6เดือนบนเตียง กับร่างกายที่ขยับได้นิดหน่อย... “ระวังด้วยนะลูก...เดินช้าๆ ไม่ต้องรีบ” เสียงมารดาลอยตามหลังมา หวันยิหวาหันมายิ้ม แต่ท่านเดินหายเข้าไปในส่วนครัวเสียแล้ว “พ่อ แม่สงสารลูก” เสียงเครือสะอื้น พร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลปรี่ วิทย์พับหนังสือพิมพ์ในมือโยนไว้บนโต๊ะรับประทานอาหาร เดินเข้าไปประคองภรรยาวัย45ปีอย่างถนอม “ลูกไม่เป็นอะไรแล้วนี่แม่ อย่าไปคิดถึงเรื่องนั้นซิ เราสัญญากันแล้วนี่นา” ชายวัยกลางคนกล่าวเสียงทุ้ม เขาเองก็เจ็บแค้นแทบกระอัก แต่จะทำอะไรคน คนนั้นได้ เมื่อชายผู้นั้นทรงอิทธิพลเสียจนคนธรรมดาอย่างท่านไม่กล้าเผยอหน้า แค่ได้บุตรสาวคืนกลับมาก็นับว่าเป็นบุญหัว แม้หวันยิหวาจะไม่ต่างอะไรกับซากร่างกาย เมื่อความทรงจำของหล่อน หายไปทั้งหมด หลังโศกนาฏกรรมเลวร้ายครั้งนั้น บุตรีของท่าน...เสียแม้แต่...สายเลือดในอก...
ดูเพิ่มเติมบทนำ
สายตาเลื่อนลอยทอดมองทิวทัศน์เบื้องหน้าแบบไร้จุดโฟกัส...ความคิดในใจวุ่นวายแสดงออกมาทางสีหน้าจนเห็นเด่นชัด...ลมหายใจถูกผ่อนออกมาจากปอดยาวๆ เมื่อคิดถึงอาการเจ็บป่วยของตนเอง...จะไม่ให้หวันยิหวา นั่งคิดจนปวดหัวได้อย่างไร? เมื่อสมองของเธอว่างเปล่า หลังฟื้นขึ้นมาหลังอุบัติเหตุใหญ่ เธอบาดเจ็บสาหัส อาการปางตาย และถูกส่งตัวกลับจากอิตาลี...แบบด่วนพิเศษ!! อุบัติเหตุครั้งร้ายแรงนั่น อุบัติเหตุที่ทำให้ตนเองจำอะไรไม่ได้เลย...
สาวน้อยวัย23 ปีที่เพิ่งรับปริญญามาหมาดๆ โบนัสหลังเรียนอย่างหนัก คร่ำเร่งกับตำรามาหลายปี เธออ้อนวอนขอบิดา มารดาไปท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ประเทศในฝันของคนที่มีศิลปะในหัวใจชอบไป... อิตาลี คือสถานที่ที่เธอเลือก...เกิดอะไรขึ้นที่นั่น? หวันยิหวาไม่สามารถรู้ได้ เมื่อทุกคนรอบตัว จงใจปิดปากเงียบ แถมสมองของเธอดันลืม...ลืมสนิท มีหมอกสีขาวบังตา จนมองไม่เห็นอะไรเลย...
“หวานั่งทำอะไรตรงนั้นลูก...เข้าข้างในเถอะจ้ะ แดดมันร้อน”
สตรีสูงอายุ สีหน้าเอื้ออารี คนที่แสดงตัวเป็นมารดาเธอ ในวันที่ลืมตาวันแรกบนแผ่นดินไทย หวันยิหวาจำใครไม่ได้เลย ทุกอย่างตรงหน้าว่างเปล่า... มีเพียงสัญชาตญาณในตัวที่ร้องเตือน คนตรงหน้านั้น... เกี่ยวพันกับเธอเหมือนดั่งที่ท่านว่าจริงๆ
“ค่ะแม่...” หญิงสาวรับคำ ยืดกายลุกขึ้นยืน เอี้ยวตัวไปมา ไล่ความเมือยล้า เนื่องจากเธอนั่งจมอยู่กับความคิดตรงนี้นานแล้ว เหมือนดังที่คุณพรรณนาเตือน
หญิงสูงวัยแอบกรีดหยดน้ำตาทิ้ง สงสารลูกสาวจนอยากจะเจ็บแทน...เคราะห์ร้ายที่หวันยิหวาเคยผจญ มันยากที่จะทำใจยอมรับได้ การที่บุตรสาวลืมอดีตได้ นางคิดว่าเป็นการดี ไม่อย่างนั้น บุตรีของท่านจะเจ็บทั้งกายและใจ
“หวาอาบน้ำก่อนนะคะแม่...” หญิงสาวยิ้มเซียวๆ ให้มารดา เดินช้าๆ ขึ้นชั้นบนของตัวบ้าน พยายามไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เพราะช่วงเวลายาวนานที่นอนแบ็บอยู่บนเตียง เธอทรมานพวกเขามานานแล้ว
6เดือนบนเตียง กับร่างกายที่ขยับได้นิดหน่อย...
“ระวังด้วยนะลูก...เดินช้าๆ ไม่ต้องรีบ” เสียงมารดาลอยตามหลังมา หวันยิหวาหันมายิ้ม แต่ท่านเดินหายเข้าไปในส่วนครัวเสียแล้ว
“พ่อ แม่สงสารลูก” เสียงเครือสะอื้น พร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลปรี่
วิทย์พับหนังสือพิมพ์ในมือโยนไว้บนโต๊ะรับประทานอาหาร เดินเข้าไปประคองภรรยาวัย45ปีอย่างถนอม
“ลูกไม่เป็นอะไรแล้วนี่แม่ อย่าไปคิดถึงเรื่องนั้นซิ เราสัญญากันแล้วนี่นา”
ชายวัยกลางคนกล่าวเสียงทุ้ม เขาเองก็เจ็บแค้นแทบกระอัก แต่จะทำอะไรคน คนนั้นได้ เมื่อชายผู้นั้นทรงอิทธิพลเสียจนคนธรรมดาอย่างท่านไม่กล้าเผยอหน้า แค่ได้บุตรสาวคืนกลับมาก็นับว่าเป็นบุญหัว แม้หวันยิหวาจะไม่ต่างอะไรกับซากร่างกาย เมื่อความทรงจำของหล่อน หายไปทั้งหมด หลังโศกนาฏกรรมเลวร้ายครั้งนั้น
บุตรีของท่าน...เสียแม้แต่...สายเลือดในอก...
และดูเหมือนว่าจะโชคเข้าข้าง...ดูท่าทางคนเหล่านั้นแตกตื่น เมื่อเจอใครบางคนที่เจ็บหนัก คลิสเตียนทันได้เห็น คนกลุ่มใหญ่หิ้วปีกใครคนหนึ่งออกไปจากสถานที่ก่อเหตุ อาการดูเหมือนจะหนัก เมือเขาเห็นเลือดท่วมกายของคน คนนั้นเลย หวันยิหวานั่งขดตัวแนบกับกำแพงปูน ตัวเธอสั่นเทาจน คลิสเตียนต้องรั้งมาโอบไว้หลวมๆ “ปล่อยนะคลิส!!” หญิงสาวผลักอกเขาเต็มแรง มอง คลิสเตียนตาขวาง ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ “จำฉันได้ตอนไหน?” เขาเปิดปากถาม เล่นเอาหวันยิหวาชะงักกึก!! เธอหลบตาวูบ ส่อพิรุธออกมาให้จับได้อีกครั้ง “อะไร!!” หล่อนแสร้งตวาดเสียงเขียว “อย่ามากลบเกลื่อน หวาเรียกฉันแบบนี้ อีตอนที่จำไม่ได้ หวาเรียกฉันคุณ ไม่ใช่คลิส!!” ชายหนุ่มซัก
แต่ดูเหมือนว่า...จะเข้าแผนการของใครบางคนพอดี จุดหมายปลายทางที่รออยู่ด้านหน้า...คือความตายที่กำลังกวักมือเรียก... บนเนินเขาห่างจากรีสอร์ทริมทะเลไม่เท่าไหร่!! เจนน่าลดกล้องส่องทางไกลลง เธอยกมือขึ้นขยี้ตา...ก่อนจะเพ่งมองผ่านกล้องส่องทางไกลนั่นซ้ำ? “ใครก็ได้ลงไปสะกัดคลิสไว้ที” เสียงหล่อนตะโกนลั่น เมื่อมองเห็นใครบางคนตามหลังหวันยิหวามาติดๆ “ไม่ทันแล้วครับนายหญิง ลงไปตอนนี้ แผนที่วางไว้คงพลาดทุกอย่าง!!” แผนที่วางไว้จะต้องไม่คลาดเคลื่อน หากส่งใครก็ตามลงไปสะกัดคลิสเตียนไว้ หมอนั่นก็จะรู้ทัน และคนที่นายสาวต้องการกำจัดก็จะพ้นอันตราย ที่สำคัญ!! คำสั่งตรงจากเปาโล ไม่ว่าจะหวันยิหวาหรือคลิสเตียน ทั้งสองคนนี้
บทที่13.แตกหัก... แววตาเหี้ยมเกรี้ยมมองภาพตรงหน้า ด้วยเพลิงแค้นสุมอก ศัตรูหัวใจ มารที่ขวางทางรักของตนเองกับผู้ชายที่เธอมอบใจให้ เห็นทีครั้งนี้ มันจะมีลมหายใจต่อไปไม่ได้ ครั้งที่แล้วเธอพลาด แต่ไม่ได้หมายความว่า หวันยิหวาจะมีเก้าชีวิต ลองดูสิ หากครั้งนี้มันไม่ตาย...เธอจะยอมปล่อยมือ... “ทำตามแผนเดิม...” เจนน่าสั่งเสียงเหี้ยม การปลิดชีวิตคน เป็นเรื่องธรรมดาของเธอ ใครก็ตามที่เข้ามาขวางทางเธอ มันจะยังคงมีลมหายใจต่อไม่ได้ และหากครั้งนี้คลิสเตียนเข้ามาขวาง... เธอก็ไม่แยแส...ขอเพียงแค่...กำจัดศัตรูได้ บิดาคงจะแก้ต่างให้เธอเอง...เหมือนเช่นทุกครั้ง&nbs
‘ทำไมฉันจะเข้ามาที่รอสซีไม่ได้ ฉันเป็นใคร แกไม่รู้เหรอ?!!’ หวันยิหวาช้อนสายตาเศร้าสร้อยมองอัลเบโต้ ขนาดคนข้างกายชายหนุ่มยังรู้จักหล่อน แสดงว่าสิ่งที่หล่อนพูดออกมาคือความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ เป็นของเล่นของคลิสเตียนอย่างที่อีกฝ่ายพูดจริง และหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือว่าที่มาดามที่เธอแอบได้ยินคนงานซุบซิบถึง อัลเบโต้อึ้ง เขารู้ว่าเจนน่าเป็นใคร แต่รอสซีคือที่เดียวที่เจ้านายไม่ให้หล่อนเหยียบเข้ามา เมื่อมีหวันยิหวาอยู่ ‘ถ้าคลิสไม่เปิดทางให้ ฉันจะเข้ามาได้เหรอ?’ เจนน่ายิ้มมุมปาก เธอกล่าวอ้างเป็นฉากๆ และดูเหมือนว่าอัลเบโต้จะแย้งไม่ออก ‘เขาเบื่อแม่คนนี้แต่ไม่รู้จะกำจัดหล่อนยังไง เลยไหว้วานฉันมาไล่ให้’&nb
บทที่12.ตามรัก ทวงหัวใจ!! “มึงรู้อะไรอัล...บอกกูมา!!” คลิสเตียนเขย่าอัลเบโต้แรงๆ ชายหนุ่มเงยหน้ามองสบนัยน์ตาเจ้านาย “วันนั้น คุณหวาเธอแท้ง!!” อุบัติเหตุครั้งนั้น ไม่ได้พรากแค่ความทรงจำของหวันยิหวา แต่พรากเอาสายเลือดของคลิสเตียนไปด้วย เซเก้ผงะ!! แต่คนที่อาการหนักกว่าคือคลิสเตียน ชายหนุ่มแทบล้มทั้งยืน หัวเข่าอ่อนยวบ ทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นแบบสิ้นท่า มือแข็งแรงยกขึ้นปิดใบหน้า เหงื่อกาฬไหลเปียกชุ่ม สีหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าอิริคเสียอีก “มึงพูดอะไร...อัล!!” กว่าจะตั้งสติและควานหาคำพูดตัวเองเจอก็ผ่านไปหลายนาที เสียงที่ถามออกไปนั้นแหบแห้งและสั่นพร่า “ฮ่าๆ เพราะความมักง่ายของเจ้านายไงคร
“คุณเจนน่าเธอบังคับผมครับ หากไม่ทำ แม่ พ่อผมก็ต้องตายเหมือนกัน” อิริคตอบเสียงปร่า เมื่อตนเองก็ถูกบีบ ไม่ทำก็ไม่ได้ มีแต่หนทางตายรออยู่ข้างหน้าทั้งนั้น “มึงกลัวยัยนั่นมากกว่ากูอีกรึ?” อิริคคอตก เจนน่าน่ากลัวไม่ถึงครึ่งของเจ้านาย แต่เพราะความโลภบังตาตอนนั้น ในเมื่อตนเองต้องเสี่ยง เขาควรได้ค่าตอบแทน และมันคุ้มค่ากับการลงมือ แค่ส่งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้านายให้หล่อนรู้ กับการเปิดทางให้เจนน่าครั้งเดียวครั้งนั้น อิริคไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะร้ายแรงจนเกินควบคุม “ผมจำเป็นครับนาย” มันพยายามแก้ตัว แต่เหตุผลป่วยๆ ฟังไม่ขึ้น ไม่ว่าคนบนโลกใบนี้จะมีความจำเป็นเท่าใด เขาก็ไม่ควรหักหลักเจ้านายที่ชุปเลี้ยงมา “บอกกูมาก่อน ครั้งก่อนมึงร่วมมือกับเจนน่าหรือเปล่า?”&
ความคิดเห็น