Share

บทที่ 7

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-17 14:59:49

บทที่ 7

ขณะนี้เป็นเวลาเกือบ ๆ เจ็ดโมงเช้า เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงบของห้องนอน จึงส่งผลให้หญิงสาวที่ขดตัวอยู่บนเตียงนอนจำต้องขยับเขยื้อนร่างกายเล็กน้อยเพื่อเอื้อมมือไปปิดเสียงนั้น เพราะมีเสียงรบกวนนั้นดังมาจากบริเวณโต๊ะข้างหัวเตียงถ้ายังปล่อยให้ดังต่อไป เธอนอนต่อไม่ได้แน่

เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกเงียบลง เธอก็มุดตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มต่อ

ด้วยความขี้เซาจึงทำให้ พายอาร์ เลือกที่จะหลับตานอนต่อโดยลืมไปว่าตัวเองจะไปตามนัดของเพื่อนสายได้ถ้ายังไม่ลุกขึ้นอาบน้ำตอนนี้ เธอยังนอนอย่างมีความสุขต่อไป แต่ทว่าอยู่ ๆ เสียงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ครั้งนี้พายอาร์เริ่มที่จะหมดความอดทน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เพื่อที่จะได้ต่อว่าได้ถูกคน ก่อนจะเห็นเต็มสองตาว่าต้นสายคือผู้เป็นแม่ จึงจำเป็นที่จะต้องตื่นขึ้นมารับสายอย่างปฏิเสธไม่ได้

“ว่าไงคะแม่...” น้ำเสียงงัวเงียของหญิงสาวร่างบางถามขึ้นด้วยความสงสัยว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้แม่โทรมาหาเธอได้แต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง เพื่อหวังให้ตัวเองตื่นตัวเสียที

[พาย ตื่นหรือยังลูก?] เสียงอ่อนโยนถามออกมาจากโทรศัพท์

“ตื่นพอดีค่ะแม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงได้โทรมาหาพายเช้าขนาดนี้” หญิงสาวพยายามทำเสียงให้สดชื่นขึ้นเมื่อต้องคุยกับแม่

[แม่จะโทรมาบอกพายว่าวันพรุ่งนี้บ้านเรามีนัดทานข้าวกับผู้ใหญ่ช่วงเช้าน่ะลูก พายน่าจะว่างใช่ไหมลูก?] น้ำเสียงที่ถามมาเหมือนจะดูอ่อนโยนตามแบบฉบับคนเป็นแม่ แต่มีความกดดันอยู่ในนั้นด้วย

“จริง ๆ ก็น่าจะไม่ค่อยว่างนะคะแม่ พายกำลังจะยื่นเรื่องฝึกงาน ก็เลยมีหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยน่ะค่ะ” พายอาร์เลือกที่จะปฏิเสธนัดในครั้งนี้อย่างไม่ลังเล เพราะเธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าการนัดทานข้าวแต่ละครั้งของผู้เป็นแม่ มักจะทำให้เธอหัวเสียแทบทุกครั้งเลยก็ว่าได้

[แวะมาแค่แป๊บเดียวเอง ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากมายขนาดนั้นสักหน่อย อีกอย่างแม่รับปากผู้ใหญ่อีกฝั่งไว้แล้วด้วยว่าจะพาลูกไป จะให้เสียหน้าไม่ได้หรอกนะลูก] แม่ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมต่อ

“ก็คือ...ยังไงพายก็ต้องไปใช่ไหมคะ?” พายอาร์คิดสักครู่แล้วถามออกไป เผื่อว่าจะมีทางเลี่ยงบ้าง

[ก็ใช่นั่นแหละ ทำเพื่อแม่หน่อยได้ไหม? นะพายนะลูก]

“ก็ได้ค่ะ งั้นไว้พรุ่งนี้ตอนเช้าเจอกันนะคะ” พายอาร์ตอบตกลงกลับไปที่จะไปพบแม่ที่บ้านใหญ่อยู่อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพ เพราะตอนนี้เธอแยกออกมาอยู่คนเดียวที่คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยแทนเพื่อความสะดวก

[แม่ส่งแผนที่ไปให้ทางไลน์ แม่รอเจอลูกนะ] เสียงของแม่สดใสขึ้นมาทันทีที่ได้รับคำตอบที่ถูกใจจากลูกสาว

“ค่ะแม่” พายอาร์ตอบรับแม่ ก่อนจะตัดสายไป แล้วโยนโทรศัพท์ไปที่โต๊ะข้างเตียงอย่างไม่ไยดี

พายอาร์นั่งถอนหายใจออกมาด้วยความอึดอัด ใจจริงเธอเองก็ไม่ได้อยากไป แต่ด้วยความแม่บังคับและเธอเองก็ไม่อยากโต้เถียงไปมา เพราะรู้ดีว่าต่อให้เถียงไปก็เสียแรงเปล่า สุดท้ายไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องตามใจพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดเหมือนอย่างที่ผ่านมา

หลังจากที่ได้คุยกับแม่ พายอาร์ก็หลับต่อไม่ลง เธอลุกออกมาจากเตียงนอน แล้วอาบน้ำแต่งตัว เตรียมจะออกไปพบปะกับเพื่อนสาวคนสนิทอย่างพราวมุกตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ล่วงหน้าเมื่อวานนี้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 11

    บทที่ 11ณ ร้านอาหารอเมริกันแห่งหนึ่ง...พายอาร์สาวเท้าเดินเข้ามาภายในร้านอาหาร กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะพบเข้ากับพ่อและแม่ของตัวเองที่กำลังนั่งพูดคุยกับผู้ใหญ่อีกหลายคนอยู่กันอย่างสนุกสนาน“นี่ไง มาพอดีเลยค่ะ” คุณหญิงวิมลหันมาเห็นลูกสาวพอดีจึงพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี“สวัสดีค่ะ...” พายอาร์เดินเข้ามาพร้อมกับยกมือไหว้อย่างมีมารยาทและเอ่ยทักทายคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงกันข้ามกับพ่อแม่ของเธอแต่ทว่าในขณะเดียวกัน กลับมีสายตาอยู่คู่หนึ่งที่มองเธออย่างไม่ละสายตา ทำเอาหญิงสาวรู้สึกขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก“สวัสดีจ้ะหนูพายอาร์” หญิงวัยกลางคนพูดทักทายกลับมายิ้มๆ“นี่คุณน้าศิลากับคุณน้าราตรี ผู้ใหญ่ของทางฝั่งขุนเขาน่ะ” แม่ของพายอาร์กล่าวขึ้นเพื่อบอกให้ลูกสาวได้รับรู้และแสดงความนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่เบื้องหน้า“หมายความว่ายังไงเหรอคะ?” พายอาร์ถามขึ้นอย่างสงสัย“ก็ที่พ่อกับแม่นัดให้ลูกมาทานข้าวด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ก็เพราะจะบอกลูกเกี่ยวกับเรื่องงานหมั้นหมายของลูกกับตาขุนเขาน่ะ” คุณหญิงวิมลพูดขึ้นอีกครั้งและยิ้มแย้มแจ่มใสให้อย่างพึงพอใจ“งานหมั้น? หมั้นอะไรคะแม่” หญิงสาวถามขึ้น

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 10

    บทที่ 10ซึ่งเมื่อกลับมาถึงห้อง พายอาร์ก็จัดการเคลียร์เอกสารการฝึกงานอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายของตัวเอง เพื่อถามถึงเรื่องนัดทานข้าวของวันพรุ่งนี้“พี่พีคะ พายมีเรื่องจะถาม” พายอาร์รีบเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว[ว่าไงพาย จะถามอะไรเหรอ] เสียงชายหนุ่มดังขึ้น“พรุ่งนี้แม่ได้นัดพี่พีไปกินข้าวกับผู้ใหญ่อีกฝั่งไหมคะ?”[ผู้ใหญ่อีกฝั่งเหรอ ฝั่งไหนล่ะ พี่ไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย อีกอย่างพี่ไม่ได้คุยกับแม่มาเป็นอาทิตย์แล้วนะ] พีรดลเอ่ยถามกลับด้วยความแปลกใจ เพราะด้วยความที่เขาบริหารงานของครอบครัวหนักมาก พ่อกับแม่จึงไม่ค่อยได้มายุ่งวุ่นวายอะไรสักเท่าไหร่นัก“แบบนี้แสดงว่าแม่มาบังคับหนูคนเดียวสินะ” พายอาร์พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ[พายยังไม่ชินอีกเหรอ พี่ว่าเราควรจะชินได้แล้วนะ พี่เองไม่ได้โดนบังคับก็ยังรู้สึกว่าไม่อยากไปเถียงกับพวกท่านเลย]“ก็จริงค่ะ แต่ก็ช่างมันเถอะ ไว้เดี๋ยวหนูมาเล่าให้ฟังนะคะ วันนี้น่าจะต้องนอนเร็ว ไว้คุยกันนะคะพี่พี” พายอาร์รู้ว่าพี่ชายคงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก จึงตัดบทและขอตัวไปนอนเพื่อจะได้รับศึกหนักพรุ่งนี้[โอเคครับ ถ้ามีอะไรโทรมาหาพี่นะ]“โอเคค่ะ”ทันทีที่สายถูกตัดไป ห

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 9

    บทที่ 9ทั้งสองพูดคุยกันในระหว่างรับประทานอาหารอยู่สักพัก ก่อนจะพากันไปซื้อเสื้อผ้าต่อตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้เมื่อครู่ แต่ทว่ามันกลับไม่สามารถทำให้ความกังวลในใจของพายอาร์เลือนหายไปได้อยู่ดี ในหัวของเธอยังคงใช้ความคิดอย่างหนัก ว่าวันพรุ่งนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ทำให้ตอนนี้ความกังวลยังคงฉายชัดออกมาทางสีหน้าจนพราวมุกสังเกตเห็น“ยัยพาย นี่แกยังไม่เลิกคิดมากเรื่องนั้นอีกเหรอ?” พราวมุกสังเกตเห็นสีหน้าอันไม่สู้ดีของเพื่อนรัก ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา“อืม ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ เพราะแม่ใช้คำว่าผู้ใหญ่อีกฝั่ง มันหมายความว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ และคงไม่ใช่แค่เรื่องของคนในครอบครัวเดียวกันน่ะ” พายอาร์พูดถึงสิ่งที่เธอกังวลออกมา“ก็เป็นไปได้นะ แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องธุรกิจก็ได้นิ จริงไหม?” พราวมุกพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่เธอมองไปอีกทาง“ยิ่งถ้าเป็นเรื่องธุรกิจยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่บ้านฉันไม่ค่อยเอาฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่การงาน พวกเขาอยากให้ฉันเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีเส้นสายหรืออะไรทั้งนั้น” พานอาร์ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ของเพื่อนรักไปๆ มาๆ คำพูด

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 8

    บทที่ 8หนึ่งชั่วโมงต่อมา...พายอาร์มาถึงร้านอาหารที่นัดเอาไว้ได้ทันเวลานัด ก่อนจะได้พบกับเพื่อนสนิท ซึ่งมาถึงก่อนและกำลังสั่งอาหารอยู่พอดี“อ้าว พาย แกมาพอดีเลย อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า สั่งได้เลยนะ” พราวมุกเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เพื่อนและถามออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“ไม่อะ ฉันไม่ค่อยหิว แกสั่งเลยพราว” พายอาร์กระแทกก้นนั่งลงแล้วตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด จนมองมาจากดาวอังคารพราวมุกก็ว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดี“เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย หน้าบึ้งมาเชียว” พราวมุกเห็นสีหน้าและท่าทางของพายอาร์ก็ถึงกับต้องถามขึ้นมาด้วยความสงสัย“ก็เมื่อเช้า แม่ฉันโทรมาน่ะสิแล้วบอกว่า นัดให้ฉันไปทานข้าวกับผู้ใหญ่ แต่ฉันไม่อยากไปเลยอ่ะ” พายอาร์พูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะพูดต่อเมื่อมองหน้าเพื่อนสาวตรงหน้า “แก...ว่างไหม ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”“ฉันจะไปด้วยได้ยังไงกันเล่า ฉันน่ะคนนอก แกต้องไปน่ะถูกแล้ว” พราวมุกรีบปฏิเสธทันที ใครจะอยากไปอยู่ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดแบบนั้น“แต่ฉันว่าพ่อกับแม่ต้องหาเรื่องมาให้ฉันปวดหัวอีกแน่ๆ เลย อันที่จริงฉันก็ปฏิเสธไปแล้วนะ แต่แม่ก็ไม่ยอม บังคับให้ฉันรับปากว่าจะไปตามนัดจนได้” พายอาร์ตอบเพื่

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 7

    บทที่ 7ขณะนี้เป็นเวลาเกือบ ๆ เจ็ดโมงเช้า เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงบของห้องนอน จึงส่งผลให้หญิงสาวที่ขดตัวอยู่บนเตียงนอนจำต้องขยับเขยื้อนร่างกายเล็กน้อยเพื่อเอื้อมมือไปปิดเสียงนั้น เพราะมีเสียงรบกวนนั้นดังมาจากบริเวณโต๊ะข้างหัวเตียงถ้ายังปล่อยให้ดังต่อไป เธอนอนต่อไม่ได้แน่เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกเงียบลง เธอก็มุดตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มต่อด้วยความขี้เซาจึงทำให้ พายอาร์ เลือกที่จะหลับตานอนต่อโดยลืมไปว่าตัวเองจะไปตามนัดของเพื่อนสายได้ถ้ายังไม่ลุกขึ้นอาบน้ำตอนนี้ เธอยังนอนอย่างมีความสุขต่อไป แต่ทว่าอยู่ ๆ เสียงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ครั้งนี้พายอาร์เริ่มที่จะหมดความอดทน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เพื่อที่จะได้ต่อว่าได้ถูกคน ก่อนจะเห็นเต็มสองตาว่าต้นสายคือผู้เป็นแม่ จึงจำเป็นที่จะต้องตื่นขึ้นมารับสายอย่างปฏิเสธไม่ได้“ว่าไงคะแม่...” น้ำเสียงงัวเงียของหญิงสาวร่างบางถามขึ้นด้วยความสงสัยว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้แม่โทรมาหาเธอได้แต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง เพื่อหวังให้ตัวเองตื่นตัวเสียที[พาย ตื่นหรือยังลูก?] เสียงอ่อนโยนถามออกมาจากโทรศัพท์“ตื่นพอดีค่ะแม่

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 6

    บทที่ 6“ขุนเขา!”วินาทีนั้นบันดาลโทสะของผู้เป็นพ่อสวนขึ้นมาอย่างทันควัน ก่อนจะหยัดกายขึ้นยืนเพื่อหวังที่จะข่มลูกชาย ไม่ให้เหิมเกริมไปมากกว่านี้ เขาเป็นมาเฟียที่ใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัว แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เคยกลัวเขาเลยก็คือไอ้ลูกชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่แหละ“ใจเย็น ๆ กันทั้งคู่เลย ถ้าลูกไม่อยากทำก็ปล่อยเถอะค่ะคุณ พูดไป ก็มีแต่จะทะเลาะกันเปล่า ๆ” คุณหญิงจิตตรีเห็นท่าไม่ดีก็ลุกขึ้นยืนตามสามี ทีแรกเธอก็หวังเอาไว้ว่าสองพ่อลูกจะพูดคุยกันดี ๆ ไม่ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล แต่ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย“คุณก็ดูลูกคุณสิ ผมบอกให้ทำอะไร มีหรือจะไม่ดี แต่ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมเชื่อฟังอยู่แบบนั้น” ศิลานั่งลงและพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ“ผมก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี แต่ผมแค่ไม่ชอบ ซึ่งอะไรที่ผมไม่ชอบผมก็จะไม่ทำ หวังว่าหลังจากนี้พ่อจะไม่เอาเรื่องนี้มาบังคับผมอีกแล้วนะครับ เพราะผมยังยืนยันคำตอบว่าจะไม่สานต่อ เข้าใจตรงกันนะครับ ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อน คงไม่ว่างมานั่งเถียงอยู่แบบนี้แล้วล่ะครับ”ขุนเขาเอ่ยทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะรีบสืบเท้าเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร โดยมีแม่ของเขาเด

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status