LOGINชีวิตแต่งงานห้าปีของหนิงหนานเสว่และฟู่เฉิน ถูกประคับประคองไว้ด้วยการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีทั้งกายและใจ เธอคิดว่าแม้ไม่มีความรัก อย่างน้อยก็ควรมีความผูกพัน จนกระทั่งวันที่... หนังสือแจ้งอาการวิกฤติของลูกเพียงคนเดียวของพวกเขา และพาดหัวข่าวบันเทิงที่เขาทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อรักแรกปรากฏขึ้นพร้อมกันต่อหน้าเธอ ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องสวมบทบาทคุณผู้หญิงฟู่อีกต่อไป แต่ผู้ชายใจดำคนนั้นกลับติดสินบนสื่อทุกสำนัก คุกเข่าขอร้องให้เธอกลับมาด้วยดวงตาแดงก่ำท่ามกลางหิมะ ในขณะที่หนิงหนานเสว่ปรากฏตัวพร้อมกับจับมือผู้ชายอีกคน เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าเขาคือคนรักใหม่ของเธอ
View Moreหนิงหนานเสว่กลับมาถึงบ้าน เจียงเหยียนเชินเตรียมอาหารเย็นมากมายไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น หารือแผนการในขั้นต่อไปการยื่นขอสินเชื่อธนาคารของฟู่ซื่อกรุ๊ปถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เหตุผลก็คือสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ปน่าเป็นห่วง มีความเสี่ยงสูงเกินไปภายในห้องทำงานท่านประธาน ฟู่เฉินโยนเอกสารลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด เกิดเสียงทึบออกมาเขานวดหว่างคิ้ว พยายามคลายความเหนื่อยล้าหลายวันมานี้ แต่กลับพบว่าทุกอย่างไร้ประโยชน์สวีจือหรูยกนมร้อนเดินเข้ามา แธอสวมชุดนอนสีชมพูอ่อน ดูอ่อนโยนและเป็นกันเอง“อาเฉิน อย่าเหนื่อยเกินไปเลยค่ะ ดื่มนมแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ” เสียงของเธออ่อนโยน แฝงไปด้วยความเจ็บปวดใจฟู่เฉินรับนมมา แล้วดื่มไปอึกหนึ่ง ความอุ่นของนมเหมือนจะคลายความหงุดหงิดภายในใจของเขาได้เล็กน้อย“จือหรู ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทย่ำแย่มาก ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี” เขาถอนหายใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไร้กำลังสวีจือหรูเดินไปที่ด้านหลังของฟู่เฉิน แล้วนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา การเคลื่อนไหวของเธอนุ่มนวลและเอาใจใส่“อาเฉิน ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้
สวีจ้าวคิดจะฉกฉวยผลประโยชน์ตอนที่ผู้อื่นโชคร้าย ทว่าตอนนี้เพื่อบริษัทแล้ว เขาจำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอของสวีจ้าว“ฉันจะพิจารณาดู” ฟู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความหงุดหงิดเมื่อสวีจ้าวเห็นดังนั้น ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่พึงใจฟู่เฉินเดินมาถึงทางตันแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงต้องยอมรับเงื่อนไขของเขาอีกด้านหนึ่ง หนิงหนานเสว่เริ่มแอบสืบสวนสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ป เธอพบจุดบางอย่างที่น่าสงสัย เงินทุนของฟู่ซื่อกรุ๊ปเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โครงการจำนวนมากมีการรายงานผลกำไรที่เป็นเท็จวิกฤตของฟู่ซื่อกรุ๊ปร้ายแรงยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกอย่างมาก“รุ่นพี่ ฉันตรวจพบบางอย่างที่น่าสนใจค่ะ” หนิงหนานเสว่นำผลการตรวจสอบส่งให้กับเจียงเหยียนเชิน“ทางฉันก็จะรวบรวมข้อมูลภายในบางส่วนของฟู่ซื่อกรุ๊ปไว้ด้วยเหมือนกัน สถานการณ์ของพวกเขาไม่สู้ดีนักจริง ๆ” เจียงเหยียนเชินตอบกลับ“อืม ถึงเวลาแล้วค่ะ” สายตาของหนิงหนานเสว่ฉายแววเย็นเยือก เธอจะไม่ปล่อยฟู่เฉินไปอย่างแน่นอนภายในโรงพยาบาล สวีจือหรูยังคงเล่นบทสะใภ้ยอดกตัญญูต่อหน้าแม่ฟู่อยู่ทุกวันเธอจะมาส่งอาหารที่เตรียมมาอย่างพิถีพิถันให้กับแม่ฟู่ และย
หลังจากฟู่เฉินใช้ยาไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากฟู่ซื่อกรุ๊ปห้องทำงานท่านประธานของฟู่ซื่อกรุ๊ป เอกสารที่กองอยู่เป็นภูเขากระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะทำงานที่กว้างขวาง ฟู่เฉินขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าเขานวดขมับที่ปวดตึง พยายามทำให้ตนเองมีสติขึ้นมาบ้าง ทว่าช่วงนี้สถานการณ์ของบริษัททำให้เขายากที่จะผ่อนคลายได้อย่างแท้จริงอยู่ ๆ แม่ฟู่ก็ล้มป่วย บวกกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทเผชิญกับวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน“ประธานฟู่ คุณดื่มกาแฟสักแก้วเถอะค่ะ” สวีจือหรูยกกาแฟร้อนที่มีควันกรุ่น ๆ เดินเข้ามา รอยยิ้มอันอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “คุณยุ่งมาทั้งเช้าแล้ว พักผ่อนสักครู่เถอะนะ”ฟู่เฉินเงยหน้าขึ้น พลางมองใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรู ความอบอุ่นพวยพุ่งขึ้นมาในใจเขารับกาแฟ แล้วดื่มไปหนึ่งอึก กาแฟที่มีรสขมเจือไปด้วยความอบอุ่น“จือหรู ขอบคุณนะ” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความซาบซึ้งและเหนื่อยล้า“คุณกับฉันยังจะเกรงใจอะไรกันคะ” สวีจือหรูเดินไปที่ข้างกายของฟู่เฉิน พลางนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา “ทางคุณป้าฉันจะดูแลให้ดีที
“คุณหมอ แม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ?” ฟู่เฉินรีบก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวถาม“การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากครับ ผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายแล้ว” หมอกล่าว “แต่ว่าผู้ป่วยอายุมากแล้ว ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ต้องการนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอีกสักระยะ”เมื่อฟู่เฉินได้ยินคำพูดของหมอ ในที่สุดก็คลายความวิตกกังวลลงเขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก รู้สึกหมดแรงไปหมดทั้งร่าง“ขอบคุณครับหมอ ขอบคุณพวกคุณ” ฟู่เฉินพูดด้วยความซาบซึ้ง“นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรทำครับ” หมอกล่าว “ญาติสามารถเข้าไปดูผู้ป่วยได้แล้ว แต่ว่าอยากรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยนะครับ”ฟู่เฉินพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยแม่ฟู่นอนอยู่บนเตียงอย่างสงบ สีหน้าซีดขาว บนศีรษะมีผ้าก๊อซหนา ๆ พันอยู่ฟู่เฉินมองดูท่าทางที่อ่อนแอของแม่ฟู่ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและตำหนิตนเอง“แม่ ผมขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ผมไม่ควรยั่วโมโหแม่” ฟู่เฉินกุมมือของแม่ฟู่เอาไว้ พลางกล่าวอย่างแผ่วเบา “แม่จะต้องหายเร็ว ๆ นะครับ ต่อไปผมจะไม่ทำให้แม่โกรธอีกแล้ว”เหมือนแม่ฟู่จะได้ยินคำพูดของฟู่เฉิน น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาไม่กี่วันต่อมา ฟู่เฉินเฝ้าอยู่ภายในโรงพยาบาล
หลังจางวางโทรศัพท์แล้ว ใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรูก็มลายหายไป เข้ามาแทนที่ด้วยใบหน้าอันชั่วร้ายเธอมองดูโทรศัพท์มือถือในมือ พลางพึมพำกับตัวเองว่า “ยัยแก่ คอยดูไว้เถอะ พอฉันจัดการลูกชายของแกเสร็จแล้ว คนต่อไปก็คือแก!”และฟู่เฉินในตอนนี้ กำลังนั่นอยู่ภายในห้องทำงาน คิ้วขมวดมุ่นในเวลานี้เอง หน้าจอมือถือของฟู่เฉินก็สว่างขึ้น ข่าวบันเทิงฉบับหนึ่งเข้ามาสู่สายตาของเขา ความสัมพันธ์ของเจียงเหยียนเชินกับหนิงหนานเสว่ถูกเปิดเผย ทั้งสองคนไปเที่ยวด้วยกันอย่างหวานชื่น คาดว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้เมื่อฟู่เฉินมองเห็นท่าทางที่สนิทสนมของหนิงหนานเสว่กับเจียงเหยียนเชินในข่าวนี้ ความหงุดหงิดที่ไม่รู้สาเหตุก็พวยพุ่งขึ้นมาในใจเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วต่อสายหาหนิงหนานเสว่ ทว่าปลายสายกลับมีเสียงอัตโนมัติที่เย็นชาแว่วดังออกมา “ขออภัย สายที่ท่านเรียกยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”ฟู่เฉินโยนโทรศัพท์ไปด้านข้างอย่างหงุดหงิด เขาเพียงแค่รู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเท่านั้น ราวกับว่ามีไฟกองหนึ่งกำลังเผาไหม้ในโรงพยาบาล แม่ฟู่นอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมา ยากที่จะหลับลงภายในสมองของเธอปรากฏภาพของหนิงหนานเสว่กับเจ
ฟู่เฉินเห็นท่าทางอ่อนโยนของสวีจือหรูนั้น ความเหน็ดเหนื่อยในใจก็หายไปเป็นปลิดทิ้งเขาโอบสวีจือหรูเข้ามาในอ้อมกอดเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “ผมไม่เหนื่อย มีคุณอยู่ ผมก็ไม่เหนื่อยแล้ว”ทั้งสองคนพลอดรักกันอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นฟู่เฉินก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ใครกัน?” ฟู่เฉินถามขึ้น“อาเฉิน ฉันเอง” เสียงของแม่ฟู่ดังมาจากนอกประตู “แกเปิดประตูหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”ฟู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูทันทีที่แม่ฟู่ก้าวเข้ามา ก็เห็นฟู่เฉินกับสวีจือหรูในท่าทีที่สนิทสนมกัน ความโกรธในใจก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งหายใจไม่ทั่วท้อง หน้าอกของแม่ฟู่พลันหายใจติดขัด และเป็นลมล้มลงไปแม่ฟู่เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง อาการของเธอเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยอย่างที่สุดแม้ในใจของสวีจือหรูจะไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ก็จำต้องฝืนใจคอยดูแลแม่ฟู่ อย่างไรเสีย ต่อหน้าฟู่เฉิน เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์ความอ่อนโยนและเอาใจใส่ของตัวเองไว้“ป้าคะ วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า?” สวีจือหรูถือชามโจ๊กชามหนึ่ง เดินมานั่งข้างเตียงผู้ป่วย เอ่ยถามเบา ๆ บนใบหน้าของเธอมีรอย






Comments