จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!
ดูเพิ่มเติมอลิส เจนี่ ร็อกส์ มองพื้นที่แห้งแล้งตรงหน้าด้วยความว่างเปล่า ที่นี่เป็นดาวรกร้างของสหพันธ์ยูโร ดาวที่ขึ้นชื่อยากจนที่สุด ซึ่งผู้คนที่ดาวรกร้างแห่งนี้ต่างดิ้นรนออกไปอยู่เมืองใหญ่ หรือไม่ก็เมืองหลวงของสหพันธ์ยูโร จึงทำให้ดาวรกร้างที่เธออาศัยอยู่มีเพียงคนที่มีอายุเท่านั้น
คงมีเพียงเธอที่เป็นหญิงสาวคนเดียวที่ถูกครอบครัวของพ่อเนรเทศมาอยู่ที่นี่ ที่ซึ่งไม่มีใครอยากอยู่แต่เธอไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ชีวิตต่อไป เธอไม่มีเหรียญดวงดาวมากพอที่จะหนีไปอยู่ที่อื่น แค่มีกินไปวันๆ ก็ดีแค่ไหน ไม่ใช่เธอไม่มีความคิดที่จะจากไป แต่แม่เลี้ยงคนนั้นปิดกั้นเส้นทางเธอทุกอย่าง
อลิส เจนี่ ร๊อกส์ เม้มปากแน่นเมื่อนึกถึงอดีตที่น่าสงสารของมารดา เธอเองก็เป็นลูกสาวของท่านนายพลคนหนึ่งแต่น่าเสียดายที่อโรม่า เจนี่ ร๊อกส์ แม่ของเธอเป็นเพียงภรรยานอกสมรสเท่านั้น เพราะความไม่รู้ว่าสามีตนเองมีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว กว่าจะรู้ก็สายไปแล้วเพราะให้กำเนิดเธอ เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นภรรยานอกสมรสแม่ก็พยายามทำเพื่อเธอทุกอย่าง ยอมกระทั่งไปอยู่ใต้อาณัติของสามีคนนั้น
ทว่านายพลอีรอน คาร์ล ผู้เป็นพ่อเป็นเพียงผู้ชายขี้ขลาดที่ได้ตำแหน่งมาได้เพราะภรรยาหลวงที่มีฐานะร่ำรวยและเส้นสาย มีหน้ามีตาของสังคมและยังมีลูกสาวที่เป็นดาวดวงใหม่ของสหพันธ์ ทำให้เธอกับแม่มีชีวิตที่ลำบากภายใต้การกลั้นแกล้งจากภรรยาหลวงและลูกในสมรสของพวกเขา
อลิส เจนี่ ร๊อกส์อายุได้สิบขวบแม่ก็ได้จากไป เธอที่เป็นเสี้ยนหนามของพวกเขาจึงได้ถูกส่งตัวมาที่ดาวรกร้างแห้งนี้ พวกเขาไม่ได้ฆ่าเธอ พวกเขาคิดว่าการตายมันง่ายเกินไป การทำให้ทุกข์ทรมานและสิ้นหวังต่างหากที่พวกเขาต้องการ
ในเมื่อพวกเขาต้องการอย่างนั้นอลิสจึงไม่แสดงให้พวกเขาได้เห็นว่าเธอเหนื่อยล้าและสิ้นหวังจริง ๆ เธอพยายามหนีออกจากดาวรกร้างแห้งนี้ แต่คนของผู้หญิงคนนั้นจับตามองเธอและปิดเส้นทางเธอทุกอย่าง สิบปีที่เธอต่อสู้และดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดมานี้ทำให้เธอ ท้อใจเป็นอย่างมาก
โชคดีเพียงอย่างเดียวของเธอเพียงอย่างเดียวคือ เธอมีพลังธาตุไม้ที่สามารถทำให้พืชผักผลไม้เติบโตได้ทำให้เธอไม่อดตายตลอดหลายปีที่ผ่านมา และทำให้หัวหน้าดาวรกร้างแห้งนี้ยังเห็นความสำคัญของเธอ เพียงแค่เธอไม่ออกจากดาวรกร้างแห้งนี้ไปเขาก็ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง
“อลิส ยืนเหม่ออะไรอยู่วันนี้ย่าเอาไข่มาให้เธอ” เสียงทักทายและสายตาห่วงใยของหญิงชราที่ถูกลูกหลานทอดทิ้งทำให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิดหันไปมอง คุณย่าโรซ่าที่มองเธอเหมือนลูกหลานของหล่อนเอง เธอเดินเข้าไปหาพร้อมรอยยิ้ม
“คุณย่าไม่เห็นต้องลำบากเอามาเลยค่ะ ของกินที่บ้านหนูยังมีอีกเพียบค่ะ”
“อย่าหลอกย่าเลย บ้านเราก็มีแค่ผักเท่านั้นแหละ กินไข่บำรุงบ้างจะได้ไม่ผอม”ย่าโรซ่ามองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความสงสาร ยิ่งโตเธอยิ่งสวยมากจนทำให้ผู้คนอิจฉา โชคดีที่ดาวรกร้างแห่งนี้ไม่มีพวกหนุ่มวัยฉกรรจ์ ไม่งั้นชีวิตน้อย ๆ นี่คงน่าสงสารยิ่งกว่าเดิม
“ขอบคุณค่ะ” อลิสได้แต่ยอมรับมาแต่โดยดีเพราะเธอรู้ว่าปฏิเสธไปก็ไม่ได้ผล ย่าโรซ่าเลี้ยงไก่เอาไว้ เธอเองก็เคยเลี้ยงแต่น่าเสียดายที่พวกมันถูกคนชั่วนั่นฆ่าไก่เธอจนหมดเล้า ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโห แต่ทำได้แค่อดทนอดกลั้นเท่านั้น เธอเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีอำนาจอะไรเลยจะไปต่อกรกับพวกเขาได้อย่างไร คนที่ทำให้เธอโกรธแค้นที่สุดคือบิดาที่ขี้ขลาดคนนั้น!
“คุณย่าวันนี้ร้อนมากจริง ๆ อย่าลืมดื่มน้ำบ่อย ๆ นะคะ” อลิสบอกคุณย่าโรซ่าวันนี้เธอรู้สึกไม่ดีมาทั้งวันแล้ว คล้ายมีบางอย่างจ้องมองพวกเขาตลอดเวลา มันเป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเธอก็เชื่อสัญชาตญาณตัวเองเป็นอย่างมาก เพียงแต่ไม่รู้ว่าอะไรที่เหมือนจ้องมองพวกเขา
“ได้ๆ นี่ก็เย็นแล้วไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ ทำงานมาทั้งวันแล้ว” คุณย่าโรซ่าเอ่ยบอกอย่างไม่ใส่ใจเพราะเธออยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็กจนแก่จึงรู้ดีว่าอากาศที่นี่มันก็ร้อนอยู่อย่างนี้อยู่แล้ว หล่อนโบกมือลาเด็กสาวแล้วเดินเข้าบ้านตัวเองไป
อลิสมองตามร่างของย่าโรซ่าจนลับสายตา เธอถอนหายใจก่อนจะทำอาหารกิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรท้องต้องอิ่มก่อน ทว่าใครจะรู้ว่าอาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของเธอ
ช่วงเวลาตอนบ่ายรู้สึกว่าเร็วกว่าช่วงเช้ามาก ไม่ทันไรก็เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว หลังบอกสหายใหม่สือหยวนเฟิงต้องการซื้อของ ทั้งคู่จึงเดินเข้าไปในเขตร้านค้า สือหยวนเฟิงพามาหยุดหน้าร้านเครื่องเทศที่มีป้ายร้านว่าเครื่องเทศตระกูลสือ“แม่ครับ” สือหยวนเฟิงเรียกแม่ของเขา ก่อนแนะนำให้รู้จัก “นี่หลิวตานสหายของผมครับ เสี่ยวตานนี่แม่ของฉันเอง”หลิวตานยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีค่ะคุณน้า ฉันหลิวตานสหายโรงเรียนประถมของเขาเองค่ะ”ครอบครัวสือหลิวตานพบพี่น้องของเขาแล้ว แต่พ่อแม่ยังไม่เคยเจอเพราะพ่อของเขาอยู่ไม่ติดบ้าน ส่วนแม่เปิดร้านเครื่องเทศไม่มีโอกาสเจอ แม่ของสือหยวนเฟิงหน้าตาดีมาก ไม่แปลกที่พี่น้องบ้านนี้ล้วนหน้าตาดีติงเหม่ยฟางมองเสื้อผ้าของสหายลูกชายก่อนตอบรับ “อืม” แล้วเรียกลูกชายเดินไปหลังร้าน“หยวนเฟิงตามแม่มานี่”สือหยวนเฟิงหันมาบอก “เข้ามานั่งตรงนี้ก่อน”“ได้”ลับหลังสหายลูกชายติงเหม่ยฟางแสดงสีหน้าไม่ดี “หยวนเฟิง แม
“หยวนเฟิง” หลิวตานเอ่ยอย่างแปลกใจพลางสาวเท้าเข้าไปหา “นึกไม่ถึงเลยว่านายจะมารอฉันที่หน้าโรงเรียนจริง ๆ”ระหว่างเดินผ่านโรงเรียนประถมหลิวตานสังเกตเห็นสหายสนิทของเธออย่างสือหยวนเฟิงยืนรออยู่ ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้ตัดสินใจเรียนต่อที่ไหน นึกไม่ถึงว่าวันเปิดเรียนเขาจะมารอที่นี่แล้วสือหยวนเฟิงยกยิ้มจาง ๆ “หลังจากคุยกับที่บ้านแล้วพ่อของฉันเห็นด้วยว่าควรรอจบมัธยมต้นก่อนค่อยไปเรียนที่นั่น และบ้านของพวกเราเพิ่งไปสมัครเรียนวันสุดท้ายนี่เอง”“ถึงว่า ไม่เห็นพวกนายเลย”วันนี้มีสหายร่วมเดินทางแล้ว หลิวตานไม่ถามเขาเลยสักนิดเพราะถ้าเขาไม่มารอเธอตอนนี้น่าจะไปถึงโรงเรียนแล้ว หากจำไม่ผิดบ้านของเขามีจักรยานอยู่สองคันสือหยวนเฟิงพยักหน้า “ญาติผู้พี่ที่มาเยี่ยมก่อนหน้านี้เขาเรียนที่นั่นอยู่แล้ว เขาแนะนำให้โตกว่านี้ค่อยไปอีกด้วย”หลิวตานตอบ “อ้อ”ทั้งสองเริ่มเดินไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่พอมาถึงจุดที่หลิวตานวางผักขาย มีคนนำผักเข้ามาขายสอ
หลิวตานไม่ลืมว่าตอนนี้บ้านของเธอมีกำลังส่งแล้ว แต่ด้วยระยะทางเดินเท้าเป็นชั่วโมง ต้องเข้าไปเรียนตั้งแต่เช้ามืดคนที่บ้านย่อมเป็นห่วง จึงบอกไม่ได้ว่าจะได้เรียนไหมแต่ถ้าได้เรียนก็มีที่เดียว“เหรอ” สือหยวนเฟิงแสดงสีหน้าเคร่งเครียด“แล้วนายล่ะ” หลิวตานหันหน้าไปถามสหายที่อาการไม่ค่อยดี “จะเรียนโรงเรียนในเมืองกับฉันไหม อาของฉันเรียนที่นั่นเหมือนกันเขาบอกว่ามันน่าเรียน” อันที่จริงหลิวตานไม่แน่ใจสิ่งที่หลิวถิงเหยาอวดเท่าไร แต่อย่างน้อยอาเล็กก็เรียนที่นั่นหลายปีถ้ามันไม่ดีจริงคงเรียนได้ไม่นาน ยิ่งกับย่าหลิวที่รักลูกสาวอย่างกับอะไรดี“ฉันอยากเป็นทหารเหมือนกับพ่อ แต่อยากเรียนกับเธอเหมือนกัน”สือหยวนเฟิงเรียนที่นี่มาตั้งแต่แรกและเขามีสหายหลายคน เขาพูดอยู่เสมอว่าหลังเรียนจากที่นี่จะไปเรียนวิทยาลัยทหารทำงานในกองทัพกับพ่อ จนกระทั่งได้รู้จักกับหลิวตานเขาเริ่มไม่แน่ใจแล้ว อยากเรียนแต่อยากเจอเด็กผู้หญิงคนนี้ไปด้วยหลิวตานพอจะได้ยินอยู่บ้างว่าเขาอย
“ญาติผู้พี่”หลิวตานยิ้มให้หลิวต้าสยงที่รดน้ำผักในแปลงนอกฟาร์ม “ญาติผู้น้องทำการเสร็จแล้วหรือ พักก่อนเดี๋ยวค่อยมาช่วยกันรดน้ำอีกสักพัก พวกเราเพิ่งกลับบ้าน”พอรู้ว่าบ้านรองสนับสนุนการเรียนของลูกชาย หลิวซือหาน สะใภ้สาม และหลิวต้าสยงต่างขยันทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ถึงแม้ว่าหลิวต้าสยงจะไม่ทำงานก็ได้ แต่เขาไม่ยอมเข้าไปช่วยพ่อแม่หลิวตานเลยให้มาช่วยในฟาร์มส่วนสองสามีภรรยาของบ้านสามจะตามพ่อแม่ของเธอไปทำงาน มื้อกลางวันค่อยกลับมากินข้าวที่บ้านและกลับไปทำงานอีกครั้งช่วงบ่าย ตกเย็นกลับบ้านหลังลูก ๆ กลับจากโรงเรียน“มีการบ้านครับแต่ผมทำเสร็จแล้ว” หลิวต้าสยงกระตือรือร้นตอบญาติผู้น้องถึงแม้อายุน้อยกว่าหลิวตานหนึ่งปีแต่พื้นฐานของเขาน้อยมาก หลิวตานกลัวว่าถ้าให้เขาเรียนระดับชั้นที่เขาต้องเรียนคงตามสหายไม่ทัน จึงให้เรียนพร้อมน้อง ๆ ของเธอ และเขาอยากเรียนมาตลอดพอครูสอนไม่จำเป็นต้องสอนเพิ่มเลย“ไป ๆ ล้างมือ ไปกินขนมกับน้องหน้าบ้าน รอให้พวกเขาทำการบ้านเสร็จค่อยมาช่วยกัน
อาสะใภ้สามงุนงง “เสี่ยวตานหมายถึงอย่างไรหรือ”“หมายความว่าบ้านสามสามารถพักที่นี่ได้เลยจ้ะ ครอบครัวพี่จะย้ายไปอยู่บ้านใหม่ บ้านนี้พวกพี่ซื้อมาแล้ว” จ้าวเหม่ยกล่าวกับน้องสะใภ้ด้วยรอยยิ้มบ้านเช่าในหมู่บ้านมีไม่กี่หลังที่สภาพดีและตอนนี้มันถูกจับจองไปหมดแล้ว ถึงบ้านที่บ้านสามจะไปเช่ามันก็เก่ามาก บ้านหลังนี้บ้านรองหลิวซื้อแล้วและไม่ได้อยู่ ให้บ้านสามอยู่ยังดีกว่าไปเช่า“ขอบคุณพี่สะใภ้”“เอาล่ะ” หลิวตงตงตบบ่าน้องชายให้กำลังใจ “เอาของไปเก็บในห้องเถอะ อาจจะเล็กไปหน่อยแต่อดทนกันก่อนนะ ฉันจะให้พี่สะใภ้กับหลานสาวของนายทำอาหารให้”“ขอบคุณครับ”พอบ้านสามย้ายมาอยู่ด้วยหลิวตานกับครอบครัวเลยเตรียมของทำบุญบ้านใหม่ ที่บ้านเชิญมาเพียงผู้อาวุโสเท่านั้น ถึงแม้จะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ไม่ได้ว่าอะไรบ้านใหม่อยู่ห่างจากบ้านปัจจุบันเพียงไม่กี่เมตร หลิวตานแยกห้องนอนกับน้องชาย น้องสาว ทำให้ห้องนอนยังว่างอีกหนึ่งห้อง หลิวต
งานในบ้านเพิ่มขึ้นหลายอย่างเนื่องจากว่าซื้อที่ดินเพิ่ม หลิวตานคุยกับที่บ้านว่าต้องการจ้างคนงานมาช่วย ก่อนหน้านี้พ่อแม่ช่วยกันทำไร่กันเองได้เพราะที่ดินยังน้อย แต่ตอนนี้ทำสองคนคงไม่ไหวแล้ว“ที่ฉันนำเรื่องนี้มาบอกอาสามก่อนเพราะฉันอยากให้อาสามมาทำงานด้วย อยู่กับบ้านใหญ่ให้พวกเขาเอาเปรียบแบบนั้นครอบครัวของอาสามลำบากไม่น้อย” หลิวตานอธิบายวันนี้หลิวตานดักรออาสามเพื่อพูดคุยกับเขา บ้านของอาสามเป็นอีกครอบครัวที่ซื่อตรงและยังเป็นคนคุ้นเคย หลิวตานจึงอยากได้พวกเขามาทำงานด้วย“อีกอย่างญาติผู้น้องของฉันยังไม่ได้เรียน” หลิวตานมองหลิวต้าสยงที่ยืนห่างจากเธอ อาสาม อาสะใภ้สามพอสมควร “ถ้ามาทำงานกับบ้านฉันพวกอาจะมีเงินส่งเขาเรียน และมีข้อแม้ว่าต้องแยกบ้านจะบ้านใหญ่”การที่บ้านสามไม่แยกบ้านนั้นสุดท้ายแล้วบ้านใหญ่จะได้รับเงินไป อีกอย่างบ้านสามกตัญญูกว่าบ้านรองมาก เพียงย่าหลิว ปู่หลิวพูดอะไร อาสาม อาสะใภ้สามค่อนข้างเชื่อฟัง หลิวตานไม่อยากให้บ้านใหญ่เข้ามาวุ่นวาย“อา...” หลิวซ
ความคิดเห็น