LOGIN“นะ..นาย!” มะปรางตาโตอ้าปากค้างเมื่อเห็นท่อนเนื้ออวบยาวกำลังชี้โด่มาทางเธอ
เจ้าสิ่งนั้นมันมีขนาดใหญ่มากคงเพราะเขาเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษด้วยล่ะมั้งถึงทำให้ของเขามีขนาดสมตัวอย่างนี้ ท่อนลำยาวปลายหัวมนสีน้ำตาลอมแดงผงกหัวหงึกหงักใส่ราวกับจะเรียกร้องให้มะปรางเข้าไปหา สายตาเว้าวอนจากผู้เป็นเจ้าของมันกำลังถูกส่งให้มะปรางอย่างโหยหา “มันเป็นของพี่..ทุกอย่างในตัวผมเป็นของพี่คนเดียว” น้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยแผ่วเบา “...” “เมตตามันบ้าง รักมันหน่อยนะพี่” เมืองเมฆยังคงเว้าวอนสีหน้าออดอ้อน “ตะแต่ที่นี่มัน...” “นะครับ...แค่ใช้ปากก็ได้” บ้าไปแล้วใครจะไปทำกัน มีอย่างที่ไหนอยู่ๆมาขอให้ใช้ปากช่วย อิตาบ้า! “อื้มมม...อย่างนั้นแหละพี่ ดีอ่าาห์” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นเมื่อเธอก้มลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเขาอย่างจำยอม นี่เพราะเห็นสีหน้าที่ดูราวกับทรมานของเขาหรอกนะเธอถึงอยากช่วย หลังจากนั้นก็อ้าปากครอบท่อนลำอวบยาวเอาไว้แล้วใช้ลิ้นดุนดันตรงหัวหยักเบาๆ “โอ้ววว เสียวหัวชิบ!!อ๊าาาห์ดีจัง” เสียงสบถในลำคอดังสลับกับการส่งเสียงร้องคำราม รสสัมผัสที่ได้รับก็ไม่ได้ทำให้กระอักกระอ่วนแต่อย่างไร ปลายลิ้นที่กระดกรูดไล้ไปตามลำยาวไม่ได้มีรสชาติน่ากลัวอย่างที่คิด กลับกันมันไม่มีรสหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์อะไรเลย แต่ยิ่งดูดให้เขายิ่งทำให้เธอซ่านไปตามร่างกายด้วย “อื้อออ...อ๊าาาห์” มะปรางเผลอปล่อยปากครางกระเส่ายามที่เขายื่นมือมาเคล้นคลึงหน้าอกกลมสวยได้รูปกระชับนุ่มนิ่มมือ ก่อนที่เธอจะอ้าครอบมันลงไปอีกครั้งทั้งลำ หลังจากนั้นจึงละมันออกแล้วลากปลายลิ้นเลียไปตามลำจากโคนจรดปลายราวกับว่าตัวเองกำลังดูดไอติมดูอย่างนั้น กลับกันตรงที่ไอติมแท่งนี้ดูท่าจะละลายยาก ยิ่งดูดมันยิ่งแข็งขืนชูชัน “มะ...ปรางอ๊าาาห์เก่งที่สุดคนดีของผมซี๊ดด” เสียงคำรามสั่นสะท้านไปทั้งร่างกายของเมืองเมฆดังเล็ดลอดเข้าหู อ๊อก อ๊อก อ๊อก เมืองเมฆจับหลังท้ายทอยมะปรางไว้มั่นเมื่อยามความเสียวสะท้านมาเยือน สะโพกสอบทำหน้าที่โยกขยับเอวให้เด้งเข้าเด้งออกกระแทกริมฝีปากอิ่มอย่างรัวเร็วในยามที่บางอย่างกำลังจะถึงจุดพุ่งทะยานแล้ว “อื้อ...เอาๆอ่อย” มะปรางตีหน้าขาเขาคืนบ้างเมื่อเริ่มหายใจไม่ทัน แต่ไม่นานก็มีบางอย่างพุ่งกระฉูดเข้าสู่โพลงปากเล็กจนมันเอ่อล้นทะลักออกมา “ซี๊ดดดด...อ๊าาาห์” เมืองเมฆคำรามกระเส่าในลำคอก่อนจะถอนลำเอ็นที่ยังแข็งตัวอยู่ออกจากเรียวปากอิ่ม ส่วนมะปรางก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอกลืนกินทุกหยาดหยดเข้าไปจนหมดสิ้น ก่อนที่จะถูกมือหนายื่นเข้ามาเช็ดปาดไล้ริมฝีปากที่ยังมีคราบขาวขุ่นติดอยู่บ้างเล็กน้อย “อะ..ออกไปได้แล้ว” น้ำเสียงหวานที่พยายามข่มให้ดูดุเอ่ยตะกุกตะกัก “เสร็จแล้วก็ไล่กันเลยนะ...” “บ้า!” “เย็นนี้ไปกินข้าวกับผมนะ” “มะ...” “ห้ามปฎิเสธไม่อย่างนั้นผมจะ...” ยังไม่ทันปฎิเสธเมืองเมฆก็พูดดักเธอเอาไว้ก่อนซะอย่างนั้น และท่าหากเธอปฎิเสธคาดว่าวันนี้กองถ่ายคงจะสงสัยว่าพระเอกกับนางร้ายหายไปอยู่ที่ไหนทำไมไม่มาเข้าฉากเป็นแน่ “โอเคๆกินก็กิน!” “ดีมากครับ...” ชมเสร็จก็เดินยิ้มอารมณ์ดีออกไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีน้องมาเคาะประตูเรียกให้ไปเข้าฉากถ่ายต่อฉากต่อมาที่ต้องถ่ายต่อเป็นฉากที่วีร่าและเมฆากำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียงในชุดผ้าขนหนูแล้วลินดานางเอกของเรื่องเข้ามาเห็นจนเกิดการลงไม้ลงมือกันขึ้น
ตอนนี้ทั้งมะปรางและเมืองเมฆก็พร้อมถ่ายต่อแล้วทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนเตียงโดยที่มะปรางอยู่ในชุดนุ่งผ้าเช็ดตัวแต่มีการเซฟเกาะอกและกางเกงขาสั้นไว้ด้านใน ส่วนเมืองเมฆสวมเสื้อคลุมเอาไว้ตัวเดียว ผู้กำกับลำดับบทว่าจะเอามุมไหนยังไงดีเรียบร้อยแล้วก็ถึงคิวถ่ายทำจริง ตอนนี้เป็นเรื่องราวของเมฆาที่แอบเผลอใจไปลักลอบได้เสียกับวีร่าเพื่อนของแฟนสาวนั่นก็คือลินดาที่แสดงโดยลิลลี่ รสิกานางเอกสาวดาวรุ่งที่กำลังมาแรงเป็นพลุแตกในขณะนี้ ตามบทแล้วทั้งสองคนกำลังนอนหยอกล้อกันเล่นบนที่นอนโดยที่บนร่างกายของทั้งคู่มีผ้านวมผืนใหญ่คลุมร่างทั้งสองเอาไว้อยู่ ในระหว่างถ่ายทำช่วงหยอกเย้ากันอยู่นั้น อยู่ๆมือหนาก็เลื่อนมาลูบไล้แถวต้นขาของมะปรางเล่นเสียอย่างนั้น “คะคุณเมฆาขา...อื้ออย่าแกล้งกันสิคะ” ตามบทแล้วทั้งคู่ต้องนัวเนียกันปลอมๆใต้ผ้าห่มและมะปรางก็ต้องครางเสียงกระเส่าเพื่อความสมจริงในละคร แต่ทว่าภาพที่ออกมากับดูสมจริงจนผู้กำกับชอบใจและให้ถ่ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเพราะภาพกำลังสวย ในขณะที่มะปรางต้องกลั้นเสียงครางจริงๆเอาไว้ในยามที่มือซุกซนนั้นชอนไชเข้าไปใต้หว่างขาของเธอเข้า “เมฆ!อย่าแกล้งอ๊ะ!” มะปรางกัดฟันบอกเสียงเขียวลอดไรฟัน ในขณะที่ตัวสั่นสะท้าน ให้ตายเถอะ ทำไมเธอหน้าหนาอย่างนี้นะ ยิ่งมีคนดูอยู่ถึงแม้จะไม่กี่คนก็ตามแต่ทำไมร่างกายเธอมันถึงเต้นตามแรงสัมผัสของเด็กบ้านี่ด้วยนะ! สัมผัสบางเบาที่ต้นขาแต่ทว่ามันทิ้งร่องรอยความซาบซ่านเอาไว้ให้เธอ ปลายนิ้วอุ่นร้อนที่แตะไต่ปัดป่านผ่านเนื้อผ้าบางเบาของกางเกงที่ใจกลางร่างยิ่งทำให้เธอรู้สึกพลุงพล่านจนรู้สึกเหมือนร่างกายมันจะระเบิด แต่ยิ่งเธอกัดริมฝีปากมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เขาราวกับอยากจะแกล้งกันมากขึ้น เมื่อเมืองเมฆขยี้ปลายนิ้วที่จุดกระสันต์ใจกลางร่างผ่านเนื้อผ้าเบาๆ แต่ทว่ามันกลับทำให้มะปรางเสียวสะท้านเหลือเกิน นี่ตกลงเธอเป็นนางร้ายในจอแล้วยังจะให้เธอเป็นนางร้ายร่านสวาทนอกจออีกด้วยหรือไง แต่พอเห็นใบหน้าคมคายที่ฉายแววเจ้าเล่ห์และรอยยิ้มที่มุมปากของเขามันก็ทำให้มะปรางนึกหมั่นไส้ขึ้นบ้างคิดว่าจะแกล้งเธออยู่ได้ฝ่ายเดียวรึไงกัน มะปรางแกล้งทำท่าพลิกตัวไปแสดงหยอกเย้ากับเขาโดยการผลักมือเขาออกจากใต้เรียวขาของตัวเองแล้วเปลี่ยนท่าเป็นนอนซบอกเขาทำท่าทางใสซื่อสไตล์นางร้ายที่เคยเห็นในละครทั่วๆไปเวลาอ้อนฉอเลาะพระเอก จากนั้นมือเรียวเล็กก็เอื้อมลงไปที่ส่วนล่างของเขาบ้างแล้วคว้าหมับเข้าที่น้องรักของเขาจนเต็มกำมือพลางบีบมันแน่นขึ้น “โอ๊ะ!” เสียงเมืองเมฆเผลอร้องอุทานแต่ไม่ดังมาก แต่กล้องก็ยังถ่ายทำต่อไป “คุณเมฆาตกใจอะไรหรอคะ?” เสียงหวานเอ่ยด้วยสีหน้าเย้ายวนตามบทบาท ในขณะที่พระเอกของเรื่องกำลังหายใจติดขัดเพราะถูกมือบางเอาคืนด้วยการรูดท่อนลำแข็งขืนเป็นการเอาคืนอย่างหมั่นเขี้ยว ลินดานางเอกในเรื่องก็เปิดประตูเข้ามาเจอพอดีพร้อมเสียงกรี๊ดที่ดังลั่นห้อง “กรี๊ดดด!นังหน้าด้านมายุ่งอะไรกับผู้ชายของคนอื่นเขา” ลินดาที่มาพร้อมพายุอารมณ์ร้อนแรงโดยรี่เข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมทั้งกระชากมือบางที่ยังกอบกุมลำยาวให้หลุดออก มีแวบนึงที่สีหน้าพระเอกของเรื่องเจือแววเสียดายเอาไว้ ‘ให้ตาย!กำลังฟินได้ที่เลย’ แล้วหลังจากนั้นลินดาก็ผลักร่างของวีร่าจนล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง “โอ๊ะ!” เสียงมะปรางอุทานเพราะความตกใจที่ถูกผลักให้ล้มโดยไม่ได้ตั้งตัว “คัท! น้องลิลลี่ครับในบทไม่ใช่แบบนี้นี่ครับ น้องลิลลี่ต้องเดินเข้าไปตบหน้าพระเอกแล้ววิ่งหนีไปนะครับไม่ใช่ไปผลักน้องมะปรางแบบนี้” เสียงผู้กำกับย้ำบทที่นางเอกต้องเล่นในขณะเมืองเมฆรีบเดินเอาผ้าห่มไปคลุมร่างมะปรางแล้วพยุงร่างระหงให้ลุกขึ้นยืน “อุ๊ย!ลิลลี่ขอโทษค่ะสงสัยลิลลี่จะท่องผิดบทมา ขอโทษนะคะพี่มะปราง” สีหน้าขอโทษขอโพยราวกับรู้สึกผิดจริงๆแต่ขัดกับดวงตาที่มองจ้องมาที่มะปรางแข็งกร้าวจนหญิงสาวรู้สึกได้ “ไม่เป็นไรค่ะ...” “พี่เดินไหวไหม?” เมืองเมฆถามสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย “อื้อ...ไหวอยู่” มะปรางพยักหน้าก่อนจะไปนั่งพักที่โซฟารอให้พี่ๆทีมงานจัดหาน้ำแข็งมาประคบเท้าให้จนอาการดีขึ้นแล้วจึงลุกไปถ่ายทำต่อ จนกระทั่งถ่ายจบซีนจนถึงเวลากลับบ้าน มะปรางที่แต่งตัวเสร็จเก็บข้าวของเตรียมกลับก็ยกมือไหว้ร่ำลาพี่ๆทีมงานและนักแสดงคนอื่นๆ ในขณะที่รสิกาก็ปราดเข้าเกาะแขนเมืองเมฆแน่น “พี่เมฆขาเสร็จงานนี้แล้วจะไปไหนต่อหรอคะ?” ฉีกยิ้มหวานฉอเลาะสุดๆ “อ่อ...ไปกินข้าวกับพี่มะปรางน่ะครับ” เมืองเมฆหันมาตอบสั้นๆแค่นั้น “ดีจังงั้นลิลลี่ขอไปด้วยได้ไหมคะ” รสิกาทำหน้าออดอ้อน “ขอโทษทีครับพอดีวันนี้เราอยากไปกันแค่สองคนเท่านั้นเอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันเนอะ” เมืองเมฆปฎิเสธจนรสิกาหน้าม้านไปเลย แต่กระนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร “ไม่เป็นไรค่ะไว้วันหน้าเราค่อยไปด้วยกันทีหลังก็ได้งั้นลิลลี่ขอตัวก่อนนะคะ” “โอเคครับ”“พี่อยากไปกินร้านไหนดี” ตอนนี้พวกเราก็กำลังอยู่ในรถบนถนนที่รถก็กำลังติดไม่ขาดสาย
“อืม..ร้านไหนก็ได้พี่กินได้หมดแล้ว” มะปรางตอบเสียงอ่อน “งั้นถ้าให้กินผมล่ะพี่จะยอมไหม” “บ้า!” ค้อนให้หนึ่งทีแล้วสะบัดหน้าหนีไปทางอีกฝั่งของประตู ไม่นานรถก็มาจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่คนไม่ค่อยพลุกพล่านและเป็นส่วนตัวดี ภายในร้านก็จัดตกแต่งได้น่ารักมากเลยทีเดียว “คุณเมืองเมฆสวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับพี่จอย” เสียงพนักงานกล่าวทักทายต้อนรับราวกับคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี . . .วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่




![บำเรอรักบอดี้การ์ดของคุณพ่อ [ Love Slave ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


