ลมพายุโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้นไม้ใหญ่รอบโรงเรียนริโอะเอนลู่ไปตามแรงลม เสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่านช่องว่างกระทบกับใบหูจนเจ็บปวด ท้องฟ้าเหนือแปลงผักที่เคยเป็นสีครามบัดนี้กลายเป็นสีดำสนิทราวกับถูกกลืนกินโดยความมืดมิด ไร้ซึ่งแสงแดดเหลืออยู่ เก็นยังคงยืนนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน แม้จะรับรู้ถึงแรงลมที่พัดปะทะกับใบหน้าจนแสบไปหมด เขากำลังใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามสลักที่ซ่อนอยู่บนฝาหีบไม้โบราณที่เปียกชื้นด้วยละอองฝน
"เก็น! พอเถอะ! มันไม่ดีเลยนะ!" ยูเมะ ตะโกนเสียงสั่น พยายามเรียกสติเพื่อน แต่เสียงของเธอแทบจะถูกกลืนหายไปกับเสียงของธรรมชาติที่กำลังโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้นเอง... ครืนนนนน! เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นกึกก้องจนพื้นดินสะเทือนเลื่อนลั่น แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงทำให้เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่ต่างทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ บางคนถึงกับส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว และในวินาทีเดียวกันนั้นเอง... คลิ๊ก! เสียงสลักหีบที่ปลดออกดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางเสียงฟ้าคำราม เก็นไม่รอช้า เขาออกแรงง้างฝาหีบออกทันที สิ่งที่ทะลักออกมาจากหีบใบนั้น ไม่ใช่สิ่งของหรือสมบัติล้ำค่าใด ๆ แต่เป็น กลุ่มเงาสีดำทมิฬจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันพุ่งทะยานออกมาจากปากหีบด้วยความรุนแรงและรวดเร็วราวกับถูกอัดแน่นมานานนับศตวรรษ แรงดันมหาศาลจากเงาปีศาจที่ถูกปลดปล่อย ทำให้ร่างของ เก็น กระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว หีบไม้โบราณหลุดจากมือของเขากระทบลงบนพื้นดินพร้อมกับเสียง 'ปึก' เบา ๆ เงาปีศาจเหล่านั้นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงหวีดหวิวที่เหมือนเสียงกรีดร้องนับพัน เสียงนั้นเสียดแทงแก้วหูจนทุกคนต้องยกมือขึ้นอุดหูด้วยความเจ็บปวด พวกมันกระจายตัวออกไปทั่วท้องฟ้าที่มืดมิดอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนรูปร่างเป็นเงาร่างคล้ายสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่กว่าคนปกติ ดวงตาเรืองแสงสีแดงฉานนับร้อยคู่ปรากฏขึ้นกลางความมืดมิด ราวกับเป็นดวงตาแห่งความชั่วร้ายที่กำลังจ้องมองลงมายังโลกเบื้องล่าง พวกมันไม่ได้ลอยอยู่นิ่ง ๆ แต่กลับกระพือปีกที่มองไม่เห็น ส่งเสียงคำรามในลำคอเบา ๆ ราวกับกำลังเพลิดเพลินกับอิสรภาพที่เพิ่งได้มา ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจของนักเรียนทุกคนอย่างฉับพลัน เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วบริเวณ บางคนถึงกับปล่อยเครื่องมือทำสวนในมือทิ้งลงพื้นและรีบวิ่งไปกอดเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความตื่นตระหนก ฮารุ ตัวสั่นเทา เธอรีบโผเข้ากอด คาซิมิ แน่น "นี่มันอะไรกัน ฮานะ... ฉันกลัว" บาระ ตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น "นั่นมัน... นั่นมันตัวอะไรกันน่ะ?" ยูเมะ ถึงกับร้องไห้ออกมา เธอจิกเล็บลงบนแขนของ มายู "ฉันกลัว... ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว!" ฟูมิโกะ พยายามรวบรวมสติ แม้ใบหน้าจะซีดเผือด "พวกมันมาจากไหนกัน..." ไอโกะ เองก็ตกอยู่ในอาการตกตะลึงไม่ต่างกัน ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังเงาปีศาจที่กำลังลอยวนอยู่บนท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัวสุดขีด "นี่มันคืออะไรกัน..." เสียงของเธอเบาหวิว ราวกับกระซิบกับตัวเอง ทันใดนั้นเอง! เงาปีศาจตัวหนึ่งที่ดูเหมือนจะใหญ่ที่สุดในกลุ่ม มันมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานปีกกว้าง ดวงตาแดงก่ำราวกับเพลิงนรก พุ่งตรงรี่ลงมายังทิศทางที่เหล่านักเรียนยืนอยู่! เป้าหมายของมันคือ ไอโกะ! เก็น ที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้อย่างทุลักทุเล เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในชั่วพริบตาเดียว แววตาของเขาเปลี่ยนจากความตกใจเป็นความเด็ดเดี่ยว เขารีบออกตัววิ่งสุดฝีเท้าไปยังที่ที่ไอโกะยืนอยู่พร้อมกับตะโกนเสียงดัง "ไอโกะ! หลบ!" ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เคนตะ ซึ่งมีสายตาไวและสัญชาตญาณดี ก็เห็นเงาปีศาจกำลังพุ่งเข้ามาเช่นกัน เขารีบวิ่งเข้าคว้าแขนไอโกะแล้วกระชากเธอให้ถอยหลังไปพร้อม ๆ กับที่เก็นพุ่งเข้ามาถึงตัวพอดี ร่างของทั้งสามคนจึงล้มลงไปกองอยู่บนพื้นพร้อมกัน หวุดหวิดที่จะถูกเงาปีศาจพุ่งชนไปเพียงเสี้ยววินาที! เงาปีศาจตนนั้นพุ่งผ่านพวกเขาไปกระทบกับพื้นดินด้านหลังจนเกิดเสียง 'ตุ้บ!' ดังสนั่น เศษดินและก้อนกรวดกระเด็นไปทั่ว มันเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาแดงก่ำจ้องมองมายังเหล่านักเรียนราวกับกำลังจ้องมองเหยื่อ ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะก่อนที่เสียงร้องหวาดกลัวจะดังขึ้นอีกครั้ง โช ที่เป็นนักกีฬาตัวใหญ่ เขารีบวิ่งไปคว้าจอบทำสวนที่วางอยู่ใกล้ ๆ มือ เขากำด้ามจอบแน่น ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "เฮ้ย! พวกเรามานี่!" โช ตะโกนเสียงดัง เขาหันไปมองเพื่อนนักเรียนชายคนอื่น ๆ โกฮัน รีบวิ่งไปหยิบเสียม โอกิ คว้าพลั่ว เทนชิ คว้ากรรไกรตัดแต่งกิ่งขนาดใหญ่ อิจิ, เคนตะ, เร็น, ไดชิ, คิชิโระ และเก็น ต่างก็พุ่งเข้าหาเครื่องมือทำสวนที่พอจะหยิบฉวยเป็นอาวุธได้ทันที พวกเขาไม่รอช้า รีบวิ่งกลับมายังจุดที่เงาปีศาจยืนอยู่ "พวกผู้หญิงไปหลบข้างหลังพวกเรา!" ไดชิ ตะโกนสั่ง เสียงของเขาแม้จะสั่นเล็กน้อยแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นักเรียนหญิงทั้งสิบคน ทั้ง ไอโกะ, ฟูมิโกะ, ฮานา, มายู, ยูเมะ, ฮารุ, คาซิมิ, บาระ, ดาอิ, ฮารุกะ ต่างพากันถอยร่นไปยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มนักเรียนชายที่กำลังยืนเรียงแถว ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและวิตกกังวล แต่ก็มีความหวังเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความกล้าหาญของเพื่อนร่วมชั้น เงาปีศาจคำรามต่ำ ๆ ร่างกายของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย มันพุ่งเข้าใส่กลุ่มนักเรียนชายอย่างไม่รีรอ "ลุยเลยพวก!" โช ตะโกนพร้อมกับเงื้อจอบขึ้นฟันไปที่ตัวของเงาปีศาจอย่างสุดแรง ฉัวะ! จอบเหล็กฟันทะลุผ่านร่างของเงาปีศาจไปอย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันเป็นเพียงกลุ่มควันสีดำ ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นกับมัน "อะไรกัน!" เคนตะ อึ้งไปเล็กน้อย เขาก็ลองใช้เสียมแทงเข้าไปบ้าง แต่เสียมก็ทะลุผ่านไปเช่นกัน "มันไม่เป็นไรเลย!" อิจิ ตะโกนอย่างตื่นตระหนก เงาปีศาจไม่สนใจการโจมตีที่ไร้ผลของพวกเขา มันง้างแขนเงาขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนกรงเล็บพุ่งเข้าใส่กลุ่มนักเรียนชาย โชรีบใช้จอบปัดป้อง แต่มันกลับทะลุผ่านจอบมาได้! โชพุ่งตัวหลบอย่างหวุดหวิด เกือบจะถูกกรงเล็บนั้นขย้ำ "ถอยก่อนพวก! เราทำอะไรมันไม่ได้!" เก็น ตะโกนสั่ง เขาเห็นแล้วว่าการโจมตีด้วยอาวุธธรรมดาไร้ประโยชน์ และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น... เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาโจมตีเงาปีศาจด้วยจอบและเสียม ร่างของมันกลับยิ่งขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม! จากที่เคยมีขนาดใหญ่กว่าคนเล็กน้อย ตอนนี้มันใหญ่ขึ้นเกือบเท่ารถยนต์คันเล็ก ๆ แล้ว ดวงตาแดงก่ำฉายแววชั่วร้ายมากขึ้น "มันตัวใหญ่ขึ้น!" คิชิโระ ร้องเสียงหลง "วิ่ง! วิ่งเข้าไปในอาคาร!" ไอโกะ ตะโกนสั่งด้วยเสียงที่เฉียบขาด แม้จะยังคงหวาดกลัว แต่เธอก็พยายามรวบรวมสติและมองหาวิธีเอาชีวิตรอด ทุกคนไม่รอช้า พวกเขาทิ้งอาวุธทำสวนลงพื้น หันหลังวิ่งสุดฝีเท้าออกจากแปลงผัก ตรงไปยังอาคารเรียนหลังใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุด หวังว่ากำแพงคอนกรีตจะสามารถปกป้องพวกเขาจากเงาปีศาจร้ายนี้ได้ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังระงมผสมกับเสียงหอบหายใจและเสียงกรีดร้องที่ยังไม่จางหายไปจากความหวาดกลัว เงาปีศาจคำรามอย่างเกรี้ยวกราด มันไม่ยอมให้เหยื่อหนีพ้นไปง่าย ๆ ร่างอันมหึมาของมันพุ่งทะยานไล่ตามติด ๆเสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง