การนัดพบกันทางโซเชียล ช่วยเพิ่มโอกาสหาคู่ให้แก่หนุ่มสาวโสด ได้มีโอกาสนัดพบกัน หรือแม้กระทั่งการกระทำอันเป็นส่วนตัวในที่ลับ...
โรสริน (โรด-สะ-ริน) กำลังนั่งอยู่ในร้านเน็ตคาเฟ่ เพื่อใช้แอพหาคู่นัดเดทกับชายหนุ่มหน้าตาดี บนมือถือของตัวเอง เธอสั่งกาแฟและขนมเพื่อนั่งสโลไลฟ์เพียงลำพัง เพื่อนสาวสนิทเธอหนีไปมีแฟนกันหมดแล้ว เธอก็อยากจะมีเป็นของตัวเองบ้าง
-ชื่ออะไรครับ? - แชทฝ่ายตรงข้ามทักมา ไม่มีรูปภาพ แต่มีชื่อว่า “Summer” (ซัมเมอร์)
-โรสริน ขอดูภาพหน่อยสิ- เธอขอร้อง เพราะอยากรู้ว่าเขาหน้าตาดีมั๊ย
อีกสักพักหนึ่ง รูปภาพถูกส่งมา เป็นภาพชายหนุ่มหล่อ ไม่ต่างกับดาราเกาหลี โรสรินคิดอยู่ว่า เขาล้อเล่นหรือเปล่า เลยต้องขอตอกย้ำอีกรอบ
-รูปซัมเมอร์จริงๆ หรอ? เอาจริงๆ เลยนะ เพราะอยากนัดเจอ-
-รูปผมจริงๆ นะ โรสริน นัดเจอกันเลยดีมั๊ยวันนี้ ผมว่าง...- เขาตอบกลับมา โดยไม่รีรอ เพราะเขาเห็นภาพของโรสรินแล้ว เป็นภาพของสาวสวยผมยาวดัดปลายผมเป็นม้วนลอน เขาส่งอีโมชั่นยิ้มแย้ม อยากนัดเจอ
-ก็ได้นะ ที่ไหนดีล่ะ? - โรสรินทักถาม อย่างน้อยการนัดเดทผ่านแอพมือถือ อาจจะช่วยให้การมีแฟนสักคน ทำให้ชีวิตอันอับเฉาของเธอได้มีชีวิตชีวาบ้าง
-โรสรินต้องน่ารักกว่าในรูปแน่ๆ เลย ผมอยู่ที่นี่นะ... จะส่งตำแหน่งไปให้-
******
ในที่สุดโรสรินเดินทางมาถึงจุดนัดพบตามแอพมือถือ สำหรับนัดพบเดทชายหญิงโสด เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเพื่อรอการนัดพบจากชายหนุ่ม จะว่าไปแล้วจะมีคนหล่อๆ แบบนี้เหลือมาถึงเธอได้ยังไง บรรดาแม่เสือสาวผู้หิวโหยมากมาย ย่อมหาหนุ่มหล่อ คว้าเอาไว้ก่อนกันทั้งนั้น
แววตาหญิงสาวสอดส่ายสายตา มองเห็นกลุ่มหญิงสาวมากมายมากันเป็นกลุ่ม แต่เธอนี่ก็ช่างกล้านะ ที่มานั่งอยู่ในโต๊ะอาหาร ในร้านเพียงลำพังได้...หลังจากสั่งเครื่องดื่มกับบริกร
มีเสียงกริ่งเปิดประตูปรากฏร่างชายหนุ่ม สวมแว่นตาดำ ปกปิดดวงตาและโครงหน้าไว้บ้าง สวมเสื้อผ้าแต่งตัวดี ราวกับจะเป็นดาราไอดอลก็ว่าได้ หญิงสาวแอบมองสำรวจเขาอยู่กลายๆ สักพักเมื่อเขาหันมองไปมา และหยุดมองตำแหน่งเธอนั่งที่โต๊ะเพียงลำพัง เขายิ้มแย้มพลางยกมือสูง
โรสรินยิ้มตอบ เมื่อสายตาสบกันแม้จะต้องพยายามมองผ่านแว่นตากันแดดก็เถอะ เธอยกมือโบกกลับว่า เรานัดกันตรงนี้ใช่มั๊ย? ร่างของชายหนุ่มมาดเท่ห์เดินมาสมทบกับโรสริน และเขาทิ้งร่างลงนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกับเธอ
มือหนาปัดแว่นตาดำออกไปจากเรือนหน้า ปรากฏภาพอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม ผิวขาว ผมสั้น ปากแดง ดวงตาเล็กคม โครงหน้าโดยรวมให้คะแนนร้อยเต็ม โรสรินไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับชายหนุ่มสุดหล่อแบบนี้ ในสถานที่นัด จากแอพมือถือ ต้องส่งเรทติ้งคะแนนเต็มห้าให้แอพนี้เสียแล้ว
“โรสรินสินะ ผม ซัมเมอร์ ที่เราเจอกันในแอพไงล่ะ” น้ำเสียงนวลนุ่ม ชวนหญิงสาวขัดเขิน นี่เธอคงจะได้เจอชายหนุ่มเทพบุตรในดวงใจได้เสียที
“ค่ะ... ดีใจที่ได้เจอตัวจริง หล่อกว่าในรูปเสียอีก” หญิงสาวซึ่งนั่งเขินอายอยู่กับชายหนุ่มหล่อ ซึ่งได้พบกันครั้งแรก เธอยกมือขึ้นปิดหน้า แอบหัวเราะอ้าปากกว้าง เพราะเก็บอารามดีใจไว้ไม่อยู่ รูปร่างเขาสูงใหญ่ราวกับเป็นนักกีฬา รูปร่างดีไม่ต่างกับนายแบบไอดอลจริงๆ ทำไมเธอช่างโชคดีอะไรเช่นนี้
“ผมมีนัดกับอีกคน อยากชวนโรสรินไปด้วยกันหน่อย” สีหน้าเขาจริงจัง ราวกับอยากจะเซอร์ไพร์สเธอด้วย ทำให้หญิงสาวรู้สึกว่า จะให้ไปเจอใครกันแน่ แต่ซัมเมอร์ไม่ยอมบอก คิดเสียว่าถ้าเขามีแฟนอยู่แล้ว จะได้ตัดใจ
“ไปเดี๋ยวนี้เลยหรอคะ?” สีหน้าหญิงสาวที่พึ่งจะได้เจอหนุ่มหล่อ ต้องเปลี่ยนไปกะทันหันแบบไม่ทันตั้งตัว
“ไปเถอะ เขารอผมอยู่ที่รถ” คำพูดของซัมเมอร์บอกเธอ ราวกับจะให้ไปเจอใครอีกคน น่าจะเป็นผู้ชาย
“มีรถมาด้วย” ซัมเมอร์ลุกขึ้นพลางยื่นมือเพื่อให้เธอจับมือรับไปกับเขา เธออยู่ในอารามท่าทางดีใจจนหลวมตัวไปกับเขาอย่างง่ายดาย
โรสรินตัดสินใจไม่คิดมาก เอาเถอะลองดูหน่อย คงไม่เสียหายอะไร นี่มันอะไรกันนะ ไอ้ความรู้สึกสับสน บ้าๆ บอๆ แบบนี้
******
ชายหนุ่มจูงมือพาโรสรินออกมาจากร้านอาหารด้วยกัน เบื้องหน้าชายหนุ่มพาเธอเดินไปกับเขา ไม่ต่างกับแฟนชายหนุ่มหญิงสาว ที่คบหากันอย่างน่าอิจฉา...
โรสรินหัวใจเต้นตูมตาม รู้สึกเหมือนอยู่ในซีรีย์เกาหลีที่เคยดู อย่างนี้จะให้ทำอะไรก็ยอมหมด เมื่อรู้สึกตัวว่าเดินมาถึงลานจอดรถ เธอพบกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง สวมแว่นตากันแดด และลักษณะท่าทางเขาเหมือนกับซัมเมอร์มาก
“วินเตอร์!!! นี่ไง โรสรินที่นัดพบกันวันนี้...” ซัมเมอร์ทักกับฝาแฝดตนซึ่งทำตัวค่อนข้างเงียบขรึม เย็นชา ไม่ออกอาการแสดงความรู้สึกใดๆ นอกจากมองเธอผ่านแว่นตากันแดด
“คนที่เจอในแอพ ได้มาง่ายๆ อย่างนี้เลยรึ?” ชายหนุ่มซึ่งรอในลานจอดรถ คุยกับซัมเมอร์ค่อนข้างสนิทมาก เขาจึงเริ่มถอดแว่นตากันแดดออก เพื่อมองโรสรินให้ชัดขึ้น
“ซัมเมอร์ เป็นอะไรกับเขารึ? ทำไมหน้าตาเหมือนกันเลย” โรสรินรู้สึกแปลกๆ แล้วว่า นี่เธอไปเจอคู่แฝด ที่หล่อคูณสองถึงเพียงนี้เลยรึ?
“เขาชื่อ วินเตอร์ เป็นพี่ชายฝาแฝดผมเองนะ เราไปนั่งรถเที่ยวเล่นด้วยกันนะ” ซัมเมอร์ยิ้มแย้ม พลางดันร่างเล็กๆ ของโรสริน เข้าไปในรถเบาะหลัง เพื่อปล่อยให้วินเตอร์นั่งหลังเป็นเพื่อนกับเธอ ในขณะที่เขากำลังขับรถด้วยความเร็วสูง
พร้อมฟิลม์กระจกดำทึบ ซึ่งมองจากด้านนอกแล้ว ไม่สามารถมองเห็นภายในได้... วินเตอร์ไม่พูดอะไรมากนอกจากปิดประตูรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งเป็นของใช้ร่วมกันกับซัมเมอร์
พวกเขามีอะไรมักจะแบ่งใช้ร่วมกันเสมอ แม้กระทั่งนัดพบสาววันนี้ก็เช่นกัน ที่ซัมเมอร์และวินเตอร์ ตกลงกันแล้วว่าจะใช้ร่วมกัน...
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้