แชร์

3 เยว่ซินกับโฆษณา

ผู้เขียน: กุญแจฟา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-29 05:34:22

ข่าวเช้าวันต่อมาทำเอาเยว่ซินปวดหัวไม่น้อย เมื่อทุกสื่อข่าวดันเอารูปภาพของเธอไปเล่นข่าวกันทุกสำนัก!

เป็นเพราะจางลี่ที่อนุญาตนั่นแหละ!

เยว่ซินกลับจากคฤหาสน์หยางแล้ว ตอนนี้เธอกำลังติดต่อจางลี่ให้มาพบกันที่ร้านกาแฟแต่ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะรับสายเลย

จะขี้เมาไปถึงไหนนะ...

เยว่ซินโดนวิพากษ์วิจารณ์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านดีและไม่ดี บ้างก็ชมว่าสวยสง่าบ้าง หรือแอ๊บเวลาอยู่หน้าสื่อ...

หญิงสาวตัดสินใจคร้านจะใส่ใจ ตอนนี้เธอต้องรีบวางแผนชีวิตตัวเองแบบจริงจังเสียที

แต่ไม่ทันที่จะได้ทำอะไรมากนัก จู่ๆโทรศัพท์ก็แผดเสียงร้องเป็นเบอร์ที่ไม่โชว์ชื่อผู้โทรขึ้นมา

"สวัสดีค่ะ เยว่ซินค่ะ" หญิงสาวรับสาย คิ้วเรียวผูกเป็นปมเมื่อได้ยินเสียงกุกกักจากอีกฝ่าย

"คุณหนูเยว่" เสียงแบบนี้มัน...

"คุณหยวน อี้?"

"ครับ...กว่าผมจะหาทางติดต่อคุณหนูได้" ได้ยินเช่นนั้น เยว่ซินก็ยิ่งสงสัยขึ้นอีก

"มีอะไรกับฉันหรือคะ" หรือว่าเธอจะเผลอไปทำอะไรที่ไม่ดีในงานเมื่อคืนเข้า!?

"ผมเป็นห่วงเรื่องข่าวคุณหนูตอนนี้น่ะครับ เลยอยากโทรมาถามเพื่อความสบายใจ" พอได้ยินเช่นนั้นร่างบางเผลอถอนหายใจออกมา

อย่างน้อยก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี

"คุณหยวนอาจจะลืมไปว่าฉันเคยโดนมาหนักกว่านี้นะคะ" อ้างอิงจากในนิยายและความทรงจำที่เธอพอมีนั้น เยว่ซินคนเก่าไม่เคยเป็นที่รักของใครทั้งสิ้น มีข่าวเสียหายไม่เว้นแต่ละวัน นั่นนับเป็นเรื่องที่ดีเพราะเยว่ซินตอนนี้ดันได้รับภูมิคุ้มกันจากเยว่ซินคนเก่าอยู่เหมือนกัน

"ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นแบบที่คุณหนูว่า ผมคงลืมไปจริงๆ" อีกฝั่งตอบกลับ บทสนทนาระหว่างกันดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย

"แต่ก็ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะคะคุณหยวน อี้"

"ถ้าคุณรู้สึกเช่นนั้นจริงๆผมขอสิ่งตอบแทนสักเรื่องได้ไหมครับ" เยว่ซินร้องหืมในลำคอ นี่พระรองกำลังจะขอสิ่งตอบแทนจากการที่เธอรู้สึกขอบคุณเนี่ยนะ?

"คุณหนูอย่าได้กังวล สิ่งที่ผมขอนั้นเล็กน้อยมากครับ" เมื่ออีกฝ่ายพูดเช่นนั้นเยว่ซินเลยขอให้ลองพูดมา

"ให้ฉันเรียกคุณหยวนว่าอาอี้หรือคะ?" เยว่ซินทวนคำตาโต

"ฮ่าๆๆใช่ครับ...ผมไม่อยากให้เราห่างเหินกันเกินไป" หญิงสาวเม้มปาก ความจริงเธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับตัวละครหลักของเรื่องเลยด้วยซ้ำ

"ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกกันอย่างเป็นกันเองได้ ฉันจะเรียกแบบนั้นแล้วกันนะคะ" เยว่ซินยื่นข้อเสนอ นั่นทำให้อีกฝ่ายรู้สึกยินดีมาก

คุยกันต่อได้ไม่นานหยวน อี้ ก็ต้องขอตัวไปประชุมต่อ พอดีกับที่จางลี่โทรฯกลับมาหาพอดี

"จางลี่!" ทันทีที่รับสาย เยว่ซินเอ่ยเรียกอีกคนเสียงดุทันที

"อาเยว่...จางลี่ขอโทษ~" และเหมือนว่าอีกฝั่งจะรู้อยู่แล้ว นั่นเลยทำให้พูดเสียงออดอ้อนมาเช่นกัน

และเหมือนว่าเรื่องนี้เยว่ซินต้องเคลียร์กับเพื่อนตัวดียาวเลยทีเดียว...

"คุณฟาหยางครับ...คุณหนูจูมาขอพบ" ฟาหยางปรายตาขึ้นจากเอกสาร พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงอนุญาตก่อนที่อาโปจะเดินไปแจ้งแก่คนด้านนอก

ไม่นานนักเสียงรองเท้าก็เดินเข้ามาพร้อมกับเสียงสดใสที่เอ่ยเรียกตน

"พี่ฟาคะ" ฟาหยางขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นส่งสายตาดุๆให้

"อาจูขอโทษค่ะ ไม่เห็นว่าพี่อ่านงานอยู่" คร้านจะใส่ใจเด็กตรงหน้า ฟาหยางก้มลงอ่านเอกสารต่อ เมื่อเห็นว่าข้อมูลครบถ้วนถึงได้จรดปากกาเซ็นอนุมัติลงไป

"มีอะไรถึงมาหาถึงนี่" คราวนี้เขาเงยหน้าถาม อาจูดูหน้าซึมๆลงเล็กน้อยที่โดนเขาตวัดตาดุใส่

"คุณพ่อให้อาจูมาชวนพี่ไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านค่ะ" ชายหนุ่มนิ่งเงียบ ประมวลความคิดชั่วครู่

"วันนี้คงไม่ได้ ฝากบอกคุณลุงว่าถ้าฉันว่างเมื่อไหร่แล้วจะบอกล่วงหน้า" เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวมีท่าทีหงอยลงกว่าเก่า

"ตอนงานเลี้ยงตระกูลหยวนพี่ก็ไม่ได้มารับอาจูตามที่ตกลง แถมยังไปทานข้าวด้วยไม่ได้อีก"

"แล้วยังไง" เสียงเข้มถามนิ่งๆแต่คนโดนถามกลับสะดุ้งเมื่อเธอเผลอตัวเง้างอนใส่ฟาหยางเสียอย่างนั้น

"ปะ...เปล่าค่ะ...งั้นอาจูจะบอกคุณพ่อตามที่พี่พูดนะคะ"

"อืม" ฟาหยางกลับไปสนใจเอกสารต่อ ทิ้งให้แขกที่เพิ่งมายืนเคว้งไม่รู้จะชวนคุยอย่างไรต่อดี

"พี่ฟาคะ"

"พูดมาสิ" อาจูเม้มริมฝีปาก มือทั้งสองถูกันไปมาอย่างประหม่า

"อาจูเห็นข่าวเมื่อเช้า...ที่พี่กับพี่เยว่ซิน..." คราวนี้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากกระตุกยิ้มเล็กน้อยยามได้ยินชื่อของอีกคน

ออกข่าวแล้วงั้นหรือ...ตอนนี้ทั้งเจ้าตัวและหยวน อี้จะเห็นหรือยังนะ?

"พี่เยว่ซินกลับกับพี่อย่างนั้นเหรอคะ..." ท้ายคำถามอาจูพูดเสียงเบา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้มาเฟียแผ่นดินใหญ่ไม่ได้ยิน

"ใช่...ฉันอาสาเอง" พอได้ยินคำตอบเช่นนั้น อาจูเลือกที่จะเงียบ ความจริงเธอก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีหรอก เพียงแต่สงสัยว่าทั้งสองคนเกลียดกันมากไม่ใช่หรือ?

"จริงสิพี่ฟาคะ...เหมือนอาจูจะได้ยินมาว่าเพื่อนสนิทของพี่เยว่ซิน...เอ...ชื่อจางลี่หรือเปล่านะ กำลังทาบทามให้พี่เยว่ซินเข้าทำงานด้านการบันเทิงอยู่น่ะค่ะ" ฟาหยางวางเอกสารลง ในตาที่ดุดันฉายแววสงสัย เยว่ซินคนนั้นจะเข้าทำงานเป็นดาราหรือ?

"น่าสนุกจังเลยนะคะ อาจูก็อยากทำบ้าง" ฟาหยางหัวเราะ คนแบบเยว่ซินจะทำได้จริงๆหรือ

"พี่ฟาหัวเราะอาจูเหรอคะ...อาจูก็แค่อยากลองทำดู" เหมือนเด็กสาวจะเข้าใจผิดว่าฟาหยางหัวเราะเอ็นดูตน แต่จริงๆแล้วเขาแทบจะไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลยสักนิด

แหงล่ะ...ตอนนี้เขาอยากไปถามเยว่ซินด้วยปากตนเองจริงๆว่าเรื่องนี้เป็นข่าวจริงหรือไม่

อาจูอยู่คุยต่อเพียงครู่เดียวก็ขอตัวกลับ เมื่อในห้องไม่มีแขก อาโปถึงได้เข้ามารอรับฟังคำสั่งเจ้านายตนเอง

"นัดคุณหนูเยว่ให้ฉัน...บอกเธอว่าฉันมีเรื่องอยากจะสอบถาม"

"ครับคุณหยาง"

"เอาเป็นนัดทานข้าวเย็นนี้แล้วกัน" อาโปโค้งให้นายตนเองก่อนจะออกไปจัดการให้

ทิ้งให้มาเฟียแผ่นดินใหญ่นั่งเคาะนิ้วตัวเองไปกับโต๊ะด้วยสายตาวาววับ

เยว่ซินปฏิเสธ...

ใช่ เรื่องอะไรเธอจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกตัวเอกอีกล่ะ! แน่นอนว่าเมื่อวานจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะขอเจอเขา

"นี่ผีเข้าหรือผีออกกับฮะคุณหนูเยว่ แกปฏิเสธคุณฟาหยางเนี่ยนะ!" เสียงแสบแก้วหูของจางลี่ทำเอาเยว่ซินต้องยกมือขึ้นปิดหู

"ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่สนใจเขาแล้วน่ะ" จางลี่แทบจะเป็นลม

ตอนนี้ทั้งคู่อยู่กันที่ร้านกาแฟซึ่งไม่ห่างจากที่พักเยว่ซินมากนัก

"แล้วทางบริษัทแกว่ายังไงบ้าง ให้ฉันไปสัมภาษณ์ได้เมื่อไหร่"

"แหม...เดี๋ยวนี้กระตือรือร้นแค่เรื่องงานจริงๆนะอาเยว่ กลัวฉันไม่เชื่อหรือไงว่าแกร้อนเงินน่ะ" เยว่ซินหัวเราะ ก็เธอกลัวเงินหมดจริงๆนี่นา

"กาแฟได้แล้วค่ะ" ทั้งคู่หยุดบทสนทนาเมื่อพนักงานเดินเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ เยว่ซินโค้งให้เล็กน้อยและเอ่ยขอบคุณตามความเคยชินในโลกปัจจุบัน

ทางด้านพนักงานที่รู้แล้วว่าแขกvipสองท่านนี้เป็นใครถึงกับชะงัก เพราะข่าวลือที่เธอได้ยินมาเกี่ยวกับคุณหนูหลี่ เยว่ซินนั้นมีแต่ด้านลบๆทั้งสิ้น

แล้วไหงตัวจริงถึงได้สุภาพเช่นนี้เล่า!

"มีงานโฆษณาเครื่องดื่มที่ผู้กำกับต้องการดาราหน้าใหม่อยู่พอดีน่ะ...ฉันเลยเสนอชื่อแกไป ตอนนี้ก็คงต้องรอการติดต่อกลับ" พนักงานเดินออกไปแล้ว บทสนทนาจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง แม้จางลี่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับสายบันเทิงและสามารถฝากฝังให้เพื่อนตนเองเข้าทำงานได้เลยแต่เยว่ซินก็ไม่ยินดี

เธอแค่ต้องการให้จางลี่ช่วยแนะนำเธอกับผู้กำกับดูเพื่อเป็นใบเบิกทางเท่านั้น ยังไงก็จะให้อีกฝั่งพิจารณาเธอจากความสามารถจริงๆ

ทั้งคู่นั่งดื่มกาแฟและคุยเล่นกันต่ออีกราวๆชั่วโมงจึงแยกย้ายกันกลับเพราะจางลี่มีธุระกับที่บ้านต่อ ก็คงมีแค่เยว่ซินที่ตอนนี้นอกจากปรับตัวให้ได้กับที่ใหม่ๆแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำเลย

หลี่ เยว่ซินที่ไม่รู้จะไปไหนต่อ จึงหยุดเดินเล่นที่สวนสาธารณะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ระหว่างนี้ก็คิดถึงเนื้อหาในนิยายไปพลางๆ

อ้างอิงจากนิยาย เหมือนชีวิตเยว่ซินที่เป็นนางร้ายนั้น จะมีฉากวนลูปออกมาแค่ตอนกลั่นแกล้งนางเอกและก่อกวนพระเอกเท่านั้น ทางนักเขียนแทบไม่ได้อธิบายถึงเรื่องส่วนตัวของเธอเลยสักนิด

เยว่ซินถอนหายใจ หยุดยืนที่ริมน้ำของสวนสาธารณะ ปล่อยใจให้วางนิ่งเพราะหลังจากนี้ชีวิตเธออาจจะวุ่นวายก็ได้ แถมการที่เธอปฏิเสธฟาหยางไปนั้นก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะขุ่นเคืองใจแล้วสั่งให้คนมาสั่งสอนเธอหรือไม่

อากาศเริ่มหนาวแล้วเยว่ซินกำลังจะหันกลับจำต้องชะงักเมื่ออยู่ๆก็ได้กลิ่นหอมที่รู้สึกคุ้นจมูกอย่างไรไม่รู้

ดวงตาโตกวาดหาต้นตอของกลิ่นนั้น เยว่ซินเผลอถอยหลังด้วยความตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นฟาหยางกำลังยืนพิงที่ต้นไม้ด้วยท่าทีสบาย ที่ริมฝีปากคาบซิการ์กลิ่นเดียวกับที่คฤหาสน์เมื่อคืนนี้

"คุณหยาง"

"รบกวนเวลาผ่อนคลายคุณหนูเยว่เข้าเสียแล้ว" แม้พูดราวรู้สึกผิดแต่ริมฝีปากเหยียดยิ้มราวกับกำลังสนุกอยู่ เยว่ซินเผลอขนลุกวาบ

"ไม่หรอกค่ะ...ฉันกำลังจะกลับแล้ว" รีบชิ่งก่อนดีกว่า ยังไงวันนี้เธอก็เพิ่งปฏิเสธนัดเขาไปนี่!

ฟาหยางสำรวจอีกคนที่อยู่ในชุดเดรสตัวบาง เวลานี้น้ำค้างทำให้หนาวอยู่เหมือนกัน

ชายหนุ่มถือวิสาสะเดินเข้าไปใกล้ ถอดเสื้อโค้ทของตนเองแล้วสวมชั้นนอกให้กับเยว่ซินที่ตอนนี้ยืนนิ่งค้างไปแล้ว

"อากาศแบบนี้เดี๋ยวจะป่วยเอา"

"ขอบคุณค่ะ" เยว่ซินตอบกระท่อนกระแท่น อยู่ๆฟาหยางมาทำดีด้วยแบบนี้มันไม่ชินเอาเสียเลย

"ฉันได้ข่าวมาว่าคุณหนูเยว่กำลังจะเริ่มงานที่บริษัทจาง" เยว่ซินเลิกคิ้ว จางลี่เพิ่งจะติดต่อให้เธอเมื่อเช้านี้เอง ทำไมฟาหยางถึงได้รู้เรื่องเร็วนัก?

"อ่า...ก็พอมีความสามารถอยู่นิดหน่อยน่ะค่ะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าทางนู้นจะตอบกลับว่าอย่างไร" ฟาหยางจ้องอีกคนนิ่ง เวลานี้ผิวที่ขาวราวหิมะของเยว่ซินเริ่มเจือสีแดงเล็กน้อยเพราะไอเย็น

"อาโป" ชายหนุ่มหันไปเรียกลูกน้องที่ยืนไม่ไกลแล้วเอ่ยสั่งอะไรบางอย่างก่อนจะกลับมาคุยกับเยว่ซินอีกครั้ง

"ผิวแดงหมดแล้ว" เยว่ซินสะดุ้งยามที่มืออุ่นๆของฟาหยางทาบลงบนแก้มของตนเอง

"ฉันจะขับรถคุณหนูเยว่ไปส่งให้เอง" เขาเสนอตัวแต่ร่างบางกลับตาโตรีบโบกมือปฏิเสธ

"ไม่รบกวนคุณหยางค่ะ..เดี๋ยวฉัน..." คำพูดกลืนหายเมื่อฟาหยางใช้มือข้างนั้นแตะริมฝีปากสวย

เยว่ซินยืนนิ่ง สุดท้ายก็ต้องยอมให้อีกฝ่ายเอากุญแจรถตนเองไปแล้วเธอต้องย้ายมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้คุณฟาหยางแทน...

เช้าวันต่อมาเยว่ซินตื่นขึ้นพร้อมได้รับอีเมลจากผู้กำกับให้เธอไปทดลองถ่ายโฆษณา ชุดชีฟองสีขาวและกางเกงขายาวสีเดียวกันถูกหยิบมาใส่ เยว่ซินต้องยอมรับจริงๆว่ารูปร่างของเธอคนนี้น่าอิจฉาไปทุกสัดส่วน ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งขนาดเธอที่เป็นผู้หญิงยังรู้สึกอิจฉา ไหนจะผิวที่ขาวราวกับหิมะนี่อีก

การเดินทางไปถึงสตูดิโอใช้เวลาไม่นาน เยว่ซินสูดลมหายใจ พยายามตั้งสติให้ไม่แตกตื่นมากนัก และทันทีที่เธอปรากฎตัวในสตูดิโอก็ได้รับสายตาไม่เป็นมิตรมากมายจนหญิงสาวท้อใจนัก

การที่ต้องหลุดเข้ามาเป็นนางร้ายนี่มันน่าลำบากใจจริงๆ!

"ยินดีที่ได้พบนะครับคุณหนูเยว่" ผู้กำกับฝูเข้ามาทักทายเธอก่อนจะแนะนำตัวทีมงานคร่าวๆ

ผู้กำกับฝูกล่าวว่าเขาจะให้เธอเป็นพรีเซนเตอร์น้ำดื่มยี่ห้อนี้เลยโดยไม่ให้ทดลองทำก่อน นั่นทำให้เยว่ซินแปลกใจนัก

"ได้ยินชื่อคุณหนูเยว่จากคุณฟาหยางผมก็คงไม่มีอะไรจะคิดโต้แย้ง" เยว่ซินขมวดคิ้ว ฟาหยางมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เล่า?

"ทำไมชื่อของฉันถึงมาจากคุณฟาหยางล่ะคะ" เมื่อเธอถามจบ ผู้กำกับฝูถึงกับหลุดหัวเราะ

"ก็สปอนเซอร์รายใหญ่ของเราก็คือคุณฟาหยางนั่นไง" เยว่ซินเบิกตา ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน!?

"อยู่ๆเมื่อวานก็มีนายทุนปริศนามาขอเป็นสปอนเซอร์น่ะ...ทำไปทำมาถึงได้รู้ว่าเป็นคุณฟาหยาง" เยว่ซินแทบอยากจะกรี๊ด ทำไมเธอถึงต้องได้ยุ่งเกี่ยวกับเขาทุกเรื่องด้วยล่ะเนี่ย!

แต่ถึงแบบนั้นเธอก็พูดอะไรมากไม่ได้ ผู้กำกับฝูบอกว่าวันนี้จะคุยกันเรื่องคอนเซ็ปท์งานก่อนแล้วจะนัดวันถ่ายอีกที

การคุยงานผ่านไปด้วยดี เหล่าทีมงานที่ตั้งแง่กับเยว่ซินมีความแปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวไม่เป็นดั่งที่พวกเธอคิด จากที่เคยได้ยินมา เยว่ซินเป็นคุณหนูร้ายกาจเอาแต่ใจ หากแต่วันนี้ดูเหมือนข่าวลือก็เป็นแค่ข่าวลือจริงๆ เพราะเยว่ซินนั้นทั้งสง่าและวางตัวดี

"ยินดีที่ร่วมงานนะคะผู้กำกับฝู" หญิงสาวแย้มรอยยิ้มทำเอาคนที่เห็นตาพร่า ออร่าเช่นนี้ดันขึ้นเป็นนางเอกได้สบายเลยเชียว!

หลังจากที่บอกลาทุกคนเสร็จ เยว่ซินจึงเดินออกมาด้านหน้าเพื่อรอรถสาธารณะ เนื่องจากการมาสตูดิโอที่ไม่ชินเส้นทาง วันนี้เธอเลยไม่ได้เอารถส่วนตัวมา

"ฟาหยาง..." เสียงหวานเอ่ยเบาหวิว เมื่อด้านหน้าพบเป็นฟาหยางที่กำลังยืนพิงประตูรถมองมายังเธอ ชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทสีดำที่ดูเหมือนว่าไปทำงานมา

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกส่งมาให้ เยว่ซินมองซ้ายขวาว่าตรงนี้มีใครอยู่หรือไม่ หรือฟาหยางมาพบใครในกองที่ไม่ใช่เธอ?

"คุณหนูเยว่" แต่ความคิดก็ต้องพังลง เพราะชายหนุ่มเดินเข้ามาหา เขาใช้สายตาสำรวจหญิงสาวชั่วครู่แล้วเอ่ยขึ้น

"วันนี้ก็แต่งตัวแปลกตาอีกแล้ว"

"ดูไม่ดีเหรอคะ" ความปากไวทำให้เยว่ซินถามออกไป

"งดงาม" แต่คำตอบที่กลับมามันทำเอาเธอนิ่งค้างไปเลย

"อ้าว...คุณฟาหยาง" ผู้กำกับฝูที่เดินตามหลังมาเอ่ยทักสปอนเซอร์รายใหญ่ของตนเอง เขาโค้งให้ชายหนุ่มด้วยความนอบน้อมทั้งๆที่เขาอายุมากกว่า

"ไม่ต้องพิธีการหรอก"

"คุณฟาหยางมาดูการทำงานของทีมผมหรือครับ" ผู้กำกับฝูถามอย่างกระตือรือร้น

"ไม่ใช่อย่างนั้น ผมรู้ว่าทีมงานคุณเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว" ผู้กำกับฝูยิ้มรับ

"งั้น...?"

"ผมมาหาคุณหนูเยว่"

"คะ?" ฝั่งคนที่โดนเอ่ยชื่อได้แต่ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแบบงงๆ ฟาหยางมาเพื่อพบเธองั้นหรือ?

"ถ้าผู้กำกับฝูติดปัญหาที่ตรงไหนก็ติดต่ออาโปลูกน้องผมได้เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินก็ตาม ผมยินดีสนับสนุนให้" ผู้กำกับฝูโค้งจนตัวแทบชิดพื้น นานๆทีจะมีสปอนเซอร์ที่ใจป๋าขนาดนี้ อีกอย่างคนผู้นี้ยังเป็นถึงฟาหยางคนนั้นอีก!

"เป็นโชคดีของกองผมจริงๆ" ฟาหยางยกยิ้ม ก็เป็นโชคดีตามที่เขาพูดนั่นแหละ เพราะกองนี้มันมีหลี่ เยว่ซินอยู่ยังไงเล่า...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 4 คริสต์มาสกับตระกูลหยาง

    ยี่สิบสี่ธันวาคมคือวันที่คฤหาสน์ตระกูลหยางดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ ได้ยินเสียงถกเถียงของทายาทตระกูลใหญ่ที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการพูดแข่งกันราวกับพูดกับกระจก "เฟิ่งบอกว่าจะให้หม่าม๊าใส่ตัวนี้" "ก็เฮียบอกว่าตัวนี้ไงอาเฟิ่ง" เด็กชายวัยกำลังย่างเข้าหกขวบยื้อแย่งชุดคลุมสีแดงที่ทางห้องเสื้อส่งมาให้นายหญิงตระกูลหยางเป็นพิเศษ มีทั้งแบบที่กำลังนิยมในปัจจุบันและแบบที่ตัดออกมาสำหรับคุณหนูเยว่ซินโดยเฉพาะ "หม่าม๊าเอาตัวนี้นะ" เฟยหลงว่าพลางกำลังจะวิ่งเตาะแตะไปทางมารดาตัวเองที่ยืนเลือกแบบขนมสำหรับงานเลี้ยงที่จะจัดพรุ่งนี้ หากแต่กลับโดนมือป้อม ๆ ของแฝดคนน้องยกขึ้นห้ามกันไว้เสียก่อน "ไม่เอา หม่าม๊าต้องใส่ตัวนี้สิ" "เอ่อ..." เหล่าสาวใช้ที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ยืนเหงื่อตก พวกเธอรู้ดีว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับหม่าม๊าของเฟยหลงและเฟยเฟิ่งแล้วนั้นจะไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ อาเฟิ่งยอมให้พี่ชายตัวเองได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องหม่าม๊า อาเฟยหลงหลับหูหลับตาไม่มองยามโดนน้องชายตัวเองแอบหยิบของเล่นชิ้นโปรดไปได้แต่ถ้าเป็นเรื่องม๊าเยว่ซินแล้วเขาไม่มีวันยอม "หม่าม๊า/หม่าม๊า" คราวนี้ทั้งคู่พูดขึ้นมาพร้อมกันจนเยว

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 3 ป่วนฟาหยาง

    ในบริษัทตระกูลหยางที่ห้องท่านประธานวันนี้ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวกว่าปกติ ฟาหยางจำต้องยกมือขึ้นกุมขมับเล็กน้อยเพราะเสียงถกเถียงกันของเจ้าแฝดหรือก้อนแป้งที่เยว่ซินชอบเรียก "อาเฟิ่งเอาอีกแล้ว!" ได้ยินเสียงเฟยหลงโวยวายอยู่ยกใหญ่ เด็กชายวัยสี่ขวบตัวสูงกว่าพนักวางแขนของโซฟานิดเดียวซึ่งอยู่ในชุดเอี๊ยมน่ารักที่ถูกหม่าม๊าจับแต่งตัวให้ เฟยหลงขู่ฟ่อมองน้องชายตัวเองที่นั่งอยู่บนนั้น "เฮียเสียงดัง" ก่อนเฟยเฟิ่งซึ่งในมือถือถุงขนมที่คาดว่าคงแบ่งกันไม่ลงตัวตอบพลางยกมืออีกข้างขึ้นปิดหู เจ้าก้อนแป้งอยู่ในชุดแบบเดียวกันทั้งหน้าตาที่ถอดแบบกันมาทุกประการ "อาเฟิ่งก็คืนมาสิ!" "ไม่เอา ก็เฟิ่งอยากกิน" คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันน้อย ๆ ปกติแล้วเฟยเฟิ่งมักจะตามใจพี่ชายตัวเองอยู่เสมอซึ่งฟาหยางคิดว่าคงเป็นเพราะอยากตัดรำคาญเสียมากกว่า เฟยหลงอมลมในปาก หันซ้ายหันขวาราวกับกำลังหาตัวช่วย "ป๊า!" ครั้นพอไม่รู้จะพึ่งทางไหนจึงเดินเตาะแตะมาหา ฟาหยางยอมวางปากกาในมือลง วันนี้เยว่ซินไปซื้อของกับจางลี่ถึงได้ฝากลูกลิงทั้งสองคนไว้ที่เขา "อืม...ว่าอย่างไร" แม้ได้ยินชัดทุกคำว่ามีปัญหาอะไรกันมาแต่ฟาหยางก็ยังเอ่ยถาม เขาต้องก

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 2 อาเยว่ซินงอแง

    ช่วงหลังจากที่ทราบว่ามีเจ้าก้อนกลมสองก้อนอยู่ในท้องก็เป็นช่วงที่ฟาหยางปวดหัวไม่น้อยเนื่องจากอาการของคนท้องไม่ใช่สิ่งที่จะคาดเดาอะไรได้ ฟาหยางที่วันนี้ต้องกลับจากบริษัทเร็วกว่าทุกวันขนาดที่ว่าเขาเพิ่งจะไปถึงบริษัทได้ไม่เกินสิบห้านาที 'คุณหนูเยว่ร้องไห้ค่ะ ไม่ว่าใครถามอะไรก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่าจะเจอคุณหยางแค่คนเดียวค่ะ' สายจากสาวใช้ที่คฤหาสน์โทรมาหากันด้วยน้ำเสียงร้อนรน ปกติเยว่ซินมักเป็นคนที่ยิ้มแย้มและอารมณ์ดีอยู่เสมอ เธอมีเหตุผลกับทุก ๆ เรื่องแต่ยามนี้ที่จู่ ๆ อาจด้วยฮอร์โมนหรืออะไรก็แล้วแต่มันทำให้คนในคฤหาสน์ตื่นตูมกันไปเสียหมด พยายามทั้งปลอบทั้งหาของกินมาเท่าไหร่แต่ก็เหมือนว่าจะไม่เป็นที่พอใจของนายหญิงผู้นี้เลยแม้แต่น้อย "อาซิน" ขายาวก้าวเร็ว ๆ ไปยังห้องนั่งเล่นทันทีที่ลงจากรถ ฟาหยางรีบขนาดที่เขาขับรถมาเองโดยไม่รออาโป ทำเอาฝั่งลูกน้องที่บริษัทก็วุ่นวายอยู่พอสมควร "ฮึก..." ยังได้ยินเสียงสะอื้นจากคนที่ฟุ่บหน้าอยู่กับหมอนอิง เหล่าสาวใช้ที่เห็นว่าฟาหยางมาแล้วจึงรีบลุกขึ้นค้อมศีรษะให้แล้วเดินออกจากบริเวณนั้นทันที "เกิดอะไรขึ้น" เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางรวบคนตัวเล็กเข้าในอ้อมแขน เยว่ซิน

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ 1 ฮันนีมูนกับฟาหยาง nc18+

    สามสัปดาห์หลังจากแต่งงาน แม้ห่าวอู๋จะพูดอยู่ทุกวันว่าให้ทั้งคู่คิดประเทศที่จะไปฮันนีมูนกันเสียทีแต่เยว่ซินก็คิดไม่ออก หญิงสาวบอกเลื่อนทริปมาตลอดจนถึงวันนี้ที่ห่าวอู๋เดินทางมาที่คฤหาสน์ตระกูลหยางด้วยตัวเอง 'เตี่ยจองที่พักบนเกาะไว้ให้แล้ว เรื่องงานที่บริษัทเตี่ยจะจัดการทุกอย่างเอง อาเยว่ซินเตรียมตัวไปฮันนีมูนกับอาหยางได้เลย' นั่นคือประโยคที่ได้ฟังจากห่าวอู๋ก่อนที่วันต่อมาในตอนเช้ามืดก็โดนสามีตัวเองอุ้มขึ้นรถตั้งแต่ยังไม่ตื่นดี เยว่ซินนึกสงสัยอยู่ตลอดว่าทำไมเวลาจะไปทริปต่างประเทศแล้วจะต้องไม่ได้เตรียมตัวเสียทุกครั้งกันนะ แต่ถึงจะอยากโวยวายทั้งประมุขคนก่อนและคนปัจจุบันของตระกูลหยางนี้สักเท่าไรก็คงทำไม่ได้ แน่นอนว่าเธอก็ไม่คิดเสี่ยงจะทำ "คราวนี้อาโปก็มาหรือคะ" สิ่งที่ต่างไปจากทริปที่อิตาลีครั้งนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นว่ามีลูกน้องมาด้วยกัน ฟาหยางขานรับในลำคอ "ถือเป็นวันพักผ่อนให้พวกเขาด้วย" เยว่ซินพยักหน้าเห็นด้วย สมควรอย่างยิ่งเพราะลูกน้องฟาหยางแต่ละคนใช่ว่าจะมีงานน้อย ๆ เสียที่ไหน "แต่ไม่ต้องห่วง พวกนั้นกับเราอยู่คนละที่พัก ไม่มีใครกวนตอนเธออยู่กับเหล่ากงได้หรอก" คำพูดเจ้าเล่ห์มาพร

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   ตอนจบ กับฟาหยางตลอดไป

    ผ่านไปสองเดือนหลังจากการประกาศแต่งงานในวันนั้น ฟาหยางไม่ให้เยว่ซินรับงานใด ๆ ทั้งสิ้น และงานที่บริษัทก็เหมือนว่าเลี่ยงหรงจะเป็นคนจัดการทุกอย่างและถึงแม้เป็นแบบนั้นเขาก็ยังรายงานแก่ฟาหยางประหนึ่งบริษัทหลี่กลายเป็นบริษัทในเครือของฟาหยางไปเสียแล้ว "คุณหนูเยว่รับขนมอีกไหมคะ" และเพราะวัน ๆ เยว่ซินแทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากเข้าคอร์สเจ้าสาวที่ห่าวอู๋และเครือญาติตระกูลหยางจัดหาให้จึงทำได้แค่นั่ง นอน กินและออกไปตามนัดบ้างเป็นครั้งคราว "พอแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ" คนตัวเล็กตอบพลางระบายยิ้มงดงาม มือเรียวสวยปิดหนังสือลงแล้วเหลือบมองเวลาเล็กน้อย ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว ปกติฟาหยางมักจะกลับมาในเวลานี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในต้นเดือนหน้า "คุณหยางมาถึงแล้วค่ะ" เป็นจังหวะพอดีกับที่มีสาวใช้อีกคนหนึ่งเดินเข้ามารายงานกัน เธอทอดมองคุณหนูเยว่ซินที่อยู่ในชุดกระโปรงยาวสีครีม ผิวขาวราวน้ำนมที่ไม่ได้ต้องแดดมานาน ทั้งแก้มและริมฝีปากแดงระเรื่อ ไม่ว่าจะมองในมุมไหน ๆ คุณหนูเยว่ก็ดูงดงามไปเสียทุกส่วน นี่หรือเปล่าที่เขาว่ากันว่าออร่าของคนกำลังจะเป็นเจ้าสาว "อาซิน" พลันในวินาทีนั้นด้านหลัง

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   31 ภรรยาฟาหยาง

    เยว่ซินไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ เธอเพิ่งจะยืนอยู่ที่ครัวในคอนโดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงมาอยู่ที่อิตาลีได้? ไม่ใช่แค่นั้นแต่ตอนนี้เธอมากับฟาหยางแค่สองคน! ใช่...ไม่มีอาโปและลูกน้องมาด้วยกันเลย "อาเยว่อยากทานอะไร" "ดะ...เดี๋ยวก่อนค่ะ" มือเรียวยกขึ้นกั้นระหว่างกันทั้งแววตาที่ฉายความสับสนชัดเจน ฟาหยางหัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาเช่นนั้น "นี่มันเหนือความคาดหมายไปหน่อยนะคะ" "ทำไม เธอไม่อยากมาเที่ยวกับอาฟาหรือ?" คนตัวสูงคล้ายสุนัขตัวโตที่เยว่ซินได้แต่ถอนหายใจ มือหนาเอื้อมมาประคองกันไว้พลางเอ่ยขึ้นอีกรอบ "ไม่อยากลองอยู่กันแค่สองคนบ้างหรือ" ครั้นโดนออดอ้อนซึ่ง ๆ หน้าทำเอาคนตัวเล็กไร้คำจะเถียงอีก ตอนนี้ทั้งคู่อยู่กันที่ที่พักแห่งหนึ่งในเกาะซิซิลี เยว่ซินไม่รู้เลยว่าเขาจัดการเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ตอนไหน "ความจริงชวนฉันดี ๆ ก็ได้นี่คะ อีกอย่างฉันไม่ได้เอาสัมภาระมาเลย" ไม่รู้จะพูดว่าโดนแกล้งได้ไหม เพราะฟาหยางไม่คิดจะบอกเธอสักคำ หากนี่เป็นเซอร์ไพรส์ก็ดูจะเกินเรื่องไปเสียหน่อย "ซื้อใหม่ทั้งหมดที่นี่" "..." "หายหน้ามุ่ยเถอะนะ ถ้าอาฟาบอกเธอล่วงหน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status