共有

ตอนที่ ๘

last update 最終更新日: 2025-09-21 20:50:16

ตอนที่ ๘

          “เจ้าบ่าวที่ถูกแนะนำให้รู้จักกันท่าทางจะถูกใจเธอสินะเนี่ย” เขามองดูการ์ดเชิญไปงานแต่งในมือสลับกับใบหน้าของเพื่อนสนิทที่รู้จักกันเพราะพบกันในเว็บแห่งหนึ่งสมัยยังเด็กแล้วคุยกันถูกคอเรื่องการ์ตูน จากนั้นก็กลายมาเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยในชีวิตจริง สุดท้ายก็พัฒนาจนมาถึงขั้นเขียนการ์ตูนลงเว็บด้วยกัน

          คนถูกแซวซึ่งกำลังกินไอศกรีมแท่งที่ชายหนุ่มหยิบจากตู้เย็นมาให้เธอใช้คลายร้อน ยิ้มหวาน ท่าทางมีความสุข

          “พี่บุ้งเขาน่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เรื่องที่เคยกังวลว่าจะต้องแต่งกับคนที่ไม่ได้รักก็เลยแทบจะไม่มีแล้ว”

          “ผ่านเกณฑ์พ่อเธอก็คงจะต้องเป็นคนที่ดีมากแน่ๆ” ชายหนุ่มนึกถึงบิดาของเพื่อนที่หวงเจ้าตัวเอามากๆ จนไม่เคยปล่อยให้ลูกสาวไปเที่ยวกับเพื่อนในวันหยุดเลยด้วยซ้ำ

          นิศากรไม่ได้บอกถึงรายละเอียดการแต่งงานไปมากกว่าถูกพาไปดูตัว เพื่อนเธอจึงรู้แค่นี้ “เราเล่าเรื่องช้างให้พี่บุ้งฟังด้วยนะ ต่อไปถ้าต้องคุยงานกันก็จะสะดวกมากขึ้น”

          คเชนทร์ยิ้ม “ถ้าย้ายออกมาอยู่กับสามี เธอก็น่าจะวาดรูปได้อย่างอิสระมากขึ้น จะแยกไปวาดคนเดียวแบบเต็มตัวเลยไหม เราน่ะจบแค่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร หมดสัญญาพอดี ถ้ามีเรื่องหน้าก็จะลงแบบอิสระ พอจบแล้วค่อยรวมเล่มขายเป็นอีบุ๊กเอง” ชายหนุ่มยังทำงานประจำเป็นพนักงานแผนกไอทีของบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้ทำตรงนี้อย่างเต็มตัว

          “เรายังไม่มั่นใจน่ะ ยังไงก็อยากทำกับช้างก่อนดีกว่า เอาเป็นว่าถ้าเรื่องที่เราเป็นคนคิดเรื่อง วาดกันไปจนจบเรื่องหน้าค่อยแยกกัน”

          “ยังไงก็ได้อยู่แล้ว เพราะถ้ายังทำด้วยกันรายได้ก็หารสอง” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “คราวนี้เธอต้องเป็นคนนำบ้าง สู้ๆ นะ แต่ว่าจะเลือกส่งให้ทาง บ.ก.พิจารณาแล้วเซ็นสัญญาไหมหรือลงอีกเว็บดี เพราะจะได้ไม่กดดันเท่าลงเว็บเดิม”

          “ลองส่งให้ บ.ก.พิจารณาก่อนก็ได้ ถ้าไม่ผ่านก็ค่อยมาเขียนลงเว็บอื่นแล้วรวมเล่มลงอีบุ๊กเอง”

          “ตกลงตามนี้” คเชนทร์ยกมือขึ้นทำท่าโอเค

          “งั้นเรากลับก่อนนะ” หญิงสาวมองดูรถที่มาจอดรออยู่หน้าบ้านเช่าของชายหนุ่ม

          “แล้วเจอกัน”

          คเชนทร์โบกมือลาหญิงสาวที่เดินเร็วๆ ออกไปขึ้นรถ ก็ไม่ใช่รถของใครที่ไหน แต่เป็นรถของว่าที่เจ้าบ่าวของเพื่อนนั่นแหละ เขาเป็นคนพามาก่อนจะปล่อยให้เธอกับคเชนทร์คุยกันเป็นการส่วนตัว แล้วตัวเขาก็ออกไปทำธุระ

          ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนของตัวเองอย่างนิศากรไปเล่าอะไรไว้บ้าง ว่าที่เจ้าบ่าวถึงดูไม่เป็นมิตรกับเขาเอาเสียเลย วันงานสงสัยต้องทำตัวดีๆ ไม่แสดงความสนิทสนมมากไปนักน่าจะดีกว่า ชายหนุ่มครุ่นคิดก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนบ้านเพื่อทำงานต่อ

          บุลินมองดูเหงื่อที่เกาะบนหน้าผากของหญิงสาวกับรอยเปื้อนจุดเล็กๆ บนเสื้อสีขาว ริมฝีปากที่ดูแดงๆ เจ้าตัวคงกินไอศกรีมมาแล้วทำเสื้อเลอะ

          “ปกติจะมาคุยงานกับเพื่อนที่บ้านผีสิงนี่เหรอครับ”

          นิศากรเลิกคิ้ว “บ้านผีสิง” พอนึกถึงบ้านเรือนไทยเก่าโทรมที่เพื่อนของตัวเองเช่าอยู่ในราคาถูกแล้วก็ให้อารมณ์แบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ เธอจึงหัวเราะออกมา “เปล่าหรอกค่ะ ปกตินัดเจอกันที่อื่น แต่ก็นานๆ ทีนะคะ ส่วนใหญ่วิดีโอคอลคุยกันค่ะ”

          “อืม ถ้าจะคุยงานกันแบบต้องเจอหน้า ก็นัดเจอที่บ้านของพวกเราก็ได้นะ คงไม่ร้อนเหมือนบ้านเพื่อนเธอ”

          “บ้านของพวกเรา” หญิงสาวเลิกคิ้ว “พี่บุ้งหมายถึงบ้านของพี่บุ้งเหรอคะ” ใบหน้าของหญิงสาวแดงเรื่อ

          “ก็นอกจากบ้านหลังนั้น จะมีหลังไหนอีกหรืออยากได้บ้านใหม่ล่ะครับ”

          “เปล่าค่ะพี่บุ้ง” รีบยกมือขึ้นโบกปฏิเสธเป็นพัลวัน “แค่คิดว่าพี่รีบจัง ไนท์ยังไม่ได้เข้าไปอยู่สักหน่อย”

          “อีกแค่สองอาทิตย์เอง ก็ไม่เห็นจะรีบอะไรตรงไหนเลย” เขายื่นนิ้วมาแตะเบาๆ ที่ใต้ขอบตาของหญิงสาว “ช่วงนี้ทำงานจนดึกใช่ไหม ขอบตาถึงคล้ำๆ พักงานสักหน่อยสิ เดี๋ยววันงานไม่สวยพี่ไม่รู้ด้วยนะครับ”

          นิศากรยิ้มอย่างซุกซน “เครื่องสำอางจากแบรนด์ของพี่ปอนด์เด่นเรื่องกลบพวกรอยสิว รอยคล้ำ รอยด่างดำบนหน้า พี่บุ้งไม่ต้องห่วงหรอกค่ะว่าไนท์จะไม่สวย”

          บุลินยื่นมือคู่ใหญ่ไปจับศีรษะของอีกฝ่ายโยกไปมาเบาๆ “จริงๆ แล้วพี่ห่วงสุขภาพเธอต่างหากเล่า”

          “...” หญิงสาวได้ฟังแล้วก็ได้แต่ใจเต้นกับความอบอุ่นของชายหนุ่ม “เหรอ...คะ”

         

          นิศากรลงจากรถที่มาส่งถึงบ้านด้วยความอบอุ่นหัวใจ เธอก้าวเดินเข้าไปภายในบ้านเป็นจังหวะเดียวกับที่ป้าเมตตาซึ่งมีลักษณะออกไปทางทอมบอยเดินมาเข้ามาหา

          “คุณไนท์ คุณชัยให้ไปพบที่เรือนริมน้ำค่ะ”

          “ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้ม

          “เออ...คุณชัยดูอารมณ์ดีนะคะ คุณไนท์ไม่ต้องกังวล”

          นิศากรถอนหายใจเบาๆ “ขอบคุณนะคะป้าเมต จะยังไงไนท์ก็ชินแล้ว” หญิงสาวบอกก่อนจะเดินไปยังเรือนเล็กๆ ซึ่งเคยเป็นที่ที่แม่ของเธอใช้เป็นที่ทำงานอดิเรกอย่างการวาดรูป แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลยที่เคยบ่งบอกว่ามันเคยเป็นที่ที่ใช้สำหรับทำแบบนั้น

          ก่อนหน้าที่จะได้กลับมาเจอกับน้องสาวอย่างทิพากรอีกครั้ง เธอมักรู้สึกอิจฉาอีกฝ่ายที่ได้ไปกับแม่ แต่เมื่อรู้เรื่องของอีกฝ่ายแล้ว กลับพบว่าต่างคนก็ต่างทุกข์ไปคนละแบบ ไม่ว่าเธอหรือน้องสาวก็ได้แต่คิดอยู่ในใจว่าชีวิตของตัวเองจะดราม่าไปถึงไหน เมื่อไหร่ทุกอย่างถึงจะจบสิ้น

          กระทู้ปรึกษาปัญหาชีวิตที่ตัวเธอไปตั้งไว้นั้นมีคนมาให้คำปรึกษาและคำปลอบใจตั้งมากมาย หลายวิธีถูกเสนอมาให้เธอเลือกและเธอก็เลือกแล้ว...

          สายตาของนิศากรหยุดอยู่ที่ชัยกรซึ่งนั่งอยู่ริมระเบียงบ้านในส่วนที่สร้างยื่นลงไปในน้ำ เสียงฝีเท้าของหญิงสาวทำให้คนเป็นพ่อหันมามอง

          “กลับมาแล้วเหรอ ดูท่าทางแล้วเหมือนทางนั้นจะถูกใจลูกมากกว่าที่คิดนะ พากันออกไปเที่ยวบ่อยเชียว”

          “มีธุระที่เกี่ยวกับเรื่องงานแต่งหลายอย่างเลยค่ะที่ต้องตัดสินใจกับพี่บุ้ง” เธอหยุดยืนพลางทอดสายตามองไปยังพื้นน้ำที่พ่อของเธอเองมองอยู่ก่อน

          “ตอนแรกพ่อคิดว่าหนูมิ้นจะชอบเขาเสียอีก แต่ทำไงได้ในเมื่อไม่ชอบ ภาระก็เลยตกมาถึงลูก แต่ไม่ต้องห่วงนะ เงินก้อนล่าสุดที่ยืมมามันช่วยบริษัทได้เยอะ ดูเหมือนจะดีขึ้นแล้วละ สักปีสองปีบริษัทก็น่าจะกลับมาคืนทุนเหมือนเดิม อีกอย่างนี่ก็กำลังจะได้สัญญาซื้อขายกับเจ้าใหม่จากต่างประเทศเพิ่มด้วย ดูท่ายังไงก็น่าจะไปได้ดี เดี๋ยวพ่อก็มีเงินไปใช้หนี้แล้ว แต่ในเมื่องานแต่งมันจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ จะไปขัดก็คงไม่ได้” ชัยกรยิ้มอย่างใจดี

          “หนูคิดว่าการแต่งงานกับพี่บุ้ง...” ไม่เป็นภาระ

          “อย่าลืมกินยาคุมไว้ด้วยล่ะ เพราะถ้าเกิดท้องขึ้นมา ถ้าอยากจะหย่าบางทีทางนั้นคงจะไม่ยอมง่ายๆ”

          “พ่อคะ...หนูคิดว่าถ้าท้องขึ้นมาก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”

          ใบหน้าของคนเป็นพ่อเรียบเฉยขึ้นมาทันที “แค่เธอคนเดียวก็พอแล้ว ทำไมจะต้องมีหลานที่มีเชื้อสายชั่วๆ ของผู้หญิงคนนั้นเพิ่มมาอีกคนล่ะ” ความโกรธที่แผ่พุ่งออกมาจากชัยกรทำให้หญิงสาวถอยห่างจากบิดาอย่างไม่รู้ตัว “อย่าให้รู้ล่ะว่าท้อง เพราะฉันคงไม่เอาเด็กไว้แน่”

          “...” นิศากรตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาป ภาพเหตุการณ์ที่ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายระหว่างพ่อกับแม่ขาดกันเวียนกลับเข้ามาในความทรงจำ หัวใจเธอเต้นเร็วรัว ขาที่เคยยืนอย่างมั่นคงอ่อนจนเธอทรุดลงไปนั่งกับพื้น

ขณะชัยกรกำลังเดินผ่านลูกสาว มือคู่ใหญ่ที่ไม่เต่งตึงเหมือนสมัยยังหนุ่มแน่นเอื้อมมาลูบศีรษะของลูกสาวอย่างแผ่วเบา

          “พ่อรักไนท์นะ แต่พ่อเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากเกินไป แล้วก็...พ่อขอโทษที่ต้องบังคับลูกให้แต่งงาน ถ้าเป็นไปได้พ่อก็อยากให้ไนท์อยู่กับพ่อตลอดไปมากกว่า” น้ำเสียงของคนเป็นพ่อนั้นอ่อนโยนเหมือนตอนที่เคยเล่านิทานกล่อมเธอนอน ซึ่งเคยฟังแล้วอบอุ่นไปทั้งหัวใจ

          “ไนท์ก็รัก...คุณพ่อค่ะ”นิศากรเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ชัยกรได้ยินแล้วยิ้มให้ลูกสาว ก่อนจะเดินจากไป ส่วนหญิงสาวยังคงทิ้งตัวนั่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานกว่าจะยอมลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง

นิศากรชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ มันเป็นสิ่งที่เธอชอบและก็ทำได้ดี ในขณะที่ความสามารถเรื่องเรียนด้านอื่นๆ ดูจะกลางๆ ไปหมด

‘น้องไนท์วาดสวยจนได้ที่หนึ่งเลย คุณพ่อจะต้องดีใจมากแน่ๆ นี่จ้ะเอากลับไปบ้านให้คุณพ่อดู’

เด็กหญิงวัยแปดขวบมองดูภาพในมือที่รับมาจากคุณครู แล้วยิ้มด้วยความภาคภูมิใจที่ภาพประกวดเนื่องในวันพ่อของตัวเองชนะเลิศอันดับหนึ่ง เธอกลับบ้านไปด้วยหัวใจพองโต

นิศากรในวัยเด็กนั่งรอพ่อของตัวเองกลับจากทำงานพลางทำการบ้านอยู่ภายในห้องรับแขก พอได้ยินเสียงรถที่คุ้นเคยก็รีบหยิบเอาภาพออกมาจากแฟ้มเพื่อจะนำไปอวดกับชัยกร

เมื่อชายหนุ่มร่างสูงซึ่งเพิ่งจะหย่าร้างไปไม่นานและกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวก้าวเข้ามาภายในโถงทางเดิน ลูกสาวตัวน้อยก็วิ่งเข้ามหา

‘คุณพ่อขา หนูได้ที่หนึ่งด้วยค่ะ’

ชัยกรในวัยที่ยังคงหนุ่มแน่นเหลือบตามองภาพวาดของลูกสาว ในอกนั้นเหมือนถูกสุมด้วยไฟที่มองไม่เห็น เป็นไฟที่เผาผลาญความรักที่เคยมีต่อผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยหลงรักอย่างงมงาย แต่สุดท้ายกลับถูกทรยศอย่างเลือดเย็น

เขาย่อตัวลงให้อยู่ในระดับสายตาของลูกสาว ดึงภาพวาดออกจากมือน้อยๆ ‘ในภาพหน้าตาไม่เหมือนพ่อเลย ไนท์วาดพ่อจริงๆ เหรอคะ”

‘ก็ต้องเป็นคุณพ่อสิคะ’ น้ำเสียงของเด็กน้อยเจื่อนลง ‘ถะ...ถ้าภาพนี้ยังไม่เหมือน คราวหน้าหนูจะวาดให้ดีกว่านี้’

ชัยกรแสยะยิ้ม นึกถึงภรรยาที่หย่าขาดกันไปคนนั้นที่ชอบวาดรูปเหมือนกัน ดูท่าว่าลูกสาวจะเหมือนอีกฝ่ายมากกว่ารูปร่างหน้าตา คงรวมไปถึงพรสวรรค์ด้วย หากไม่ใช่เพราะผลตรวจดีเอ็นยืนยันว่าเด็กตรงหน้าเป็นลูกสาวของเขา

บางที...เขาก็คงไม่เจ็บปวดเท่านี้

ถ้าเป็นลูกชู้ไปซะ ก็คงดีกว่า เขาจะได้เกลียดได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทั้งรักทั้งเกลียดอย่างตอนนี้

แควก! กระดาษที่ถูกฉีกขาดออกจากกันทำเอาเด็กหญิงมองด้วยดวงตาเบิกกว้างและตกตะลึง

‘คุณ...พ่อ ถ้าไม่สวยเดี๋ยวหนูจะวาดใหม่’

‘ไม่ต้อง คราวหน้าอย่าวาดอีก’ ชัยกรทิ้งแผ่นกระดาษลงพื้นก่อนจะอุ้มลูกสาวขึ้นมาโอบกอดพลางลูบหลังอย่างอ่อนโยน ‘พ่อไม่ชอบให้ไนท์วาดรูป’

‘ทำไมคะ’ นิศากรตัวน้อยซบหน้าลงกับบ่าของผู้เป็นพ่อ น้ำตาไหลอาบแก้ม

ในวันนั้นแม้จะถามไปอีกสักกี่ครั้งพ่อของเธอก็ไม่ตอบ

เสียงนาฬิกาปลุกที่นิศากรตั้งเอาไว้ดังเตือน เธอไม่ได้ตั้งไว้เพื่อให้ตื่น แต่ตั้งบอกเวลาเพื่อจะนอน ดังนั้นเธอจึงวางเมาส์ปากกาลง มันไม่ใช่กระดาษกับพู่กันอีกแล้ว ดังนั้นชัยกรจึงไม่ได้รู้ว่าเธอทำอะไรอยู่ในช่วงเวลาส่วนตัว

เสียงโทรศัพท์ทำให้เธอขมวดคิ้ว พอมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็ต้องแปลกใจเพราะเป็นชื่อของบุลิน

“ฮัลโหลค่ะพี่บุ้ง”

“ยังไม่นอนอีกเหรอ เที่ยงคืนแล้วนะ”

“กำลังจะนอนค่ะ ก็สัญญาไปแล้วนี่คะว่าจะนอนเที่ยงคืน นาฬิกาก็เพิ่งจะเตือนเมื่อกี้นี้เอง” หญิงสาวอมยิ้มกับโทรศัพท์ “แล้วพี่บุ้งล่ะคะทำไมไม่นอน ดึกขนาดนี้แล้ว”

“ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำพอดี ก็เลยลองโทรมาเช็ก”

“จะนอนแล้วจริงๆ ค่ะ”

“เชื่อครับ”

หญิงสาวหัวเราะ “แล้วพี่บุ้งล่ะคะจะนอนต่อหรือยัง”

“นอนครับ ง่วงจะตายแล้ว”

“ฝันดีนะคะ”

“ฝันดีครับ”

นิศากรมองหน้าจอโทรศัพท์จนภาพที่ใช้รูปถ่ายพรีเวดดิ้งของเธอกับบุลินเป็นพื้นหลังดับไป เธอถึงได้วางมันลงและดับไฟเข้านอน

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี

    ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี บุลินนอนมองคุณแม่ของลูกสาวทั้งสองซึ่งยังหลับสนิท เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของลูกๆ รวมถึงของเขาด้วย เธอจึงไม่ต้องรีบตื่นเพื่อเข้าครัวทำมื้อเช้าให้กับทุกคน เธอปรือตาขึ้นมองสามี แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองนิ่งๆ เท่านั้น บุลินอดใจไว้ไม่ไหวจึงยื่นหน้าไปจูบหนักๆ ลงบนหน้าผากของคนที่ยังไม่ตื่นเต็มตา ลูกสาวคนโตนอนหลับอยู่ในห้องส่วนตัวของเธอ ส่วนคนเล็กไปนอนค้างกับบวรและปภาดา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงมีเพียงกันและกันอยู่บนเตียงกว้าง ช่างเป็นยามเช้าที่แสนเย้ายวนใจ “น้องไนท์ถุงยางอนามัยหมดแล้ว” บุลินก้มลงกระซิบ มือก็ลากไล้ไปตามเอวของหญิงสาวที่ขยับขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเพราะผ่านการเป็นคุณแม่มาแล้ว นิศากรพยักหน้ารับรู้เบาๆ เขาอมยิ้ม “ถ้าไม่ใช้ก็อาจจะท้องอีกนะครับ” คนฟังขมวดคิ้ว ตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้ยินอีกประโยคสติก็เริ่มแจ่มชัด “พี่บุ้งอยากมีอีกคนเหรอคะ” “เจ้าขาก็โตแล้ว จันทร์เจ้าก็ถูกพี่บีแย่งไป เหงาน่ะไม่มีใครให้อุ้มเลย” “ลูกมากจะยากจนนะคะ” นิศากรหัวเราะคิกคัก

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง

    ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง ลูกสาวคนโตวัยเกือบเจ็ดขวบกว่านั้นไม่เคยมาขอนอนด้วยอีกเลยตั้งแต่มีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองส่วนลูกสาวคนเล็กที่อายุเพิ่งครบห้าปีก็แทบจะไปนอนกับบวรและปภาดาวันเว้นวัน ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงมีเวลาส่วนตัวในยามค่ำคืนอยู่มาก นิศากรหวีผมเรียบร้อยแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไปหาสามีที่กำลังอ้าแขนรอ เธอซบหน้ากับอกของชายหนุ่มพลางหายใจเอากลิ่นหอมจากกายสามีเข้าเต็มปอด “มีอะไรครับ” บุลินเอ่ยถามเพราะรู้สึกได้ถึงอาการกังวลใจของภรรยา “เดย์บอกว่าคุณพ่ออยากเจอไนท์ค่ะ” อ้อมแขนแข็งแรงกอดกระชับแน่นขึ้น “อยากเจอหรือเปล่าครับ” เธอพยักหน้า “เดย์บอกว่าคุณพ่อกังวลมากและคิดอยู่นานว่าจะเจอไนท์ดีหรือเปล่า” หญิงสาวถอนหายใจ “ไนท์จะเริ่มต้นใหม่กับคุณพ่อได้ไหมคะ มันจะราบรื่นหรือเปล่า” “ยังไงก็มีเจ้าขากับจันทร์เจ้าอยู่นะครับ คุณพ่อเอ็นดูสองคนนั้นจะตายไป” บุลินพาลูกสาวทั้งสองคนไปเยี่ยมชัยกรอย่างน้อยเดือนละครั้ง “ลูกต้องช่วยให้บรรยากาศระหว่างเธอกับท่านเป็นไปอย่างราบรื่นแน่” “ไนท์ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” “ยังไงก็

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดุจจันทรา

    ตอนพิเศษ ดุจจันทรา ดุจจันทราหรือน้องจันทร์เจ้าของทุกคน ลูกสาวคนที่สองของบุลิน เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ทำเอาทุกกังวลใจกันไปหมด แต่หลังจากออกจากตู้อบมาแล้ว ร่างกายก็แข็งแรงดี เพียงแต่เจ้าตัวกลับติดบวรมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างบุลินเสียอีก ดังนั้นจึงกลายเป็นพ่อบี พ่อบุ้งไปโดยปริยาย “พรุ่งนี้จันทร์เจ้าจะไปโรงเรียนเป็นวันแรก พี่บีจะไปส่งลูกไหมคะ” ปภาดาซึ่งนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก หันมาถามสามีเมื่อเห็นว่าเขาออกมาจากห้องน้ำแล้ว “พี่ว่าจะไม่ไปหรอก” บวรรับหวีมาจากมือของปภาดาแล้วช่วยแปรงผมให้อย่างเบามือ “อ้าวทำไมล่ะ ลูกไปโรงเรียนวันแรกเลยนะ ไอ้บุ้งก็บอกว่าต้องลองไปสัมผัสดู ครั้งเดียวในชีวิตเลยที่ลูกจะมีวันนี้” ปภาดาฟังประสบการณ์ครั้งแรกของบุลินที่ไปส่งดั่งบุหลันลูกสาวคนโตแล้วตื่นเต้นอยากไปบ้าง “ไม่อยากเห็นน้องจันทร์เจ้าร้องไห้น่ะค่ะ” “โอ๊ย พ่อบี น้องจันทร์เจ้าเก่งจะตายไป ไม่ร้องหรอก” “ต้องร้องแน่ๆ ไม่มีเด็กคนไหนไม่ร้องหรอก ขนาดไอ้บุ้งยังร้องไห้จ้าอยู่เป็นอาทิตย์ๆ” ปภาดาหัวเราะคิกคัก “ปอนด์จำได้ ร้องจนปอนด์รำคาญ แต่เด็กที่ไม่

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน

    ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน “เจ้าขาคนดีของพ่อบุ้ง ทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” บุลินถูกภรรยาวานให้มากล่อมลูกสาวคนโตที่งอแงไม่ยอมไปโรงเรียน ชายหนุ่มเท้าคางนอนตะแคงอยู่ข้างลูกสาวที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนิ่ง แม้ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ยอมตอบกลับมาสักคำ “ลืมทำการบ้านหรือเปล่า กลัวคุณครูดุก็เลยไม่อยากไปโรงเรียนเหรอครับ” บุลินพยายามคาดเดาเหตุผลที่ลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียน “หรือว่าถูกใครแกล้ง” พอพูดออกไปเขาก็ขมวดคิ้ว เท่าที่ผ่านมาไม่มีเด็กกล้ารังแกลูกเขาหรอก เคยทำคนที่มาแกล้งจนฟันน้ำนมหักเลยด้วยซ้ำ เหตุผลนี้คงไม่ใช่ “เราเคยสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอครับว่ามีอะไรก็จะบอกพ่อบุ้ง เจ้าขาก็รู้ว่าพ่อเก็บความลับเก่งที่สุดเลย” คนร่างจิ๋วภายใต้ผ้าห่มขยับตัวยุกยิก บุลินใจชื้นที่ลูกสาวมีปฏิกิริยาสักที เขารอคอยอย่างอดทนให้ลูกสาวออกมาคุยกันดีๆ แต่แล้วกลับนิ่งไปอีก “เอ๊ะ หรือว่าจริงๆ แล้วป่วย” บุลินพยายามจะดึงผ้าห่มออกจากตัวของลูกสาว “พ่อหนูไม่ได้ป่วยนะ” น้ำเสียงเล็กๆ ที่ตอบกลับมานั้นฟังอู้อี้ “แล้วทำไมไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” “ก็มัน...เสียใจ เจ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๓

    ตอนที่ ๒๓ ถึงคนเป็นพ่อจะยังไม่หายดีและยังไม่พร้อมเจอกับนิศากร แต่เรื่องที่ยอมให้อยู่กับบุลินได้อย่างเดิมก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางด้านอารมณ์ของชัยกรไปในทางที่ดี อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่ต้องเผชิญกับอารมณ์เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเกลียดของอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว พอเดินพ้นประตูบ้านเข้าไปด้านในโดยมีมือของบุลินที่กอบกุมมือเธออยู่ ก็พบว่าทุกคนในครอบครัวของเขาอยู่ที่นั่นเพื่อรอต้อนรับการกลับมาของเธอ รวมทั้งน้องสาวฝาแฝดอย่างทิพากรด้วย ซึ่งวันนี้ถูกแต่งหน้าจนสวยกว่าทุกที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของปภาดาอย่างแน่นอน นิศากรเดินเข้าไปหาแสงรุ้งเป็นคนแรก หญิงชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ขวัญเอ๋ย ขวัญมา” แล้วจับมือของหญิงสาวมาบีบเบาๆ “จากนี้ต่อไปก็ขออย่าให้มีอะไรมาพรากเธอไปจากหลานชายฉันอีกเลย” “คงไม่มีแล้วค่ะ ยกเว้นพี่บุ้งจะเบื่อไนท์” “ไม่มีวันนั้นหรอกน่า” บุลินแทรกขึ้นมาทันที “ย่าก็ว่าอย่างนั้นแหละ” หญิงชรายังคงไม่ยอมปล่อยมือของคนอ่อนวัยกว่าและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วคราวนี้ฉันก็จะไม่ยอมแน่” “นั่นสิ คราวนี้ไม่มีใครยอมหรอกนะน้องไนท์” ปภาดาเบ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๒

    ตอนที่ ๒๒ “เราว่าเนื้อเรื่องดูสดใสขึ้นนะ” คเชนทร์ที่ได้รับอนุญาตให้อ่านพล็อตของเพื่อนก่อนใครให้คำวิจารณ์กับเพื่อนสนิท นิศากรยิ้มจนตาหยี “ดีกว่าเดิมใช่ไหม” “เราก็คิดว่าดีกว่าเดิมนะ เหมาะกับลายเส้นน่ารักๆ ของเธอด้วย แถมพระเอกนิสัยสามีแห่งชาติขนาดนี้ เขียนให้เป็นแนวรักไปเลยน่าจะผ่านนะ” เพราะว่าพล็อตคราวก่อนไม่ผ่านจึงต้องมาปรับกันใหม่ “แล้วนี่ อยู่คนเดียวโอเคใช่ไหม” “โอเค เราอยู่ได้ไม่ต้องห่วง แต่ว่าจริงๆ แล้ว พี่บุ้งมาหาทุกสองสามวันเลยแหละ ไม่ค่อยเหมือนอยู่คนเดียวสักเท่าไหร่” คเชนทร์ได้ฟังแล้วก็หัวเราะ เมื่อนึกถึงสามีของเพื่อนที่หย่ากันเพราะความจำเป็น แต่ทั้งสองยังรักกันดีจนเขาอดอิจฉาไม่ได้พอคิดถึงแฟนที่เพิ่งเลิกกันไปก็น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง “เอ๊ะ นั่นน้องสาวเธอหรือเปล่า” นิศากรหันหน้าไปตามสายตาของคเชนทร์ ก็พบว่าทิพากรเดินเคียงมากับชายหนุ่มร่างสูงท่าทางดูดีมากคนหนึ่ง เธอจำได้ว่านั่นคือยามที่เคยเป็นกระแสในโลกโซเชียลของโรงแรมบุลินซึ่งทำให้ยอดจองช่วงหนึ่งมากขึ้นจนน่าตกใจ “สองคนนั้นสนิทกันเหรอเนี่ย” นิศากรเลิก

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status