“ทำไมต้องเจอผู้หญิงหน้าด้านที่นี่นะ”
คำพูดของลูกปัดดังพอที่จะทำให้ทั้งอรฤดีและกรองขวัญได้ชัดชัดเจนจนต้องเงยหน้ามามองตากันในทันที
ตอนนี้อรฤดีรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของว่าที่สามีเธอและเป็นผู้หญิงเดียวกันกับที่เดินชนเธอในวันก่อน
ไม่รู้ทำไมเมื่อเรียบเรียงสถานการณ์ได้อย่างนั้นแล้วก็เกิดความความรู้สึกไม่พอใจบางอย่างขึ้นมาทันทีทั้งที่ตกตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วแต่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง
อรฤดีหันไปมองลูกปัดด้วยแววตาเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะไม่อยากจะทำให้ เสียบรรยากาศอุตส่าห์ตั้งใจจะกินไอติมให้อารมณ์เย็นลงให้ใจดีขึ้นมา แต่กลับมาเจอต้นต่อตัวปัญหาเข้าเต็มๆ
“มองทำไมยะ ไม่เคยเห็นคนมากับแฟนรึไงหรือว่ามองเพราะอยากจะได้ของของคนอื่นจนตัวสั่น!”
“มันจะมากไปแล้วนะนังลูกปัด จะพูดจะจาอะไรหัดคิดก่อนซะบ้าง”
กรองขวัญเอ่ยพูดสวนขึ้นมาทันที เมื่อ รู้สึกว่าผู้หญิงที่สวยแต่เปลือกคนนี้นั้นพูดจารุนแรงเกินไป
“แหมก็เรื่องจริงทั้งนั้นทนฟังไม่ได้เหรอ จะคบเพื่อนก็เลือกคบหน่อยนะ ระวังจะโดนเพื่อนรัก สวมเขาให้รู้ตัว”
ลูกปัดเบะปากพูดจีบปากจีบคอหน้าระรื่นหันไปทางกรองขวัญเพื่อนที่สนิทและก็ไม่อยากสนิทสักเท่าไหร่
“ใครกันแน่ที่นิสัยไม่ดีฉันว่าคุณควรจะผิดพิจารณาตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกเลยนะ”
อรฤดีเป็นฝ่ายตอบโต้กลับไปบ้างซึ่งก็ทำให้คนที่ได้ยินนั้นกำมือแน่นด้วยความโมโหเกลียดชัง แล้วเธอก็รีบทำท่าทางปกติและปรับใบหน้าให้ยิ้มแย้มเมื่อเห็นคนรักของเธอกำลังเดินมา
“ขอบคุณนะคะรักคุณที่สุดในโลกเลย”
เมื่อได้โอกาสลูกปัดก็รีบออดอ้อนคนรักของเธอเพื่อไม่ต้องการให้เขาชายตาไปมองนังผู้หญิงหน้าไม่อายคนนั้นที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่
“เราไปกันดีกว่าอร หมดอร่อยแล้ว”
กรขวัญหันไปพูดกระแทกใส่ลูกปัดพร้อมกับ หยิบกระเป๋าของตัวเองมาสะพายแล้วพากันเดินออกจากร้านไปแน่นอนว่า จอมทัพเองก็ต้องหันไปมองว่าที่เจ้าสาวของเค้าอยู่แล้ว
“บังเอิญจังเลยนะคะ”
ลูกปัดจ้องหน้าคนรักของตัวเองแล้วพูดออกมาด้วยแววตาจับผิดอะไรบางอย่างเมื่อเห็น อรฤดีนั่งอยู่เขาก็ดูแปลกไปไม่ค่อยพูดแถมยังหันไปมองอยู่บ่อยๆ จนเธอเองรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นอย่างนั้น
แต่จอมทัพก็ไม่ได้ตอบอะไร กลับมา แถมยังทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาอีกต่างหากบอกตรงๆ เลยว่าท่าทางของเขาในตอนนี้มันชวนให้คนที่กำลังจับสังเกตอยู่รู้สึกโมโหเหลือเกินมันเป็นอย่างที่คิดจริงๆ
“ปัดไม่อยากกินแล้วค่ะเรากลับกันเถอะ”
เธอทนไม่ไหวกับสถานการณ์อึดอัดนี้อีกต่อไปแล้วจึงกระแทกมือกับโต๊ะลุกขึ้นเดินออกจากร้านไปโดยที่จอมทัพเองก็เดินตามมาเงียบๆ
“จอมเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมคุณดูแปลกไปเวลาได้เจอแม่นั่น”
คุณหนูตระกูลไฮโซนั่งกอดอกอยู่บนรถที่กำลังแล่นออกจากห้างสรรพสินค้าพูดออกมาด้วยความไม่พอใจก็ภาพมันฟ้องซะขนาดนั้นจะให้เธอทนแบกความรู้สึกอึดอัดเหล่านี้ไว้คนเดียวได้ยังไง
“ผมก็แค่มีเรื่องอะไรให้คิดนิดหน่อยคุณอย่าคิดมากไปเลยนะอยากไปไหนอีกหรือเปล่าครับ”
“ไม่แล้วค่ะปัดอยากกลับบ้าน”
ดูเหมือนทั้งสองคนจะคิดตรงกันหลังจากนั้นตลอดทางลูกปัดก็ไม่ได้พูดอะไรกับคนข้างๆ อีกเลยจนถึงบ้านแถมในระหว่างทางก็ยังคิดแผนการอะไรบางอย่างออกมาได้ก่อนจะหันหน้ามองออกนอกกระจกรถแล้ว แสยะยิ้ม ร้ายๆ มาไม่ให้คนข้างๆ ได้เห็น
ข้อความ
“ผมต้องขอโทษแทนลูกปัดด้วยที่ทำตัวเสียมารยาทในร้านไอศครีม”
มือหนานั่งคิดก่อนจะกดพิมพ์ข้อความส่งไปให้ว่าที่เจ้าสาวของตนเองเพื่อเป็นการขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อรฤดีได้อ่านข้อความแล้วก็เบะปากคว่ำมองบนแทบไม่ทัน..ได้แต่คิดว่าต่อไปคงจะไม่นั่งร้านนั้นแล้วแหละ
“คนที่ควรพูดขอโทษไม่ใช่คุณแต่ก็เอาเถอะ..ฉันไม่ได้ใส่ใจ”
“คุณก็ชอบทานไอศครีมร้านนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“พรุ่งนี้ต้องเข้าไปดูการ์ดแต่งงานกับของชำร่วยผมจะไปรับคุณแต่เช้านะ”
“ไปตอนบ่ายก็ได้ไม่เห็นจะต้องรีบเลย”
“ตอนบ่ายผมมีธุระ”
“ถ้างั้นฉันไปคนเดียวได้เดี๋ยวถ่ายรูปส่งให้ดู”
“พ่อกับแม่ผมเอาตายแน่นอนถ้าเกิดทำแบบนั้น”
ใบหน้าสวยพ่นลมหายใจออกอย่างแรงเมื่อไม่อาจจะปฏิเสธได้ สรุปว่านี่เค้าอยากจะแต่งมากเลยหรือยังไง ไหนบอกว่าไม่อยากแต่งพูดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ตอนนี้กลับให้ความร่วมมือดีซะเหลือเกิน
อรฤดีนั่งยู่ปากมุ่ยหน้า คิดหาคำพูดที่จะทำให้ไม่ต้องได้เจอกับเขา
“เอาเป็นว่าเจอกันพรุ่งนี้มาฝันดี”
“เฮ้อเอาแต่ใจจริงๆ เลยคนบ้าอะไร”
วันรุ่งขึ้น
“เอาตามนั้นนั่นแหละค่ะ” “ เอาแบบนั้นเลยค่ะ” “ทำมาเลยค่ะ”
“เดี๋ยวๆ คุณ..คุณจะไม่เลือกให้ดีๆ หน่อยเหรอ”
“เลือกไปก็เท่านั้นแหละคุณยังไงเราก็ต้องยะ..”
“เอ่อเดี๋ยวผมขอตัวคุยกับเจ้าสาวของผมสักครู่นะครับ”
ไม่รอให้เธอได้พูดคำนั้นออกจอมทัพก็พูดแทรกขัดขึ้นมาทันทีก่อนจะคว้าข้อมือของหญิงสาวจับไว้แน่นแล้วพาเดินออกไปดูเหมือนวันนี้จะดื้อกว่าทุกวัน
“นี่คุณเป็นอะไรของคุณฮะ”
“เป็นคนที่ไม่อยากแต่งงานค่ะ ไหนๆ เราก็ต้องหย่ากันอยู่แล้วฉันไม่เห็นว่าจะต้องมาเสียเวลาเลือกอะไรแบบนี้เลยแบบไหนก็ใช้ได้ทั้งนั้นแหละ”
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะนะคุณ แต่ก็ต้องทำให้มันออกมาดีหน่อยสิ ทำส่งๆ แบบนี้เสียชื่อครอบครัวผมหมด”
จอมทัพพูดอึกอักดูไม่ค่อยจะเป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่สายตาก็เลิกลั่กมองไปทางโน้นทีทางนี้ที
“เอาน่าคุณอย่างน้อยๆ พ่อกับแม่ของเราทั้งสองฝ่ายก็คาดหวังกับงานนี้เอาไว้มากนะ”
ชายหนุ่มพยายามพูดให้เป็นปกติมากที่สุดพยายามโน้มน้าวให้คนตรงหน้าใจเย็นซึ่งการเอาพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายขึ้นมาเป็นเมนหลักในประโยคก็ดูได้ผลอยู่ไม่น้อยนอกจากเธอจะยอมเดินกลับเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มถึงแม้จะดูออกว่าจะเสแสร้งแต่ก็ยังให้ความร่วมมือในส่วนที่เหลือเป็นอย่างดี
“คุณอยากกินอะไรวันนี้เดี๋ยวผมพาไป”
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็กลายเป็นกิจวัตรไปแล้วว่าทั้งสองจะต้องไปทานข้าวด้วยกันก่อนถึงจะกลับบ้านได้ดูท่าแล้วแผนการกระชับความสัมพันธ์ของผู้มากประสบการณ์ชีวิตอย่างพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายจะประสบความสำเร็จอย่างดี
“อันที่จริงชั้นไม่ได้หิวแล้วก็ไม่ได้อยากไปกับคุณด้วยถ้าคุณอยากไปใช้เวลากับคนรักของคุณชั้นไม่ได้ว่าอะไรนะเราแยกกันตรงนี้เลยก็ได้”
“นี่คุณยังไม่หายโกรธผมเรื่องนี้อีกเหรอ”
“คือคุณอร … คุณอรเธอท้องค่ะ”“พรวดดดดด แค่กๆ” ชาจีนอย่างดีถูกพ่นออกมาทันทีด้วยความตกใจ ให้ตายเถอะแต่ละวัน หัวใจจะวาย“อะไรนะ แล้วเรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมถึงพึ่งมาบอก” “ขอโทษค่ะคุณนายแต่คุณอรกำชับไว้เลยไม่กล้าบอกค่ะคุณนาย” พี่ปลารีบก้มหน้าพูดรัวๆ ออกมาด้วยความกลัวเมื่อเห็นท่าทางของทัศนีย์ในตอนนี้“ฮึ่มมมมแกนะแก” ทัศนีย์รีบเดินไปหาสามีของเธอด้วยความดีใจจนไม่รู้จะพูดคำไหนออกมาแล้วรีบพากันไปที่บ้านของสิริวดีอีกครั้งในทันที “จริงเหรอ เรื่องจริงใช่ไหมแน่ใจแล้วใช่ไหม..” สิริวดีเสียงสั่นเครือเมื่อรู้ว่าลูกสาวของเธอกำลังตั้งท้องอยู่สองมือของคนเป็นแม่สั่นเทาด้วยคความดีใจทำอะไรไม่ถูก“เราไปหาลูกกันเถอะคุณ”คเชนทร์เสนอความคิดพร้อมกับโอบไหล่ภรรยาของตนเองเอาไว้“พวกเราไปด้วยเราก็อยากไปหาหลานเหมือนกันนะ” “งั้นก็ไปกันทั้งหมดนี่เลยแล้วกกัน”ตกลงกันได้อย่างนั้นทั้งสี่คนก็ออกเดินทางไปหาอรฤดีที่บ้านสวนในทันทีกว่าจะถึงก็ใช้เวลาเดินทางอยู่นานพอสมควรแต่กลับเป็นการเดินทางที่ทุกคนรู้สึกว่าช้ากว่าครั้งไหนๆ เพราะตอนนี้หัวในของคนแก่ๆ ไปถึงหลานตัวน้อยๆ ตั้งนานแล้ว ...“วันนี้อากาศดีจังเลยนะคะคุณอร ดอกไม้บ
หลายวันต่อมา ในงานวันหมั้นของลูกปัดและจอมทัพมีเพียงคนจากสองครอบครัวเท่านั้นไม่ได้จัดยิ่งใหญ่อะไรพิธีถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาวแม้แต่เปรมเองที่ไปทำงานต่างจังหวัดก็พึ่งรู้เรื่องงานหมั้นนี้เห็นแต่ว่าน้องสาวของตัวเองประกาศจะแต่งงานยังคิดว่าเป็นเพียงการสร้างเรื่องเมื่อเห็นแบบนี้ทำให้เขาอดที่จะคิดถึงอรฤดีไม่ได้เลยป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ไม่อยู่บ้านเพียงไม่กี่วันไม่คิดว่าน้องสาวของตนเองจะสร้างเรื่องได้ใหญ่โตขนาดนี้ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทุกคนพร้อมและถึงเวลาที่จะได้เริ่มพิธีการถึงจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่นักแต่ทั้งสุเมธและทัศนีย์ก็ยิ้มแย้มและให้ความร่วมมือทำตามขั้นตอนพิธีการเป็นอย่างดีจะให้ทำยังไงได้ล่ะก็ลูกชายของเธอไปทำลูกเขาท้องนี่เนอะในท้องของเด็กผู้หญิงคนนั้นมีหลานตัวเล็กๆ ของเธอกำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกไหนจะของหมั้นทุกอย่างก็ของดองทุกอย่างก็ไม่ได้ให้น้อยหน้าชื่อเสียงครอบครัวตัวเองได้ ภายในงานเต็มไปด้วยความแช่มชื่นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายถึงจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่แต่ก็รักษาหน้าตาของกันและกันไม่ให้อายสื่อได้ ลูกปัดยิ้มร่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ ในที่สุดวันที่เธอรอคอย
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ