ราฟาเอล รอยยิ้มของเขามีให้แค่เธอเพียงผู้เดียว รวมถึงใจที่แข็งกระด้างก็ก็มอบให้เธอแต่เพียงผู้เดียว เวลาที่เขารอคอยมานานหลายปีได้สิ้นสุดลงแล้ว ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาแย่งคนที่เขาจับจอง!! แพรวพิชชา พอเท้าแตะพื้นแผ่นดินประเทศไทยหลังจากที่ไม่ได้กลับมาเนิ่นนาน ชีวิตที่ของเธอก็เริ่มจะไม่ปกติ ใจนี่ยิ่งแล้วใหญ่ มันสั่นไหวแทบตลอดเวลาเมื่อต้องชิดใกล้กับพี่ชายผู้มีพระคุณ
View Moreร่างสูงสง่าตามแบบฉบับชายหนุ่มลูกครึ่งยืนกอดอกทอดมองออกไปยังสวนร่มรื่น ที่มีต้นไม้นานาพันธุ์ทั้งน้อยใหญ่ปลูกอยู่ทั่วอาณาบริเวณคฤหาสน์หรู ห้องทำงานส่วนตัวเงียบสงบ ไม่มีเสียงใดรบกวนนอกจากเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังขึ้นริบหรี่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังถูกเปิดใช้งานอยู่ ใบหน้าหล่อรูปหัวใจนิ่งเรียบตามสไตล์ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มดุจพญาเหยี่ยวแลดูน่าเกรงขาม รับกับจมูกโด่งที่บ่งบอกถึงความเป็นฝรั่ง ปากหยักเรียวสีชมพูราวกับผู้หญิง โดยรวมแล้วราฟาเอล บารานอฟ หล่อแบบดิบๆ ออกแนวดุดัน รอยยิ้มของเขาไม่เคยจะมีใครได้เห็นง่ายๆ นอกเสียจากเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันที่มักจะได้เห็นอยู่เสมอ
หลังจากที่บิดามารดาได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ชีวิตวัยหนุ่มของเขาก็ได้จบลงด้วย ในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ยี่สิบปี อยู่กับความเศร้าโศกได้ไม่นานก็ต้องรับช่วงต่อกิจการทั้งหมดของครอบครัว ที่มีทั้งอสังหาริมทรัพย์ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ของประเทศต่างๆ เป็นรายใหญ่ในการนำเข้าส่งออกสินค้าจากประเทศนั้นไปประเทศนี้ รวมถึงยิบย่อยอีกหลายอย่าง ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียว ทำให้เขาต้องทำงานอย่างหนักพร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย เทียวไปเทียวมาระหว่างมหาวิทยาลัยในกรุงลอนดอนกับอีกหลายประเทศ จนกระทั่งอายุยี่สิบเอ็ดเขาก็สามารถคว้าใบปริญญาทางด้านบริหารธุรกิจมาได้ และได้กลับมาปักหลักอยู่ที่ประเทศไทย ประเทศที่พ่อและแม่ของเขารักที่สุด
การบริหารงานของเขาส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมืองไทย สาขาต่างประเทศก็สั่งงานผ่านระบบวิดีโอคอนฟอเรนซ์ หากมีปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าจะคุยผ่านวิดีโอเขาถึงจะบินไปแก้ไขด้วยตนเอง การทำงานของเขาเด็ดขาด ตัดสินใจอะไรลงไปแล้วไม่มีเปลี่ยนแปลง ทำให้ลูกน้องต่างเคารพยำเกรง และเมื่อถึงคราวที่ต้องบริจาคเงินทำบุญให้กับสถานสงเคราะห์ต่างๆ เขาก็ทุ่มไม่งั้นเหมือนครั้งที่พ่อกับแม่เคยทำเอาไว้ในแต่ละปี
ปีแรกของการมาบริหารงาน เขาเลือกทำบุญกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง โดยได้เดินทางไปมอบด้วยตนเอง วันนั้นเขาได้พบกับเด็กผู้หญิงวัยสิบขวบที่ แอบนั่งร้องไห้อยู่ทางด้านหลังของบ้านเด็กกำพร้า ด้วยความที่สงสารทำให้เขาได้เข้าไปคุย และจับจูงให้เดินกลับเข้าบ้าน ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนรักเด็ก สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมาของแม่หนูน้อยจากคนดูแล บวกกับที่เขาถูกชะตาและรู้สึกเอ็นดู ทำให้เขาตัดสินใจรับเด็กคนนี้มาอุปการะ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น เด็กหญิงผมเปียหน้าตาบ๊องแบ๋วในวันนั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปจากเดิม เขาใช้เวลาสองปีในการส่งให้น้องสาวบุญธรรมเรียนภาษา หลังจากนั้นเขาก็ส่งสาวน้อยให้ไปเรียนโรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษเขายังจำถึงเหตุการณ์ในวันนั้นได้เป็นอย่างดี
‘พี่ราล์ฟขาแพรวอยากอยู่กับพี่ราล์ฟ พี่ราล์ฟอย่าทิ้งแพรวไว้คนเดียวสิคะ ฮึก แพรวไม่อยากอยู่ที่นี่’
‘พี่อยากให้น้องแพรวได้รับสิ่งดีๆ อยู่ที่นี่น้องแพรวต้องเป็นเด็กดีนะครับ แล้วพี่จะมาหาบ่อยๆ พี่ไม่ได้ทิ้งน้องแพรวไปไหน’
‘แต่แพรวอยากกลับบ้านกับพี่ราล์ฟ’
‘เลิกร้องนะคนดี พี่รักน้องแพรวนะ’
แม้แพรวพิชชาจะส่งเสียงร่ำไห้เพียงใด เขาก็ไม่หันกลับไปมอง เพราะกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนพาน้องกลับบ้าน จากวันนั้นถึงวันนี้กสิบสองปีแล้ว จากเด็กวัยสิบขวบกลายเป็นสาววัยยี่สิบสองปี และวันนี้เองสิ่งที่เขารอคอยมานานหลายปีกำลังจะสิ้นสุดลง ความอดทนอดกลั้นก็จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อของรักกำลังจะกลับเข้าสู่อ้อมอกในอีกไม่ช้า
ร่างบางในชุดทะมัดทะแมงก้าวขาออกมาจากอาคารผู้โดยสารขาออกด้วยท่าทางมั่นใจ สายตากลมโตกวาดมองผู้คนที่เดินกันไปมา พลางชะเง้อมองหาคนที่มารับเธอกลับบ้าน แล้วรอยยิ้มแฉ่งอย่างดีใจก็ปรากฎเมื่อเห็นป้ายขนาดใหญ่ที่ชูขึ้นโดยผู้ชายร่างโต
‘ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคุณหนู’
แม้จะแอบน้อยใจนิดๆ ที่ไม่เห็นผู้เป็นพี่ชายมารับด้วยตัวเองอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ แต่รอยยิ้มสดใสก็ไม่ได้จางหายไปจากใบหน้าแต่อย่างใด
“พี่แบรทคิดถึงจังค่ะ ไม่เจอกันตั้งนาน ดูหล่อขึ้นนะเนี่ย” ร่างเล็กกระโดดกอดชายหนุ่มร่างโตที่ยืนยิ้มแฉ่งให้เธอ แต่พอโดนกอดก็รีบกระโดดออกราวกับติดสปริง ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วถึงกลับซีดลงไปอีกราวกับไก่ต้ม ถ้าทางลนลานของแบรททำให้คนชอบแกล้งอมยิ้มอย่างถูกใจ
“ผมก็คิดถึงคุณหนู แต่คุณหนูอย่ากอดผมแบบนี้สิครับ ถ้าคุณราล์ฟรู้เข้ามีหวังผมโดนยิงทิ้งแน่” แบรททำหน้าแหย ใครๆ ก็รู้ดีว่าคุณราล์ฟของเขาหวงคุณหนูแพรวพิชชาขนาดไหน ยิ่งถ้ารู้ว่าคุณหนูกอดเขาแบบนี้ไม่ตายดีแน่ แค่คิดก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว
“พี่ราล์ฟจะรู้ได้ยังไงถ้าเราสองคนไม่พูด พี่แบรทกับพี่โรมนี่กลัวพี่ชายแพรวเกินไปแล้วนะคะ” แพรวพิชชากลั้วหัวเราะ ลูกน้องคนสนิทของพี่ชายเธอกลัวเจ้านายยังไงก็อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
“ไม่กลัวได้ยังไงล่ะครับ คุณหนูก็รู้ว่ารายนั้นดุอย่างกับอะไรดี ทำอะไรไม่ถูกใจนิดเดียวก็โดนเตะแล้วครับ เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะครับคุณหนู ผมว่าเราไปคุยต่อกันในรถดีกว่าครับจะได้กลับบ้านกัน เดี๋ยวคุณราล์ฟรอนานแล้วพาลโมโหผมอีก ท่านยิ่งกำชับว่าให้รีบกลับทันทีไม่ต้องโอ้เอ้ที่ไหนตามใจคุณหนู” แบรทถ่ายทอดคำสั่งของเจ้านาย พร้อมกับแย่งรถเข็นสัมภาระของคุณหนูคนสวยมาเข็นเอง
“แพรวไม่ได้จะโอ้เอ้สักหน่อย พี่ราล์ฟชอบเห็นแพรวเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลย พี่แบรทเดินนำไปที่รถเลยค่ะ เดี๋ยวเจ้านายรูปหล่อของพี่จะของขึ้น” แพรวพิชชาหน้าง้ำ แล้วผายมือให้แบรทเดินนำหน้า
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินเข้ามาด้วยความระมัดระวัง หวังจะไม่ให้คนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่รู้ตัว แต่คนที่มีเส้นประสาทในการฟังดีเยี่ยมก็รับรู้ได้ ทว่าแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ร่างบางที่เดินเข้ามาประชิดติดด้านหลังกว้าง โผเข้ากอดเอวสอบอย่างแนบแน่น ใบหน้าน่ารักแนบลงกับแผ่นหลังอบอุ่น มีเสียงหัวเราะคิกคักดังเล็ดลอดออกมาจากเรียวปากสวย ไม่สนใจว่าคนที่กอดอยู่จะคุยอยู่กับใคร ราฟาเอลที่คุยธุระเสร็จแล้วหันกลับมามองอ้อมแขนเล็กที่กอดรัดเอวเอาไว้ด้วยสีหน้าท่าทางไม่ยินดียินร้ายอะไร
“คิดถึงจังค่ะพี่ราล์ฟ ไม่เจอกันตั้งนานขอกอดให้หายคิดถึงนานๆ หน่อยนะคะ” เสียงอู้อี้ดังอยู่ที่แผ่นหลังแกร่งอย่างออดอ้อน
มือใหญ่ดึงแขนเรียวออกห่าง ทำให้เห็นหน้าคนช่างอ้อนชัดๆ นัยน์ตาคมสำรวจคนตรงหน้าอย่างพินิจ ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้ม สวยใสไร้ที่ติ คิ้วเรียวงาม ดวงตาเป็นประกายสดใส จมูกโด่งเล็กน่ารัก เรียวปากเป็นกระจับสวย ทุกอย่างที่เห็นมันน่ารักไปเสียหมด
“ตัดผมสั้นทำไมน้องแพรว” ราฟาเอลถามเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงแลหงุดหงิด สายตาคมจับจ้องอยู่ที่ผมสั้นสีน้ำตาลสวยอย่างไม่วางตา แพรวพิชชาถึงกับถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แทนที่พี่ชายของเธอจะบอกว่าคิดถึงอะไรแบบนี้ กลับพูดถึงเรื่องผมเป็นอันดับแรก เธอละเชื่อเขาเลยจริงๆ
“แทนที่พี่ราล์ฟจะบอกว่าคิดถึงแพรว แต่กลับพูดเรื่องผมเป็นอันดับแรก แบบนี้มันน่าน้อยใจนะคะ” เจ้สของใบหน้างอเอ่ยอย่างงอนๆ ยกแขนขึ้นมากอดอกตัวเองเอาไว้แน่นอย่างต้องการจะประท้วง คนอะไรนอกจากจะชอบทำหน้าตายแล้วยังใจดำอีก
“จะน้อยใจพี่ด้วยเรื่องอะไร ในเมื่อน้องแพรวก็รู้อยู่แล้วว่าพี่คิดถึงเรามากแค่ไหน พี่แค่อยากจะรู้ว่าทำไมน้องแพรวของพี่จะต้องตัดผมสั้นด้วย เพราะพี่ชอบให้ไว้ผมยาวมากกว่า” ราฟาเอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าคมก็ยังคงไม่คลายความขุ่นเคืองลง
“แพรวไม่อยากพูดกับพี่ราล์ฟแล้ว ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ เดินทางมาเหนื่อย ไว้เจอกันค่ะ” แพรวพิชชาแก้มป่องหมุนตัวหันหลังเตรียมจะเดินออกไป
“ขี้งอนไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ น้องแพรว” ราฟาเอลพึมพำกับตัวเอง แล้วส่ายหน้าน้อยๆ
“ว้าย!”
งานเลี้ยงจบลงในเวลาเกือบสี่ทุ่มครึ่ง เหตุที่จบลงค่อนข้างเร็วก็เป็นเพราะว่าเห็นใจว่าที่คุณแม่คนสวยที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ จะให้ไปพักผ่อนก่อนก็คงไม่ได้ สามีเล่นกอดเอาไว้กับตัวไม่ยอมให้ห่างไปไหนได้เลย แม้ว่าแพรวพิชชาจะคุยกับเพื่อนอยู่ก็ตามกล่องของขวัญที่ถูกขนย้ายขึ้นมาไว้ภายในห้องนอนใหญ่รอการแกะ ระเกะระกะเต็มไปหมด เจ้าของของขวัญนั้นหาได้สนใจไม่ เพราะสิ่งที่สนในตอนนี้ก็คือร่างเย้ายวนที่กำลังควบขี่เขามากกว่า เสร็จงานข้างล่างก็มาต่องานข้างบนที่มีแค่เขากับเมียฉลองกันสองคน งานนี้จะให้ใครมายุ่งด้วยไม่ได้ทั้งนั้น และใช้เวลาม่นานเท่าไหร่นักความสุขสมอารมณ์หมายก็เข้ามาเยือนทั้งคู่ คลื่นความสุขล้นทะลักออกมามากมาย“น้องแพรวอยากให้พี่จัดงานแต่งงานของเราตอนไหนครับ เดือนหน้านี้ดีไหม หรือว่ามันเร็วไป สำหรับพี่ตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะน้องแพรวเป็นเมียพี่อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่พี่กลัวเมียพี่น้อยใจที่พี่ไม่ได้พูดเรื่องแต่งงานของเราขึ้นมาอีก” ราฟาเอลถามคนที่นอนซบอกหลังจากที่เขาเพิ่งจะได้รับของขวัญสุดเร่าร้อนจากเมียมาหมาดๆ“พี่ราล์ฟถามแพรวแบบทื่อๆ เลยเหรอคะ” แพรวพิชชาผงกศีรษะขึ้นมองหน้าสามีที่เฝ้าเพียรจูบข้าง
แพรวพิชชาปลีกตัวเข้ามาในครัวของคฤหาสน์ที่มีเพื่อนรักทั้งสองคนคอยท่าอยู่ก่อนแล้วอย่างเร่งด่วน เธอไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำจริงๆอย่างที่บอกสามีหรอก หากไม่พูดแบบนั้นมีหวังว่าเธอคงไม่สามารถแยกจากพี่ราล์ฟได้อย่างแน่นอน“ขอโทษทีนะจ๊ะเพื่อนรักคนสวยทั้งสองของฉัน ขอบใจมากนะที่ไปรับเค้กมาให้แถมยังช่วยดูให้อีกต่างหาก” แพรวพิชชาโผเข้ากอดเพื่อนรักทั้งสองคนพร้อมกันอย่างซึ้งใจ“ไม่ต้องมาทำซึ้งเลย แกมาช้าจริงเลยคุณนายแพรวพิชชาคนงาม มัวแต่ให้สามีนั่งออเซาะซบอกตู้มๆ อยู่นานสองนาน ปล่อยฉันกับยัยนานานั่งเฝ้าเค้กพี่ราล์ฟอยู่นั่นแหละ ขืนช้ากว่านี้อีกนิดฉันจะแทะมันแล้ว” ช้องนางแกล้งบ่นกระปอดกระแปดอย่างต้องการจะแซวมากกว่าว่าจริงจัง“แกก็ช่างแซวนะยัยช้องบ้า มีของดีก็ต้องเอาใจสามีสิจะได้ไปไหนไม่รอด” แพรวพิชชาตีแขนเพื่อนเบาๆ แล้วเอ่ยติดตลกกับเพื่อนขำๆ เพราะไม่มีอะไรต้องปิดบัง“รู้ไหมว่าฉันสองคนได้แต่นั่งอิจฉ๊าอิจฉาเธอแพรว หวานซะมดยังไม่กล้ายุ่งเลย” นานาสัพยอกเธอกับช้องนางผลัดกันออกไปชะโงกหน้าดูบรรยากาศภายในงาน พอเห็นเพื่อนรักกับสามีนั่งกอดกันกลมดิกก็เอามานั่งอิจฉากันสองคน“ไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะ ฉันกำลังท้องด้วยพี่ราล์
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์อีกครั้งนะคะที่รักของแพรว” แพรวพิชชากระซิบเสียงหวานขณะนั่งอยู่บนตักของสามีที่กำลังนั่งลูบท้องเธออย่างเพลินมือ วันนี้วันเกิดเขาแท้ๆ แต่เจ้าภาพดันไม่สนใจแขกเหรื่อเลยสักนิด เกาะติดอยู่กับเธอแค่คนเดียวเท่านั้น ทั้งที่งานเลี้ยงในวันนี้บรรดาเพื่อนสนิทเขาตั้งใจจัดให้ เมื่อทุกคนทราบข่าวการตั้งท้องของเธอไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่ราล์ฟเอง หรือทางด้านเพื่อนสนิทอันน้อยนิดของเธอ รวมถึงแม่ครูที่เคารพรัก ทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่แถมยังร่วมแสดงความยินดีไม่จบไม่สิ้น สร้างความปลื้มอกปลื้มใจแก่เธอยิ่งนัก“ขอบคุณครับ น้องแพรวบอกพี่หลายรอบแล้วนะ แต่พี่ก็ชอบทุกครั้งที่น้องแพรวพูด และชอบที่สุดที่ได้เป็นสุดที่รักของเมียพี่” คำว่าสุดที่รักของแพรวมันทำให้คนฟังอิ่มเอมใจที่สุด ปากและจมูกจึงพร้อมใจกันประทับลงบนพวงแก้มนุ่มที่แต่งแต้มสีสันด้วยสีชมพูอ่อนฟอดใหญ่ และกดย้ำซ้ำๆ กันอยู่อย่างนั้นจนคนถูกฟัดหอมหัวเราะน้อยๆ“เดี๋ยวแก้มแพรวช้ำหมดค่ะ” แพรวพิชชาพูดยิ้มๆ ไม่ได้คิดจริงจังเรื่องช้ำอะไรสักนิด แค่แกล้งเย้าไปอย่างนั้นเอง สองมือก็ประคองแก้มสากระคายนิดๆเอาไว้แล้วจูบลงบนริมฝีปากเขาแทน“ไม่ช้ำหรอน
รอยยิ้มกว้างเกลื่อนกระจายเต็มใบหน้าหล่อเหลา ซึ่งเป็นภาพที่เห็นได้ยากมากหากไม่ใช่ยิ้มที่มอบให้กับแพรวพิชชา ในช่วงเวลานี้ไม่ยิ้มคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาเพิ่งจะได้รับฟังคำยืนยันออกจากปากคุณหมอว่าตอนนี้เมียรักกำลังตั้งท้องลูกคนแรกของเขาอยู่ สองเดือนลูกเขามาอยู่ในท้องของว่าที่คุณแม่เป็นเวลาสองเดือนแล้ว หากรู้ตัวเร็วกว่านี้เขาจะทะนุถนอมทั้งแม่และลูกเป็นอย่างดี โชคดีที่ว่าลูกไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใดๆ ทั้งสิ้นยามที่ร่วมรักกันอย่างดุเดือด เห็นทีว่าต่อไปนี้คงต้องเบาแรงลงกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นลูกอาจจะได้รับอันตราย ท้องอ่อนๆ ยิ่งเป็นช่วงที่อันตรายมาก การเชื่อฟังคุณหมอเป็นสิ่งที่ควรกระทำตามอย่างยิ่ง“พี่ราล์ฟยังไม่หุบยิ้มเลยนะคะ ตั้งแต่เราออกจากโรงพยาบาลมา” แพรวพิชชายิ้มตามสามี ขณะที่มือก็ลูบหน้าท้องตัวเองเรื่อยๆ เลือดเนื้อเชื้อไขที่เกิดขึ้นจากความรักของเธอและเขากำลังก่อกำเนิดอยู่ในท้อง ความปลื้มปิติยินดีมันเอ่อล้น ตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างถ่องแท้เลยทีเดียวว่าการมีลูกมีความสุขมากมายแค่ไหน ลูกคือสิ่งมหัศจรรย์ของเธอ แม้จะคิดก่อนแล้วว่าอาจจะท้องจริงๆ แต่พอได้ยินคุณหมอยืนยันก็ตื
“ไม่พร้อมยังไงพี่ไม่เข้าใจ ทุกทีเราก็ทำกันหลายรอบ หรือว่าน้องแพรวไม่สบายตรงไหน” ราฟาเอลถามอย่างไม่เข้าใจในประโยคกำกวมของเมียตัวน้อยที่เริ่มจะออกอาการพยศอีกแล้ว แต่เท่าที่สังเกตดูเมียเขาก็ไม่ได้มีอาการที่จะบ่งบอกว่าไม่สบายเลยสักนิด นอกเสียจากอาการอ้อนที่มีมากกว่าปกติเท่านั้น หรือว่า“น้องแพรวกำลังจะมีลูกให้พี่ใช่ไหมคนดี” ดวงตาสั่นไหวเปล่งประกายยามเอ่ยถึงลูก ขอให้สิ่งที่คาดเดานั้นเป็นความจริงด้วยเถอะ ฝ่ามือหนาวางทาบทับลงบนหน้าท้องเนียนนุ่ม แล้วอยู่ๆ ก็เหมือนมีกระแสอะไรบางอย่างขณะที่ลูบไล้อย่างเพลิดเพลิน ความอุ่นวาบพุ่งตรงเข้าสู่กลางใจเข้าอย่างจังแพรวพิชชาวางฝ่ามือของตัวเองลงบนหลังมือใหญ่ของสามี ก้มหน้าต่ำลง มองมือคนละขนาดที่ทาบทับกันด้วยสีหน้ายากจะคาดเดา ประจำเดือนเธอขาดไปราวสองเดือนเศษแล้ว และก็เพิ่งจะมาเอะใจเมื่อสามสี่วันก่อนนี่เอง แต่มันก็แค่ความคาดเดาเท่านั้น เธอยังไม่ได้ไปตรวจหรือซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเพื่อความแน่ชัด ตอนนี้ได้แต่หวังว่าลูกจะมาอยู่กับเธอแล้วจริงๆ รอยยิ้มหวานเปื้อนใบหน้างดงามเมื่อเงยขึ้นสบตากับราฟาเอล“ประจำเดือนแพรวขาดไปสองเดือนแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้นะค
“อ๊ะ” เสียงหวานอุทานเบาๆ อย่างตกใจ เมื่อโดนฟันซี่คมกัดแก้มก้นเข้าอย่างจังความผงาดใหญ่ที่กำลังตื่นตัวอย่างขีดสุดซุกอยู่ตรงร่องก้น เรือนกายกำยำน่าหลงใหลแอ่นตัวไปข้างหน้า ขาแข็งแรงทั้งสองข้างคร่อมทับเรียวขาสวย ใช้หัวเข่ายันตัวเอาไว้ มือจับยึดสะโพกงอนเป็นหลักในการถูไถความร้อนผ่าว กรามแกร่งบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน เส้นเลือดข้างลำคอแกร่งปูดโปนอย่างน่ากลัว บ่งบอกถึงความต้องการอันมากล้นของเจ้าตัวแก่นกายเครียดเขม็งแลน่าเกรงขามของชายหนุ่มสองสัญชาติจดจ่ออยู่ที่ปลายทางเบียดชิด เตรียมพร้อมที่จะมุดเข้าไปสำรวจความอ่อนนุ่มที่แสนคับแคบเพื่อให้หายทรมาน ฝ่ายผู้ถูกกระทำในตอนนี้ก็ได้แต่นอนครางอื้ออึง จิกเล็บกำผ้าปูที่นอนจนมันยับยุ่ง เสี้ยวหน้าด้านขวามือนอนทับแขนของตัวเอง ขบเม้มกลีบปากสกัดกั้นความซ่านเสียวเป็นระยะ และไม่ทันได้ตั้งใจก็ต้องสะดุ้ง“อูยย” ใบหน้าสวยผงกศีรษะขึ้น เหลียวมองสามีที่อยู่ทางด้านหลังด้วยสายตาวูบไหวมันเข้าไปได้แล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือราฟาเอลจึงโหย่งตัวขึ้นแล้วกดพรวดเข้าไปจนมิดในทีเดียว เพราะตอนนี้หากจะให้ละเลียด ค่อยเป็นค่อยไปมันคงไม่ได้ เมื่อสามารถเข้าไปอยู่ในตัวเมียได้หมดเขาก็ไม่
Comments