วันสุดสัปดาห์ ครูสาวสอนพิเศษแต่งตัวรัดกุม เรียบร้อยขึ้นเรื่อยๆ แต่งหน้าทำผม อาบน้ำกลิ่นสะอาด ราวกับจะมาบ้านแฟน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันเป็นบ้านของลูกศิษย์หนุ่ม หัวใจเธอเต้นรัวเร็ว และมีอาการประหม่าตื่นเต้น
ภายในจิตใจครูสาวคิดถึงแต่เรื่องมีเซ็กซ์กับลูกศิษย์ เพราะเขาทำให้เธอมีความสุข และยังเป็นเด็กแข็งแรง สุภาพเรียบร้อย น่ารัก ไม่นึกเลยว่าเธอจะมีลูกศิษย์ที่น่ารัก ว่านอนสอนง่าย หัวไวในการเรียน แม้กระทั่งการบ้านก็ทำเสร็จ และทำเธอจนเสร็จได้อีก
ครูสาวสอนพิเศษสูดลมหายใจลึกๆ อีกครั้ง พร้อมกดกริ่งประตูบ้านเปิดออกมา พบกับคุณพ่อคุณแม่อยู่บ้าน พวกเขามีสีหน้าดีใจ ที่ได้พบกับครูสาวสอนพิเศษครั้งแรก
“สวัสดีครับ คุณครูลาเต้ สอนพิเศษวิชาเลขสินะครับ ขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน และก็ขอบคุณที่สอนให้ลูกชายผมเข้าใจวิชาเลขมากขึ้นนะครับ” คุณพ่อของลูกศิษย์กล่าวอย่างปลื้มปิติ เมื่อเขาเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ พบว่าลูกชายเขาเริ่มเก่งวิชาที่ยากแบบนี้ เพราะได้ครูสอนพิเศษเก่งๆ เขาเป็นคนจัดหาและว่าจ้าง
“ขอบคุณคุณครูมากๆ นะคะ อย่างน้อยๆ เราจะหายห่วงเรื่องส่งลูกชายไปเรียนม.ดัง ด้านธุรกิจระดับสูง” คุณแม่ของเขาก็คาดหวังว่า ลูกชายของเขาจะได้ดิบได้ดี เนื่องด้วยการสอบวิชาที่สำคัญ เขาจะไม่ตกวิชาเลขอีกต่อไป
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่ ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นหน้าที่ๆ ต้องสอนน้องโอ๊คให้ดีที่สุดนะคะ” เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ เธอเกือบจะออกอาการเป็นแฟนสาว มากกว่าจะเป็นครูสอนพิเศษ ดังนั้นครูสาวลาเต้จึงต้องสำรวมตัวเอง เพื่อมิให้พ่อแม่เขารู้สึกเอะใจว่า การสอนพิเศษของเธอมันแปลกกว่าการสอนธรรมดา
“จะไปเรียนกันตามลำพังในห้องลูกจริงๆ รึ? แม่ว่ามันไม่เหมาะนะ น่าจะเรียนในห้องรับแขก” คุณแม่ของโอ๊ครู้สึกว่าลูกชายพาครูสาวยังสวยไปเรียนพิเศษกันตามลำพังในห้องส่วนตัว
“ผมต้องการสมาธิในการเรียน พ่อกับแม่เดินไปเดินมา เปิดทีวีเสียงดัง ผมไม่ได้สมาธิในการเรียนหรอก เข้าใจผมบ้างสิ มันไม่ได้เรียนกันง่ายๆ นะครับ” โอ๊คบ่นเพราะเขาค่อนข้างจะแปลกใจว่า ทำไมพ่อแม่ถึงกลับมาบ้านเร็วกว่ากำหนดที่เคยบอก แต่เขาก็ตั้งใจว่าจะพาครูสาวแสนสวย มากินตับกันตามลำพังในห้องเขาอยู่แล้ว
“ถ้าคุณครูรู้สึกไม่สบายใจก็บอกแม่ได้นะคะ” ผู้เป็นแม่รู้สึกไม่อยากปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ลูกชายก็ยังเป็นวัยรุ่นอายุสิบแปดปี ในขณะที่ครูสาวก็เพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ปีกว่าๆ เธอค่อนข้างกังวลว่า ห่างสายตาแบบนี้รู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะน้องโอ๊คเป็นเด็กดี และก็ว่านอนสอนง่ายค่ะ ถ้ามีอะไรครูจะบอกเองนะคะ ขอโทษด้วยนะคะที่รบกวน" ครูสาวลาเต้ต้องทำตัวสุภาพในขณะที่เด็กหนุ่มพาครูสาวเข้าห้องส่วนตัวต่อหน้าแม่ และเป็นฝ่ายปิดประตูลงกลอนล็อคแน่นหนา...
“เฮ้อ... ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้นะ” เด็กหนุ่มรู้สึกแย่ เมื่อเขาไม่ได้อยู่กับครูสาวตามลำพัง เหมือนเมื่อสองวันก่อน มือบอบบางจับคางของเด็กหนุ่มที่สูงกว่า เพื่อดึงโน้มตัวลงมาจูบปลอบใจ
“มาเรียนกันต่อเถอะ ถ้าทำการบ้านเสร็จแล้ว ครูก็จะทำให้เธอเสร็จเหมือนกันนะ” ครูสาวลาเต้พูดให้กำลังใจ เพราะว่าเธอมีวิธีดีๆ เพื่อรางวัลที่เขาอยากได้ จะยังคงได้อยู่...
“แต่ผมคงจะขย่มครูไม่ได้หรอกนะครับ พวกเขาอยู่กันครบ” เขาแค่เกรงว่าหากเสียงดังไป พ่อแม่คงจะรู้กันพอดี และอาจจะไม่ได้เรียนพิเศษกับครูลาเต้อีก แถมคงไม่ได้มีเซ็กซ์ด้วยกันตามลำพังตลอดไป...
“ไม่จำเป็นต้องขย่มแรงแบบนั้นก็ได้นิ” ครูสาวยิ้มแย้มพลางขยิกดวงตา พลอยทำให้โอ๊ครู้สึกดีเมื่อครูสาวอาจมีวิธีดีๆ สำหรับการร่วมรักมีเซ็กซ์กันตามลำพังในชม.นี้
******
เสียงเคาะประตูดังเป็นระยะทุกๆ สิบห้านาที คุณแม่ของโอ๊คยกของกินและน้ำดื่มเพื่อมาให้ครูสาวดทานระหว่างสอนพิเศษ เธอแค่อยากรู้ว่า ครูสาวสอนยังไงลูกชายเธอถึงเรียนเก่งขึ้นมาได้
“โธ่แม่... อย่ามารบกวนผมบ่อยสิครับ กำลังจะคิดออกอยู่แล้วเชียว” โอ๊ะบ่นหัวเสีย พลอยทำให้หญิงสาววัยกลางคนรู้สึกผิดที่เข้ามารบกวนบ่อยๆ แต่สำหรับครูสาวลาเต้เธอบอกว่าไม่เป็นไรสำหรับการสอนพิเศษ เพราะยังมีอีกหลายวัน เพื่อสอนลูกชายของเธอตลอดระยะเวลาสามเดือน
“แม่ขอโทษนะ... แม่จะไม่รบกวนแล้ว เรียนให้ครบชม.นะ” หญิงสาววัยกลางคนเดินออกไป พร้อมล็อคประตู เด็กหนุ่มเดินไปใส่กลอนประตูอีกชั้นหนึ่ง เพื่อละวางจากหนังสือเรียน เพื่อไปสวมกอดครูสาวที่ถวิลหา...
“ผมอยากจูบครูจังเลยครับ” เด็กหนุ่มครวญโหยหาเพราะอารมณ์ความต้องการของเขา เริ่มตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ อยากให้ครูสาวแสนสวยราวกับนางฟ้า ปลดเปลื้องอารมณ์เขาให้เป็นสุขทีเถิด
ริมฝีปากบางเคลื่อนเข้าใกล้เด็กหนุ่ม ความต้องการโหยการเป็นแรงโหมกระหน่ำให้เธอโอบกอดเขาแนบกาย มือหนึ่งโอบรอบคอโอ๊คไว้ พลางดูดกลืนริมฝีปากอุ่นเด็กหนุ่มไว้ครอบครอง อีกมือบางประคองเรือนหน้าโอ๊คไว้อย่างถนุถนอม
ความต้องการของเด็กหนุ่มที่ร้อนรุ่ม ทำให้เรือนกายตื่นตัวเต็มที่ และเขาอยากจะสอดใส่ แต่กลับทำไม่ได้เพราะพ่อแม่อยู่ในบ้าน ถ้าหากเกิดเสียงดังเป็นจังหวะราวกับมีอะไรด้วยกัน เกรงว่าเขาอาจจะถูกบังคับให้เรียนเพียงคนเดียว โดยไม่ได้เจอครูสาวลาเต้อีกเลย
“ผมอยาก...มากครับ” เมื่อเด็กหนุ่มละริมฝีปาก พลางบอกความต้องการตนราวแว่วเสียงกระซิบ ครูสาวยิ้มแย้มก่อนจะลดกายสาวตนลงมายังเบื้องลางกางเกงเด็กหนุ่ม สองมือพยายามปลดตะขอกางเกงและรูดซิปลง เด็กหนุ่มให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ครูจะช่วยเธอเองนะ คราวหน้าทำให้ครูบ้างล่ะ” หญิงสาวใช้ปากครอบครององคชาติไว้ทั้งหมด เพื่อดูดกลืนรูดลำท่อนเนื้อมวลหนาแน่นเอาไว้ เด็กหนุ่มนั่งปากสั่นเสียวระริก เมื่อองคชาติตื่นตัวถูกปากอุ่นเล็กดูดอมเอาไว้ตั้งแต่ปลายจนถึงโคน
เขายังรู้สึกได้แม้องคชาติจะชนกับลิ้นไก่ภายในลำคอแคบๆ มันอบอุ่นและเสียวกระสันแทบอยากจะกระทุ้งองคชาติเข้าปากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จนโอ๊คทนไม่ไหวต่อความเสียวซ่านที่กำลังเกิดขึ้น เขาเผลอขยับสะโพกแคบ ดันองคชาติเข้าลึกๆ ในปากครูสาว พลางใช้สองมือกดหัวครูสาวให้ดูดอมกลืนลึกๆ ดึงดันองคชาติเสียวซ่าน
“อ้า!!!” โอ๊ะครวญร้องเมื่อน้ำขุ่นพวยพุ่งใส่ปากครูสาว เขามีความสุขเหลือเกินเมื่อเธอติวพิเศษครั้งนี้ให้เขา อิ่มเอมมีความสุขเมื่อน้ำขุ่นล้นทะลักออกนอกขอบริมฝีปาก เธอสวยและเซ็กซี่มาก เขาอยากจะจับเธอกระแทกเข้าร่องสวาทเสียจริงๆ
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้