ยังไงก็ต้องเป็นเธอ นิยายชุด Only One โดย M_Morine เขา..คือซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ผู้เคยมีทุกอย่าง ยกเว้น “เธอ” เธอ...คือ ดีไซเนอร์สาว ผู้หนีจากบางอย่างในอดีต โดยคิดจะไม่หันกลับไป สองปีแห่งการหายตัวหนึ่งคำถามที่ไม่เคยได้คำตอบ และโชคชะตาที่พาเขามายืนตรงหน้าเธออีกครั้ง—ในวันที่เธอไม่ใช่ "เธอคนเดิม"
View Moreสองปีแล้ว...ที่ เธอหายไป
หายไปจาก ทุกช่องทาง ทุกพื้นที่ นอกจากหัวใจของเขา----ยากที่จะลืม
อึก... อึก... อึก...
เสียงกลืนเหล้าจากขวดขนาด 1.5 ลิตร ดังขึ้นในความเงียบ ของเหลวสีน้ำตาลไหลผ่านลำคออย่าง ไร้รส ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงตามแรงกลืนจนแทบสำลัก
เพล้ง! ขวดแก้วถูกเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ลังเล เศษแก้วแตกกระจายทั่วพื้นไม้ กลิ่นแอลกอฮอล์ราคาแพงระเหยฟุ้ง คลุ้งไปทั่วห้อง แต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่กลางห้องนั้นกลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เฉิงชิงอี หรือที่โลกทั้งใบเรียกเขาด้วยชื่อบนเวทีว่า Dion (ไดออน)—เทพเจ้า ศิลปินหนุ่มลูกครึ่งจีน–เกาหลี วัย 29 ปี ผู้ที่เคยถูกยกย่องให้เป็นปรากฏการณ์ของวงการเพลงแห่งเอเชีย ใบหน้าหล่อคม ผิวขาวสะอาด ดวงตาดำสนิทที่แฝงความลึกลับ ส่วนสูง 184.8 เซนติเมตรที่มักทำให้เขาดูโดดเด่นเสมอ พรสวรรค์ด้านดนตรีที่เขาขัดเกลาตั้งแต่อายุ 15 ปี ส่งเขาสู่จุดสูงสุดของวงการไอดอนอย่างสง่างาม
แต่เบื้องหลังชื่อเสียง ความสำเร็จ และแสงแฟลชนับพัน... คือหัวใจที่พังยับเยินจากการถูกหักหลัง
โดยคนที่เขาเคยไว้วางใจมากที่สุด—ผู้จัดการส่วนตัวของเขาเองและเพราะเหตุการณ์นั้น…เขาจึงต้อง “เสียเธอไป”
สองปีแล้ว...ไม่มีแม้แต่เงาของเธอ
ไม่มีแม้แต่ร่องรอยว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
เขาทุ่มหมดหน้าตัก—เงิน เส้นสาย อิทธิพล กระทั่งมือสกปรกที่สุดในเงามืด นักสืบนับร้อยคน... แต่ผลที่ได้กลับมีเพียงความว่างเปล่า...
ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน...เธอก็เหมือนคนที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้เลย
เขาหลับตาลงแต่ภาพของเธอในความทรงจำกลับชัดเจนยิ่งกว่าทุกสิ่งในโลกนี้
วันนั้น...วันที่เธอยื่นร่มให้เขาใต้สายฝน ริมฝีปากของเธอยิ้มบาง ๆ ขณะเอ่ยเบา ๆ ว่า
“ฉันเกลียดเวลาคุณเปียกฝน… มันทำให้คุณดูเศร้าเกินไป”
เธอไม่ใช่แฟนคลับ
ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน
ไม่ใช่คนในวงการ
แต่เธอเป็นแค่ “คนธรรมดา” ที่มองเขา...ในแบบที่ไม่มีใครเคยมอง
คนเดียวที่เขาเคยเชื่อใจ...
และคนเดียวที่เขาทำหายไป...
โทรศัพท์ของเธอปิดเงียบตั้งแต่วันนั้น บัญชีธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว กล้องวงจรปิดของโรงแรมที่เธอพัก…ไม่มีแม้แต่เงาของเธอปรากฏแม้เพียงเฟรมเดียว มันเหมือนเธอถูก "ลบ" ออกจากโลกใบนี้...
...หรืออาจจะถูกใครบางคน “ซ่อน” ไว้ตั้งแต่แรก
คิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่น สายตาคมกริบจ้องหน้าจอมือถือนิ่ง ราวกับถ้ามันมีชีวิต ก็คงไหม้เป็นจุณในเสี้ยววินาที
ครืน... ครืน...
เสียงสั่นจากมือถือดังซ้ำ ๆ อย่างน่ารำคาญ แต่เฉิงชิงอีกลับปัดหน้าจอทิ้งอย่างหัวเสีย
ติ่ง... ติ่ง...
การแจ้งเตือนจากกรุ๊ปไลน์ “KigGuy4” โผล่ขึ้นกลางหน้าจอ
BomBom:/ มึงอยู่ไหน ซอนาบอกว่านายยังไม่ถึงสนามบินเลย เรื่องหัวใจมึง กูเข้าใจนะโว้ย
แต่งานก็คืองาน อย่าทำให้ความพยายามตลอดหลายสิบปีพังดิวะ/Kimho: /มันอ่าน แต่ไม่ยอมตอบวะ/
BomBom: /ถ้ามันไม่ตอบ กูไม่บอกว่าน้องอยู่ไหน/
แนบรูปหญิงสาว
ไดออนจ้องภาพหญิงสาวในมือถือ ดวงตาแดงก่ำ กรามซ้ายขบแน่นจนเส้นเอ็นขึ้น แทบเป็นตะคริว มือกดพิมพ์ตอบกลับอย่างหงุดหงิด
Dion: /มึงมีไร/
Kimho: /โห... พูดกับเพื่อนให้ไพเราะหน่อยครับท่านพี่! /
Dion: (ส่งสติกเกอร์รูป “ตีน”)
Kimho: /เซี่ยพากูไปส่ง รพ. ด่วน กูนี่โดนตีนเต็ม ๆ ว้อย!/
BomBom: /ยัง ยังไม่หยุดเล่นกันอีก! 555/
BomBom: /กู/
/แค่/
/จะ/
/บอกว่า…/
Kimho: /ควาย! มึงจะพิมพ์ทีเดียวไม่ได้รึไง กูลุ้นจนจะเยี่ยวราดอยู่แล้วเนี่ยะ!/
BomBom: /น น อ ง ไ ท ย.../
ที่พิมพ์ติดขัดเพราะขณะนั้นน้องชายของเขา กำลังถูกลุกล้ำด้วยปากของสาวหมวยนมใหญ่ ผู้บุกตะลุยโดยไม่ให้หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างโอยองบอมตั้งตัวได้ทัน
ใช่…เขาคือ บอมบอม หรือ โอยองบอม นักธุรกิจหนุ่มอายุยังไม่ถึงสามสิบ แต่ครองตำแหน่ง CEO แห่ง BBOOM Entertainment ค่ายเพลงที่เขาก่อตั้งร่วมกับไดออนนับตั้งแต่วันเดบิวต์ นอกจากเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ พวกเขายังเป็นเพื่อนรักที่ฟาดกันได้ทุกคำ
Kimho: /ค ว ... แล้วจะรู้เรื่องไหม กูไปเข้าฉากก่อนละ ภารกิจของมึงเสร็จเมื่อไหร่ ค่อยพิมพ์มาตรง ๆ หน่อยแล้วกัน วู้ววว!/
คิมโฮ—พระเอกหนุ่มหน้าหวาน เจ้าของฉายา “ดอกไม้งามแห่งเกาหลี” พิมพ์ข้อความจบก่อนวิ่งแจ้นเข้าสตูดิโอถ่ายทำแบบไม่เหลียวหลัง
Christ: …
BomBom: /น น อ ง ไ ท ย/
ไดออนจ้องภาพหญิงสาวในมือถือด้วยสายตาเศร้า มือกำแน่น น้ำตาไหลรินโดยไม่มีคำอธิบาย
‘ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน…ผมขอโทษ…ผมขอโทษ…’
หยดน้ำตาของลูกผู้ชายร่วงลงบนหน้าจอ เขาไม่ได้ร้องเพราะความอ่อนแอ แต่เพราะรู้ดีว่า…
เขากำลังกลายเป็นคนที่เขาเคยเกลียด
คนที่พยายามตามหาใครสักคน เพียงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า “ยังมีอะไรให้ยึด”
‘เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยากเจอเธอเพราะคิดถึง...หรือเพียงเพราะเขาไม่เหลือใครอีกแล้ว’
‘แต่มีสิ่งเดียวที่เขารู้แน่—หากไม่ได้เจอเธอ...เขาอาจสูญเสียแม้แต่ตัวตนของตัวเอง’
ชายหนุ่มลุกจากโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์หนึ่งที่เขาไม่อยากโทรหาที่สุด แต่ก็เลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว
“ซอนา…ติดต่อทีม…ฉันต้องรู้ว่าเธออยู่ไหน”
“ไดออน นายอยู่ที่ไหน? ทำไมยังไม่มาที่สนามบิน?”
เสียงจากปลายสายของซอนา ผู้จัดการสาวใจหนุ่ม ฟังดูทั้งหงุดหงิดและร้อนใจ
“นักข่าว แฟนคลับ กำลังรอส่งนายอยู่นะ!”
ไดออนไม่ตอบอะไรนอกจากเอ่ยสั้น ๆ
“จองไฟลท์ใหม่ ฉันจะเดินทางพรุ่งนี้”
จากนั้นก็ตัดสายทิ้งโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายยังพูดไม่จบ
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งวาง!”
เสียงของซอนาตะโกนลั่น ก่อนจะสบถกับตัวเอง
“แล้วนัดคุยกับทีมดริฟต์รถโชว์ล่ะ? รูปแบบการแสดงที่ต้องเช็กด้วยกันอีก เฮ้อ…บ้าตายชะมัด!”
มือหนึ่งจับโทรศัพท์ อีกมือขยี้ผมตัวเองจนยุ่งไม่เป็นทรง
จังหวะนั้น มีนักข่าวคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ พร้อมยิงคำถามทันควัน
“เกิดอะไรขึ้นกับไดออนครับ?”
ซอนาสะดุ้งเล็กน้อย แต่รีบตั้งสติ ก่อนแปรเปลี่ยนสีหน้าทันที เธอยิ้มบาง โค้งตัวอย่างสุภาพ ก่อนเอ่ยเสียงชัด
“ไม่มีอะไรค่ะ ไดออนมีปัญหาส่วนตัวเล็กน้อย อาจต้องเลื่อนการเดินทางเป็นพรุ่งนี้ ทางเราต้องขอโทษแฟน ๆ ทุกท่าน รวมถึงสื่อมวลชนที่รออยู่ด้วยนะคะ”
จากนั้นเธอหันกลับไปพูดกับกล้องที่ทีมงานไลฟ์อยู่
“ทางเราและไดออน ยินดีชดเชยด้วยการจัดแฟนมิตติ้งสุดพิเศษ ขอเชิญแฟน ๆ ทุกท่านลงชื่อกับทีมงานได้เลยค่ะ”
ซอนา...หญิงสาวร่างบางผู้ครองตำแหน่ง “ผู้จัดการมือทอง” แห่งวงการบันเทิงเกาหลี เพิ่งเซ็นสัญญากับ BBOOM Entertainment ได้ไม่นาน แต่กลับต้องมารับไม้ต่อดูแลศิลปินระดับโลกที่ขาดความมั่นคงทั้งอารมณ์และหัวใจอย่าง...ไดออน
ประตูเกสต์เฮาส์เปิดออกอย่างแรง เธอหันไปตามเสียง แล้วถอนหายใจแรงทันที
“เฮ้อ...”
ซอนามองร่างสูงของไดออนในสภาพสะบักสะบอม เมาเละจนแทบไม่เหลือเค้าศิลปิน
เธอเรียกแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด พร้อมหยิบมือถือโทรเคลียร์ตารางงานที่ไทย จัดการแทบทุกเรื่องในเวลาอันสั้น
“โชคดีที่วันนี้มีแค่ดูคิวการแสดงกับทีมเท่านั้น ไม่งั้น...ซวยกว่านี้แน่”
เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะลากร่างไอดอลระดับโลกขึ้นเตียงให้เรียบร้อย
ทันใดนั้น เธอชะงัก
“สนามบินสุวรรณภูมิ...ยังไม่ได้แจ้งแฟนคลับเลยนี่หว่า!”
ซอนารีบวิ่งไปเปิดคอมพิวเตอร์ กระแสจากโลกออนไลน์ในเกาหลีเริ่มขึ้นเทรนด์ไปแล้ว
‘ต้องหนักขนาดไหน ถึงเลื่อนการเดินทาง?’
‘ฉันเป็นห่วงเขาจัง สามีของฉัน…’
‘แม่จะนอนหลับได้ยังไง?’
‘เชื่อว่าไดออนของฉันต้องไม่เป็นอะไร’
‘ดังแล้วทำอะไรก็ได้เหรอ? ไม่เห็นใจแฟนคลับเลย’
ซอนามองหน้าจอถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ
“แก...มีคนรออยู่มากมายขนาดนี้ อย่าทิ้งตัวเองไปไกลกว่านี้เลยนะ...ไดออน”
หลังจากไดออนเดินจากไป ข้าวหอมนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ ซองจดหมายนั้นยังวางอยู่ตรงหน้าเธอไม่รู้ว่าควรเก็บไว้…หรือควรคืนเขาสมองของเธอไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกได้อีกต่อไป หัวใจมันตีกลับ—เหมือนน้ำที่กระทบหินก้อนเดิมซ้ำ ๆ แต่ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นจากโต๊ะ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลังเสียงที่ทำให้ไหล่เธอกระตุกโดยอัตโนมัติ“มัจฉะนมอัลม่อน หวานร้อย...สั่งเหมือนเดิมเลยสินะ”ข้าวหอมชะงัก เสียงนั้นนุ่ม ละเมียด…แต่แฝงแรงกดดันลึก ๆ เธอหันไปช้า ๆ — และพบรอยยิ้มบาง ๆ ของ พัคจองฮุนเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้ม สูทเรียบพอดีตัว แต่สิ่งที่โดดเด่นกว่าการแต่งตัว…คือสายตาที่มองเธอราวกับรู้ว่าเธอจะมา“ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญเจอคุณที่นี่อีกครั้ง”เธอพยายามควบคุมสีหน้า แต่มือที่วางบนหน้าขากระตุกเบา ๆ“ไม่คิดว่าคุณยังอยู่ในประเทศไทย…”“ผมไม่เคยออกไปไหนไกล ถ้ายังไม่เจอสิ่งที่ตามหา”เขานั่งลงตรงข้ามเธอโดยไม่รอคำอนุญาตข้าวหอมขยับแก้วของตัวเองเล็กน้อย แต่ไม่ได้ลุกหนี เพราะเธอรู้…ยิ่งแสดงออกว่าไม่กลัว เขายิ่งไม่มีทางเข้าถึงเธอได้ง่าย
หลังจากวันนั้นที่ไดออนได้เจอกับข้าวหอม เขาดื่มจนเมาไร้สติ ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง บ้านพักตากอากาศที่ไหนสักแห่งที่เขาไม่คุ้นเคย ริมทะเลที่เงียบสงบเขาไม่รู้ว่าใครพามา แต่เหล้าขวดหนึ่งที่อยู่ข้างเตียงทำให้เขาคิดว่า ‘มันคงไม่ใช่ฝัน’ประตูห้องเปิดออก เสียงส้นรองเท้าแตะพื้นไม้สะท้อนเบา ๆ ก่อนที่ ‘ซอนา’ เข้ามา“ไดออน ยองบอมสั่งให้ฉันพานายมาพักที่นี่สักระยะ”“หึ ทำไมมีเหล้าแค่นี้” เขาถามเสียงแหบในสภาพเสื้อเชิ้ตยับยู่ยี่“ดีที่ยังมีเหล้ามาด้วยตั้ง 1 ขวด ฉันให้เวลานายได้ย้อมใจได้เท่านี้ และมันจะสิ้นสุดลงแค่ขวดนี้ขวดเดียวเท่านั้น”“หากนายยังอยาก เริ่มต้นใหม่ นายอย่าทิ้งตัวตนของตัวเองไปแบบนี้สิ นายรู้ดีว่าความเมามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย”ซอนาวางขวดน้ำเปล่ากับยาแก้เมาค้างลงข้างเตียงก่อนจะเดินออกไป“นายก็อยู่ที่นี่ให้สบายใจก่อนก็แล้วกัน ฉันยกเลิกคิวงานให้หมดแล้ว วันนี้ถ้านายอยากจะล้ม... ก็ขอให้ล้มให้สุด แต่ถ้าจะลุก...ฉันจะรออยู่ข้างนอก” หลังพูดจบซอนาก็เดินออกไปจากห้องเสียงคลื่นเบา ๆ กระทบชายหาดยามเช้า ได
ทั้งหมดนั้นเป็นแค่จินตนาการของไดออนเท่านั้นไม่มีแสงเทียน ไม่มีกลีบกุหลาบโปรยปราย ไม่มีเสียงประตูเปิด ไม่มีคำว่า "เรากลับมาเริ่มกันใหม่ได้ไหม"มีเพียงความเงียบ...เขายืนอยู่กลางห้องเปล่า ๆ คนเดียว เสื้อเชิ้ตที่ใส่มาเริ่มยับย่นจากการทรุดนั่งลงหลายครั้งไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีแววตาที่เคยเชื่อใจ มีเพียงเสียงของความจริง...ที่กัดกินหัวใจเขาทุกวินาทีชายหนุ่มทรุดตัวนั่งอยู่ตรงกลางห้อง ร่างสูงใหญ่นั้นเคยสง่างามบนเวทีและหน้ากล้อง วันนี้กลับดูอ่อนแรง และบอบบางราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อเขาหลุบตาลงมองฝ่ามือตัวเอง—ฝ่ามือที่เคยจับเธอไว้ แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้หลุดไปอย่างโง่เง่าพรมสีครีมใต้ร่างให้สัมผัสอุ่น...แต่ความรู้สึกในใจกลับเย็นชาเกินกว่าจะรับรู้ได้‘เธอไม่ได้ห้าม…ไม่ได้วิ่งเข้ามา…ไม่ได้แม้แต่จะมองผมเลย…’เขาเงยหน้าขึ้น พยายามข่มน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่เปล่าเลย...น้ำตาลูกผู้ชายไม่ได้ช่วยให้หัวใจหายเจ็บ‘น่าสมเพชตัวเองชะมัด’เขาคิด ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างแห้งผาก เสียงหัวเราะที่เหมือนคนแพ้
รถของเธอหมุนดริฟต์เข้าโค้งสุดท้าย ปิดโชว์ด้วยการหมุนตัวหนึ่งรอบ ก่อนเบรกลงช้า ๆจังหวะพอดีที่เขาวิ่งมาถึง—ทันเห็นเธอก้าวลงจากรถ ทันเห็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมาหลายเดือน แต่ก็ทัน... เห็นใครอีกคนที่เดินเข้าหาเธอก่อน“เกอ...” เขาพึมพำบางอย่างออกมาชายหนุ่มร่างสูงในชุดลำลอง เดินตรงเข้ามายืนบังเธอไว้ จากนั้นก็โอบบ่าของเธอไว้แน่น แน่น... ราวกับต้องการประกาศอะไรบางอย่างต่อหน้าทั้งสนามเขาหัวเราะเบา ๆ—แต่แววตาที่มองตรงมาหาไดออน... ไม่ขำแม้แต่นิดเดียว“เพิ่งรู้ว่า คนที่เคยทิ้งเธอไว้ได้... กล้ากลับมามองเธออีกครั้ง”น้ำเสียงของชายคนนั้น คนที่เขาคุ้นเคย ไม่ได้ดัง ไม่ได้ขู่ ไม่ได้ขึ้นเสียง แต่ทุกคำของเขา หนักพอจะฝังหมัดลงกลางอกไดออน... โดยไม่ต้องแตะตัวไดออนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สองมือกำแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว เขาไม่โต้กลับด้วยความบ้าระห่ำ...แต่เขาเลือก “เงียบ” และ มองแค่เธอคนเดียวข้าวหอม...ไม่หลบตา แต่ก็ไม่ได้สบตากลับ เธอแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ข้าง ๆ เขา เหมือนกำลัง... “รอคำตอบ” หรือไม่ก็ “ทดสอบ” อะไรบางอย่าง“ผมไม่ได้กลับมา เพื่อขอร้องให้เธอย้อนกลับมา” ไดออนพูดเสียงเรียบ แต่ชัดทุกคำ“ผมกลับมา... เพื่อยืนอยู
ปัจจุบันไดออนนั่งพิงเบาะในเครื่องบินส่วนตัว ดวงตาคมทอดมองออกไปยังท้องฟ้ากว้างที่ถูกแต่งแต้มด้วยกลุ่มเมฆสีขาวเรียงตัวเป็นระเบียบ สวยงามในสายตาใครหลายคน... ยกเว้นเขาริมฝีปากหนายกยิ้มจาง ๆ เมื่อนึกถึงวันแรกที่เธอตอบตกลงเป็นแฟนกัน—วันที่หัวใจเขาเต้นแรงที่สุดในชีวิต... แต่น่าเศร้าที่ตอนนี้ ความทรงจำเหล่านั้นกลับกัดกินหัวใจเขาแทน‘ฉันมันโง่... ที่เอาความเจ็บปวดในอดีต ไปตัดสินคนที่รักผมมากที่สุด’แววตาอ่อนล้าภายใต้แว่นดำสั่นระริก ความรู้สึกผิดในใจยังไม่เคยจางลงแม้เพียงวันเดียว‘หากได้เจอเธออีกครั้ง... ไม่ว่าเธอจะยังรักผมหรือเปล่า ผมก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อชดเชยทุกอย่างที่ทำพังไปกับมือ’ณ ห้องพัก โรงแรมใจกลางเมืองบุรีรัมย์ข้าวหอมทรุดตัวนั่งริมเตียง สองมือกุมโทรศัพท์แน่น จ้องหน้าจอที่หยุดนิ่งอยู่ตรงช่วงท้ายของคลิปสัมภาษณ์ศิลปินคนหนึ่ง—อดีตคนรักของเธอ“เราเลิกกันเถอะ…”เสียงคำพูดของเขาในวันนั้นยังคงดังชัดอยู่ในหัวใจ ราวกับลมหายใจของเขายังอบอวลอยู่ตรงหน้า ทั้งที่จริง… มันกลายเป็นเพียงเศษฝุ่นในอดีตดวงตาเธอเต็มไปด้วยแววเจ็บปวด... ความเจ็บปวดจากการถูกตัดสิน ทั้งที่ไม่ได้รับโอกาสแม้แต่จะอธิบาย‘
ประตูใหญ่เปิดออกในจังหวะที่ไม่ควรที่สุด...ชายหญิงคู่หนึ่งเดินโอบกันเข้ามา ก่อนจะแลกจูบกันอย่างเร่าร้อนราวกับลืมโลก ทั้งที่อีกมุมยังมีคนสองคนจ้องมองอยู่อย่างตะลึงมือหนึ่งกอดเอว มือหนึ่งลูบต้นขา ไม่มีแม้สำนึกถึงสาธารณะ จากนั้นทั้งคู่พากันหายเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว ก่อนเสียงประตูจะ...ปัง!“ไม่ต้องเบามือนะหนุ่มน้อย เต็มที่เลย เจ้ชอบบบ~!”เสียงแสบหูดังแว่วมาทันก่อนประตูจะปิด เงียบงันอีกครั้ง...บรรยากาศเงียบ...จนได้ยินเสียงกลืนน้ำลายตัวเองข้าวหอมหน้าแดงปลั่ง เธอหันไปมองหน้าไดออน ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ของตัวเองกับเขา‘ถ้าเพื่อนไม่โผล่มา...เราจะเลยเถิดไปไกลแค่ไหนนะ…’เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้น...ติ๊ง!เสียงข้อความจากมือถือของไดออนดังขึ้นกะทันหันเขาหยิบขึ้นมาดู“ขอให้คืนนี้เป็นคืนที่มีความสุขนะคะ ^^ ถ้าจะใช้มุมไหนในบ้านก็ตามสบายเลยค่ะ รับรองว่าคืนนี้ทั้งคืนฉันจะไม่ออกจากห้องนี้แน่นอน😏 – มินยง”ไดออนชะงัก มือที่ถือโทรศัพท์สั่นนิด ๆ ด้วยความพยายามกลั้นหัวเราะ“มินยง...” เขายื่นมือถือให้ข้าวหอมดูข้าวหอมเห็นข้อความแล้วแทบจะเอาหน้าซุกหมอน ร้องเส
Comments