แชร์

2 คฤหาสน์ตระกูลหยาง

ผู้เขียน: กุญแจฟา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-28 20:38:33

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่ง ฟาหยางหัวเราะในลำคอ ยอมปล่อยมือออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นยืนกอดอกเพื่อดูสีหน้าอีกคนให้เต็มตา

เยว่ซินกัดริมฝีปากอย่างลืมตัว หัวสมองประมวลผลอย่างหนักว่าเธอควรทำอย่างไรดี

หรือจะขอร้องให้ หยวน อี้ ไปส่งเธอ?

เช่นนั้นไม่ได้ หลายคนในนี้คงจะเอาไปนินทากันปากต่อปาก พาลให้คุณอี้ได้รับผลกระทบเสียเปล่าๆ แล้วถ้าเป็นกับฟาหยางล่ะ?

เธอแน่ใจดีว่าไม่มีใครกล้าเอาเรื่องนี้ไปนินทาหากคนที่เธอจะขอกลับด้วยเป็นฟาหยาง แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก เพราะเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนที่จะทำให้เธอกลายเป็นคนเสียสติในอนาคตนี่นา!

หลังจากยืนคิดได้ชั่วครู่ เยว่ซินถึงรู้ว่าตนไม่มีทางออก ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลหยวนซึ่งห่างไกลจากในเมืองที่มีรถสาธารณะมากนัก

"ต้องรบกวนคุณหยางแล้ว" หญิงสาวตอบพลางก้มหน้า จนปัญญาแล้วจริงๆ จางลี่ไม่น่ามาทิ้งกันเลย!

"หึ" ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของฟาหยางแล้ว เยว่ซินถึงกลับต้องเบือนหน้าหนี

สัญญาเลยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะยุ่งเกี่ยวกับเขา!

"อาโป...พาแขกของฉันไปที่รถที" ได้ยินคำสั่งเช่นนั้น ลูกน้องคนสนิทข้างกายโค้งให้นายตนเอง ก่อนจะเดินมาผายมือแก่คุณหนูตระกูลหลี่คนงาม

"เชิญครับคุณเยว่" เยว่ซินพยักหน้า เดินตามคนที่มีนามว่าอาโปไปยังที่รถ ส่วนฟาหยางก็เดินไปอีกฝั่ง คาดว่าคงจะไปบอกลาผู้นำหยวน

เยว่ซินเดินฝ่าฝูงชนออกมา แน่นอนว่ามีหลายสายตาจับจ้องเธอไม่ขาดช่วง ถึงแม้คนเหล่านั้นอยากจะพูดอะไรก็พูดไม่ได้เพราะได้ฟังกิตติศัพท์ของเยว่ซินมามากจึงคร้านจะหาเหาใส่หัว ไหนจะมีบอดี้การ์ดของคุณฟาหยางประกบข้างอยู่ยิ่งไม่ควรเอ่ยปากอะไรทั้งนั้น

เมื่อขึ้นรถเยว่ซินถึงได้หายใจโล่ง ฝั่งลูกน้องนามว่าอาโปเปิดเครื่องยนต์และแอร์ไว้แล้วยืนรอเจ้านายตัวเองอยู่นอกรถ ไม่กี่นาทีต่อมาฟาหยางก็เดินออกมาพร้อมกับสูทตัวนอกที่โดนถอดออกและพาดแขนเอาไว้

เยว่ซินสะดุ้งโหยงยามที่ฟาหยางเปิดประตูและเข้ามานั่งอยู่ข้างกันในเบาะหลัง เธอนึกว่าเขาจะนั่งข้างหน้าเสียอีก

อาโปไม่ได้เข้ามาในทันที ในรถตอนนี้จึงมีเพียงแค่ฟาหยางและเยว่ซินสองต่อสองเท่านั้น

"เป็นอะไรไปล่ะ...ปกติต้องปากจ้อพูดไม่หยุดไม่ใช่หรือ" เสียงทุ้มเอ่ยถามทำให้เยว่ซินต้องหันหน้าไปมอง และนั่นก็ทำให้เธอได้เห็นฟาหยางในระยะใกล้ ชายหนุ่มพิงแขนข้างซ้ายไปกับประตูรถ ดวงตาคมจดจ้องมายังเธอแบบไม่ปิดบัง

"ฉัน...ฉันก็แค่เหนื่อยน่ะค่ะ" ตอบแบบอ้อมแอ้มก่อนจะดึงสายตากลับ เยว่ซินตอนนี้ขยับตัวได้ยากเย็นนัก

"เพิ่งรู้ว่าคนแบบคุณหนูเยว่เหนื่อยเป็นด้วย ฉันเห็นว่าตอนกลั่นแกล้งคนอื่นไม่เห็นเป็นเช่นนี้" เยว่ซินเม้มปาก มันใช่เรื่องที่ควรจะมาพูดตอนนี้ไหมคะพ่อพระเอก!

"แหะๆ" เหมือนหญิงสาวเกร็งจนไม่เป็นตัวเอง เยว่ซินหัวเราะแห้งๆแต่กลับทำให้ฟาหยางหลุดหัวเราะออกมา

"ให้ตายเถอะเยว่ซิน...เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่" คำถามมาพร้อมกับมือหนาที่ช้อนเอาผมของเยว่ซินไว้ ฟาหยางพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าแล้วตาเป็นประกายวับ เพิ่งเคยเห็นเยว่ซินผู้นั้นนิ่งเรียบร้อยแบบนี้ชักน่าสนใจขึ้นแล้วสิ

"คะ..คุณฟาหยาง" เยว่ซินพยายามจะดึงผมตัวเองกลับแต่ไม่เป็นผล เพราะฟาหยางกอบกุมเอาไว้แล้วม้วนเล่นเพลินๆ

"ออกรถ อาโป" เสียงเข้มเอ่ยสั่งเมื่อลูกน้องคนสนิทเข้ามานั่งประจำที่ แต่ถึงแบบนั้นฟาหยางก็ยังคงม้วนผมอีกฝ่ายเล่นเหมือนเดิมจนเยว่ซินยอมแพ้นั่งนิ่งๆ

"ผมต้องส่งคุณหนูเยว่ที่ไหนครับ" อาโปหันมาถามหลังจากขับออกจากคฤหาสน์หยวนมาได้สักพัก ส่วนเยว่ซินที่บัดนี้สติกระจัดกระจายจำต้องเค้นความทรงจำตัวเองให้ได้มากที่สุด

เธอดันจำทางไม่ได้ซะด้วยสิ!

"ไปที่คฤหาสน์ฉัน" แต่เมื่อเยว่ซินกำลังจะตอบพิกัดจำต้องชะงักเมื่อคนข้างกายดันเอ่ยพูดขึ้นเสียก่อน หญิงสาวหันกลับมาหาฟาหยางแล้วรีบปฏิเสธทันควัน

"คุณหยางคะ...คือว่าฉันไม่ได้มีธุระอะไรที่ตระกูลหยาง" ชายหนุ่มช้อนตามองแล้วกระตุกยิ้ม

"ไหนก่อนหน้านี้อยากเข้าให้ได้นักหนาไม่ใช่หรือ...คราวนี้ก็ได้ไปแล้วนี่" เยว่ซินคิดคำในหัวเป็นพันๆคำเพื่อจะโต้แย้งแต่พูดไม่ออก ได้แต่อ้าปากพะงาบๆจนฟาหยางหัวเราะอีกครั้ง

ด้านอาโปที่เห็นเจ้านายหัวเราะได้แต่ฉงนอยู่ในใจ...ปกตินายท่านของตนเองไม่เคยมีรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะเลยยามที่ได้อยู่กับเยว่ซินผู้นี้

"ฉันว่าแบบนี้ไม่ดีมั้งคะ" หญิงสาวพูดเสียงกระท่อนกระแท่น ทำไมยิ่งเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา เขาถึงยิ่งได้หาเรื่องให้เธอด้วยเนี่ย!

"ห่างเหินจังเลยนะคุณหนูเยว่..หรือตอนนี้หันไปสนใจคนอื่นเสียแล้ว?" ครั้นได้ยินคำถามทั้งคนโดนถามและอาโปถึงกับขมวดคิ้วน้อยๆ

รูปแบบคำถามช่างดูเหมือนคนน้อยใจ...แต่เชื่อเถอะว่าฟาหยางคนนี้น่ะก็แค่อยากจะถามแหย่เธอเล่น

เยว่ซินคนนี้เอาหัวเป็นประกัน!

"ไม่ดีเหรอคะ...ปกติคุณก็รำคาญฉันอยู่แล้ว" พอได้ยินคำตอบ ฟาหยางยกยิ้ม แววตาฉายแววสนุกขึ้นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบเช่นเดิม

"ก็ถูกของคุณหนูเยว่"

"..."

"แต่รู้อะไรไหม...ฉันน่ะไม่ชอบให้ใครเมินกันง่ายๆหรอกนะ" ดวงตาสีรัตติกาลเข้มขึ้นทำเอาคนมองหายใจติดขัดชั่วครู่

"โดยเฉพาะคุณหนูหลี่ เยว่ซิน อยู่ๆมาทำเช่นนี้ไม่หักหน้ากันเกินไปหรือ?" เยว่ซินอยากจะทึ้งหัวตัวเอง ดูเหมือนเส้นทางการรอดชีวิตของเธอนั้นช่างยากเย็นยิ่งนัก

"คุณฟาหยางคิดมากไปแล้ว" เยว่ซินพูดยิ้มๆ แม้ในใจจะร้องไห้อยู่ก็ตามที

"งั้นการไปพักที่คฤหาสน์ตระกูลหยางในฐานะแขกก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม" เมื่อโดนยิงคำถามมาเช่นนั้น เยว่ซินจึงไม่มีทางเลือกยอมพนักหน้าในที่สุด

"เป็นเกียรติที่ได้เป็นแขกค่ะ" เธอรู้ดีว่าไม่ควรขัดใจมาเฟียตระกูลใหญ่คนนี้เด็ดขาด ยังไงซะ พักที่คฤหาสน์นั่นสักคืนก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง...

คฤหาสน์ตระกูลหยางกว้างใหญ่ตามที่คิด แค่บริเวณทางเข้าก็กินพื้นที่หลายร้อยไร่ ทำเอาเยว่ซินเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้น ในชีวิตจริงของเธอได้อยู่บ้านหลังใหญ่ก็จริง หากแต่นี่มันก็ใหญ่กว่าบ้านของเธอหลายสิบเท่า

ภายในตกแต่งด้วยทองคำเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะกำแพงหรือประตูก็จะประดับด้วยทองคำทั้งสิ้น

ช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาอะไรเช่นนี้

เยว่ซินสำรวจด้วยสายตามูลค่าคฤหาสน์หลังนี้คงหลายหมื่นล้านหยวนเป็นแน่

"จัดห้องให้คุณหนูเยว่ด้วย" สุรเสียงเอ่ยสั่งสาวใช้ที่เดินมารอรับคำสั่ง เธอโค้งให้ก่อนจะขอตัวออกไปแม้ในใจจะนึกสงสัยนัก เธอจำได้ว่าเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาขอเข้าพบคุณฟาหยางที่คฤหาสน์หลายหน แต่ก็โดนปฏิเสธทุกรอบเช่นเดียวกัน

แล้วทำไมจู่ๆวันนี้ถึงได้มาพักที่นี่กันนะ?

และถึงแม้ว่าใคร่รู้ขนาดไหน สาวใช้อย่างเธอก็ไม่มีสิทธิ์ล่วงรู้เรื่องของเจ้านายอยู่ดี

"ต้องลำบากคุณซะแล้ว" เยว่ซินพูดเมื่อทั่วบริเวณมีแค่เธอและฟาหยางเท่านั้น

"คิดจะเรียกคุณไปตลอดจริงๆหรือ" ฟาหยางยิ้มร้าย...ขนาดเขาเองตอนนี้ก็ยังสงสัย ว่าทำไมถึงได้จุ้นจ้านกับผู้หญิงคนนี้นัก ทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกชอบสักนิด ติดที่รำคาญเสียด้วยซ้ำ

"ถ้าคุณ...เอ่อ...หมายถึงให้ฉันเรียกอย่างสนิทสนมเช่นนั้นคงไม่ดีนัก" เยว่ซินตอบอย่างเกร็งๆ ได้โปรดอย่าคิดจะตีสนิทกันไปมากกว่านี้เลย เธอปวดหัวจะแย่

"แปลกดี...ตอนที่ฉันไม่อนุญาตกลับดื้อดึง...ครั้นตอนที่ต้องการให้เรียกกลับปฏิเสธ" จะว่าไปมันก็ดูน่าพิลึกอย่างที่เขาว่าจริงๆ

"ให้ถือซะว่าฉันเป็นเยว่ซินคนใหม่แล้วกันค่ะ"

"เยว่ซินคนใหม่งั้นหรือ" ชายหนุ่มทวนคำ จ้องมองใบหน้าหวานอย่างสนใจ

ได้โปรด อย่ามองเธอเช่นนั้นเลย เยว่ซินภาวนาในใจ

"ห้องพักคุณหนูเยว่เรียบร้อยแล้วค่ะ" ราวกับฟ้ามาโปรด สาวใช้เดินมาแจ้งด้วยท่าทีสุภาพ

"ฉันขอตัวนะคะ อยากอาบน้ำจะแย่" พอพูดถึงอาบน้ำเธอถึงนึกขึ้นได้

"ไม่ทราบว่าเสื้อผ้า..."

"ด้านบนมีทุกอย่างพร้อมให้เธอแล้ว...ตามสบายนะคุณหนูเยว่" แม้จะสงสัยว่าทำไมในห้องพักของแขกถึงต้องมีเสื้อผ้าผู้หญิงอยู่ด้วย แต่เยว่ซินก็ไม่ได้เอ่ยถาม เพียงแค่โค้งให้เจ้าของบ้านแล้วเดินตามสาวใช้ไปเงียบๆเท่านั้น

ทันทีที่เยว่ซินเดินไปจนลับสายตา แววตาฟาหยางกลับมานิ่งสงบเช่นเคย มือหนาประดับรอยสักยกซิการ์ขึ้นสูบเงียบๆ ประมุขตระกูลหยางปล่อยให้เรื่องราวในหัวดำเนินไปก่อนที่อาโปจะเดินเข้ามาแล้วโค้งให้กับตน

"หยวน อี้สอบถามกับลูกน้องจริงๆครับว่าคุณหนูเยว่กลับกับใคร" มุมปากกระตุกยิ้มทำเอาลูกน้องเสียวสันหลังวาบ เวลานี้ฟาหยางดูร้ายกาจเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก

"ดูแลเยว่ซินให้ดี...ฉันไม่ยอมให้ความสนใจของเธอไปตกที่หยวน อี้เด็ดขาด"

"..."

"ในเมื่อกล้าเข้ามาในชีวิตฉันแล้ว อย่าคิดว่าจะได้ออกไปง่ายๆเลย คุณหนูเยว่"

เยว่ซินรู้สึกสบายตัวขึ้นมากยามที่ได้ถอดชุดหนักๆและแช่น้ำผ่อนคลาย ภายในห้องทั้งกว้างและหรูหรากว่าห้องที่เธอพักมากนัก เฟอร์นิเจอร์ยังคงคอนเซ็ปท์จนเยว่ซินนึกในใจว่าฟาหยางไม่กลัวแขกขโมยไปขายหรือ?

ครานี้เธอหยุดนั่งลงบนโซฟาภายในห้อง ลองนึกย้อนถึงเนื้อเรื่องในนิยายมันมีฉากนี้ด้วยหรือ?

ใช่...เหมือนมันจะเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ที่ได้คุยกับฟาหยาง เพราะในนิยายคนที่เป็นฝ่ายเข้าไปหาเป็นเยว่ซินเอง แล้วไหนจะโดนชายหนุ่มทำให้เสียหน้ากลางงานอีก

แต่นี่มันกลับตาลปัตร...ฟาหยางเป็นคนเข้ามาหาก่อนแถมยังชวนเธอให้เป็นแขกมาพักที่นี่เสียอีก

ช่างเป็นเรื่องบ้าบอเสียจริง...

เยว่ซินหยุดความคิด ตัดสินใจออกมาเปิดประตูดูว่าด้านนอกมีใครอยู่หรือไม่ ตอนนี้เธอหิวมากจริงๆ เพราะในงานได้กินแค่เล็กน้อยเอง

เหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่ เยว่ซินเดินลงไปยังห้องครัว ที่เธอรู้ได้เพราะในนิยายนั้นมีหลายฉากนักที่เกิดขึ้นที่คฤหาสน์ฟาหยาง มือเรียวเปิดหาของกินง่ายๆในตู้เย็น ฟาหยางคงไม่ใจร้ายใช่ไหม ถ้าเธอจะขอขโมยเสียหน่อย

แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องชะงัก เมื่อกลิ่นหอมๆของอะไรบางอย่างลอยมาจากทางด้านหลังของเธอ

เยว่ซินหันกลับไปมองแล้วก็ต้องตกใจเพราะฟาหยางกำลังยืนพิงกำแพงสูบซิการ์มองเธออยู่ ชายหนุ่มยังคงอยู่ในชุดที่ใส่ไปงานเมื่อครู่ หากแต่เสื้อเชิ้ตนั้นแขนเสื้อถูกถกขึ้นถึงข้อศอก กระดุมเสื้อโดนปลดลงสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกแข็งแกร่งที่เยว่ซินเผลอกลืนน้ำลาย

"คุณฟาหยาง" ชายหนุ่มยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางราวกับกระต่ายน้อยโดนจับได้ว่าขโมยแครอท

"อือ"

"ยังไม่ขึ้นไปพักผ่อนอีกหรือคะ" เยว่ซินถามแบบใจดีสู้เสือ

"ถ้าขึ้นไปก็คงไม่เห็นว่ามีกระต่ายน้อยมาขโมยอาหารจริงไหม" กระต่ายน้อยอะไรกันเล่า! เยว่ซินกล่าวแย้งในใจ

"หิว?" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม

"อ่า...ค่ะ ขอยืมใช้ห้องครัวและของสดหน่อยนะคะ"

"คุณหนูเยว่ทำอะหารเป็นด้วยหรือ" ฟาหยางขยับเท้าเข้ามาใกล้ โชคดีที่มีเคาน์เตอร์ครัวขวางกั้นอยู่เยว่ซินจึงไม่ได้อึดอัดมากนัก

"ก็พอทำเป็นค่ะ" ตอบแบบอ้อมแอ้ม ในชีวิตจริงเยว่ซินเรียกได้ว่าทำอาหารคล่องเลยทีเดียว

"งั้นถ้าฉันจะขอฝากท้องสักมื้อก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม"

"ฝากท้องอะไรกันคะ วัตถุดิบก็ของคุณหยางทั้งนั้น" ฟาหยางที่ได้ยินคำตอบแล้วหัวเราะเบาๆ เยว่ซินตอนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ

"งั้น ฉันจะทำซุปใสแล้วกันนะคะ เวลานี้ควรกินอะไรที่ย่อยง่ายๆ" เห็นท่าทางราวกับแม่ครัวของเยว่ซินแล้วฟาหยางต้องทิ้งสายตาไว้ แม้กระทั่งหญิงสาวตอนอยู่ในชุดนอนก็น่ามองยิ่งนัก

ฟาหยางไม่ได้เข้าไปรบกวนคนตัวบางอีก เขาแค่ยืนมองเงียบๆคอยเก็บรายละเอียดต่างๆไว้ในหัว มองดูคุณหนูตระกูลหลี่หยิบนู่นจับนี่อย่างคล่องมือ

ใช้เวลาไม่นานซุปใสที่มีเนื้อสัตว์และเครื่องเทศกลิ่นหอมต่างๆก็เสร็จ เยว่ซินเม้มริมฝีปากตนเองยามที่เห็นว่าฟาหยางมองอาหารอย่างสนใจ

"เพิ่งรู้ว่าคุณหนูเยว่ทำอาหารเก่งขนาดนี้"

"อาจจะไม่ถูกปากเท่าแม่ครัวของตระกูลหยางนะคะ" ฟาหยางส่ายหน้า หัวเราะเบาๆ

ทั้งสองเริ่มรับประทานอาหารโดยไม่ได้พูดคุยกันอีก กิริยาท่าทางของฟาหยางนั้นสมกับเป็นผู้ดีปกครองแผ่นดินจีนและฮ่องกง

ใช้เวลาไม่นานในการทานอาหารเสร็จ เยว่ซินจัดการทำความสะอาดด้วยความเคยชิน แต่กลับสร้างความแปลกใจให้แก่ฟาหยางอย่างมาก

"ไม่กลัวสกปรกหรือคุณหนูเยว่"

"คะ?"เยว่ซินเอียงคอ ช้อนตามองคนตัวสูงกว่า

"ปกติคุณหนูเยว่ไม่ใช่คนแบบนี้นี่" หญิงสาวหัวเราะ มือเรียวคว้าผ้ามาเช็ดมือหลังจากทำความสะอาดเสร็จ

"ฉันบอกแล้วไงคะว่านี่คือเยว่ซินคนใหม่"เยว่ซินหันกลับมาหาฟาหยางเต็มตัว

"ก่อนหน้านี้ฉันคงทำคุณลำบากใจไว้มาก" ชายหนุ่มจดจ้องดวงตาคู่สวย ในนั้นเต็มไปด้วยความจริงจัง

"หลังจากนี้ฉันจะไม่ทำตัวให้คุณรำคาญอีก" เยว่ซินเอ่ยพูด เธอคิดว่าหลังจากนี้จะตัดขาดกับเหล่าตัวเอกได้และจุดจบชีวิตเธอจะไม่กลายเป็นเช่นในนิยายอีก!

"เยว่ซิน" ราวกับเผลอตัว ฟาหยางเอ่ยชื่ออีกคนเสียงเบา ส่วนเยว่ซินพอได้พูดสิ่งในใจออกไปจึงเตรียมตัวกลับขึ้นห้องเพื่อไปพักผ่อน

ลับหลังหญิงสาว สายตาดุดันกลับมาเข้มขึ้น สีหน้าของฟาหยางตอนนี้หากเหล่าลูกน้องมาเห็นเข้าคงจะเข่าอ่อนกันเป็นแน่

"ไม่มีทางหรอกอาเยว่...ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไป"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 4 คริสต์มาสกับตระกูลหยาง

    ยี่สิบสี่ธันวาคมคือวันที่คฤหาสน์ตระกูลหยางดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ ได้ยินเสียงถกเถียงของทายาทตระกูลใหญ่ที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการพูดแข่งกันราวกับพูดกับกระจก "เฟิ่งบอกว่าจะให้หม่าม๊าใส่ตัวนี้" "ก็เฮียบอกว่าตัวนี้ไงอาเฟิ่ง" เด็กชายวัยกำลังย่างเข้าหกขวบยื้อแย่งชุดคลุมสีแดงที่ทางห้องเสื้อส่งมาให้นายหญิงตระกูลหยางเป็นพิเศษ มีทั้งแบบที่กำลังนิยมในปัจจุบันและแบบที่ตัดออกมาสำหรับคุณหนูเยว่ซินโดยเฉพาะ "หม่าม๊าเอาตัวนี้นะ" เฟยหลงว่าพลางกำลังจะวิ่งเตาะแตะไปทางมารดาตัวเองที่ยืนเลือกแบบขนมสำหรับงานเลี้ยงที่จะจัดพรุ่งนี้ หากแต่กลับโดนมือป้อม ๆ ของแฝดคนน้องยกขึ้นห้ามกันไว้เสียก่อน "ไม่เอา หม่าม๊าต้องใส่ตัวนี้สิ" "เอ่อ..." เหล่าสาวใช้ที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ยืนเหงื่อตก พวกเธอรู้ดีว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับหม่าม๊าของเฟยหลงและเฟยเฟิ่งแล้วนั้นจะไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ อาเฟิ่งยอมให้พี่ชายตัวเองได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องหม่าม๊า อาเฟยหลงหลับหูหลับตาไม่มองยามโดนน้องชายตัวเองแอบหยิบของเล่นชิ้นโปรดไปได้แต่ถ้าเป็นเรื่องม๊าเยว่ซินแล้วเขาไม่มีวันยอม "หม่าม๊า/หม่าม๊า" คราวนี้ทั้งคู่พูดขึ้นมาพร้อมกันจนเยว

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 3 ป่วนฟาหยาง

    ในบริษัทตระกูลหยางที่ห้องท่านประธานวันนี้ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวกว่าปกติ ฟาหยางจำต้องยกมือขึ้นกุมขมับเล็กน้อยเพราะเสียงถกเถียงกันของเจ้าแฝดหรือก้อนแป้งที่เยว่ซินชอบเรียก "อาเฟิ่งเอาอีกแล้ว!" ได้ยินเสียงเฟยหลงโวยวายอยู่ยกใหญ่ เด็กชายวัยสี่ขวบตัวสูงกว่าพนักวางแขนของโซฟานิดเดียวซึ่งอยู่ในชุดเอี๊ยมน่ารักที่ถูกหม่าม๊าจับแต่งตัวให้ เฟยหลงขู่ฟ่อมองน้องชายตัวเองที่นั่งอยู่บนนั้น "เฮียเสียงดัง" ก่อนเฟยเฟิ่งซึ่งในมือถือถุงขนมที่คาดว่าคงแบ่งกันไม่ลงตัวตอบพลางยกมืออีกข้างขึ้นปิดหู เจ้าก้อนแป้งอยู่ในชุดแบบเดียวกันทั้งหน้าตาที่ถอดแบบกันมาทุกประการ "อาเฟิ่งก็คืนมาสิ!" "ไม่เอา ก็เฟิ่งอยากกิน" คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันน้อย ๆ ปกติแล้วเฟยเฟิ่งมักจะตามใจพี่ชายตัวเองอยู่เสมอซึ่งฟาหยางคิดว่าคงเป็นเพราะอยากตัดรำคาญเสียมากกว่า เฟยหลงอมลมในปาก หันซ้ายหันขวาราวกับกำลังหาตัวช่วย "ป๊า!" ครั้นพอไม่รู้จะพึ่งทางไหนจึงเดินเตาะแตะมาหา ฟาหยางยอมวางปากกาในมือลง วันนี้เยว่ซินไปซื้อของกับจางลี่ถึงได้ฝากลูกลิงทั้งสองคนไว้ที่เขา "อืม...ว่าอย่างไร" แม้ได้ยินชัดทุกคำว่ามีปัญหาอะไรกันมาแต่ฟาหยางก็ยังเอ่ยถาม เขาต้องก

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 2 อาเยว่ซินงอแง

    ช่วงหลังจากที่ทราบว่ามีเจ้าก้อนกลมสองก้อนอยู่ในท้องก็เป็นช่วงที่ฟาหยางปวดหัวไม่น้อยเนื่องจากอาการของคนท้องไม่ใช่สิ่งที่จะคาดเดาอะไรได้ ฟาหยางที่วันนี้ต้องกลับจากบริษัทเร็วกว่าทุกวันขนาดที่ว่าเขาเพิ่งจะไปถึงบริษัทได้ไม่เกินสิบห้านาที 'คุณหนูเยว่ร้องไห้ค่ะ ไม่ว่าใครถามอะไรก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่าจะเจอคุณหยางแค่คนเดียวค่ะ' สายจากสาวใช้ที่คฤหาสน์โทรมาหากันด้วยน้ำเสียงร้อนรน ปกติเยว่ซินมักเป็นคนที่ยิ้มแย้มและอารมณ์ดีอยู่เสมอ เธอมีเหตุผลกับทุก ๆ เรื่องแต่ยามนี้ที่จู่ ๆ อาจด้วยฮอร์โมนหรืออะไรก็แล้วแต่มันทำให้คนในคฤหาสน์ตื่นตูมกันไปเสียหมด พยายามทั้งปลอบทั้งหาของกินมาเท่าไหร่แต่ก็เหมือนว่าจะไม่เป็นที่พอใจของนายหญิงผู้นี้เลยแม้แต่น้อย "อาซิน" ขายาวก้าวเร็ว ๆ ไปยังห้องนั่งเล่นทันทีที่ลงจากรถ ฟาหยางรีบขนาดที่เขาขับรถมาเองโดยไม่รออาโป ทำเอาฝั่งลูกน้องที่บริษัทก็วุ่นวายอยู่พอสมควร "ฮึก..." ยังได้ยินเสียงสะอื้นจากคนที่ฟุ่บหน้าอยู่กับหมอนอิง เหล่าสาวใช้ที่เห็นว่าฟาหยางมาแล้วจึงรีบลุกขึ้นค้อมศีรษะให้แล้วเดินออกจากบริเวณนั้นทันที "เกิดอะไรขึ้น" เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางรวบคนตัวเล็กเข้าในอ้อมแขน เยว่ซิน

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 1 ฮันนีมูนกับฟาหยาง nc18+

    สามสัปดาห์หลังจากแต่งงาน แม้ห่าวอู๋จะพูดอยู่ทุกวันว่าให้ทั้งคู่คิดประเทศที่จะไปฮันนีมูนกันเสียทีแต่เยว่ซินก็คิดไม่ออก หญิงสาวบอกเลื่อนทริปมาตลอดจนถึงวันนี้ที่ห่าวอู๋เดินทางมาที่คฤหาสน์ตระกูลหยางด้วยตัวเอง 'เตี่ยจองที่พักบนเกาะไว้ให้แล้ว เรื่องงานที่บริษัทเตี่ยจะจัดการทุกอย่างเอง อาเยว่ซินเตรียมตัวไปฮันนีมูนกับอาหยางได้เลย' นั่นคือประโยคที่ได้ฟังจากห่าวอู๋ก่อนที่วันต่อมาในตอนเช้ามืดก็โดนสามีตัวเองอุ้มขึ้นรถตั้งแต่ยังไม่ตื่นดี เยว่ซินนึกสงสัยอยู่ตลอดว่าทำไมเวลาจะไปทริปต่างประเทศแล้วจะต้องไม่ได้เตรียมตัวเสียทุกครั้งกันนะ แต่ถึงจะอยากโวยวายทั้งประมุขคนก่อนและคนปัจจุบันของตระกูลหยางนี้สักเท่าไรก็คงทำไม่ได้ แน่นอนว่าเธอก็ไม่คิดเสี่ยงจะทำ "คราวนี้อาโปก็มาหรือคะ" สิ่งที่ต่างไปจากทริปที่อิตาลีครั้งนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นว่ามีลูกน้องมาด้วยกัน ฟาหยางขานรับในลำคอ "ถือเป็นวันพักผ่อนให้พวกเขาด้วย" เยว่ซินพยักหน้าเห็นด้วย สมควรอย่างยิ่งเพราะลูกน้องฟาหยางแต่ละคนใช่ว่าจะมีงานน้อย ๆ เสียที่ไหน "แต่ไม่ต้องห่วง พวกนั้นกับเราอยู่คนละที่พัก ไม่มีใครกวนตอนเธออยู่กับเหล่ากงได้หรอก" คำพูดเจ้าเล่ห์มาพร

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนจบ กับฟาหยางตลอดไป

    ผ่านไปสองเดือนหลังจากการประกาศแต่งงานในวันนั้น ฟาหยางไม่ให้เยว่ซินรับงานใด ๆ ทั้งสิ้น และงานที่บริษัทก็เหมือนว่าเลี่ยงหรงจะเป็นคนจัดการทุกอย่างและถึงแม้เป็นแบบนั้นเขาก็ยังรายงานแก่ฟาหยางประหนึ่งบริษัทหลี่กลายเป็นบริษัทในเครือของฟาหยางไปเสียแล้ว "คุณหนูเยว่รับขนมอีกไหมคะ" และเพราะวัน ๆ เยว่ซินแทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากเข้าคอร์สเจ้าสาวที่ห่าวอู๋และเครือญาติตระกูลหยางจัดหาให้จึงทำได้แค่นั่ง นอน กินและออกไปตามนัดบ้างเป็นครั้งคราว "พอแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ" คนตัวเล็กตอบพลางระบายยิ้มงดงาม มือเรียวสวยปิดหนังสือลงแล้วเหลือบมองเวลาเล็กน้อย ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว ปกติฟาหยางมักจะกลับมาในเวลานี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในต้นเดือนหน้า "คุณหยางมาถึงแล้วค่ะ" เป็นจังหวะพอดีกับที่มีสาวใช้อีกคนหนึ่งเดินเข้ามารายงานกัน เธอทอดมองคุณหนูเยว่ซินที่อยู่ในชุดกระโปรงยาวสีครีม ผิวขาวราวน้ำนมที่ไม่ได้ต้องแดดมานาน ทั้งแก้มและริมฝีปากแดงระเรื่อ ไม่ว่าจะมองในมุมไหน ๆ คุณหนูเยว่ก็ดูงดงามไปเสียทุกส่วน นี่หรือเปล่าที่เขาว่ากันว่าออร่าของคนกำลังจะเป็นเจ้าสาว "อาซิน" พลันในวินาทีนั้นด้านหลัง

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   31 ภรรยาฟาหยาง

    เยว่ซินไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ เธอเพิ่งจะยืนอยู่ที่ครัวในคอนโดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงมาอยู่ที่อิตาลีได้? ไม่ใช่แค่นั้นแต่ตอนนี้เธอมากับฟาหยางแค่สองคน! ใช่...ไม่มีอาโปและลูกน้องมาด้วยกันเลย "อาเยว่อยากทานอะไร" "ดะ...เดี๋ยวก่อนค่ะ" มือเรียวยกขึ้นกั้นระหว่างกันทั้งแววตาที่ฉายความสับสนชัดเจน ฟาหยางหัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาเช่นนั้น "นี่มันเหนือความคาดหมายไปหน่อยนะคะ" "ทำไม เธอไม่อยากมาเที่ยวกับอาฟาหรือ?" คนตัวสูงคล้ายสุนัขตัวโตที่เยว่ซินได้แต่ถอนหายใจ มือหนาเอื้อมมาประคองกันไว้พลางเอ่ยขึ้นอีกรอบ "ไม่อยากลองอยู่กันแค่สองคนบ้างหรือ" ครั้นโดนออดอ้อนซึ่ง ๆ หน้าทำเอาคนตัวเล็กไร้คำจะเถียงอีก ตอนนี้ทั้งคู่อยู่กันที่ที่พักแห่งหนึ่งในเกาะซิซิลี เยว่ซินไม่รู้เลยว่าเขาจัดการเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ตอนไหน "ความจริงชวนฉันดี ๆ ก็ได้นี่คะ อีกอย่างฉันไม่ได้เอาสัมภาระมาเลย" ไม่รู้จะพูดว่าโดนแกล้งได้ไหม เพราะฟาหยางไม่คิดจะบอกเธอสักคำ หากนี่เป็นเซอร์ไพรส์ก็ดูจะเกินเรื่องไปเสียหน่อย "ซื้อใหม่ทั้งหมดที่นี่" "..." "หายหน้ามุ่ยเถอะนะ ถ้าอาฟาบอกเธอล่วงหน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status