สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน

สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน

last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Langue: Thai
goodnovel16goodnovel
10
2 Notes. 2 commentaires
32Chapitres
2.1KVues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

ให้ตายเถิด!! ข้าคือหลี่จื่อเวยนักรีวิวนิยายชื่อดัง ที่ดันทะลุมิติมาได้สามีกับเขาทั้งที กลับได้สามีติดสุรา การพนัน มาเสียนี่ ผักก็ต้องปลูก ไหนจะต้องตามทุบตีผัวอีก ชีวิตข้ามันช่างบัดซบยิ่งนัก!!!

Voir plus

Chapitre 1

บทนำ-บทที่ 1ตรอมใจ

 "น้องหญิง อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะน้องหญิง พี่สัญญาว่าจะเข้าโรงพนันหาเงินมาปรนเปรอน้องหญิง"

 "ท่านพี่ ยามนี้แม้แต่ผ้าห่มเราก็ไม่มี เพราะท่านขายทุกอย่างไปหมดแล้ว ท่านยังจะเข้าโรงพนันอีกหรือเจ้าคะ แค่กแค่ก"

 หลี่จื่อเวยอ่านนิยายมาได้เพียงไม่กี่หน้าเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนอีกสามคนที่กำลังสนทนากันอยู่

“พวกเธอรู้ไหม นิยายเรื่องล่าสุดที่ฉันรับมารีวิว นางร้ายมีชื่อเหมือนฉันทุกตัวอักษรเลย น่าเสียดายที่คนเขียนให้เป็นแค่นางร้ายตัวประกอบ ทั้งเรื่องโผล่ออกมารวมกันยังไม่ถึงสามหน้าก็ถูกพระเอกฆ่าแล้ว”

ซ่งไป๋ลู่ เพื่อนในกลุ่มรีวิวนิยายของเธอกำลังหันมาบ่นกับเพื่อนๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทอดถอนใจไม่น้อย

“ทำไมบังเอิญจัง นิยายเรื่องล่าสุดที่ฉันรับมารีวิว นางร้ายก็มีชื่อเหมือนฉันทุกตัวอักษรเหมือนกัน”

ตอนแรกที่หลี่จื่อเวยรับนิยายมาอ่าน เธอก็รู้สึกแปลกใจที่ชื่อนางเอกเหมือนกับชื่อของเธอ แต่ที่เธอไม่ชอบใจก็คือทำไมนางเอกคนนี้อ่อนแอแบบนี้ไม่เข้าท่าเลย เธอคิดผิดไหมนะที่รับนิยายเรื่องนี้มารีวิว หากเธอเป็นนางจะทุบสามีผู้นี้ให้หลังหักเลย

เธอเป็นนักรีวิวนิยายมาสองปีมียอดติดตามหลายล้านคน ทุกเรื่องที่รีวิวนางเอกล้วนฉลาดและเอาตัวรอด เพิ่งจะเคยเจอนิยายเรื่องนี้ที่นางเอกอ่อนแอจนน่ารำคาญ หากเป็นตัวเธอละก็สามีแบบนี้โดนซ้อมไปนานแล้ว ที่ต้องมารีวิวก็เพราะรับงานเอาไว้แล้วไม่อาจปฏิเสธได้เสียด้วย

 เมื่อคิดได้แบบนั้นเธอจึงหันไปเอ่ยกับเพื่อนๆ ทันที

 "ของฉันหนักกว่าอีก นางเอกทั้งอ่อนแอ แต่งกับสามีไม่เอาไหน ขายหมดแม้กระทั่งผ้าห่มในจวน มันน่านัก แล้วยังชื่อเหมือนฉันอีกด้วย"

หลี่จื่อเวยบ่นออกมาไม่หยุด แต่ทว่าต่อมาเมื่อสนทนากันได้เพียงชั่วโมงเศษ พนักงานร้านกาแฟก็ทำกาแฟหกใส่ปลั๊กไฟข้างโต๊ะที่พวกนางนั่ง กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างของซ่งไป๋ลู่และเพื่อนๆ ก่อนที่สติของพวกนางทั้งสี่จะดับวูบไปพร้อมกัน

แคว้นต้าเซี่ย

สายลมกลางฤดูหนาวค่อนข้างเหน็บหนาวไม่น้อย ยามนี้ หลี่จื่อเวย กำลังนอนอยู่บนเตียง พลางส่งเสียงไอออกมาเป็นระยะ นางค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่ง ร่างบางพลันสั่นเทาด้วยความหนาวเย็น เมื่อเหม่อมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่าง ก็พบว่ายามนี้หิมะเริ่มบางตาลงไปไม่น้อยแล้ว แต่ทว่าอากาศภายนอกกลับยังคงหนาวเย็นอยู่

"แค่กแค่ก"

หลี่จื่อเวยรู้สึกคอแห้งเหลือเกิน นางหันมองไปที่โต๊ะไม้ซึ่งอยู่ข้างเตียงนอน เพื่อมองหาน้ำชาร้อนๆ มาดื่มเพื่อขับไอเย็นออกจากร่างกาย แต่ทว่าเมื่อนางยื่นมือไปจับกาชา กลับพบว่าในกาชานั้นไม่มีน้ำชาเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย 

"เถาเถา เถาเถา นำชาร้อนมาให้ข้าที แค่กแค่ก"

เสียงเรียกของนางค่อนข้างอ่อนแรง อีกทั้งยังไอออกมาไม่หยุด นางไอเสียจนเจ็บระบมไปทั่วทั้งลำคอ 

"ฮูหยินน้อย บ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ"

สตรีน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มวิ่งเข้ามาด้วยความร้อนใจ ก่อนจะนำผ้าห่มที่นางนำติดมือมาด้วยห่มให้หลี่จื่อเวยเพิ่มอีกผืนหนึ่ง

"ฮูหยินน้อย ห่มผ้าเพิ่มอีกหน่อยนะเจ้าคะ ยามนี้ในห้องเก็บของมีเพียงผ้าห่มผืนนี้ที่ยังเหลืออยู่ เอ่อ บ่าวจะไปต้มน้ำร้อนมาให้ท่านดื่ม ชาดีๆ ล้วนถูกนายน้อยนำไปขายเป็นเงินหมดแล้วเจ้าค่ะ"

หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มขมขื่นออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะหวนนึกถึงเรื่องราวเมื่อสองปีก่อน

นางคือบุตรสาวคนโตของจวนตระกูลหลี่บิดาของนางเป็นตระกูลคหบดีที่ค่อนข้างมีฐานะ แต่เพราะท่านพ่อติดการพนันจนครอบครัวตกอับ และได้รับการยุยงจากอนุฉินให้ส่งนางมาแต่งเข้าจวนตระกูลมู่หรง ตระกูลคหบดีที่มีเงินทองอยู่ไม่น้อย นางจึงต้องแต่งงานกับ มู่หรงซาน คุณชายใหญ่ตระกูลมู่หรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สินสอดที่ทางตระกูลมู่หรงมอบให้ก็ถูกท่านพ่อนำไปใช้หนี้การพนันจนหมดแล้ว สินเดิมที่นางนำติดตัวมาก็มีไม่มาก ยามนี้ก็ถูกมู่หรงซานใช้ไปเกือบหมดแล้ว

มารดาของนางตายจากไปเมื่อสามปีก่อน ท่านพ่อหลงอนุจนไม่สนใจนาง ชีวิตของนางลำบากตั้งแต่ไร้ท่านแม่คอยปกป้อง ท่านแม่ของนางนั้นเดิมทีเป็นเพียงบุตรสาวของพ่อค้าที่ไม่ได้ร่ำรวย ไหนเลยจะทำให้ท่านพ่อใส่ใจรักใคร่เท่าอนุฉินที่มากเล่ห์กล อนุฉินนั้นเดิมทีเป็นม้าผอมที่ถูกขายออกมาจากหอนางโลม ท่านพ่อไปพบเจอนางเข้าและพานางเข้าจวน นางนั้นมีบุตรสาวหนึ่งคนและบุตรชายหนึ่งคน ท่านพ่อไม่สนใจกฎระเบียบอันใด นานวันเข้าก็ยกยอนางขึ้นมาเป็นภรรยาเอกแทนที่ท่านแม่ของนาง

เมื่อนางแต่งเข้าจวนตระกูลมู่หรงได้ไม่นาน บิดาของมู่หรงซานก็มอบร้านอาหารให้นางหนึ่งร้าน เป็นร้านเล็กๆ อีกทั้งยังมีโรงน้ำชา และเงินทองอีกไม่น้อย มอบให้นางและเขาเป็นของขวัญวันแต่งงาน ตระกูลมู่หรงมีบุตรชายที่เกิดจากบ้านใหญ่หนึ่งคนก็คือมู่หรงซาน ส่วนบ้านรองคือบ้านของท่านอารอง ซึ่งก็คือน้องชายของท่านพ่อของมู่หรงซาน บ้านรองนั้นมีบุตรชายหนึ่งคนเช่นกันมีนามว่ามู่หรงเฉิน ได้ยินว่าเพิ่งจะแต่งงานไปเมื่อไม่นานมานี้ อีกทั้งสะใภ้บ้านรองยังเป็นลูกสาวของบัณฑิตที่มีหน้ามีตาอีกด้วย

เพราะถูกเลี้ยงดูตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เขานิสัยเสีย ไม่เห็นหัวใคร ติดการพนัน ดื่มสุรา คบหาสหายชั่ว แรกเริ่มเขาก็ดีกับนาง รับปากนางทุกอย่าง แต่ทว่าผ่านไปเพียงไม่นาน เขาก็เริ่มนำสินเดิมที่นางมีไปขาย จากนั้นก็เริ่มนำสมบัติที่มีไปขายอีกเพื่อแลกเงินไปเข้าโรงพนัน พ่อแม่สามีเองก็ปวดหัวไม่น้อย แต่ไม่รู้ว่าจะห้ามปรามเช่นไรดี อีกทั้งมู่หรงซานยังเถียงบิดามารดาของตนและไม่เชื่อฟัง เขาหยิ่งผยองไม่เห็นหัวใคร เขาพานางย้ายมาอยู่ที่เรือนเล็กท้ายจวนเพราะรำคาญเสียงบ่นของผู้เป็นมารดา เมื่อเขาอวดเก่งเช่นนี้บิดามารดาของเขาจึงไม่สนใจไยดีเขาและนางอีก

นางยังไม่ได้มีบุตรหรือตั้งครรภ์เนื่องจากสุขภาพไม่สู้ดี จนกระทั่งสามเดือนก่อนนางล้มป่วย ไม่มีเงินไปรักษาร่างกาย อาการจึงทรุดหนักลงเช่นนี้ อีกทั้งยังไม่กล้าบอกแม่สามีเพราะไม่อยากให้ต้องวุ่นวายกันไปทั้งจวน อีกอย่างตัวนางเองก็เหมือนแต่งงานเข้ามาใช้หนี้ จึงไม่กล้ามีปากมีเสียงอะไร

หลี่จื่อเวยที่นึกถึงอดีตอันขมขื่นก็ยิ่งเจ็บปวดจนไอออกมาเป็นโลหิต ความหนาวเย็นเกาะกินร่างกายของนาง นางล้มตัวลงนอน ก่อนจะเริ่มหายใจถี่กระชั้น หลี่จื่อเวยเริ่มรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเลือนรางลงไปทุกขณะ ก่อนจะมืดดับไป

นางได้ตายไปพร้อมกับความขมขื่นที่กัดกินจิตใจมานานปีเสียแล้ว

หลังจากหลี่จื่อเวยตายไปได้หนึ่งวัน มู่หรงซานก็กลับจวนมาพอดี เขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพนันมาถึงสามวันสามคืน แต่ทว่ากลับเสียพนันจนหมดตัว เขาโมโหเป็นอย่างยิ่ง มารดามันเถอะ!!! เขาขายยันผ้าห่มแล้วนะ เหลือแค่ขายเมียเท่านั้น

ไม่สิ!!! เมียขายไม่ได้ 

เมื่อนึกถึงใบหน้าของหลี่จื่อเวยขึ้นมา มู่หรงซานก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ภรรยาของเขางดงามเป็นที่สุด นางทั้งอ่อนโยน อีกทั้งยังไม่มีปากมีเสียง เขาจะทำสิ่งใดนางก็ไม่เคยปริปากบ่นเขาเลยแม้แต่ประโยคเดียว

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงตั้งใจจะเดินไปหานางที่ห้องนอนทันที แต่ว่าพอเดินเข้ามาในจวนก็พบว่าทั่วทั้งจวนต่างประดับผ้าสีขาวดำราวกับจัดงานศพ มู่หรงซานขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ที่บ้านมีใครตายเช่นนั้นหรือ ถึงเอาผ้ามาประดับเช่นนี้ อัปมงคลสิ้นดี

“ซานเอ๋อร์ เจ้ารีบไปดูภรรยาเจ้าเถิด นางตายแล้ว!!!”

เสียงของผู้เป็นมารดาทำให้มู่หรงซานต้องชะงักไปชั่วขณะ เขาหันขวับมามองท่านแม่ของตน ก่อนจะเอ่ย

“ท่านแม่ ไม่พอใจที่ข้าไม่ช่วยงานก็ช่างเถิด เหตุใดจึงต้องมาแช่งเมียข้าให้ตายด้วย!!!”

“แช่งกับผีน่ะสิ นางตายจริงๆ!!! เพราะเจ้านั่นแหละ นางป่วยหนักถึงเพียงนี้เจ้ายังอวดดีไม่มาบอกข้าสักคำ”

มู่หรงซานที่เห็นสีหน้าของมารดาว่าไม่ได้พูดเล่นก็รู้สึกใจคอไม่ดี เขาไม่ถามสิ่งใดอีกก็รีบพุ่งเข้าไปในเรือนเล็กทันที

 เมื่อเดินเข้าไปก็พบว่าภรรยารักกำลังนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเคลื่อนไหว ใบหน้างามซีดเผือด มู่หรงซานที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนหน้าถอดสี

"เถาเถา!!! เกิดอันใดขึ้น เหตุใดจือจือจึงนอนหน้าซีดเช่นนั้น"

"ฮือ นายน้อย ฮูหยินน้อยตายแล้วเจ้าค่ะ"

"ฮะ!!!"

มู่หรงซานตกใจจนหน้าซีด เขารีบเดินเข้าไปหาหลี่จื่อเวยทันที ก่อนจะยื่นนิ้วไปแตะที่ปลายจมูกของนาง ฉับพลันเขาก็รู้สึกชาไปทั้งร่าง ก่อนจะรีบอุ้มนางมากอดเอาไว้ 

"จือจือ!!! จือจือ เจ้าตื่นสิ ฮือ จือจือ!!!"

เขากอดร่างที่ไร้วิญญาณของนางและร้องไห้ออกมา ก่อนจะค่อยๆ ครุ่นคิด

หากเขากลับมาจากโรงพนันเร็วกว่านี้ นางก็คงไม่ตาย

แต่จะให้ทำเช่นใดได้ ยามนั้นมือเขากำลังขึ้นนี่นา จะรีบกลับมาก็เสียดาย!!!

ฉับพลันเขารู้สึกว่าสตรีที่ตนกอดเอาไว้คล้ายจะขยับตัวเล็กน้อย เมื่อมู่หรงซานก้มลงมองก็พบกับหลี่จื่อเวยที่กำลังเหลือบตาขึ้นมามองเขา ใบหน้าของนางซีดขาว ท่าทีเช่นนี้ราวกับผีอาฆาตที่กำลังจ้องมองเขาอย่างไรอย่างนั้น

มู่หรงซานรีบผละออกจากนางทันที ก่อนจะขยับไปกอดเสาเตียงเอาไว้แน่น ปากก็ร้องไม่เป็นภาษา

"จือจือ!!! เจ้าอย่ามาหลอกข้าเลย ข้ารู้ว่าข้าน่ะหล่อเหลา ลีลาก็เร่าร้อน เจ้าตัดใจจากข้าไม่ได้ แต่มาทำเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง เจ้าต้องไปเกิดนะ ข้าสัญญาว่าจะเข้าโรงพนันหาเงินมาซื้อของเซ่นไหว้เจ้าทุกวัน!!!"

หลี่จื่อเวยเอียงคอมองมู่หรงซานคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ไอ้คนบัดซบนี่มันเป็นใครวะเนี่ย?

Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

Commentaires

user avatar
ปภาดา จูเปลี่ยน
ใช่กลุ่มเดียวกันไหมที่ว่านางเอกเป็นนักรีวิวนิยายแล้วได้นิยายที่ตัวร้ายชื่อเหมือนนางทุกอย่าง ที่นั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนในคาเฟ่แล้วโดนพนักงานทำน้ำหกใส่ปลั๊กตุ๋ยหมู่นิน้า
2025-08-06 15:14:50
0
user avatar
Paison Thimdib
ขอบคุณอ่านจบแล้ว
2025-06-05 01:59:12
0
32
บทนำ-บทที่ 1ตรอมใจ
"น้องหญิง อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะน้องหญิง พี่สัญญาว่าจะเข้าโรงพนันหาเงินมาปรนเปรอน้องหญิง" "ท่านพี่ ยามนี้แม้แต่ผ้าห่มเราก็ไม่มี เพราะท่านขายทุกอย่างไปหมดแล้ว ท่านยังจะเข้าโรงพนันอีกหรือเจ้าคะ แค่กแค่ก" หลี่จื่อเวยอ่านนิยายมาได้เพียงไม่กี่หน้าเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนอีกสามคนที่กำลังสนทนากันอยู่“พวกเธอรู้ไหม นิยายเรื่องล่าสุดที่ฉันรับมารีวิว นางร้ายมีชื่อเหมือนฉันทุกตัวอักษรเลย น่าเสียดายที่คนเขียนให้เป็นแค่นางร้ายตัวประกอบ ทั้งเรื่องโผล่ออกมารวมกันยังไม่ถึงสามหน้าก็ถูกพระเอกฆ่าแล้ว”ซ่งไป๋ลู่ เพื่อนในกลุ่มรีวิวนิยายของเธอกำลังหันมาบ่นกับเพื่อนๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทอดถอนใจไม่น้อย“ทำไมบังเอิญจัง นิยายเรื่องล่าสุดที่ฉันรับมารีวิว นางร้ายก็มีชื่อเหมือนฉันทุกตัวอักษรเหมือนกัน”ตอนแรกที่หลี่จื่อเวยรับนิยายมาอ่าน เธอก็รู้สึกแปลกใจที่ชื่อนางเอกเหมือนกับชื่อของเธอ แต่ที่เธอไม่ชอบใจก็คือทำไมนางเอกคนนี้อ่อนแอแบบนี้ไม่เข้าท่าเลย เธอคิดผิดไหมนะที่รับนิยายเรื่องนี้มารีวิว หากเธอเป็นนางจะทุบสามีผู้นี้ให้หลังหักเลยเธอเป็นนักรีวิวนิยายมาสองปีมียอดติดตามหลายล้านคน ทุกเรื่
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 2 สามีบัดซบ
ฉับพลันเธอก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาชั่วขณะ ก่อนจะจดจำเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้เดิมทีวันนี้เป็นวันที่เธอและเพื่อนๆ กลุ่มรีวิวนิยายนัดกันออกมาที่ร้านกาแฟ แต่ทว่าในขณะที่กำลังนั่งสนทนากันเรื่องนิยาย พนักงานก็ทำกาแฟหกใส่ปลั๊กไฟจนเธอหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาก็มาพบเจอกับบุรุษและสตรีน้อยตรงหน้าในสถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?หลี่จื่อเวยยิ่งครุ่นคิดก็ยิ่งมึนงงสับสน เธอหันไปมองรอบๆ ตัว ก่อนจะพบกับกระจกที่วางอยู่บนหัวเตียง เธอรีบคว้าหยิบมันมาดู ก่อนจะต้องตกตะลึงไปชั่วขณะนี่คือใบหน้าของเธอ แต่ทว่าการแต่งกายกลับดูน่าเวทนายิ่งนัก"จือจือ ภรรยาของข้า นี่เจ้ายังไม่ตายหรือ!!! ดียิ่งนัก"มู่หรงซานโผเข้ามากอดภรรยาของตนด้วยความดีใจ หลี่จื่อเวยที่ยามนี้กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตกใจไปชั่วขณะ ก่อนที่ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมจะปรากฏชัดขึ้นในห้วงความคิดของเธอภาพงานแต่งงาน ภาพความลำบากยามที่มีชีวิตอยู่ในจวนเดิม ภาพบุรุษที่กำลังกอดนาง ภาพที่เขานำสมบัติที่มีไปขายจนหมด อีกทั้งยังติดสุรา ไม่เอาการเอางาน มีเรื่องชกต่อยกับผู้คนไปทั่ว ร้านค้าที่พ่อแม่สามีมอบให้ยามนี้แทบไม่เห
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 3 ความก่อนหน้า
ตกค่ำมู่หรงซานก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เขาจ้องมองไปรอบๆ ยามนี้ภายในเรือนจุดเทียนเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้นเพื่อให้ความสว่าง เขารู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว ก่อนจะนึกขึ้นมาได้หลี่จื่อเวยนางทุบตีเขาอย่างหนักในช่วงสองสามวันมานี้แม้เขาจะเสเพลเพียงใด แต่ก็ไม่เคยทุบตีภรรยา อีกทั้งนางก็ยังเป็นภรรยาสุดที่รักของเขา ใจของเขาย่อมรักใคร่ในตัวนางไม่น้อยแต่ทว่าตั้งแต่ที่นางฟื้นขึ้นมาจากความตายก็คล้ายมีบางอย่างแปลกไป นางมีนิสัยที่ดุดันขึ้น เขาเพียงอ้าปากจะพูดนางก็ตบตีเขาเสียแล้ว หลายวันมานี้เขาไม่ได้ไปพบกับสหายรักที่โรงพนันและโรงสุราเลยหิวสุราจัง!!!มู่หรงซานเอ่ยพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากตนคราหนึ่ง ก่อนจะจ้องมองไปที่หลี่จื่อเวย ซึ่งยามนี้คล้ายว่านางกำลังวุ่นวายอยู่กับกองตำราบางอย่างตรงหน้าเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลมู่หรง มีญาติผู้น้องนามว่ามู่หรงเฉินเพียงคนเดียว บ้านรองเองก็ค่อนข้างดีกับเขาไม่น้อย แม้ท่านอารองจะเป็นบุตรชายที่เกิดจากภรรยารอง แต่กลับรักใคร่และปรองดองกับท่านพ่อของเขาเป็นอย่างดีเขาจำได้ว่าเมื่อสองปีก่อน เขาไปดื่มสุราจนเมา ก่อนจะพบกับหลี่จื่อเวยที่กำลังนำผ้าเช็ดหน้ามาขาย เขาตกหลุมรักนางในทันที จึงเข้
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 4 กินอาหารร่วมกัน
เรือนใหญ่ตระกูลมู่หรงเมื่อมู่หรงซานและหลี่จื่อเวยมาถึงที่เรือนใหญ่ก็พบว่าคนของบ้านรองมาถึงก่อนหน้านานแล้ว อีกทั้งยังส่งยิ้มให้พวกนางอย่างเป็นมิตร หลี่จื่อเวยยิ้มตอบเพียงเล็กน้อย ก่อนจะมองคนทั้งหมดคราหนึ่งภาพของร่างเดิมปรากฏขึ้นอีกครา คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะนั่นก็คือพ่อของมู่หรงซาน ส่วนสตรีวัยกลางคนที่ีใบหน้างดงามนั่นก็คือแม่สามีของนาง ถัดไปก็คือท่านอารองและอาสะใภ้รอง รวมถึงมู่หรงเฉินและภรรยาของเขาที่แต่งมาจากตระกูลบัณฑิตมีหน้ามีตาก็นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย"คารวะท่านพ่อท่านแม่ ท่านอารองและอาสะใภ้รองเจ้าค่ะ"หลี่จื่อเวยพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะหันไปมองมู่หรงซานที่เดินไปนั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว นางจึงเดินไปทิ้งกายนั่งลงข้างๆ เขา มู่หรงฮูหยินผู้เป็นแม่สามีมองหลี่จื่อเวยครู่หนึ่งไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเดิมทีนางเองก็ไม่ใช่แม่สะใภ้ใจร้ายอะไรแบบนั้น แต่เพราะสะใภ้ไม่เคยเอ่ยปากขอให้นางช่วยเหลืออะไรเลย อีกทั้งยังตามใจสามีจนเคยตัว มู่หรงซานทำอะไรก็ไม่เคยห้าม ไม่มีปากไม่มีเสียงเอาแต่เก็บตัว นางจึงไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีก และไม่อยากจะฟังคำโต้เถียงของบุตรชายที่ทำให้นางเสียใจ ได้ยินว่ามู่หรงซ
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 5 หาทางทำทุน
เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ต้องสนทนากันต่อแล้ว มู่หรงซานและหลี่จื่อเวยก็เดินทางกลับมาที่เรือนเล็ก มู่หรงซานนั้นก่อนกลับยังคว้าขวดสุราอย่างดีที่ท่านอารองมอบให้ท่านพ่อของเขากลับมาอีกด้วย นายท่านมู่หรงผู้เป็นบิดาทำได้เพียงก่นด่าบุตรชายของตนตามหลังด้วยความโมโหเมื่อกลับมาแล้ว หลี่จื่อเวยก็ครุ่นคิดว่าจะต้องทำสิ่งใดดี นิยายเรื่องนี้เดิมทีตัวเอกจะต้องปลูกผัก แต่ทว่านางยังอ่านไม่ถึงครึ่งเล่มเลยด้วยซ้ำ ไม่อาจรู้ได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน ยามนี้คงต้องเสี่ยงโชคชะตาเสียแล้วนางเปิดถุงเงินนั้นดู พบว่ามีตั๋วเงินอยู่ไม่น้อยเลย หลี่จื่อเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย ในความโชคร้ายของนางที่ครอบครัวเดิมไม่สนใจ ได้สามีไม่ดี แต่นางกลับได้พ่อแม่สามีที่ดี เจ้าของร่างเดิมโง่เขลาเกินไป หากนางไม่ตามใจมู่หรงซาน เข้าหาแม่สามี ยามนี้นางก็คงไม่ต้องพบจุดจบเช่นนั้นแต่ทุกอย่างไม่อาจแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว หลี่จื่อเวย ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตนี้ของเจ้าเอง!เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงนำตั๋วเงินออกมานับ คิดๆ ดูแล้วด้านหลังเรือนเล็กก็มีที่ดินว่างอยู่คาดว่าคงปลูกผักได้หลายอย่าง ตอนนี้สิ่งที่นางจะต้องเริ่มทำก็คือทำให้พ่อแม่สามีเชื่อ
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 6 ผีเข้าสิงเมีย
ด้านมู่หรงซานนั้นเขามุ่งหน้ามาที่โรงพนันเพื่อพบเจอกับสหายของตนได้สักพักหนึ่งแล้ว เดิมทีนัดกันว่าจะไปดูการแข่งขันกัดจิ้งหรีดเสียหน่อย แต่เขามาช้าไปการแข่งขันนั้นหมดไปเสียแล้ว เขายกจอกสุราขึ้นดื่ม ตอนนี้เขาได้นำเงินที่เหลือติดตัวเพียงสามร้อยตำลึง ซึ่งแอบเก็บเอาไว้ไม่ให้ภรรยารู้ เมื่อจ่ายค่าสุราแล้ว เขาก็นำมันไปแลกมาเล่นพนันเพิ่ม เมื่อเล่นแล้วเสียหมดมู่หรงซานก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว"เป็นอันใด เห็นเจ้าหายหัวไปหลายวันเลยสหายรัก""นั่นสิ ข้าคิดว่าเจ้าจะเอาแต่อยู่กับภรรยาคนงามเสียอีก"มู่หรงซานหันไปมองสหายรักสองคนคราหนึ่ง สหายของเขาคนแรกมีนามว่าหวังเจี้ยน เป็นบุตรชายของคหบดีเช่นกัน แต่ฐานะร่ำรวยกว่าเขาไม่น้อย ส่วนอีกคนมีนามว่าจ้าวจิ้น เขาเป็นบุตรชายของท่านหมอผู้หนึ่งที่มีชื่อเสียง คนทั้งสามคบหากันเป็นสหาย เพราะอยู่ในฐานะระดับเดียวกัน ไม่ได้คบหาพวกลูกขุนนางที่มากพิธีเหล่านั้น"พูดมากจริง มีให้ข้ายืมสักพันตำลึงหรือไม่อาเจี้ยน แล้วข้าจะหาทางเอามาคืน"หวังเจี้ยนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าไปมาคราหนึ่ง ก่อนจะตอบ"ไม่มีหรอก ท่านพ่อท่านแม่ข้าก็ตัดเงินข้าเช่นกัน เขาให้ข้าใช้จำกัด นี่อาซาน เจ้าก
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 7 จุดเปลี่ยน
หลายวันต่อมา ได้ยินมาว่าคนในบ้านตระกูลมู่หรงคิดจะเดินทางไปที่บ้านสวนนอกเมืองหลวง ที่นั่นมีที่ดินมากมาย และยังมีทั้งสวนผัก ไร่นา และต้นไม้มากมาย ทุกๆ ปีจะมีผลผลิตจากบ้านสวนส่งมาที่จวนตระกูลมู่หรง พ่อแม่สามีของนางก็จะนำไปขายต่อ นับว่าได้กำไรดีเป็นอย่างมากครั้งนี้คนบ้านรองเองก็จะติดตามไปด้วย ทุกคนเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ ช่วงบ่ายก็ไปถึงที่บ้านสวน เมื่อได้มาเห็นสถานที่จริงแล้ว หลี่จื่อเวยก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ที่บ้านสวนแห่งนี้กว้างใหญ่มากจริงๆ อีกทั้งยังมีที่ดินทำกินมากมาย พืชผักก็มีไม่น้อยเลยคนทั้งหมดพักกันอยู่หลายวัน ก่อนจะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวง เมื่อกลับมาถึงก็พบว่ายามนี้บ้านเมืองกำลังระส่ำระสาย ได้ยินว่าทหารรักษาชายแดนเริ่มต้านกำลังของศัตรูเอาไว้ไม่ไหวเสียแล้ว อีกทั้งเงินในท้องพระคลังที่ใช้สนับสนุนทหารก็ขัดสนไม่พอใช้ ฮ่องเต้ต้าเซี่ยจึงมีรับสั่งให้ทุกจวนที่มีฐานะนำทรัพย์สินเงินทองมาบริจาคเข้าท้องพระคลัง แต่บริจาคเท่าใดก็ยังคงไม่พออยู่ดี ขุนนางบางคนก็คิดคดโกง เปลี่ยนฝั่งไปเข้าหากบฏ บ้านเมืองตกอยู่ในกลียุค การทำมาค้าขายเริ่มไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ร้านรวงปิดไปหลายร้าน ซ้ำร้ายยังม
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 8 เริ่มใช้ชีวิตที่บ้านสวน
กลางดึกคืนนั้นทุกคนก็เดินทางออกจากเมืองหลวงในทันที เพราะมีผู้คนเข้าออกเยอะมาก อีกทั้งการดูแลก็ไม่เข้มงวดเท่าแต่ก่อน การที่ผู้คนจะเดินทางออกนอกเมืองหลวงจึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าแต่ก่อนอีก ขอเพียงใช้เงินติดสินบนเหล่าทหารที่เฝ้าประตูมากหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้วระหว่างทางหลี่จื่อเวยไม่ได้พูดสิ่งใดกับมู่หรงซานเลยแม้แต่น้อย เขาเองก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเช่นกัน แต่ทว่าในใจกลับโอดครวญเป็นอย่างมากเดิมทีเขาใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวงมาตลอด ต้องออกไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองชนบทเช่นนั้นเขาคงอึดอัดตาย สหายสักคนก็ไม่มี ร้านค้าก็ไม่ได้มากมายเท่าในเมืองหลวง เขาต้องบ้าตายเป็นแน่ใช้เวลาเดินทางอยู่ครึ่งค่อนคืนก็เดินทางมาถึงบ้านสวนในตอนเกือบรุ่งสาง เมื่อมาถึงก็รู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย บ่าวไพร่ที่ติดตามมาก็มีเพียงคนสองคน ตอนนี้ทุกคนจึงทำได้เพียงช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อจัดที่ทางให้เรียบร้อยหลี่จื่อเวยหันไปมองบิดาของตนและหลี่ฮูหยินผู้เป็นแม่เลี้ยง รวมถึงน้องชายและน้องสาวที่กำลังยืนอยู่ด้วยท่าทีที่เหนื่อยล้า หลี่ฮูหยินเดินเข้ามาหาหลี่จื่อเวย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา"นับว่าบ้านสามีของเจ้ายังมีสมบัติชิ้นสุดท้ายเหลืออยู่นะ จือจือ พว
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 9 เริ่มต้นหาเงิน
เมื่อต้องมาอยู่ชนบทแน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตใหม่ทั้งหมด พ่อแม่สามีของนางนั้นเดิมทีก่อนจะร่ำรวยก็เคยทำสวนทำนามาก่อน จึงไม่ใช่ปัญหาอันใด แต่เรื่องนี้ค่อนข้างจะส่งผลต่อคนตระกูลหลี่ไม่น้อย เพราะเดิมทีก็กินใช้เงินเดิมที่บรรพบุรุษสั่งสมมา จึงไม่เคยต้องมาทำงานลำบากแบบนี้ด้านหลี่จื่อเวยเอง การที่นางมาจากโลกอนาคตนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะนางทำสิ่งใดด้วยตนเองมาตลอด ไม่ได้มีคนมาคอยรับใช้ เวลาว่างจากงานก็ชอบเดินป่าเข้าไปเที่ยวเล่นพักผ่อน เมื่อได้ยินแม่สามีบอกว่าครั้งนี้คงจะต้องเข้าป่าไปถกถางที่ดินทำกินที่ทิ้งร้างมานาน นางก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่มู่หรงซานนั้นค่อนข้างจะโอดครวญไม่น้อยบ้านสวนมีคนสวนนามว่าลุงกู้คอยดูแลอยู่ เมื่อเจ้านายกลับมาอยู่เขาก็ดีใจไม่น้อย เร่งรีบเป็นคนนำทางทุกคนเข้าไปถกถางที่ทำกินในทันทีที่ดินบ้านสวนค่อนข้างกว้างใหญ่ ที่ใช้ทำสวนปลูกผักไปนั้นก็แค่ส่วนหนึ่ง และด้านหลังยังมีพื้นที่อีกไม่น้อย แต่เพราะถูกทิ้งร้างเอาไว้จึงมีหญ้าขึ้นรถทึบ หลี่จื่อเวยเดินไปตามทางพร้อมกับสะพายกระบุงเอาไว้ที่หลัง เมื่อพบเจอของป่าอะไรนางก็เก็บเอามาใส่กระบุงไว้"จือจือ ข้
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
บทที่ 10 ไปจับปลาและเจอห่าน
ยามเช้าของวันต่อมาหลี่จื่อเวยตื่นแต่เช้าหลังจากกินมื้อเช้าอิ่มแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานที่ตนต้องทำ หลี่จื่อเวยไม่ได้เรียกมู่หรงซานให้ตื่น นางเบื่อแล้วจึงไม่อยากสนใจเขาอีก หญิงสาวเอากระบุงแบกไว้บนหลังเหมือนเดิม เตรียมจะออกไปที่แม่น้ำ แต่ทว่าหลี่อินและหลี่หยวนกลับมาขวางทางนางเอาไว้เสียก่อน หลี่หยวนมองพี่สาวตนด้วยแววตาที่ดูแคลน ก่อนจะเอ่ย"ได้ยินว่าเดี๋ยวนี้พี่ใหญ่ใจกล้า บังอาจมาเถียงท่านแม่ของข้า ไม่ทำตามคำสั่งของนางเช่นนั้นหรือ"หลี่อินส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเอ่ยสมทบกับพี่ชายของตนในทันที"คิดว่าตนเองเก่งมากละมั้ง ท่านแม่จัดการพี่ไม่ได้พวกข้าย่อมมาทำแทน เอาเงินมา ข้ากับพี่ชายต้องใช้เงิน แล้วอย่าลืมทำอาหารให้ข้ากินด้วย เข้าใจไหม"หลี่จื่อเวยเท้าเอวมองดูน้องชายและน้องสาวตัวดีสองคนด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้าข่มขู่ข้าหรือ"นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่รำคาญเต็มทน หลี่หยวนกับหลี่อินที่เห็นท่าทีไม่แยแสของหลี่จื่อเวยก็เริ่มโมโห"พูดไม่รู้ความ อินเอ๋อร์ เราอย่าสนทนากับนางให้เสียเวลาเลย เจ้าไปจับตัวนาง ข้าจะควานหาเงินจากตัวนางเอง!!!""ได้"แต่ทว่ายังไม่ทันที่สองพี่น้องจะเข้ามา ก็ถูก
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status