LOGINSetอนุจะเป็นนิยายชุดต่อกัน3เรื่องนะคะ 1.อนุของบิดาช่างน่ากินนัก โดย มาวิญญา นางคืออนุของบิดาเช่นนั้นหรือ? เหตุใดจึงน่ากลืนกินนัก ทันทีที่คุณชายใหญ่สกุลฉู่ได้เห็นลู่ไป๋อิง เขาก็ถูกสะกดด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าอันเย้ายวนที่ปรากฎชัดจนเลือดลมในกายแตกพล่าน 2.อนุของเรือนหลังช่างสุขสันต์หรรษา โดยมาวิญญา มารดาของนางเป็นอนุ ส่วนนางก็ยึดแนวทางของมารดา เป็นอนุผู้เลอโฉมเช่นกัน เป็นอนุแล้วอย่างไร ย่อมสุขสบายมีกินมีใช้และไม่ต้องลำบากตรากตรำเช่นภรรยาคนอื่น หากได้รับความโปรดปราน ข้าวของมีค่ามากมายล้วนกองอยู่ตรงหน้า ที่สำคัญคือหากต้องการสิ่งใด เพียงใช้ถ้อยคำหวานหูและเสน่หาบนเตียงก็ได้มา แล้วนางจะต้องตั้งคอแบกหน้าตาเป็นภรรยาเอกที่มีหน้าที่เพียงเลี้ยงบุตรชายเพื่อเหตุใด 3.อนุของน้องชายช่างน่าอร่อยนัก โดยมาวิญญา นางได้รับการอบรมสั่งสอนให้เป็นอนุที่ดี ไม่ว่าท่วงท่าลีลาใดล้วนฝึกฝนเพื่อนำมาบำเรอให้สามีติดใจ ผู้ใดจะคิดว่ากระทั่งพี่ชายของสามีก็ยังหลงใหลและลักลอบกินของอร่อยอยู่บ่อยครา ฝากติดตามด้วยนะคะ มาวิญญา
View Moreอนุของบิดาช่างน่ากินนัก
โดย มาวิญญา
นางคืออนุของบิดาเช่นนั้นหรือ? เหตุใดจึงน่ากลืนกินนัก
ทันทีที่คุณชายใหญ่สกุลฉู่ได้เห็นลู่ไป๋อิง เขาก็ถูกสะกดด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าอันเย้ายวนที่ปรากฎชัดจนเลือดลมในกายแตกพล่าน
แนะนำตัวละคร
ลู่ไป๋อิง อนุสาวคนสุดท้ายของนายท่านผู้เฒ่าฉู่เจ้าของจวนคหบดีฉู่คนก่อน
*ฉู่จิ้นไห่ บุตรชายใหญ่ของนายท่านผู้เฒ่าฉู่ ผู้ครอบครองจวนคหบดีฉู่คนปัจจุบัน
*ฉู่ฮูหยิน ภรรยาเอกของนายท่านผู้เฒ่าฉู่และเป็นมารดาของฉู่จิ้นไห่
ตอนที่หนึ่ง
อนุของบิดา
ร่างบอบบางที่แหวกว่ายอยู่ในบึงบัวอย่างเริงร่าสองแขนเคลื่อนไหวไปตามกระแสน้ำอย่างอิสระ ส่งเสียงหัวเราะใสสะท้อนอยู่ท่ามกลางความเงียบของธรรมชาติคล้ายกำลังมีความสุขกับสายน้ำเย็นในช่วงใกล้ค่ำสร้างความประหลาดใจให้กับ ‘ฉู่จิ้นไห่’ บุตรชายคนโตแห่งสกุลฉู่เป็นอย่างมาก
นางคือผู้ใดกัน เหตุใดจึงลอบเข้ามาว่ายน้ำในเขตจวน ของเขาได้
ฉู่จิ้นไห่เหลียวซ้ายแลขวาหวังหาบ่าวรับใช้สักคนมาถามไถ่ทั้งสั่งความแต่กลับไร้เงาผู้คนมีเพียงเสียงนกร้องขับขานเคล้าคลอกับบรรยากาศรกครื้มของสวนด้านหลังซึ่งอยู่สุดกำแพงจวน
ด้วยฐานะบุตรชายคนแรก ฉู่จิ้นไห่ซึ่งเพิ่งได้ครองตำแหน่งเจ้าบ้านหลังจากบิดาสิ้นชีวิตไปเมื่อไม่กี่วันก่อนจึงถือโอกาสออกเดินสำรวจจวนหลังใหญ่ด้วยแม้จะเติบโตในจวนหลังนี้แต่ด้วยภาระหน้าที่จึงไม่ใคร่ได้อยู่พักอาศัย
ไม่คิดว่าขณะเดินผ่านสวนท้ายจวนซึ่งรกร้างไร้คนดูแลกลับได้พบร่างที่เปียกน้ำจนเสื้อผ้าบางชื้นลูบแนบไปกับผิวขาวเนียนแลเห็นสัดส่วนเย้ายวนตาค่อยๆก้าวขึ้นมาจากน้ำโดยไม่ได้ตระหนักถึงสภาพชวนมองของตนเอง
หญิงสาวหยุดบีบน้ำออกจากปลายผมที่เปียกลู่ทั้งเสื้อผ้าที่แนบชิดไปทุกสัดส่วนเผยให้เห็นความโค้งเว้าที่ไม่ควรเปิดเผยต่อสายตาผู้อื่น
ชายหนุ่มชะงักปากที่กำลังอ้าตั้งใจตะโกนเรียกบ่าวรับใช้หันสายตาคมไปจับจ้องอยู่กับภาพตรงหน้าโดยไม่อาจเบือนหนี
ความอวบอิ่มที่เด้งดันชุดเสื้อจนเกินหน้าเกินตาพาให้หัวใจของฉู่จิ้นไห่เต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวนางนี้ช่างงดงามนัก โดยเฉพาะสองก้อนเต้าเต่งตึงที่แค่มองก็รู้สึกได้ถึงความล้นทะลัก
เมื่อร่างบางเริ่มก้าวเดินเห็นสะโพกโยกย้ายและเนินโหนกนูนรำไร น้ำลายจึงไหลย้อยออกมาจากปากที่ยังคงอ้าไม่หุบด้วยความลืมตัว
หญิงสาวซึ่งขึ้นจากน้ำอย่างสดชื่นเพิ่งสังเกตเห็นร่างสูงและสายตาที่จ้องมองอยู่ จึงแสดงอาการตกใจหยุดชะงักการก้าวเดินแล้วรีบใช้สองมือกอบกุมปกปิดทรวงอวบใหญ่ของตนเองเอาไว้ด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ
“คุณชายใหญ่ อย่ามองเจ้าค่ะ” เสียงที่เอ่ยช่างสั่นพร่าบอกไม่ได้ว่าเป็นด้วยความเขินอายหรืออย่างอื่น
ฉู่จิ้นไห่มองมือเล็กที่ไม่อาจปกปิดสิ่งใดได้แต่ยังพยายามขยับเขยื้อนไปมาด้วยรอยยิ้มบาง
“เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ? เป็นสาวใช้ของเรือนใดกันจึงลอบมาเล่นน้ำยามพลบค่ำเช่นนี้”
ตอนที่สิบสาม ของเล่นหญิงสาวนอนคว่ำหน้ารู้สึกเจ็บแสบร่องรูเล็กโดยมีชายหนุ่มคอยปลอบประโลม“ความจริงเรื่องเช่นนี้ควรเป็นความสุขของทั้งสองฝ่าย ข้าขอโทษที่ทำเจ้าเจ็บ”เมื่อลองขยับตัวไป๋ชิวหลานกลับไม่รู้สึกว่าเจ็บเกินไปด้วยน้ำหล่อลื่นมีมากจนเกินพอวิญญาณในร่างนี้เคยเรียนรู้การตอบสนองเรื่องบนเตียงมาไม่น้อยจึงเข้าใจในความสำคัญของความสุขสมที่ผ่านมาสามีของนางตั้งท่าเบื่อหน่ายและไม่เคยคิดสอนสั่งหรือให้โอกาสไม่เหมือนอย่างหลิวจิงหลินที่ทุ่มเทสั่งสอนเพื่อให้นางพบความสุข ไป๋ชิวหลานจึงไม่คิดถือโทษ“ไม่อยากเชื่อว่าเรื่องเช่นนี้สามารถทำได้ที่ช่องทางด้านหลังด้วย”หญิงสาวย่อมไม่เคยได้ยินมาก่อน หลิวจิงหลินจึงพยายามอธิบายด้วยไม่อยากให้นางคิดว่าเขาวิตถารเฉกเช่นเดียวกับซ่งหยวน“ข้าเคยอ่านพบว่าร่องรักของสตรีมีทั้งสั้นทั้งยาว หากแท่งเนื้อที่ยาวใหญ่เกินไปสอดใส่ในร่องดอกไม้ด้านหน้าอาจทำให้รู้สึกจุกเจ็บแต่ร่องรูทางก้นขาวกลับมีความยาวที่ไม่สิ้นสุด เมื่อสอดใส่จนสุดความย
ตอนที่สิบสอง ยังมีอีกหรือไป๋ชิวหลานแปลกใจอยู่บ้างแต่ยังไม่มากด้วยถึงอย่างไรก็รู้สันดานว่าซ่งหยวนมักมากในกามเพียงใดมิน่าล่ะ ช่วงนี้เขาไม่ใคร่ได้เริงรักอยู่ที่จวนแต่มักหายหน้าไปทีละหลายชั่วยาม ที่แท้ก็ชมชอบของแปลกใหม่นี่เอง“เรื่องคราวนี้เป็นเพราะเขาชมชอบความรุนแรงถึงกับเฆี่ยนตีเมียของคนตัดฟืนจนเกือบตาย เรื่องที่เก็บซ่อนไว้จึงแดงออกมา”“เฆี่ยนตีหรือ เขามีความชื่นชอบในการทำร้ายคนด้วยหรือ”ไป๋ชิวหลานอดแปลกใจมากขึ้นไม่ได้ แม้สามีผู้นี้จะชอบบีบขยำเนื้อตัวอย่างแรงจนเจ็บปวดทั้งบางทียังกัดเต้าทรวงของอนุบางคนจนแทบขาด แต่ไม่เคยเห็นเขาหยิบแส้มาเฆี่ยนตีอนุคนใด“ตอนที่ข้าไปลอบแอบดูเห็นเขาเฆี่ยนจนร่างของหญิงสาวผู้นั้นที่โดนจับมัดโยงอยู่เต็มไปด้วยริ้วรอย จากนั้นเขาก็ตรงเข้ากระหน่ำทิ่มแทงแท่งเนื้อเข้าใส่ร่างของนางอย่างบ้าคลั่งพร้อมส่งเสียงร้องราวสัตว์ป่า”“เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ ร่วมรักทั้งร่างที่เต็มไปด้วยรอยเฆี่ยนตีจะมีความสุขตรงไหน”ไป๋ชิวหลานต
ตอนที่สิบเอ็ด ใหญ่โตไม่น้อยหลิวจิงหลินระดมความเร็วและหนักหน่วงเพื่อทำให้เจ้าของทรวงอกและร่องสีชมพูดีดดิ้นอยู่ภายใต้มือและลิ้นของเขาเมื่อก่อนได้แต่แอบมอง ยามนี้ความงดงามนุ่มฟูอยู่ในอุ้งมือของเขาแล้ว จะไม่ปล่อยไปเด็ดขาดไป๋ชิวหลานถูกกลั่นแกล้งด้วยความเร็วจนใกล้เสร็จสม เรียวขาเนียนหุบเข้าหากันด้วยความเสียวที่พล่านล้นแต่มือหนาหรือจะยินยอมยิ่งเห็นท่าทางเสียวสะท้านยกตัวลอยค้าง ลิ้นร้อนยิ่งลงแรงบดเน้นหนักกว่าเดิมจนเสียงกรีดร้องดังลั่นอย่างลืมตัว“อื้ออออ ซี้ดดดดด อ้า...”โชคดีที่ยามนี้หลิวจิงหลินจอดรถม้าเอาไว้ที่ข้างป่ารกชันจึงไม่มีใครได้ยินเสียงแห่งการร่านสวาทของพวกเขา ไป๋ชิวหลานจึงตะเบ็งเสียงโดยไม่ต้องระวังเมื่อเห็นฝั่งฝันลอยเข้ามาใกล้ ร่างเล็กจึงดิ้นเร่าแอ่นทั้งอกและสะโพกลอยค้างกลางอากาศเปิดกลีบดอกไม้ให้อ้าออกพบความสุขสมอย่างสาแก่ใจ“อื้อออออออออ”ไม่คิดว่าความสุขสมอันอิ่มเอมเป็นเช่นนี้เอง เฮ้อ
ตอนที่สิบ อย่าแกล้งข้าเขาเอาแต่ใจและมุ่งหน้าบีบเคล้นหนักหน่วงจนหญิงสาวเจ็บปวดทั้งกายเป็นรอยเขียวช้ำยิ่งทรวงอกอวบใหญ่มากเท่าใด เขายิ่งส่งแรงขยำขยี้มากเท่านั้นจนเต้ากลมบิดเบี้ยวไม่เหลือสภาพรูปทรงความงดงามในขณะที่หลิวจิงหลินใช้เวลาฟอนเฟ้นคลึงเคล้นเรียกอารมณ์สวาทจนไฟตัณหาค่อยๆลุกโชน“อืม...อร่อยยิ่ง ซาลาเปาสองลูกของเจ้าช่างเลิศรสที่สุด”ชายหนุ่มก้มหน้าดื่มด่ำกับความนุ่มฟูราวอาหารชั้นเลิศ เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าหวานที่หลับหูหลับตาซึมซาบความรัญจวนหวานมือหนาจึงลากลูบผ่านหน้าท้องแบนราบมาวางแปะบนเนินสามเหลี่ยมอวบอูมยามนี้ร่างบางเลื้อยลงมานอนที่พื้นรถม้าแล้วอย่างไม่รู้ตัว กระโปรงตัวยาวโดนลากขึ้นไปกองอยู่ที่เอวคอดขณะที่ผ้าผืนน้อยถูกเบี่ยงไปอีกทางชายหนุ่มเผลอกลืนน้ำลายไปหลายอึกใหญ่ทั้งท่อนกลางกายที่แข็งตั้งจนดันกางเกงแทบขาดสายตาจับจ้องมองกลีบบุปผาสีชมพูซึ่งมีน้ำหวานใสไหลออกมาไม่ขาดสายอ้า...งามยิ่ง สีชมพูน่าเลียนักเจ้าซ่งหยวนมีของดีในมือกลับไม่
ตอนที่เก้า ชิวหาพาเพลิน“เจ้าไม่ต้องกังวล ขอเพียงมีข้าอยู่ ไม่มีผู้ใดรังแกเจ้าได้ทั้งนั้น หลานหลาน เพียงหย่าขาดจากซ่งหยวน พวกเราก็แต่งงานกันได้ทันที”แต่งงานหรือ?นางเพิ่งหนีจากสามีมักมากออกมาจะให้นางเสี่ยงแต่งงานกับชายหนุ่มอีกคนหรือ ไม่ดีกว่า ใบหน้างามเงยขึ้นสบสายตาที่บอกความจริงใจของหลิวจิงหลินหลายวันมานี้ใช่ว่านางจะไม่เข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มสื่อออกมาเพียงแต่นางคือหญิงที่แต่งงานแล้วส่วนเขาเป็นขุนนางที่มีอนาคตไกลที่สำคัญคือนางยังไม่อยากหนีเสือออกมาพบเจอกับสัตว์ที่ยังไม่รู้ว่าจะดุร้ายกว่าหรือไม่“หากข้าหย่าออกมา มีหรือที่บิดาของเจ้าจะยอมให้พวกเราแต่งงานกัน อย่าลืมว่าข้าเป็นหญิงม่ายมีราคีเป็นสตรีที่มีตำหนิ มิใช่คุณหนูไป๋ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องคนเดิมอีกแล้ว”“พ่อของพวกเราเป็นเพื่อนกัน บิดาของข้าไม่คิดมากหรอก มีแต่จะยินดีที่ได้เจ้ามาเป็นสะใภ้”หลิงจิงหลินตอบอย่างไม่ลังเลแต่ไป๋ชิวหลานยังไม่แน่ใจจึงเพียงผัดผ่อนขอยื้อเวลาออกไป
ตอนที่แปด หย่าขาดจากเขาเถอะแม้จะเสียดายความสุขสบายและเงินทองที่ได้รับ แต่ไป๋ชิวหลานคนใหม่กลับไม่คิดวนเวียนอยู่ในปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขรุ่งขึ้นไป๋ชิวหลานจึงชวนสาวใช้กลับไปที่จวนสกุลไป๋โดยอ้างว่าไปเยี่ยมบิดาแต่ความจริงคือเพื่อหาลู่ทางข้างหน้าขณะที่กำลังเดินอยู่ข้างจวนกลับได้ยินเสียงเรียกชื่ออันคุ้นเคย“หลานหลาน”เสียงเรียกที่คุ้นหูทำให้หญิงสาวรีบหันกลับไปมอง เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นตาในความทรงจำของไป๋ชิวหลาน หญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าชายผู้นี้คือ ‘หลิวจิงหลิน’เขาเป็นเพื่อนซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านสกุลหลิวข้างจวนสกุลไป๋ เด็กน้อยทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่วัยเด็กด้วยอายุไล่เลี่ยกันเมื่อเพื่อนวัยเด็กได้กลับมาพบกันอีกครั้ง พวกเขาจึงใช้เวลาทบทวนความหลังและพูดคุยกันอย่างถูกคอเช่นเดิมไป๋ชิวหลานมองหลิวจิงหลินซึ่งเติบโตเป็นชายหนุ่มรูปงามและยังสอบได้เป็นถึงนายอำเภอแล้วด้วยสายตาชื่นชม“ข้าขอกลับมาทำงานที่อำเภอนี้เพื่อดูแลท่านพ่อและกลับมาหาเจ้า”ไป๋ชิ






Comments