แสงแดดอ่อนในยามบ่ายต้นฤดูร้อนสาดส่องลงมายัง โรงเรียนริโอะ อาคารเรียนสีขาวนวลถูกโอบล้อมด้วยหมู่มวลดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์นานาชนิดที่กำลังผลิบานอวดกลีบดอกละเอียดอ่อน ตัดกับสีเขียวชอุ่มของแมกไม้ใหญ่ที่ทอดร่มเงาให้ความร่มรื่นไปทั่วทั้งบริเวณ บรรยากาศเงียบสงบราวกับภาพวาดที่หยุดนิ่ง ทำให้โรงเรียนแห่งนี้ได้รับสมญานามอันไพเราะว่า "โรงเรียนสีขาว"
แต่สำหรับเช้าวันสุดท้ายของภาคเรียนที่ 1 บรรยากาศภายในห้องเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง B นั้นห่างไกลจากความสงบเงียบลิบลับ เสียงพูดคุยอื้ออึงแซมด้วยเสียงหัวเราะคิกคักสะท้อนก้องไปทั่วห้อง โต๊ะเรียนถูกดันมารวมกลุ่มกันเป็นวงกลมเล็ก ๆ นักเรียนแต่ละคนมีสีหน้าผ่อนคลายเต็มที่ ราวกับว่าภาระของการสอบปลายภาคได้ถูกปลดเปลื้องไปจนหมดสิ้นแล้ว ไอโกะ หัวหน้าห้องสาวผู้จริงจังและเป๊ะทุกระเบียบนิ้ว กำลังทำท่าจะเอ็ดเพื่อนร่วมห้องที่เริ่มส่งเสียงดังเกินไป แต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อเหลือบไปเห็นเงาร่างคุ้นตาที่ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ประตูห้อง "คุณครูมาแล้ว! เงียบ ๆ หน่อย!" เสียงกระซิบของไอโกะดังพอที่จะทำให้เพื่อน ๆ ที่กำลังเฮฮากันอย่างออกรสสะดุ้งโหยง ทุกคนรีบแยกย้ายกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองอย่างว่องไวราวกับมีอะไรบางอย่างกระตุ้นให้เคลื่อนไหวพร้อมกัน ในชั่วพริบตาเดียว ห้องเรียน ม.5/B ก็กลับมาอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ราวกับไม่เคยมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นมาก่อน ประตูห้องถูกผลักเปิดออกช้า ๆ พร้อมกับการปรากฏตัวของคุณครูซาโตะ คุณครูประจำชั้นผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นเสมอ "อรุณสวัสดิ์นักเรียนทุกคน" คุณครูเอ่ยทักทายพร้อมกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่ เก็น รองหัวหน้าห้องผู้เงียบขรึม ที่นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะหลังสุดราวกับรูปปั้น "อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ คุณครู" เสียงตอบรับพร้อมเพรียงดังขึ้น คุณครูซาโตะเดินมาหยุดอยู่หน้าชั้นเรียน วางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูกรุ่มกริ่มกว่าปกติ "วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอนในภาคเรียนนี้แล้วนะ คุณครูมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้พวกเธอทราบ" นักเรียนทุกคนเงียบกริบ บางคนเริ่มส่งสายตาสื่อสารกันเองอย่างสงสัยว่าเรื่องสำคัญที่ว่านั้นคืออะไร ยูเมะ สาวน้อยผู้สดใส ยกมือขึ้นถามอย่างกระตือรือร้น "เรื่องอะไรคะคุณครู? มีกิจกรรมพิเศษช่วงปิดเทอมหรือเปล่าคะ?" คุณครูซาโตะยิ้มกว้างขึ้น "ก็นับเป็นกิจกรรมพิเศษได้เหมือนกันนั่นแหละยูเมะ" คุณครูเว้นจังหวะเล็กน้อย ทำให้บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นมาทันที "คืออย่างที่พวกเธอทราบกันดีว่า แปลงผักด้านหลังของโรงเรียน ที่เราใช้ทำกิจกรรมเกษตรกรรมนั้นค่อนข้างทรุดโทรมลงไปมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา" เสียงฮือฮาเบาๆ ดังขึ้น นักเรียนบางคนเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก "ดังนั้น..." คุณครูซาโตะลากเสียงยาว "ทางโรงเรียนจึงตัดสินใจมอบหมายหน้าที่ดูแลแปลงผักในช่วงปิดเทอมนี้ให้กับพวกเธอ ชั้น ม.5/B ทุกคน!" สิ้นเสียงของคุณครูซาโตะ บรรยากาศในห้องก็ระเบิดออกทันที เสียงโอดครวญดังระงม บ้างก็ร้อง 'อะไรนะครับ/คะเนี่ย!' บ้างก็บ่น 'ปิดเทอมทั้งทีทำไมต้องมาดูแลแปลงผัก!' ความฝันที่จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงปิดเทอมพังทลายลงในพริบตา โช หนุ่มร่างใหญ่ใจดีที่นั่งอยู่แถวหน้าสุด รีบโพล่งขึ้นมา "คุณครูครับ! ทำไมต้องเป็นห้องเราด้วยล่ะครับ? ห้องอื่นล่ะครับ?" คุณครูซาโตะหัวเราะเบา ๆ "ก็เพราะห้องพวกเธอคือห้องที่ 'มีระเบียบวินัยมากที่สุด' ไงล่ะ" คุณครูเน้นคำว่า 'มีระเบียบวินัยมากที่สุด' เป็นพิเศษ พร้อมกับหรี่ตาเล็กน้อยคล้ายจะสื่อถึงอะไรบางอย่าง ทำให้นักเรียนบางคนถึงกับหน้าเจื่อนไปในทันที ฟูมิโกะ นักเรียนสาวผู้มักจะอยู่เงียบๆ แต่มีความคิดอ่านรอบคอบ เอ่ยขึ้น "แล้วเราจะต้องทำอะไรบ้างคะคุณครู? นานแค่ไหนคะ?" "คุณครูจะแบ่งเวรให้พวกเธอมาช่วยกันดูแลคนละสี่วันต่อสัปดาห์ หมุนเวียนกันไปตลอดช่วงปิดเทอมนี้ รายละเอียดปลีกย่อยคุณครูจะส่งตารางให้ไอโกะไปจัดการนะ" คุณครูซาโตะอธิบาย "หน้าที่หลัก ๆ ก็คือรดน้ำ พรวนดิน กำจัดวัชพืช แล้วก็เตรียมแปลงสำหรับการปลูกใหม่เมื่อเปิดเทอมนั่นแหละ ไม่ได้ยากอะไรหรอก" แม้จะดูเหมือนเป็นงานที่ไม่ยาก แต่สำหรับนักเรียนวัย 16 ปีที่กำลังฝันถึงการพักผ่อนหย่อนใจอย่างเต็มที่ งานดูแลสวนผักในช่วงปิดเทอมนั้นช่างเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสเกินจะรับไหว "คุณครูครับ... แต่มันร้อนนะครับ" เคนตะ ส่งเสียงอิดออด "แล้วพวกเราจะไปเที่ยวกันก็ไม่ได้น่ะสิครับ" คุณครูซาโตะยังคงยิ้ม "ถ้าพวกเธอช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ มันก็จะเสร็จเร็วขึ้นเองนั่นแหละ" คุณครูทิ้งท้ายแค่นั้น ก่อนจะหันไปสบตากับไอโกะ "ไอโกะ ฝากดูแลเรื่องตารางเวรด้วยนะ" ไอโกะถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบรับ "ค่ะคุณครู" แม้จะบ่นกันพึมพำ แต่สุดท้าย เมื่อเห็นสายตาอันเด็ดขาดของคุณครูซาโตะ ทุกคนก็จำต้องตอบตกลงอย่างช่วยไม่ได้ "ครับ/ค่ะ คุณครู" เสียงตอบรับที่ดูจะหงอยๆ ลงไปมากดังขึ้นพร้อมกัน "ดีมาก! งั้นขอให้ทุกคนสนุกกับการดูแลแปลงผักนะ" คุณครูซาโตะกล่าวปิดท้ายพร้อมรอยยิ้มปริศนา ก่อนจะเดินออกไปจากห้องเรียน ทิ้งให้นักเรียนห้อง ม.5/B นั่งถอนหายใจกันเฮือกใหญ่ ห้องเรียนกลับมามีเสียงพูดคุยอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นเสียงบ่นเสียมากกว่าการหัวเราะ "โอ๊ย... ปิดเทอมฉันพังหมดเลย!" ฮารุ โวยวายพร้อมเอาหน้าซบโต๊ะ ไดชิ แฝดชายของดาอิ หันไปมองน้องสาว "ดาอิ... เราจะได้เที่ยวกันไหมเนี่ย" ดาอิ แฝดหญิงที่มักจะทำหน้าเฉยเมย "คงต้องดูสถานการณ์ไปก่อนละมั้ง" ไอโกะถอนหายใจอีกครั้ง เธอหันไปมองเก็นที่ยังคงนั่งเงียบ "เก็น นายว่าไงบ้าง?" เก็นเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่เขาแอบอ่านอยู่ใต้โต๊ะ "ก็คงต้องทำน่ะ" เขาตอบสั้น ๆ น้ำเสียงเรียบเฉยตามเคย "ว่าแต่... ครูซาโตะดูมีความสุขเกินไปกับการที่พวกเราต้องมาดูแลสวนผักนะ" คำพูดของเก็นทำให้ทุกคนในห้องหันมามองเขาด้วยความสงสัย "หมายความว่าไงวะเก็น?" คิชิโระ ที่ปกติจะร่าเริงอยู่เสมอ ถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เก็นยกแว่นขึ้นเล็กน้อย "ก็เปล่าหรอก... แค่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ เท่านั้นเอง" ไม่มีใครรู้เลยว่า คำพูดของเก็นนั้นคือลางสังหรณ์ของเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และ 'งานพิเศษ' ในช่วงปิดเทอมนี้ กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาลเสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง