ข้าขอโทษ เจ้ายังไม่ถึงเวลาอันควรแต่การทำงานผิดพลาดของระบบวิญญาณเจ้าเลยหลุดออกมา ข้าเลยจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่เป็นนายซินในนิทานที่เจ้าเคยอ่านตอนเด็ก ข้าสานฝันวัยเด็กให้เจ้าเป็นการไถ่โทษ โชคดีนะเอก บ๊ายบาย
View Moreบทนำ
ในอดีตย้อนกลับไปเมื่อนานมากแล้ว เขาเคยนั่งดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งกับน้องสาว ซึ่งเขาจำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นน้องสาวของเขาอยากเป็นเจ้าหญิงตัวนั้นมากจนแม่ต้องซื้อชุดมาให้ใส่ “พี่เอด พี่อยาดเป็นตัวไหน นี่ๆๆๆ น้องเป็นตัวนี่นะ สวยไหม” น้องสาววัยสามขวบของเขาเอ่ยถาม “เรียกพี่เอกชัด ๆ ก่อนจะบอก” “พี่เอดดดด พี่ เอด” “โอเค ๆ พอ ๆ หนูเป็นเจ้าหญิงแล้วให้พี่เป็นแม่มดดีไหมคะ เราจะได้เล่นด้วยกันไง” “เอาๆ หนูเป็นเจ้าหญิง พี่เอดเป็นเซนต์นะ” เอาวะพี่เอดก็พี่เอด เอาจริงๆ ถ้าให้เลือกเขาก็คงไม่เลือกเจ้าหญิงสักองค์ เป็นตัวร้ายเป็นแม่มดน่าจะสนุกดี แต่!! นั่นมันเขาในวัยเด็กไง วัยเด็กอ่ะ เข้าใจป่ะ ตอนนี้เขาก็อยากจะถามไอ้เทวดาหรือไอ้อะไรก็ไม่รู้ที่โคตรจะเฮงซวยนั่น เอามาจากไหนว่าเขาอยากเป็นนางซิน แม่งเอ๊ย! แล้วเขาจะใช้ชีวิตยังไงต่อ แล้วน้องสาวเค้าล่ะจะเป็นยังไง เหลือตัวคนเดียวแล้วด้วย เฮ้อ... ตอนนี้คงได้แต่ทำใจแล้วล่ะ ขอให้หนูใช้ชีวิตต่ออย่างมีความสุขนะคะ อย่ามาเศร้ากับพี่นานเลย น้องรัก TBC. บทที่ 1 ทำไมมีจู๋ เอกภพ ชายหนุ่มที่ตายโง่ ๆ ด้วยการที่กินมะยมเชื่อมที่น้องสาวเอามาฝาก แล้วเม็ดมะยมติดคอตาย ตายอนาถ และตายจริง แต่ว่าตายแล้วมาโผล่ที่ไหนวะเนี่ย บรรยากาศรอบตัวของเขา ที่เป็นห้องสี่เหลี่ยมสีขาวสว่างไม่มีอะไรที่สังเกตได้เลยว่าคือที่ไหน และไม่มีทางเป็นโรงพยาบาลแน่ พอมองลงมาที่ร่างกายตัวเอง กลับกลายเป็นภาพราง ๆ มองไม่ชัดเหมือนร่างกายโปร่งแสง “เอกภพ อายุ 25 ปี ใช้ชีวิตแบบไม่มีเป้าหมาย ไม่เอาอะไรนอกจากน้องสาว ความดีความชั่วเท่ากัน เกิดเมื่อ อืม...ตายเหรอ อืมมม อืมมม เอ๊ะ! ยังไม่ถึงเวลาหนิ” เขามองตามเสียงไปก็เห็นชายแก่คนหนึ่งที่เปิดหนังสือที่ดูโบราณอ่านอยู่ “สวัสดีครับ เอ่ออ คุณครับที่นี่ที่ไหนเหรอ นรก หรือสวรรค์หรือที่ไหนอ่ะ” เขางงนะ โผล่มาที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วก็มีตาแก่ที่ไหนมาพร่ำ ๆ อะไรเต็มไปหมด “ที่นี่น่ะเหรอ จะเรียกว่าประตูมิติก็ได้ ใครที่ตายแล้วก็จะมาที่นี่เพื่อส่งต่อไปนรกหรือสวรรค์ แหะ แต่ตอนนี้น่ะ ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า” ตาแก่คนเดิมยิ้มแห้ง ๆ “อะไรเหรอครับ ผมจะตกนรกเหรอ ไม่ต้องห่วงบอกมาได้เลยผมไม่ซีเรียสหรอก” ห่วงเดียวของเขาคือน้องสาว แต่ตอนนี้ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเขาได้ตายลงแล้ว น้องสาวเขาเก่งจะตายยังไงก็ไปต่อได้อยู่แล้ว “เอ่อ ที่ข้าจะบอกคือ ดวงเจ้ายังไม่ถึงฆาต ระบบช่วงนี้มันรวน ๆ คือ คือ ข้าก็ทำงานคนเดียวไง แล้วแบบ แบบ ทีนี้ใช่ไหมระหว่างที่เจ้าอยู่ที่นี่น่ะ น้องสาวเจ้าก็พาเจ้าไปโรงพยาบาลใช่ไหม แล้วหมอก็ฉีดฟอร์มาลีนไปแล้ว ข้าส่งเจ้ากลับไปโลกเก่าไม่ได้ แต่ แต่ เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ข้า ขอเวลาครู่เดียว เดี๋ยวข้าหาโลกให้เจ้าไปอยู่” “เอ่อ ขอผมตายเลยได้ไหม ถ้ากลับไปหาน้องไม่ได้แล้วผมก็ไม่รู้จะอยู่ทำไมแล้วน่ะครับ” เขาคิดจริงอย่างที่พูดถ้าไม่มีน้องแล้วเขาตายเสียยังดีกว่าอีก “ไม่ได้หรอก ดวงเจ้ายังไม่ถึงฆาต ถ้าข้าทำแบบนั้นมันผิด ข้าขอโทษจริง ๆ นะ อ๊ะ ข้าเจอแล้ว เดี๋ยวข้าส่งเจ้าไปอยู่ในที่ที่เจ้าเคยปรารถนาในตอนเด็กนะ เพราะเจ้าโตมาแบบไม่มีความฝัน เอาล่ะฝันวัยเด็กของเจ้า ข้าจะทำให้เป็นจริงเอง ข้าขอโทษ ข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่เป็นนายซินในนิทานที่เจ้าเคยอ่านตอนเด็ก ข้าสานฝันวัยเด็กให้เจ้าเป็นการไถ่โทษ โชคดีนะเอก บ๊ายบาย” ภาพตาแก่โบกมือให้เขาเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาเห็น เขารู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปในความมืดพอลืมตามาอีกทีก็มาฟื้นในห้องที่มีเตาผิงอยู่ มองไปรอบด้านห้องนี้เหมือนห้องโถงของคฤหาสน์โบราณในหนังที่เคยดู สงสัยว่าเขาจะเข้ามาในตอนที่นางซินทำงานหนักจนมาตายไปตรงเตาผิงล่ะมั้ง เอ๊ะ ในเรื่องนางซินตายหรือเปล่านะ เขามองสำรวจรอบ ๆ ห้องนี้เป็นห้องที่ใหญ่พอสมควร แน่ล่ะ ก็เป็นบ้านเศรษฐีนี่นา เรื่องนี้นางเอกเป็นเจ้าหญิงหรือลูกเศรษฐีเขาก็ไม่แน่ใจ แต่ดูจากบ้านแล้วน่าจะลูกเศรษฐีมากกว่า เพราะที่นี่ไม่เหมือนพระราชวังเท่าไหร่ แล้วตอนนี้เขาอยู่ช่วงไหนของเรื่องแล้วเนี่ย เขาก้มลงสำรวจเสื้อผ้าเนื้อตัวของตัวเอง เสื้อผ้าทั้งเก่าและขาด แต่ผิวนางซินนี่สวยมากเลยนะ ขาวมาก ว่าแต่... ผู้หญิงในสมัยนี้เค้าใส่กางเกงกันแล้วเหรอเนี่ย เก๋เหมือนกันนะ พอจับ ๆ คลำ ๆ ที่หัวก็รู้ว่านางเอกของเรื่องนี้ผมสั้น ว้าวเป็นแซ่บนะ เดี๋ยวนะ เดี๋ยว ผมจะสั้นเกินไปป่ะวะ เขารีบวิ่งตรงไปทางที่เขาคิดว่าเป็นห้องน้ำ เห้ย สวย เป็นคนที่สวยมากจริง ๆ แต่ทำไมโครงหน้ายังมีความคล้ายผู้ชายอยู่ด้วยนะ หน้าอกแบน ๆ นี่ก็ด้วย แอบเปิดกางเกงดูคงไม่เป็นไรมั้งยังไงตอนนี้ก็เป็นตัวเราอยู่แล้ว เหี้ยยยยยยยยย แล้วทำไมนางซินมีจุ๊ดจู๋ด้วยเนี่ยยยยย นี่มันโลกอะไรกัน ไหนบอกมาเกิดเป็นซินเดอเรลล่าไงวะ แต่พอกลับไปนึกคำพูดตาแก่ดีๆ “ข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่เป็นนายซินในนิทานที่เจ้าเคยอ่านตอนเด็ก” “ส่งเจ้าไปเกิดใหม่เป็นนายซินในนิทานที่เจ้าเคยอ่านตอนเด็ก” “เกิดใหม่เป็นนายซิน” นายยยยยยซินนนนนน จริงด้วย ตาแก่นั่นบอกว่านายซิน แล้วเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงต่อเนี่ย เขาจะต้องคู่กับเจ้าหญิงหรือเจ้าชาย นี่เขาสามารถใช้ชีวิตได้ตามใจชอบหรือว่าต้องดำเนินตามเนื้อเรื่องกันแน่ การที่ส่งเขามาโดยที่ไม่บอกอะไรซักอย่างนี่ให้เขาตายไม่ง่ายกว่าเหรอ นี่มันบ้ามาก ‘เอก นี่ข้าเองนะ ข้าจะมาบอกเจ้าเรื่องเนื้อเรื่อง เจ้าต้องเดินตามเนื้อเรื่องเดิมจนจบ หลังจากนั้นเจ้าสามารถใช้ชีวิตตามใจเจ้าได้เลย อีกอย่างเจ้าก็อย่าบ่นมากเลย ข้าแก่มากแล้ว อาจจะป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ข้าก็ขออภัยเจ้าด้วย ตอนนี้เจ้าแค่ดำเนินเนื้อเรื่องไปจนจบเจ้าจะทำยังไงก็ได้ให้เนื้อเรื่องหลักคงเดิม เจ้าไม่ต้องเครียดนะ เจ้าใช้ชีวิตให้เต็มที่เรื่องน้องสาวเจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไปบอกในฝันให้แล้วว่าเจ้าปลอดภัยดี มีความสุขกับฝันสมัยเด็ก ข้าไปก่อนนะมีเรื่องมาบอกเจ้าแค่นี้ ขอให้มีความสุข’ เฮ้อ เอาล่ะ ในเมื่อมันเป็นแบบนี้เขาก็แค่ต้องใช้ชีวิตต่อ น้องสาวพี่ พี่ขอให้หนูเดินหน้าต่ออย่างมีความสุขไม่มีอะไรมาทำให้หนูเสียใจนะคะ วันหนึ่งเราอาจได้เจอกันอีก พี่รักหนูนะ หนูเป็นที่สุดของชีวิตพี่แล้ว ใช้ชีวิตอย่างดีและมีความสุขนะคะ โลกเดิม “พี่เอก หนูไม่รู้ว่าตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน หนูขอให้พี่มีความสุขมาก ๆ นะคะ ฮึก หนู หนูฝันว่าพี่ไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่เป็นฝันวัยเด็กของพี่ พี่...ไม่ต้องห่วง ฮึก หนูนะ ฮืออ หนูจะใช้ชีวิตต่อจากนี้อย่างมีความสุข หนู...หวังว่าวันนึงเราจะได้เจอกันอีกนะคะ ตั้งแต่พ่อแม่เสียไป เราก็มีกันสองพี่น้องมาตลอด ฮึก หนูขอบคุณพี่มาก ๆ ที่เลี้ยงหนูจนโตมาขนาดนี้ หนูหวังว่าพี่จะมีเป้าหมายและความฝันเป็นของตัวเอง ไม่ต้องเหนื่อยกับน้องคนนี้อีกแล้ว พี่มีชีวิตของตัวเองได้แล้วนะคะ หนูรักพี่ค่ะ พี่คือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของหนูนะคะ ขอบคุณมากๆ สำหรับที่ผ่านมา” สาวน้อยได้แต่พูดกลับหลุมศพที่ไม่มีใครตอบกลับมา ฝันในคืนที่ผ่านมาไม่รู้ว่าจะจริงหรือแค่จิตใต้สำนึกที่ปลอบใจตัวเองเธอ แต่เธอขอให้ทางข้างหน้าของพี่ชายเธอไม่ต้องเหนื่อยเหมือนที่ผ่านมา และมีความสุขเป็นของตัวเองสักที....บทที่ 15จบบริบูรณ์? เช้าวันใหม่มาถึง แสงที่สาดส่องเข้ามาในห้องปลุกเอลเลอร์ขึ้นมาอย่างไม่สดใสเท่าที่ควร วันนี้เขาควรที่จะมีความสุขสดใสเพราะเป็นวันที่เขากำลังจะเป็นอิสระ แต่เมื่อคืนเขากลับคิดขึ้นได้ว่า แล้วถ้าคนอื่นใส่รองเท้าได้ล่ะวะ คนแม่งทั้งเมือง จะไม่มีใครตีนไซซ์เดียวกับเขาเลยรึไง แงงงงง เครียดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเนี่ย ถ้ามีคนใส่ได้ก่อนเขาจะทำไงดี เรื่องจะจบยังไงวะเนี่ยเอลเลอร์ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร เลยนอนกลิ้ง ๆ อยู่บนเตียง ช่วงนี้ไม่รู้บ้านนี้เป็นอะไร ไม่เรียกใช้เขาเลย ปกติแค่หยิบของใกล้ตัวก็ต้องเรียกเขามาหยิบให้ ช่วงนี้ไม่มีอะไรให้ทำ กิน ๆ นอน ๆ ให้อาหารพวกหนูน้อย ตอนนี้จากหนูกลายเป็นหมูกันหมดแล้ว อ้วนตุ๊บตั้บกันไปหมด ต้องพาลดแล้วเดี๋ยวเป็นโรคอ้วนจะอันตราย...เอลเลอร์เฝ้ารอการมาของเกรย์ฟาอย่างกังวลใจเล็กน้อยกลัวจะมีคนเท้าไซซ์เดียวกันถ้ากะเวลาการเดินทางและให้เหล่าหนุ่ม ๆ ลองรองเท้า มาถึงที่นี่ก็น่าจะประมาณเที่ยงหรือบ่าย หวังว่าถ้ามีคนใส่ได้พี่เกรย์ฟาจะจัดการได้นะเมื่อวานหลั
บทที่ 14รอแล้วรอเล่า สามวันแล้ว สามวันแล้ว สามวันแล๊วววอิพี่เกรย์ สามวันแล้วทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มาตามหาชายหนุ่มปริศนาสักที บ้าไปแล้ว เรื่องนี้มันไม่จบสักทีเนี่ย อะไรเนี่ย เขาทำอะไรผิดพลาดตรงไหนเนี่ย ไปเต้นรำแล้ว วิ่งหนีแล้ว รองเท้าหลุดก็แล้ว เอ่อ หลุดแบบปาใส่ก็ถือว่าหลุด เช้ามาพระเอกก็ต้องส่งคนมาตามหาแล้วนะ...เช้า“เฮ้ออ ยังไม่มาอีกเหรอ”...กลางวัน“เอ้า ยังไม่มาอี๊กกก”...เย็น“ยังไม่มาอีก นี่วันที่สี่แล้วนะเนี่ย”เอลเลอร์เดินเข้าออกบ้านเป็นว่าเล่นเพื่อดูว่าเกรย์ฟามาหรือยัง หลายรอบต่อวัน อีกทั้งยังบ่นงึมงำกับตัวเอง จนสามแม่ลูกเริ่มกลัวเอลเลอร์ขึ้นมา ว่าจะเสียใจจนเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ“แม่ อิซินมันเป็นบ้าไปแล้ว”“มันน่าจะเสียใจจนเพี้ยนไปแล้วครับคุณแม่ เราจะทำยังไงดี”“มันก็ดีไม่ใช่รึไง ทุกอย่างที่เป็นของมันก็เป็นของเราโดยชอบธรรม หึ ทุกอย่างมันควรเป็นของเราทั้
บทที่ 13โอ้ว ม่ายนะ เสียงนกร้องยามเช้าปลุกเอลเลอร์ที่ยังนอนหลับไม่เต็มอิ่มให้ตื่นขึ้นมา หลังจากที่สายตาปรับโฟกัสได้ สิ่งแรกที่เข้ามาในสายตาคือบรรดาหนู ๆ ที่เรียงแถวยืนสองขาอยู่ข้างเตียง สายตาของแต่ละตัวเหมือนกับกำลังรออะไรบางอย่างอยู่เอลเลอร์เห็นดังนั้นก็มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง ก็ได้รู้ว่าห้องที่เขานอนอยู่นั้นถูกทำความสะอาดเรียบร้อย บรรดาเศษซากอารยธรรมของผ้าที่เคยกระจัดกระจายอยู่เต็มห้องนั้นถูกจัดการให้ไปรวมกันอยู่ที่เดียว น่าจะเป็นบรรดาหนูทั้งหลายที่เก็บให้ คงรอรับคำชมอยู่แน่ ๆ“เก่งมากกก ช่วยกันเก็บห้องให้เราเหรอ น่ารักจัง” เอลเลอร์ยิ้มให้หนูที่เรียงกันอยู่ตรงหน้า“เก่งๆ เก็บเลย เราทำเลอะ” “เราทำเลอะๆ เก็บๆ ให้เอลเลอร์”“ดีไหมเอลเลอร์ดีไหม”“ดีครับ เก่งมากขอบคุณครับ เปื้อนฝุ่นกันหมดเลย ตามมานี่ครับอาบน้ำกันดีกว่า”เอลเลอร์เดินนำกองทัพหนูเข้าไปในห้องน้ำ โชคดีที่เขามีกะละมังซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ พอที่จะให้เหล่าหนูเข้าไปอยู่ พอได้มานั่งนับจริง ๆจัง ๆ ได้ทั้งหมด 18 ตัว ตอนแรกเขานึกว่าจะมีเย
บทที่ 12งานเต้นรำกับเวลาเที่ยงคืน แม้เป็นงานที่ใส่หน้ากากแต่เขาก็มองออกทันทีว่าคนไหนคือเกรย์ฟา เพราะคนที่มางานส่วนใหญ่จะเป็นสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่ไม่รูปร่างสูงโปร่งก็ผอมบาง มีเพียงสองคนเท่านั้นที่หุ่นนักกีฬา อีกทั้งเอกลักษณ์ของบุคลิกก็ยิ่งทำให้แยกง่ายตอนนี้มีเสียงซุบซิบถึงความสง่างามที่แปลกตาของเขา เขาก็ลืมบอกไป โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าน้ำยาย้อมผม สีผมที่ทุกคนมีคือสีธรรมชาติเท่านั้น เพราะฉะนั้นผมสีเทายังไม่เคยมีใครมาก่อนเกรย์ฟาหันมองชายหนุ่มที่หน้างาน รูปร่างลักษณะและแววตานั้นยังไงก็คือเอลเลอร์ เพียงแค่สีของผมและสีของดวงตาที่แปลกไป แต่ดูมีเสน่ห์มาก ๆ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาเดินมาถึงตัวคนตรงหน้าเขาเมื่อไหร่“สวัสดีครับ ผมยังมางานได้อยู่ใช่ไหมครับ”“ได้สิครับ ให้เกียรติเต้นรำกับผมด้วยครับ” เกรย์ฟาถอยหลังโค้งและยื่นมือไปข้างหาเพื่อขอให้ชายหนุ่มตรงหน้าเต้นรำกับเขา“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ” เอลเลอร์ยื่นมือไปจับกับมือหนาของชายหนุ่มตรงหน้า ยิ่งเกรย์ฟาเดินออกมารับด้วยตัวเองยิ่งทำให้เป็นที่จับตามอ
บทที่ 11นางฟ้าแม่ทูลหั๊ว! “ไอ้แก่!!!!!!!”ปึก“โอ้ยย ใจเย็น ๆ เอกใจเย๊นนน”เอกภพในร่างเอลเลอร์หยิบถาดที่ใกล้มือที่สุดปาใส่ตาแก่ที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมด“ใจเย็นเหรอ นี่แหนะ นี่แหนะ ใครพาผมมาหาความหายนะในเรื่องนี่ โยนลงมาก็หายหัว นี่แหนะ ผมเจ็บตัวเคยคิดจะลงมาช่วยไหมห้ะ!!!”“โอ้ยๆ โอ้ย เอกอย่าตี พอแล้วฟังข้าก่อน”เหอะ หยุดก็ได้วะ“พูดมา ขอแบบที่ฟังขึ้นหน่อยนะ”“ใจเย็นแล้วเนอะ คือข้าจะอธิบายให้ฟังนะ โลกนี่ก็เป็นโลกหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนโลกใบเก่าของเจ้า โลกนี้มีจริง ทุกคนมีชีวิตจริง ๆ ซึ่งก็แค่โครงสร้างมาจากนิทานเรื่องหนึ่งที่พอจบเรื่องหลัก โลกนี้ก็จะดำเนินต่อด้วยตัวเอง เหมือนกับโลกของเจ้าที่ก็เป็นนิทานเรื่องหนึ่งของโลกอื่นเหมือนกัน”“อันนั้นเข้าใจได้ แล้วทำไมตอนที่ผมถูกทำร้ายไม่คิดจะมาช่วยกันสักนิดที่ผมมาอยู่ที่นี่ก็เพราะความผิดพลาดของคุณนะ”“ข้าขอโทษ ข้าศึกษาโครงเรื่องนี้มาอย่างดีแล้วไม่ได้มีการตบตีเกิดขึ้นเลย แต่ก็อย่างว่า โลกนี้นิสัยตัวละ
บทที่ 10หวนคืนสู่เนื้อเรื่อง ภาพที่เห็นข้างหน้าเขาตอนนี้คือ สามแม่ลูกที่ร้องตกใจโวยวายอยู่ที่หน้าห้องของเขา ซึ่งเป็นห้องใต้หลังคา ไม่มีทางที่คนพวกนี้จะมาอยู่ที่นี่ได้ ยิ่งกับสภาพห้องเขาที่เต็มไปด้วยหนูหลายสิบตัวที่รุมกัดผ้าเขากระจุยกระจายไปทั่วทั้งห้อง รวมไปถึงชุดที่เขาตัดไว้ไปงานวันนี้ด้วย หรือจะเรียกได้ว่าชุดในห้องเขาไม่เหลือสักชุดที่จะสามารถใส่ได้ตอนนี้เสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าทั้งหมดเหมือนถูกดึงออกมาให้หนูกัด ประตูตู้ยังไม่ได้ปิดด้วยซ้ำ ที่นอนหมอนมุ้ง ผ้าม่าน อะไรก็ตามที่เป็นผ้าถูกกัดขาดวิ่นไม่เหลือเคล้าเดิม แต่สภาพไม่น่าจะใช่กัดอย่างเดียวน่าจะถูกตัดผสมโรงเข้าไปด้วย“ตายแล้ววว หนูพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ยย พวกแกมาช่วยเอามันออกไปเลยนะ”“นังซินแกปล่อยให้ห้องสกปรกจนมีหนูเต็มห้องยั้วเยี้ยไปหมดได้ยังไง ห้ะ!!!” อลิสโวยวายเสียงดัง“ตายแล้ว อย่างนี้น้องซินจะทำยังไงดีครับเนี่ย ชุดน้องซินพังหมดเลย ชุดพี่น้องซินก็ใส่ไม่ได้อีก ถ้าจะเอามาแก้ไซซ์ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว”ตอนนี้เขาหมดคำจะพูดของจริง ชุดสำรองหนึ่งชุดที่เหล
Comments