Beranda / โรแมนติก / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / บทที่ 38 — สนามรบที่ไม่มีผู้ชนะ

Share

บทที่ 38 — สนามรบที่ไม่มีผู้ชนะ

Penulis: mafath9
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-20 01:03:55

บทที่ 38 — สนามรบที่ไม่มีผู้ชนะ

เสียงลมที่พัดผ่านภูเขาในยามบ่ายวันนั้น

ไม่ได้นำกลิ่นของดอกไม้

ไม่ได้นำกลิ่นของเหล็กดาบ

แต่นำเพียงกลิ่นดินที่เปื้อนเลือด

กลิ่นที่แม้แต่ผีในป่าก็เงียบงัน


สนามรบแห่งทาคิซึเมะเคยเป็นทุ่งข้าว

บัดนี้เต็มไปด้วยธงฉีกขาด

ร่างไร้วิญญาณที่ไม่มีใครจำแนกได้ว่าเป็นของตระกูลใด

และเสียงร้องไห้ของผู้ที่รอด แต่ไม่เหลือใครให้กลับไปหา


ฮากุโร่ยืนอยู่กลางเถ้าถ่าน

เขาถือดาบที่ไม่ได้ชักจากฝักมาตลอดสามบทที่ผ่านมา

ดาบนั้นยังสะอาด... แต่หัวใจเขากลับเปื้อนเกินกว่าดินบนพื้น

ข้างกายเขา

ซาโยะคุกเข่าข้างร่างของเด็กชายวัยสิบสองปี

ผู้สวมปลอกแขนตระกูลอิซึมิ แต่ถือดาบที่สลักตราอาโอบะ

เขาตายด้วยสายตาที่เบิกกว้าง

เพราะไม่รู้ว่า...ตนควรฟันใคร


“นี่คือจุดจบของกลยุทธ์ไร้สีงั้นหรือ?” ซาโยะถามเสียงแห้ง

“ฆ่ากันเองจนไม่มีใครเหลือ?”

ฮากุโร่เงียบอยู่ครู่

แล้วกล่าวช้า ๆ

“...ไม่ใช่จุดจบ แต่นี่คือ คำตอบที่แท้จริงของสงคราม

“สงครามที่ไม่มีฝ่ายไหนผิด

เพราะไม่มีฝ่ายไหนเข้าใจเลยว่า...

พวกเขาสู้เพื่ออะไร”


ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าเดียวดังขึ้นจากปลายแนวป่า

ชายในผ้าคลุมเทาเดินผ่านกองศพ

ไม่มีดาบ ไม่มีโล่

มีเพียงพัดไม้ไผ่เล็ก ๆ ในมือ

คาเงะหยุดยืนตรงหน้าฮากุโร่

เขามองชายผู้เคยเป็น "ศิษย์ในเงา" ด้วยดวงตาว่างเปล่า

“ข้าให้เจ้าเลือกตั้งแต่วันแรก—ระหว่างธง กับเงา”

“วันนี้...เจ้าจะเลือกอะไร?”


ซาโยะยืนขึ้นทันที

มือเธอแตะดาบของบิดาที่สะพายอยู่หลัง

“ถ้าไม่มีใครชนะ แล้วจะมีคนตายไปเพื่ออะไร?”

คาเงะตอบเสียงแผ่ว

“เพราะบางคน...เลือกจะตาย ดีกว่ามีชีวิตในโลกที่ไม่รู้ว่าใครคือมิตรแท้”


ในวินาทีนั้นเอง

ฮากุโร่ยกดาบขึ้น

ช้า...มั่นคง…

เขาหันหน้าไปทางซาโยะ

เธอตกใจ—แต่ไม่ถอย

ฮากุโร่กล่าวเสียงแผ่ว

“หากจะมีผู้ชนะเพียงคนเดียว... ข้าขอให้มันไม่ใช่ข้า”

เขาฟาดดาบลงกระทบพื้น

ไม่ใช่เพื่อฆ่า

แต่เพื่อฝังเงาของคาเงะ... และเงาของตัวเอง


เสียงดาบกระทบดินดัง “ฉึบ”

พร้อมกับเสียงเงียบงันที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งสงคราม


และนี่คือ “สนามรบที่ไม่มีผู้ชนะ”

เพราะทุกผู้คน...ต่างแพ้ในใจตนเอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 38 — สนามรบที่ไม่มีผู้ชนะ

    บทที่ 38 — สนามรบที่ไม่มีผู้ชนะเสียงลมที่พัดผ่านภูเขาในยามบ่ายวันนั้น ไม่ได้นำกลิ่นของดอกไม้ ไม่ได้นำกลิ่นของเหล็กดาบ แต่นำเพียงกลิ่นดินที่เปื้อนเลือด กลิ่นที่แม้แต่ผีในป่าก็เงียบงันสนามรบแห่งทาคิซึเมะเคยเป็นทุ่งข้าว บัดนี้เต็มไปด้วยธงฉีกขาด ร่างไร้วิญญาณที่ไม่มีใครจำแนกได้ว่าเป็นของตระกูลใด และเสียงร้องไห้ของผู้ที่รอด แต่ไม่เหลือใครให้กลับไปหาฮากุโร่ยืนอยู่กลางเถ้าถ่าน เขาถือดาบที่ไม่ได้ชักจากฝักมาตลอดสามบทที่ผ่านมา ดาบนั้นยังสะอาด... แต่หัวใจเขากลับเปื้อนเกินกว่าดินบนพื้นข้างกายเขา ซาโยะคุกเข่าข้างร่างของเด็กชายวัยสิบสองปี ผู้สวมปลอกแขนตระกูลอิซึมิ แต่ถือดาบที่สลักตราอาโอบะ เขาตายด้วยสายตาที่เบิกกว้าง เพราะไม่รู้ว่า...ตนควรฟันใคร“นี่คือจุดจบของกลยุทธ์ไร้สีงั้นหรือ?” ซาโยะถามเสียงแห้ง “ฆ่ากันเองจนไม่มีใครเหลือ?”ฮากุโร่เงียบอยู่ครู่ แล้วกล่าวช้า ๆ“...ไม่ใช่จุดจบ แต่นี่คือ คำตอบที่แท้จริงของสงคราม”“สงครามที่ไม่มีฝ่ายไหนผิด เพราะไม่มีฝ่ายไหนเข้าใจเลยว่า... พวกเขาสู้เพื่ออะไร”ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าเดียวดังขึ้นจากปลายแนวป่า ชายในผ้าคลุมเทาเดินผ่านกองศพ ไม่

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 37 — ธงที่ไม่มีเจ้าของ

    บทที่ 37 — ธงที่ไม่มีเจ้าของเช้าตรู่ของวันที่ลมหายใจของภูเขาหยุดนิ่ง ซาโยะยืนอยู่บนยอดหอคอยเก่าที่เคยเป็นป้อมเฝ้าชายแดนของตระกูลอาโอบะ เบื้องหน้าคือนกกากลับรัง—แต่เบื้องล่างคือทหารจากทุกตระกูลที่จับตามองกันเองธงของอิซึมิ...ถูกวางตะแคง ธงของคุเสะ...เปื้อนเลือดแต่ยังโบก ธงของอาโอบะ...แหว่งจากการถูกตัดกลางคืนและมี “ธงหนึ่ง” ที่ไม่มีใครกล้ายืนข้าง—ธงสีเทาไร้ตรา“ธงนี้...เป็นของเจ้าใช่หรือไม่?” ซาโยะถามขณะเดินมาหาฮากุโร่ในลานหินที่ล้อมด้วยไม้พยุงฮากุโร่ไม่ได้ตอบในทันที เขานั่งวางดาบข้างกาย สายตาจับจ้องดินที่เพิ่งถูกเหยียบ“ไม่ใช่ของข้า” เขากล่าวช้า ๆ “แต่ของคนที่ไม่ยอมเลือกข้างใด—แม้จะต้องตาย”ซาโยะมองใบหน้าที่เคยซ่อนภายใต้ผ้าคลุม “เจ้าหมายถึง... คาเงะ?”ฮากุโร่พยักหน้าเบา ๆ “เขาไม่เคยต้องการชัยชนะ แต่ต้องการ ลบความหมายของคำว่า ‘ชัยชนะ’ ออกไป จากแผ่นดินนี้”เสียงกลองรัวดังขึ้นจากชายหาด ขบวนเรือลับจากแคว้นชายฝั่งเคลื่อนเข้ามาใกล้เกินระยะที่ควรบนยอดเรือ มีเพียงธงผืนเดียว—สีเทา ไม่มีตรา ไม่มีชื่อทหารจากสามตระกูลเริ่มเตรียมการ แต่ไม่ทันได้โจมตี—สายลับจากตระกูลอาโอบะก็หันไปฆ่านาย

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 36 — กลยุทธ์ไร้สี

    บทที่ 36 — กลยุทธ์ไร้สี“หากสงครามต้องเริ่มโดยไม่มีธง... เราก็ต้องกลายเป็นสายลม ที่ไม่มีใครล่าได้”— คำกล่าวของฮากุโร่ ก่อนส่งคำสั่งสุดท้ายในเงาคืนแห่งการลงนามพันธสัญญาเพิ่งผ่านพ้นแต่แสงจันทร์ในคืนถัดมา… กลับเย็นเยียบกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในห้องว่างใต้ดินของศาลาร้างกลางภูเขา ฮากุโร่นั่งอยู่เพียงลำพังเบื้องหน้าเขาไม่ใช่แผนที่ ไม่ใช่ดาบ ไม่ใช่พันธสัญญาแต่คือกระดาษขาวเปล่า—ไม่มีตัวหนังสือ ไม่มีสี ไม่มีเงา“สงครามครั้งถัดไป จะไม่มีชื่อ” เขาพึมพำเบา ๆซาโยะยืนเงียบอยู่มุมห้อง มองดูเขาใช้พู่กันจุ่มน้ำเปล่าแทนหมึกรอยพู่กันปรากฏแล้วหายไป… ดั่งกลยุทธ์ที่ไม่มีใครล่วงรู้“เจ้าจะไม่ส่งสารใดเลยหรือ?” เธอถาม“เพราะสารที่ไม่มีเนื้อหา... ย่อมถูกตีความได้ร้อยทาง”เขาไม่มองหน้าเธอ แต่เสียงของเขากระแทกใจขณะเดียวกันนั้นเองในอีกฟากของแผ่นดิน—ทัพลับจากตระกูลคุเสะเคลื่อนพลอย่างเงียบงัน โดยไร้ธงประจำตระกูลทัพจากตระกูลอิซึมิส่ง “นักเรียนดาบ” ปลอมตัวเข้าฝึกในศาลายุวะและอาโอบะ ส่งขุนนางเฒ่ามาร่วมพิธีศพของหญิงชาวบ้านที่ไม่มีใครรู้จักแต่ทุกการเคลื่อนไหวกลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน:เฝ้าสังเกตเงาทดสอบกลยุท

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 35 — สนธิสัญญาเงา

    บทที่ 35 — สนธิสัญญาเงาภายในหอประชุมไม้เก่าแก่ กลางป่ามิสุโนะยามค่ำคืน โคมเทียนเพียงเจ็ดดวงส่องไหวราวลมหายใจของเหล่าขุนศึกผืนเสื่อกลางห้องว่างเปล่า ไม่มีใครกล้านั่งตรงกลาง ไม่มีใครกล้าเป็น “แกนกลาง” แห่งพันธมิตรนี้ซาโยะนั่งอยู่หลังฮากุโร่ มองผ่านม่านเส้นผมของตนเอง—ทุกถ้อยคำที่กำลังจะเอ่ย คือเชือกที่ร้อยผู้นำสามตระกูลเข้าหากัน หรือผูกพวกเขาให้ตายไปด้วยกัน“เราจะทำข้อตกลงใต้แสงเทียน โดยไม่มีใบหน้า ไม่มีชื่อ และไม่มีความแค้น” ฮากุโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงไร้แววอารมณ์อาโอบะยกพัดขึ้นปิดริมฝีปาก “การไม่เอ่ยนาม เป็นธรรมเนียมของพวกเงา... หรือของพวกทรยศ?”อิซึมิหัวเราะแผ่ว “หรือเป็นเพียงการเอาตัวรอดจากคำสาปของอดีต?”เสียงขูดของเหล็กกับพื้นไม้ดังก้อง เมื่อกล่องเหล็กดำขนาดเล็กถูกวางลงตรงกลางเสื่อฮากุโร่เปิดกล่องนั้น เผยให้เห็นเอกสารเพียงฉบับเดียวมันไม่ใช่สนธิสัญญา... แต่มันคือ “บัญชีรายชื่อสายเลือดที่ยังมีชีวิตอยู่ของตระกูลยามาโทะ”ซาโยะเบิกตากว้าง ท่ามกลางรายชื่อที่เต็มไปด้วยหยาดหมึกสีดำ… มีชื่อของบุรุษหนึ่งที่นางเคยคิดว่าตายไปแล้ว“เซนริ…”อดีตพี่เลี้ยงของนาง ชายที่เคยเล่านิทานใต้แสงจันทร์ แล

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 34 — เงาแห่งยามาโทะ

    บทที่ 34 — เงาแห่งยามาโทะเสียงกลองแจ้งภัยยังไม่ทันจางหาย เปลวไฟที่ศาลาน้ำชายังลุกโชน ขณะที่เหล่าทหารวิ่งพล่านในความมืดเช้ามืด ฮากุโร่กลับยืนนิ่งราววิญญาณไร้เงา“พวกมันไม่จ้องจะเผาทำลาย...” เขากล่าวเบา ๆ “…แต่จ้องจะเบี่ยงเบนสายตา”ในห้องใต้ดินลับของศาลากลางแคว้นมิสุโนะ ซึ่งไม่เคยมีการจารึกอยู่บนแผนที่ มีเสียงกระซิบของเหล่าผู้นำสามตระกูลดังลอดจากเสื่อตาตามิตระกูลคุเสะ ผู้นิยมควบคุมด้วยความกลัวตระกูลอาโอบะ ผู้ปกครองด้วยศรัทธาและพิธีกรรมตระกูลอิซึมิ ผู้นำแนวคิดเสรีและกลยุทธ์เปิดหน้า

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 33 — กลิ่นดินปนกลิ่นเลือด

    บทที่ 33 — กลิ่นดินปนกลิ่นเลือดฟ้าก่อนรุ่งบนเนินเขานอกอิคุซะโนะโมริ หนาวจัดราวมีบางสิ่งกำลังรั้งไม่ให้แสงตะวันขึ้นซาโยะยืนอยู่ริมลานฝึกดาบเก่า สายตานางทอดผ่านหมอกที่ยังคลุมแผ่นดินราวอาภรณ์ของศพกลิ่นดินหลังฝนใหม่… ปนกลิ่นเลือดสดที่ยังไม่แห้งดีมีร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่ใต้มะพลับกลางลาน คือ “ยูนากะ” หนึ่งในคนสนิทของฮากุโร่—ผู้เชี่ยวชาญการลอบสังหาร และเคยปกป้องซาโยะไว้ในศึกเพลิงเงา“เขาถูกวางยาและแทงซ้ำ” แพทย์หลวงกล่าวโดยไม่มองนาง “ผู้ลงมือ...รู้จุดตายของคนที่ถูกฝึกให้ฆ่าโดยไม่หายใจ”เสียงของแพทย์แฝงแววหวาดหวั่นฮากุโร่มาถึงโดยไร้เสียงฝีเท้า เขาก้มลงข้างศพ ใช

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status