว แต่ได้กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีโรงงานตัดเย็บเป็นของตัวเอง มีสาขากระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วทั้งมณฑล และกำลังจะเริ่มขยายตลาดไปยังเมืองหลวงอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ แบรนด์ใบไหวได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นที่ทันสมัย คุณภาพดี และเป็นความภาคภูมิใจของสินค้าที่ผลิตในประเทศอย่างแท้จริงครอบครัวหลินเองก็ได้ย้ายออกจากบ้านหลังเดิมมาอาศัยอยู่ในบ้านทรงลานสี่ทิศ หลังใหญ่ที่เยว่ซินทุ่มเงินซื้อมันมาแล้วตกแต่งใหม่ทั้งหมด ที่นี่กว้างขวางและงดงามราวกับจวนของขุนนางในสมัยก่อน กลางลานบ้านมีสวนหย่อมที่จัดแต่งอย่างสวยงาม มีสระปลาคาร์ปเล็ก ๆ และต้นไหวที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ปร

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๒ เปิดโปงสู่สาธารณะ

    หากคิดจะจับ ก็ต้องแสร้งปล่อยไปก่อนนี่คือกลยุทธ์ที่หลินเยว่ซินและลู่เฟิงได้วางไว้ร่วมกัน...สองวันหลังจากที่ซูเหม่ยลี่ได้จ่ายเงินก้อนสุดท้ายของเธอไป บทความชิ้นเอกอันแสนสกปรกของเฒ่าเหมาก็ได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ใต้ดินฉบับหนึ่ง มันถูกนำไปแจกจ่ายตามร้านน้ำชาและแผงลอยต่าง ๆ ทั่วทั้งเมือง เรื่องราวที่ถูกปรุงแต่งขึ้นอย่างสุดฝีมือได้สร้างความสับสนให้กับผู้คนอีกครั้ง ความสงสัยระลอกใหม่เริ่มซัดสาดเข้าใส่ชื่อเสียงของหลินเยว่ซินอีกคราทางฝั่งร้านใบไหวดีไซน์ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด ยอดขายตกลงเล็กน้อย และมีเสียงซุบซิบนินทาจากลูกค้ามากขึ้น หลินเยว่ซินดูเหมือนจะตกอยู่ในภาวะตั้งรับ เธอเก็บตัวเงียบ ไม่ได้ออกมาโต้ตอบใด ๆ ท่าทีที่ดูเหมือนยอมจำนนนี้เองที่ทำให้ซูเหม่ยลี่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความสะใจ แต่แล้ว ในขณะที่ข่าวลือกำลังคุกรุ่นถึงขีดสุด ร้านใบไหวดีไซน์ก็ได้เคลื่อนไหวในแบบที่ไม่มีใครคาดคิดบัตรเชิญที่ถูกออกแบบอย่างสวยหรูได้ถูกส่งไปยังสำนักข่าวทุกแขนง ทั้งสื่อท้องถิ่นและสื่อสิ่งพิมพ์ระดับมณฑล เนื้อหาในบัตรเชิญระบุว่าทางร้านจะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิ

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๑ สิ้นไร้หนทาง

    ลมหนาวในช่วงปลายปี พัดพาเอากลิ่นอายของเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงให้ลอยอบอวลไปทั่วทั้งเมือง บนถนนหนทางประดับประดาไปด้วยโคมไฟสีแดงสดใส ผู้คนต่างมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสจับจ่ายซื้อของเพื่อเตรียมเฉลิมฉลองวันปีใหม่ แต่สำหรับตระกูลซูแล้วฤดูหนาวในปีนี้มันช่างหนาวเหน็บและโหดร้ายเสียเหลือเกินธุรกิจที่เคยยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้ล่มสลายลงโดยสมบูรณ์แล้ว...การที่ข่าวในหนังสือพิมพ์ถูกระงับไปอย่างรวดเร็วผิดปกติ เป็นดั่งสิ่งสุดท้ายที่ทำให้คู่ค้าและธนาคารต่างหมดสิ้นความเชื่อมั่นในตระกูลซู พวกเขารู้ดีว่าตระกูลซูไม่เพียงแต่กำลังจะล้มละลาย แต่ยังไปเหยียบตาปลาของผู้มีอำนาจระดับสูงเข้าให้อีกด้วย ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาอีกตอนนี้พวกเขาอยู่ในสภาวะสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างแท้จริง คฤหาสน์หลังงามกำลังจะถูกยึดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทรัพย์สินเงินทองที่เคยมีก็ร่อยหรอลงไปจนแทบไม่เหลือ พวกเขาไม่มีทางไปอีกแล้วค่ำคืนหนึ่ง ท่ามกลางความเงียบงันอันน่าสมเพชภายในคฤหาสน์ที่เคยโอ่อ่า ซูเจิ้งกั๋วที่บัดนี้ดูแก่ชราลงไปนับสิบปีได้เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“เรายังเหลือหนทางสุดท้าย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status