Share

ตอนที่ 8

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-05-14 12:12:07

เซี่ยซูมี่ตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวัน พบว่าคนที่นอนข้างๆ เมื่อคืนไม่อยู่แล้ว ซึ่งมันก็มักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่ จากนั้นก็พับผ้าห่มที่นอน ลุกเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้ารอสามี เขาน่าจะออกไปดูกับดักสัตว์เฉกเช่นทุกวัน

          “ทำไมถึงได้ตื่นเร็วนักเล่า”

          “อุ๊ย” เซี่ยซูมี่ตกใจเพราะไม่คิดว่าสามีจะกลับมาเร็ว นี่ยังไม่ฟ้าสางเลยด้วยซ้ำไป

          “ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เจ้าตกใจ” ซ่งเวยหลงกล่าวขอโทษ เพราะเขาเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงทำให้นางตกใจ

          “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าแค่คิดว่าท่านไม่น่าจะกลับเร็วเพียงนี้” เซี่ยซูมี่พูด

          “วันนี้พี่ยังไม่ได้เข้าป่า เพราะตั้งใจว่าจะไปซื้อกระด้งมาให้เจ้าก่อน” ซ่งเวยหลงพูดจบก็ยื่นกระด้งที่ซื้อมาให้กับภรรยา

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ซึ้งใจที่ผู้ชายหน้าหนวดตรงหน้าเอาใจใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เดิมที คิดว่าเขาคงจะรับปากไปอย่างนั้น เพราะของที่อยากได้ที่บ้านก็ยังมีอยู่ หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็คงไม่มีใครจะซื้อสักเท่าไหร่

          “อืม" ซ่งเวยหลงรับคำในลำคอ ไม่คิดว่าเพียงแค่ซื้อกระด้งมาให้จะทำให้นางมองเขาอย่างปลาบปลื้มมากถึงเพียงนี้ หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้คงเหมามาทั้งบ้านของท่านลุงจู

          “ท่านรอข้าสักครู่นะเจ้าคะ ข้าเพิ่งจะหุงข้าวเอง” เซี่ยซูมี่พูดขึ้นอย่างอายๆ และรู้สึกผิดที่ตื่นสายกว่าสามี เดิมทีจะต้องเป็นฝ่ายหญิงที่สมควรตื่นก่อนสามี ซึ่งเนื้อความนี้เคยได้ยินมาช้านานเป็นหญิงต้องตื่นก่อนและนอนทีหลังสามี แรกๆ ที่ได้ฟังก็ไม่เข้าใจถึงความหมาย แต่เมื่อมาเจอด้วยตัวเองก็ทำให้ตนเข้าใจอะไรมากขึ้น

          “พี่ยังไม่หิวเจ้าไม่ต้องรีบ ว่าจะเดินไปดูกับดักที่วางเอาไว้เสียหน่อย” ซ่งเวยหลงพูดขึ้น เขาไม่ใช่คนกินข้าวตรงเวลาสักเท่าไหร่ กว่าจะได้กินมื้อเช้าก็เลยยามเฉินไปแล้ว

          “เจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่รับคำเข้าใจ

จากนั้นสองสามีภรรยาในนามต่างก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ เซี่ยซูมี่ทำมื้อเช้ารอสามีเสร็จแล้ว นางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้กระด้งเลยสักนิด แค่ใช้เชือกผูกแล้วแขวนใต้ราวบ้านก็ได้แล้ว คิดแล้วก็นึกเสียดายเงินที่สามีใช้ซื้อกระด้งพวกนี้มา แต่เมื่อหันไปมองจึงเห็นถุงผ้าที่ให้เขาไว้เมื่อวาน และพอเปิดดูกลับพบว่าเงินยังเหลืออยู่เท่าเดิม แล้วเขาไปเอากระด้งพวกนี้มาจากไหน

เซี่ยซูมี่ไม่ปล่อยเวลาให้ทิ้งไปโดยไม่ทำอะไรเลย นางเอาลูกพลับมาปอกเปลือก โชคดีลูกพลับที่เก็บมายังมีขั้วของมันอยู่คงต้องไปหาเถาวัลย์ใกล้ๆ บริเวณบ้านมาผูกแทนเชือก

เมื่อคิดแล้วก็ลงมือปอกเปลือกลูกพลับ แต่พอเห็นมีดในครัวแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ จากนั้นก็ตั้งจิตคิดถึงมิติที่ติดตัวมา หากจำไม่ผิดภายในห้องครัวน่าจะมีมีดสำหรับปอกผลไม้อยู่ เมื่อเห็นแล้วจึงเรียกมันออกมาและลงมือปอกเปลือกในทันที

          จนเวลาล่วงเลยไปถึงยามเฉินซ่งเวยหลงก็กลับมา แต่วันนี้เขาไม่ได้อะไรติดตัวกลับมาเลย โชคดีที่ไปพบไก่ป่ากำลังกกไข่ของมันอยู่พอดี จึงจับมันมาพร้อมทั้งไข่ของมันด้วย เซี่ยซูมี่ได้ยินเสียงไก่ร้องจึงละมือจากสิ่งที่ทำตรงหน้า จากนั้นก็ออกไปดูหน้าบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น

          “ไก่ป่าหรือเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่ไม่แน่ใจ แต่ตัวมันเล็กกว่าไก่ที่เคยเห็นจึงทึกทักเอาว่ามันน่าจะเป็นไก่ป่า

          “ใช่แล้วล่ะ มันกำลังนั่งกกไข่อยู่ พี่เลยจับมันมาเผื่อว่าจะออกไข่ให้เรากิน” ซ่งเวยหลงพยักหน้ารับ จากนั้นก็อธิบายให้ภรรยาเข้าใจ เพราะที่ผ่านมาเขารู้แล้วว่าเวลาจะพูดอะไร จำเป็นที่จะต้องขยายความให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วภรรยาแสนซื่อของเขาคงไม่เข้าใจ

          “ดีเลยเจ้าค่ะ ร่างกายของเราจำเป็นต้องกินไข่อย่างน้อยวันละ 1-2 ฟอง” เซี่ยซูมี่พยักหน้าเห็นด้วย

          “เจ้าหมายความอย่างไร ร่างกายอันใด?” ซ่งเวยหลงไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาพูด

          “ข้าหมายถึงตัวเราน่ะเจ้าค่ะ ต้องกินไข่อย่างน้อยวันละ 1 ฟอง” เซี่ยซูมี่ขยายความ บางครั้งก็เผลอลืมตัวพูดศัพท์ของยุคปัจจุบันออกมา

          “เช่นนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นเราคงต้องไปขอซื้อไก่มาเลี้ยงให้มันออกไข่แล้วล่ะ” ซ่งเวยหลงพูดขึ้น เขาเองก็เพิ่งจะเคยได้ยินว่าต้องกินไข่วันละฟอง เดิมทีก็กินแต่ของป่า หาอะไรได้ก็กินไม่ค่อยได้กินข้าวเลยด้วยซ้ำ ย่างปลา ย่างไก่กินตามป่าก็เป็นอันอิ่มท้อง 

“ดีเจ้าค่ะ ข้าอยากเลี้ยงเยอะๆ จะได้เอาไปขายที่ในเมือง” เซี่ยซูมี่พูดขึ้น

ปลูกผักเลี้ยงสัตว์ขายก็ดูเข้าท่าดี อีกอย่างอาหารแช่แข็งตัวใหม่ก็มีของจำพวกเนื้อเพิ่มเข้ามาด้วย ไม่ใช่แค่อาหารทะเลเพียงอย่างเดียว ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสที่จะหยิบของพวกนั้นออกมา เพราะแถวนี้ไม่มีทะเล จึงเป็นการยากที่จะหาเหตุผลมาหักล้างกันได้ หรือเรียกง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเงิน หรืออาหารที่มีในมิติ ก็แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยด้วยซ้ำ หรือท่านผู้นั้นกำลังต้องการจะสอนอะไรบางอย่างอยู่

สิ่งหนึ่งที่ทำให้คิดได้ในตอนนี้คือปล่อยวาง เพราะไม่ว่าสมบัติเหล่านั้นจะเป็นของเราจำนวนมากน้อยสักแค่ไหน แต่เมื่อถึงวันหนึ่งเราเองก็ต้องปล่อยวางว่ามันไม่ใช่ของเราตลอดไป ตายไปแล้วก็เอาไปไม่ได้

          “อืม ถ้าเช่นนั้นพี่จะทำคอกสำหรับเลี้ยงไก่เอาไว้ให้เจ้า” ซ่งเวยหลงรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่นางรู้จักหาอะไรทำ ไม่ใช่เพียงแค่นั่งถอนหายใจทิ้งไปวันๆ เฉกเช่นหญิงงามทั่วไป

          ภรรยาของเขาเองก็ใช่ว่าจะไม่งาม เมื่อนางเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ผิวพรรณขาวใส ตอนนี้รู้สึกว่าจะดูดีจากครั้งแรกที่พบกันมาก ไม่รู้ว่าเพราะนางรู้จักอาบน้ำชำระล้างร่างกาย หรือเป็นเพราะว่าเขาเองก็เริ่มจะเปิดใจกันแน่ ทุกอย่างมันดูสบายตาไม่รู้สึกขัดหูขัดตาดังเช่นวันแรกที่พบหน้ากัน

          เซี่ยซูมี่ทำเพียงยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร นางกำลังคิดว่าจะปลูกผักไว้สำหรับกินหน้าหนาว แต่อาจจะต้องทำโรงเรือนไว้ ไม่อย่างนั้นคงถูกหิมะกลบก่อนที่จะโตเป็นแน่ มันยากก็ตรงที่ต้องหาผ้าใบมาคลุม ซึ่งแน่นอนว่ายุคนี้ไม่น่าจะมีของพวกนั้น หรือจะชวนสามีทำโครงไม้ไผ่ขึ้นมาแทน จากนั้นก็ใช้หลังคาหญ้ามุงแทน ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน พร้อมทั้งส่ายหัวไปมากับความคิดที่สวนทางกับความเป็นจริง

          “เจ้าเป็นอันใดไปหรือ?” ซ่งเวยหลงเอ่ยถามภรรยา เพราะเดี๋ยวนางก็พยักหน้า แต่อีกสักพักก็ส่ายหน้า

          “ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไปกินมื้อเช้ากันเถอะเจ้าค่ะ เลยเวลามามากแล้ว” เซี่ยซูมี่ถอนหายใจ สลัดความคิดเรื่องปลูกผักเอาไว้ก่อน คงต้องเรียบๆ เคียงๆ ถามสามีถึงขั้นตอนการปลูกผักหน้าหนาวของที่นี่ว่าทำอย่างไรกันบ้าง

          “ท่านพี่เจ้าคะ เราสร้างบ้านกันใหม่ดีหรือไม่เจ้าคะ” เซี่ยซูมี่พูดขึ้น เมื่อมานั่งคิดดูแล้ว บ้านหลังนี้ไม่น่าจะรับน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมาไหว

          “ทำไมหรือ?” ซ่งเวยหลงเอ่ยถาม บ้านหลังนี้ก็ยังดี ๆ อยู่ เหตุใดถึงจะต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่

“ใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว ข้าเกรงว่าบ้านของเราจะรับน้ำหนักหิมะไม่ไหว หากเรายังไม่มีเงินมากพอก็ใช้ดินเหนียวทำไปก่อน ข้ามีวิธีที่จะให้มันไม่รั่วซึม อีกทั้งยังอยู่ตัวดีด้วยนะเจ้าคะ” เซี่ยซูมี่พูดขึ้น ตั้งใจจะทำบ้านดินเหนียว เพราะน่าจะอุ่นกว่าบ้านไม้ จากนั้นจะใช้จอมปลวกเคลือบอีกชั้นเพื่อกันน้ำรั่วซึมในช่วงฤดูฝน

          “พี่จะลองเข้าป่าลึกเพื่อล่าสัตว์ใหญ่ดูก็แล้วกัน เผื่อว่าโชคดีเราอาจจะได้เงินมาทำบ้านเร็วขึ้น” ซ่งเวยหลงพูดขึ้น

ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดเรื่องสร้างบ้านใหม่ เพียงแต่ว่าเงินตอนนี้ยังไม่พอที่จะสร้างบ้าน อย่างน้อยๆ ต้องมีสัก 20-30 ตำลึงเงิน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาเงินให้ได้มากเพียงนั้นในเวลานี้ แม้แต่ตัวเขาเองอายุ 19 ปียังมีเงินเก็บเพียงแค่ 5 ตำลึงเงินเท่านั้น ซึ่งก็ใช้มันหมดไปกับสินสอดของภรรยาไปแล้ว

          “ไม่ต้องหรอกค่ะท่านพี่ เงิน 5 ตำลึงนี้ก็ยังอยู่กับข้า เราใช้เงินจำนวนนี้ก็ได้” เซี่ยซูมี่ไม่ได้หมายความว่าให้เขาไปเสี่ยงตายแบบนั้นเสียหน่อย เข้าป่าลึกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ดุร้าย แม้ว่ามันจะมีราคาสูงก็จริง แต่ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน

          “พี่โตมากับป่าแห่งนี้ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงพี่ ช่วงนี้สัตว์ป่าน่าจะออกมาล่าหาอาหารเช่นกัน เพราะหน้าหนาวมันคงต้องจำศีลไม่ออกจากโพรง ส่วนเงิน 5 ตำลึงนั้นก็เก็บเอาไว้เป็นสินเดิมของเจ้า พี่ไม่มีทางเอาเงินของเจ้ามาใช้เด็ดขาด” ซ่งเวยหลงพูดขึ้น สินเดิมของภรรยาจะเอาออกมาใช้ได้อย่างไรกัน หากใช้เงินนั้นมิเท่ากับว่าเขาเอาเปรียบภรรยาหรอกหรือ

          “ตามใจท่านพี่เถอะเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่พูดขึ้น เพราะพูดอะไรไปก็คงไม่เกิดผลเท่าไหร่

ในเมื่อสามียึดมั่นในอุดมการณ์หนักแน่นเพียงนั้น คงต้องทำได้เพียงช่วยสามีหาเงินอีกแรง ต้องเร่งปอกเปลือกลูกพลับนี่ จากนั้นก็ตากลมเพื่อที่จะเอาไปเสนอขาย

ตอนนี้หลังจากที่สามีกลับมาก็ได้เปลี่ยนมีดปอกเปลือกผลไม้มาเป็นมีดในครัวไปเสียแล้ว แม้ว่าจะไม่สวยเหมือนมีดปอกผลไม้แต่จำเป็นต้องใช้ไปก่อน เพราะหากเขาเห็นมีดเล่มนั้นเป็นต้องสงสัยอย่างแน่นอน

เซี่ยซูมี่ไม่คิดจะเร่ขายตามท้องตลาดให้เสียราคาและเสียเวลา ในเมื่อสามีรู้จักกับหลงจู๊ต่างๆ ในเมือง สู้เอาพวกนี้ไปขายให้โรงเตี๊ยมที่มีแขกมาพักยังจะดีเสียกว่า ไม่ต้องเสียเวลาเร่ขาย อีกทั้งยังขายได้ในจำนวนมากๆ อีกด้วย

ทางด้านซ่งเวยหลงเองก็เตรียมตัวสำหรับเข้าป่าล่าสัตว์ตัวใหญ่ เข้าป่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่การวางกับดักสัตว์เท่านั้น แต่งยังต้องไปเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมของมันเสียก่อน เขาถือคติช้าๆ ได้พร้าเล่มงาน สัตว์ก็เหมือนคน พฤติกรรมการใช้ชีวิต พฤติกรรมการล่า มีไม่กี่รูปแบบในสัตว์แต่ละชนิด และแต่ละชนิดก็จะแตกต่างออกไป หากเข้าใจในธรรมชาติของการใช้ชีวิตก็จะไม่ใช่เรื่องยากหากคิดจะล่าพวกมันจริงๆ

ต่างคนต่างแยกย้ายทำหน้าที่ของตนเอง เช้าอีกวันซ่งเวยหลงเตรียมตัวออกเดินทางแต่เช้า ไม่ลืมที่จะกำชับภรรยาให้ระวังตัวเอง หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็ให้นางไปที่บ้านของแม่สื่อที่เป็นคนพาพวกเขาทำพิธีแต่งงาน อีกที่คือบ้านของท่านลุงจู สองหลังนี้เท่านั้นที่ซ่งเวยหลงไว้ใจมากที่สุด แม้แต่สหายของเขาอย่างอาจื่อเองก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้มากนัก

          “อยู่บ้านก็ดูแลตัวเองให้ดี พี่จะรีบกลับมา” ซ่งเวยหลงรู้สึกเป็นห่วงภรรยามากกว่าทุกครั้ง อาจจะเป็นเพราะว่าครั้งนี้ตนต้องไปหลายวัน ตั้งใจว่าหากล่าอะไรไม่ได้ก็จะยังไม่กลับ ก่อนเข้าฤดูหนาวนี้จะต้องมีบ้านใหม่ให้ภรรยาให้จงได้

          “เจ้าค่ะ ท่านย้ำข้ารอบนี้รอบที่สามแล้ว” เซี่ยซูมี่ยิ้มขำสามี เขาย้ำจนตอนนี้คนฟังจำขึ้นใจได้แล้วด้วยซ้ำ

“ถ้าเช่นนั้นพี่ก็วางใจ พี่อาจจะไปหลายวันเจ้าดูแลตัวเองให้ดี ก่อนนอนปิดบ้านให้เรียบร้อย พี่สัญญาว่าเราจะต้องมีบ้านดีๆ อยู่ก่อนที่ฤดูหนาวนี้จะมาถึงอย่างแน่นอน” ซ่งเวยหลงพูดจบก็หันหลังเดินเข้าไปในป่า

เซี่ยซูมีทำเพียงมองด้านหลังสามีจนลับตาไป จากนั้นก็ลงมือปอกเปลือกลูกพลับต่อ เพราะตัวเองก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำเช่นเดียวกัน สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวอยู่แล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 63

    “ท่านพี่เจ้าคะ ข้าเจ็บท้องเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ปลุกสามีในช่วงกลางดึกของคืนฝนตกหนักคืนหนึ่ง วันนี้กลับไม่โชคดีเหมือนครั้งที่คลอดซ่งอี้เทียน เพราะยังไม่ถึงกำหนดคลอดทุกคนจึงยังไม่มีการเตรียมการใดๆ “เจ็บอย่างไร ทนได้หรือไม่” ซ่งเวยหลงรีบลุกขึ้นเพื่อดูอาการของภรรยา ไม่หลงเหลือความง่วงเลยสักนิด “ไม่ไหวเจ้าค่ะ ให้คนไปตามหมอตำแยให้น้องทีเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่เค้นเสียงออกมา แม้ว่าภายในใจจะไม่อยากพูดคุยอะไรไปมากกว่านี้เลยก็ตามทันทีที่ฟังภรรยาพูดจบ ซ่งเวยหลงก็ออกไปสั่งการสาวใช้ที่คอยรับใช้หน้าห้อง ให้ไปตามหมอตำแยมาโดยด่วน ฮูหยินซ่งกำลังจะคลอดลูกแล้ว สาวใช้ในเรือนรีบลุกเพื่อไปทำหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่มีอิดออด แม้จะสงสัยอยู่บ้างว่ายังไม่ครบกำหนดจะคลอดได้อย่างไร แต่ก็มีเสียงแตกหลายเสียง เนื่องจากว่าครรภ์ของฮูหยินนั้นใหญ่ผิดปกติหลังจากนั้นราวๆ 2 ชั่วยาม เซี่ยซูมี่ก็ได้ให้กำเนิดทายาทสกุลซ่ง แต่ที่น่ายินดีไปมากกว่านั้นคือเป็นแฝดชาย แม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่แฝดทั้งสองก็สมบูรณ์แข็งแรงดี เมื่อแฝดทั้งสองคลอดฟ้าฝนกลับหยุดลง จากนั้นก็มีแสงใหม่ของอีกวันโผล่ขึ้น คล้ายจะบอกเป็น

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 62

    3 ปีผ่านไป ซ่งอี้เทียนเริ่มโตขึ้นมาก อีกทั้งยังเป็นเด็กที่รู้มากอีกด้วย เซี่ยซูมี่สอนลูกชายอ่านเขียนตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยหวังว่าโตขึ้นไปในภายภาคหน้าเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้ ส่วนกิจการของบ้านซ่งต้องบอกว่าขยายใหญ่โตมาก อีกทั้งยังสร้างโรงเตี๊ยมขึ้นมา เพื่อแข่งกับโรงเตี๊ยมเหอฟู่อีกด้วย โดยให้ชื่อโรงเตี๊ยมว่า หลงโถว เช่นเดียวกับร้านค้า ผู้คนในเมืองรวมไปถึงลูกค้าต่างเมือง ต่างรู้จักร้านหลงโถวนี้เป็นอย่างดีทางด้านคุณชายเหอได้ถูกทางการจับตัว เนื่องจากว่ามีคนมาร้องเรียนเรื่องที่ลูกสาวหายตัวไป หลังจากที่แต่งเข้าไปเป็นอนุ เมื่อมีคนมาร้องเรียนกับทางการ อีกหลายๆคนที่ได้ข่าวก็เริ่มมาร้องเรียนบ้าง เนื่องจากว่าเมื่อก่อนชาวบ้านต่างเกรงกลัวอำนาจและบารมีของสกุลเหอ อีกทั้งยังมีท่านเจ้าเมืองหนุนหลัง ทำให้ไม่มีใครแจ้งความเอาผิด แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อมีท่านรองแม่ทัพหยางเข้ามาประจำการในเมืองนี้ ทำให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงทางการได้ง่ายขึ้น“มีชาวบ้านเข้ามารองเรียนเรื่องคนหายไม่เว้นวัน” ท่านเจ้าเมืองถอนหายใจ ไม่คิดเลยว่าสหายที่เติบโตด้วยกันมาจะเป็นคนเช่นนี้ เดิมทีเหอฟู่ผู้นี้เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 61

    หลังจากที่ให้ลูกชายกินนม เซี่ยซูมี่จึงพาลูกชายออกมายังห้องโถง ซึ่งแม่บ้านเห่ยนำเตาขนาดเล็กมาวางไว้รอบๆ ห้อง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับภายในบ้าน ทำให้บ้านไม่หนาวเย็นอย่างที่ควรจะเป็น “มาแล้วหรือหลานชายของป้า มาให้ป้าอุ้มให้หายคิดหน่อยหน่อยเถิด” เซี่ยซือมั่นเงยหน้าจากผ้าที่กำลังปักอยู่ จากนั้นก็ยื่นงานปักให้สาวใช้คนสนิททำต่อ ส่วนนางนั้นเอื้อมมือเพื่อที่จะไปอุ้มหลายชายเข้าสู่อ้อมกอดซ่งอี้เทียนเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความรักความเอ็นดูที่ท่านป้าหมาดๆของเขามีให้ ทารกน้อยอายุเพียง 1 เดือน จากตอนแรกที่อยู่ในอ้อมกอดมารดา จึงยอมให้ท่านป้าของเขาอุ้มเข้าไปกอดอย่างง่ายดายส่วนทางด้านท่านป้าที่เมื่อได้อุ้มหลานชายแล้วนั้น ก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าหลานชายไม่ได้ผอมแห้งดังเช่นที่ตนนั้นกังวล แต่เขากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ทารกน้อยมีน้ำหนักหากจะพูดแล้วนั้น น่าจะหนักกว่าเด็กทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าทารกที่กินเพียงน้ำนมของผู้เป็นแม่เพียงอย่างเดียวจะอุดมสมบูรณ์ได้ “เป็นไรไปหรือเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่สังเกตเห็นสีหน้าฉงนของพี่สาวจึงอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้ “เสี่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 60

    1 เดือนผ่านไปเซี่ยซูมี่ออกจากการอยู่ไฟแล้วเรียบร้อย อีกทั้งวันนี้ยังมีแขกมาเยี่ยม ซ่งอี้เทียน นั่นก็คือท่านป้าและท่านลุงหยางหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือท่านรองแม่ทัพหยางนั่นเองกล่าวถึงเซี่ยซือมั่นเมื่อเข้าไปทำงานยังจวนของท่านรองแม่ทัพ ก็ได้มีโอกาสศึกษาดูใจกับรองแม่ทัพหนุ่มมากขึ้น ทำให้ทั้งสองคนมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน อีกทั้งหญิงสาวยังรับหน้าที่ในการทำอาหารขึ้นโต๊ะให้แก่เขาเองอีกด้วย คุณสมบัติเพียบพร้อมเช่นนั้นจะหนีจากฮูหยินใหญ่ของเขาไปได้อย่างไรกัน“หลานชายของป้า น่าตีท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้ายิ่งนัก หลานชายคลอดทั้งที กลับไม่ส่งข่าวคราวให้ป้าบ้างเลย” เซี่ยซือมั่นทำทีเป็นบ่นกับหลานชาย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วพ่อกับแม่ของเจ้าก้อนกลมนั้นก็นั่งอยู่ด้วย “หิมะตกหนัก อีกทั้งข้าเองก็เพิ่งจะออกจากการอยู่ไฟ ป้าเห่ยไม่ยอมให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลยล่ะเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่อดที่จะบ่นแม่บ้านของตัวเองไม่ได้ เพราะนางไม่ยอมให้ออกไปไหนเลยแม้ว่าจะอ้อนวอนมากเพียงใดก็ตาม เซี่ยซูมี่เป็นคนสะอาด จะยอมให้ผมตัวเองมันเยิ้มได้อย่างไรกัน นอกจากมันแล้วก็ยังรู้สึกคันหนังหัวแต่ไม่อยากสอดนิ้วมือเข้าไปเพราะหนังหัวช่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 59

    เซี่ยซูมี่ลืมตาตื่นในเช้าของอีกวัน คิดว่าตัวเองฝันไปหรือเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อใช้มือคลำสัมผัสที่หน้าท้องกลับพบว่ามันยุบลง ไม่ป่องเหมือนเมื่อวาน นอกจากนั้นแล้วในยามที่ขยับตัวก็รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังเหมือนได้ยินเสียงร้องงอแงของเด็กอีกด้วย “อือ” คุณแม่มือใหม่ส่งเสียงในลำคอ “ลูกพ่อ แม่ของลูกตื่นแล้ว” ซ่งเวยหลงตอนนี้กำลังอุ้มลูกชายอยู่สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ได้บอกกับหมอตำแยเอาไว้ว่าจะให้ลูกกินนมของภรรยาเป็นคนแรกนั้นต้องหยุดลง เนื่องจากว่าลูกชายร้องไห้งอแงในยามเช้าแต่ภรรยาเขากลับยังไม่ได้สติ ตนจึงจำเป็นต้องให้แม่นมที่เตรียมไว้สำหรับลูกชายทำหน้าที่แทนทารกน้อยราวกับว่ารับรู้และเข้าใจในสิ่งที่บิดาพูด ทันทีที่พูดถึงมารดาเขากลับเงียบเสียงลง คล้ายกำลังฟังเสียงการเคลื่อนไหวของมารดา แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเหมือนตอนที่อยู่ในท้อง เขากลับเริ่มเบะปากเตรียมที่จะร้องไห้อีกครั้ง “ท่านพี่ นะ น้ำเจ้าค่ะ น้องขอน้ำ” เซี่ยซูมี่รู้สึกลำคอแห้งผาก แม้ว่าอยากจะลุกขึ้นไปอุ้มลูกชายมากเพียงใด แต่ตอนนี้ตนต้องได้กินน้ำเพื่อให้ร่างกายมีแรงขึ้นมาก่อน “ฮูหยิน น้ำเจ้าค่ะ”

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 58

    หลังจากที่ไปส่งพี่สาวที่จวนของท่านรองแม่ทัพ เรียกได้ว่าหายห่วงไปได้มากทีเดียว เดิมทีเซี่ยซูมี่ตั้งใจจะพาพี่สาวไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ให้สมกับตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ของจวนท่านรองแม่ทัพ แต่กลับถูกเจ้าของจวนขัดขึ้นเสียก่อน เนื่องจากว่าเขาได้ให้คนงานจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อไปถึงจวนก็ไปดูที่พักของพี่สาว คงต้องบอกว่าไม่เหมือนกับที่พักพิงของคนงานเลยสักนิด แม้จะบอกว่าไม่ได้ให้เข้าทำงานมาเป็นทาส หรือแม้กระทั่งยกตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ให้ ก็ยังดูไม่ใช่ที่พักของคนงานอยู่ดี แต่คล้ายว่าเป็นห้องนอนของแขกคนสำคัญมากกว่าเซี่ยซือมั่นได้แต่มองหน้าน้องสาวเพื่อขอความคิดเห็น แต่เซี่ยซูมี่กับเดินตัวติดกับสามี ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสายตาที่พี่สาวพยายามจะส่งมาให้ ได้เห็นการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้แล้วเซี่ยซูมี่เองก็เบาใจ “ท่านว่าพี่ชายของท่านจะจริงจังกับพี่สาวของข้ามากน้อยเพียงใดเจ้าคะ?” ระหว่างที่กลับบ้านป่า เซี่ยซูมี่ก็ชวนสามีพูดคุยเพื่อให้ไม่เหงาปากมากจนเกินไป “ชู่ว หยุดพูดจาส่งเดช มีคนตามมาส่งเราด้วย” ซ่งเวยหลงทำเสียงเป็นเชิงบอกให้ภรรยาหยุดพากพิงถึงบุคคลอื่น เนื่องจากว่าพี่ชายได้

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 57

    “คารวะท่ารองแม่ทัพเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่และพี่สาวทำความเคารพรองแม่ทัพหนุ่มอีกครั้ง “ตามสบายเถิดน้องสะใภ้ ไม่ต้องมากพิธี” รองแม่ทัพกล่าวทักทายภรรยาของสหายอย่างเป็นกันเอง ทั้งๆที่ความเป็นจริงคือเขาเป็นคนที่ค่อนข้างระวังตัว ด้วยมีหน้าที่ที่ต้องถวายอารักขาความปลอดภัยให้แก่องค์ชายห้ามาตั้งแต่เด็กๆ “ท่านมาก็ดีแล้วขอรับ ข้าขอขอบคุณสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย” ซ่งเวยหลงเอ่ยขึ้น ช่วงที่ไปล่าสัตว์ด้วยกันเขาได้เรียนรู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับวิชาป้องกันตัว รองแม่ทัพหนุ่มเองก็ได้เรียนรู้วิชาเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในป่าเช่นกัน ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมาก “ไม่เป็นไร เรื่องของเจ้าก็เหมือนเรื่องขอข้า ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อจะมาทำเรื่องที่พูดเอาไว้ให้สำเร็จลุล่วง ซ่งเวยหลง เจ้าต้องการที่จะเป็นพี่น้องสาบานร่วมกับข้าหรือไม่?” รองแม่ทัพเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งจ้องมองหน้าสหายที่ตนเอ็นดูเหมือนน้องชายแท้ๆ “ไมตรีที่ท่านมอบให้ ข้าซ่งเวยหลงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ อีกทั้งยังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นพี่น้องกับท่าน” ซ่งเวยหลงไม่คิดปฏิเสธ เพราะเขาเองก็รับรู้ได้ถึงความเมตตาที่รองแม่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 56

    ทุกคนถูกจับตัวไปที่ศาลของท่านเจ้าเมืองเพื่อช่วยตัดสิน โดยท่านลุงไท่ร้องทุกข์แก่ท่านเจ้าเมืองทันทีที่ไปถึง รวมไปถึงเซี่ยซูมี่และซ่งเวยหลงเองก็ถูกควบคุมตัวมาในที่นี้ด้วย “จับตัวข้ามาด้วยเรื่องอันใดกัน ข้าจะกลับหมู่บ้านป่า” นางเซี่ยโวยวายในขณะที่ถูกจับกุมตัวมีเพียงซ่งเวยหลงและภรรยาเท่านั้นที่ไม่ถูกควบคุมตัวโดยทหาร หากจะบอกว่าทหารเหล่านั้นเกรงกลัวสายตาของซ่งเวยหลงที่จ้องมองในตอนที่กำลังจะไปคุมตัวคนท้องก็คงจะไปผิด ทหารผู้น้อยจึงทำได้เพียงผายมือเชิญทั้งสองคนไปยังศาล ซึ่งเซี่ยซูมี่ก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด “หุบปาก ต่อหน้าท่านเจ้าเมืองห้ามเสียมารยาท” ลูกน้องคนสนิทของท่านเจ้าเมืองเอ่ยขึ้นน้ำเสียงน่าเกรงขาม ทำให้ชาวบ้านที่ตามมาดูคำตัดสินต่างเงียบไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดออกมา หลังจากที่ท่านเจ้าเมืองเข้ามานั่งประจำตำแหน่งก็เริ่มทำการสอบสวน ซึ่งเปิดโอกาสให้กับผู้ร้องทุกข์นั่นก็คือท่านลุงไท่เป็นคนพูดก่อน “เซี่ยซือมั่น สิ่งที่ไท่หานพูดเป็นความจริงหรือไม่” ท่านเจ้าเมืองเริ่มทำการสอบสวน “ข้าน้อยเซี่ยซือมั่นคารวะท่านเจ้าเมือง สิ่งที่ท่านลุงไท่พูดเป็นความจริ

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 55

    เซี่ยซือมั่นถูกบิดาจับข้อมือเอาไว้ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่มารดาตะโกนออกมาจนสุดเสียง ท่านลุงไท่เองก็ตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าคดโกง สมัยนี้เรื่องโกงต่างๆ ไม่ค่อยมีเกิดขึ้น ทุกคนอยู่ด้วยกันด้วยความซื่อสัตย์ รักเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองเป็นอย่างมาก “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” ท่านลุงไท่มองตาเขียวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก คนในเมืองรู้จักตนอยู่ไม่น้อย เพราะมีอาชีพรับของป่าจากหมู่บ้านต่างๆ มาขาย หากเรื่องนี้ถูกผู้คนเข้าใจผิด แล้วตนจะทำงานต่อไปอย่างไร “หมายความว่าที่ผ่านมาเจ้าคดโกงข้า วันนี้หากข้าไม่มารับเงินกับลูกสาวด้วยมือของข้าเอง ก็หารู้ไม่ว่าเจ้าโกงเงินข้าทุกเดือน เร่เข้ามา… มาดูคนหน้าด้านโกงได้แม้กระทั่งเงินอีแปะ” นางเซี่ยแผดเสียงออกไปเพื่อต้องการให้ทุกคนมามุงและสนใจ “นี่เจ้า….” ท่านลุงไท่ชี้หน้านางเซี่ยด้วยความโมโห จากนั้นก็หันไปสบตากับเซี่ยซือมั่น เพื่อต้องการให้นางพูดและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่เคยคิดที่จะเปิดดูถุงผ้านั้นว่ามีเงินอยู่จำนวนเท่าใด เพราะความสงสารหญิงสาวที่จากบ้านมาทำงานไกลถึงในเมือง อยู่กินตัวคนเดียวเป็นสาวเป

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status