"ผมไม่ยอมรับการคลุมถุงชนนะครับคุณแม่ "ชายหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีปฏิเสธการหมั้นหมาย กับผู้หญิงที่พ่อแม่หมายตาเอาไว้ให้แบบหัวชนฝา ถึงจะสนิทกับอลิซาเบธก็เถอะ แต่พอคิดถึงรูปร่างกลมๆของเธอแล้ว เขาวางสถานะให้เป็นแค่พี่น้องแบบเดิมจะดีกว่า ไม่อยากจะคิดถึงสถานะคู่หมั้น ที่ต้องร่วมหอลงโลงกันในอนาคตเลย แต่มันติดตรงที่ว่า พลอยใสเองก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
"ทำไมล่ะเพชร ทำเพื่อความสบายใจของคุณย่าเป็นครั้งสุดท้ายไม่ได้เหรอ" พลอยใสพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชาย เพราะตอนนี้คุณย่าของเขาป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ จึงอยากเห็นสิ่งที่วางแผนเอาไว้ เดินไปถึงจุดมุ่งหมายเสียที แต่ทว่าหลานชายตัวดี ยังปฏิเสธเสียงแข็ง เขาจะไม่ยอมรับการแต่งงานกับยัยลูกเป็ดขี้เหร่อย่างแน่นอน "นี่มันสมัยไหนกันแล้วครับคุณแม่ ยังจะมีการคลุมถุงชนแบบนี้กันอีกเหรอ ยังไงผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด" เขาไม่อยากจะเชื่อ ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าจนมนุษย์แทบจะบินได้อยู่แล้ว แต่ครอบครัวของเขายังมีความคิดแบบโบราณ จับลูกสาวลูกชายมาคลุมถุงชน ทั้งๆที่ไม่เต็มใจ "หมั้นกันไว้ก่อน เพื่อความสบายใจของคุณย่า เรียนจบกลับมา เพชรค่อยมาคุยเรื่องนี้อีกครั้งก็ได้นี่ลูก" พลอยใสพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชาย ให้หมั้นหมายกับผู้หญิงที่คุณย่าได้เลือกเอาไว้ก่อนสิ้นลม ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างหงุดหงิด เพราะเห็นแก่คุณย่าที่เลี้ยงดูมาหรอกนะ เขาถึงยอม "ก็ได้ครับ แต่กลับมาเมื่อไหร่ ผมจะถอนหมั้นทันที" ชายหนุ่มบอกคนเป็นแม่อย่างนั้น ก่อนจะยอมเข้าพิธิหมั้นและบินไปเรียนต่างประเทศในวันต่อมา... สองปีผ่านไป... "อลิซจะไปหาป้าพลอยแต่งตัวให้มันเรียบร้อยกว่านี้หน่อย ไม่ได้หรือลูก" มาริสาติงการแต่งตัวของลูกสาว เพราะอลิซาเบธใส่แค่เสื้อครอปแขนกุดเอวลอย และสวมเกงเกงยีนส์ขาดๆเหมือนสาวสก๊อยไม่มีผิด ดูแล้วมันไม่งาม เธอกลัวว่าผู้ใหญ่ทางนั้นจะติติง "ป้าพลอยไม่ว่าอะไรหรอกค่ะแม่ แดดเมืองไทยร้อนขนาดนี้ ให้ใส่แบบแม่ชีอึดอัดตาย" เธอหันไปบอกคนเป็นแม่ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถคันโปรดของตัวเอง "แม่ว่าให้ลุงฉลองขับไปส่งไหมลูก ขับมอเตอร์ไซส์ไปอย่างนั้นมันอันตราย" นั่นนอกจากจะเป็นห่วงเรื่องแต่งตัวยังเป็นห่วงเรื่องการขับรถของเธออีก "ปีนี้อลิซอายุยี่สิบสามแล้วนะคะแม่ เรียนจบปริญญาตรี มีใบขับขี่แล้วค่ะ"เธอเตือนความจำมาริสา เพราะว่ากี่ปีๆคุณแม่ของเธอก็คอยห่วงเหมือนเป็นเด็กๆและในขณะนั้นเอง ไต้ฝุ่นคุณพ่อสุดหล่อซึ่งปีนี้อายุย่างห้าสิบแปด เดินเข้ามาโอบกอดภรรยาก่อนจะบอกกับเธอว่า "อย่าไปจุกจิกกับลูกมากเลยน่ะคุณ อลิซโตเป็นสาวแล้วนะ เขาดูแลตัวเองได้" "แต่ว่า.." มาริสายังจะเถียงสามี แต่ทว่าไต้ฝุ่นทำท่าจุ๊ปากใส่ภรรยา ก่อนจะหันไปพูดกับอลิซาเบธว่า "รีบไปเถอะลูกเดี๋ยวสาย พ่อฝากสวัสดีคุณลุงคริสกับป้าพลอยด้วยนะ" "ค่ะคุณพ่อ งั้นอลิซไปก่อนนะคะ" เธอเข้าไปหอมแก้มคุณพ่อคุณแม่ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อหนังตัวโปรด และเดินออกจากบ้านไป "จะไปไหนอ่ะเจ๊ แต่งตัวเท่เชียว" อเล็กซานเดอร์น้องชายวัยยี่สิบปีของอลิซาเบธ เห็นหญิงสาวสวมหมวกกันน็อก ก่อนจะก้าวขาขึ้นบิ๊คไบค์คันใหญ่อย่างคล่องแคล่ว เธอชอบขับมอเตอร์ไซส์คันใหญ่ และแต่งตัวเหมือนสก๊อย แต่อันที่จริงอลิซาเบธเป็นกุลสตรีร้อยเปอร์เซ็น หมายความว่าเธอไม่ใช่ทอมบอย แต่ออกจะติดห้าวนิดหน่อย เพราะตอนเด็กๆชอบตามคุณพ่อไปที่สนามแข่งรถ จนชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ "ไปบ้านป้าพลอยอ่ะ เดี๋ยวตอนเย็นๆจะกลับ" "ไปหาคู่หมั้นอ่ะดิ ได้ข่าวว่าพี่เพชรกลับมาแล้วนี่" คำพูดของน้องชาย ทำให้อลิซาเบธถอดหมวกกันน็อกออกจากศรีษะทันที "เล็กรู้ได้ยังไง" หญิงสาวหันไปถามน้องชาย พลางความรู้สึกน้อยใจ มันก็จู่โจมขึ้นมาในอก ตั้งแต่เพชรกล้าไปเรียนที่ต่างประเทศ เขาไม่เคยติดต่อเธอมาเลย แถมกลับมายังไม่ส่งข่าวให้รู้อีกต่างหาก "ก็ผมเห็นสเตตัสเช็คอินที่สุวรรณภูมิ นี่อย่าบอกนะว่าพี่ไม่รู้" คำตอบของน้องชายสุดที่รัก ทำให้อลิซาเบธหันหน้าหนีทันที เธอกำลังน้อยใจใครบางคนจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา ก็เขาหายไปเลย ส่งข้อความไปก็ไม่เคยตอบ อลิซาเบธ จึงเลิกติดตามอินสตาแกรมของคู่หมั้น จนกระทั่งตอนนี้เธอจึงไม่รู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของเขาเลย "อือ ขอบใจนะ เล็กเข้าบ้านเถอะ" เธอบอกน้องชายก่อนจะสวมหมวกกันน็อก และขับบิ๊กไบค์คันใหญ่ออกจากบ้านทันที ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง รถตู้คันหรูกำลังขับพาคุณชายของบ้านเลี้ยวเข้าไปในซอยลึกซึ่งเป็นทางกลับคฤหาสน์ ของพวกเขา แต่ทว่าในระหว่างทางประมาณสามร้อยเมตรก่อนจะถึงตัวบ้าน ดันมีบิ๊คไบค์คันใหญ่ขับปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด เอี๊ยด!! เสียงเบรคดังสนั่น พร้อมกับเสียงล้อรถครูดกับถนน จนคนที่กำลังนั่งมองวิวรอบๆก่อนจะถึงบ้านของตัวเองอย่างเพลิดเพลินตานั้น ถึงกับตกใจ "มีอะไรหรือมาโนช" เขาหันไปถามบอดี้การ์ดของคุณพ่อพลางจ้องมองไปที่บิ๊คไบค์คันใหญ่นิ่งๆ ดูจากรูปร่างแล้ว คนขับบิ๊คไบค์คันนั้น น่าจะเป็นผู้หญิงแต่ทำไมขับซิ่งขนาดนี้นะ ชายหนุ่มเพียงแค่มองนิ่งๆไม่ได้นึกกลัวอะไร แต่ทว่าบอดี้การ์ดคุณพ่อของเขานั้น ชักปืนออกมาเตรียมพร้อมทันที "มีคนขับมอเตอร์ไซปาดหน้าครับคุณเพชรร" มาโนชหันไปบอกลูกชายของเจ้านาย พร้อมชักปืนที่เหน็บเอวทำท่าเตรียมพร้อม เรื่องศัตรูรุกราน เรื่องคนรอบทำร้าย มันเป็นเรื่องธรรมดาของพวกมาเฟีย ทว่าบิ๊คไบค์คันนั้น ทำไมมันดูคุ้นจังพอเจ้าของรถถอดหมวกกันน็อกออกเท่านั้น "คุณหนูอลิซ! " มาโนชอุทานออกมาเสียงหลง ก่อนจะหันไปบอกลูกชายเจ้านายว่า "คู่หมั้นของคุณเพชรน่ะครับ ชอบเล่นอะไรแผงๆอยู่เรื่อย เกือบโดนส่องไปแล้วไหมล่ะ" พูดพลางเก็บปืนไว้ที่เดิม ชายหนุ่มนักเรียนนอกที่นั่งอยู่ในรถ มองดูคู่หมั้นสาวที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี กำลังจ้องมองมาที่เขานิ่งๆ หัวใจของเพชรกล้ามันเต้นกระตุกอยู่เล็กน้อย อลิซาเบธโตเป็นสาวแล้ว แถมยังน่ารักแบบสุดๆชายหนุ่มเผลอมองจนตาค้าง ก่อนจะเรียกสติตัวเองคืนมาและสบถเบาๆว่า "ไม่มีมารยาท ท่าทางเหมือนเด็กสก๊อยไม่มีผิด" : : : ท่าทางเหมือนเด็กสก๊อย แต่เผลอมองจนตะลึง ย้อนแย้งนะคะพี่เพชรเมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!”อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วยสว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววันไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา“ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก อลิซาเบธเดินออกมาพอดี ใบหน้าหน้าสวยเปล่งประกายอย่างเจ้าสาวผู้กำลังมีความสุข วันนี้เป็นวันที่อลิซาเบธมีความสุขมากที่สุด ได้เข้าพิธิแต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก เหมือนดั่งในฝันของเธอ ส่วนอีกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้น ดวงตาจับจ้องร่างงามด้วยความอิจฉา ก่อนจะรวบรวมอารมณ์ร้ายทั้งหมด ใส่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจริงใจเข้าไปบนใบหน้า และเดินเข้าไปหาเธอ"คุณอลิซคะ" เสียงเธอหวาน ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรในใจแม้แต่น้อย ทำให้อลิซหยุดมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงใจ อย่างที่ไม่ได้คิดร้ายกับคนตรงหน้า และถามเธอว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเมนี่” อลิซาเบธรอฟังว่าเมธินีอยากอะไรจะคุยกับเธอ "ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม? เรื่องสำคัญมาก... ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เมธินีตอบด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก ทำเอาอลิซาเบธถึงกับหุบยิ้มลงทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะพูดอะไรกับเธอ? หญิงสาวคิดอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้ากลับไปก่อนจะถามอีกครั้งว่า "มีอะไรเหรอคะ?" “คุณอลิซคงรักเพชรมากสินะคะ แต่คุณรู้อะไรไหมคะว่าในความรักของคุณนั้น....”
"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย" ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา"แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมาหลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเลหลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานครสองหนุ่มสาว
"อือ" เสียงหวานครางกระเส่า เมื่อโดนฝีปากร้อน ทาบทับไปทุกสัดส่วน เพชรกล้าตั้งใจปลุกเร้าหญิงสาวให้เคลิบเคลิ้มไปกับการล่อลวงของเขา หลังจากพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ อ้ะ! ร่างน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อกลางกายสาวถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก นิ้วเรียวแทรกอยู่ตรงกลางรอยแยกตรงกลีบสวย แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นข้างใน มันปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนเลย หรือเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ดี ชายหนุ่มเริ่มลังเล ไม่อยากจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ไม่อยากจะล่อลวงหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย ชายหนุ่มกำลังจะลุกออกจากร่างน้อยที่เขาเล้าโลมมากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ทว่า..หมับ! มือเรียวจับคว้าต้นแขนเขาเอาไว้ พร้อมส่งสายตาเว้าวอน เธอกำลังเคลิบเคลิ้ม กำลังลุ่มหลงในไฟพิสวาสที่กำลังลุกโชนอยู่ตอนนี้ และเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันอยู่ในร่างกาย ทำให้สาวน้อยใจกล้า ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เมื่ออลิซาเบธพยุงตัวขึ้นเพื่อแลกจูบกับชายหนุ่มเสียเอง"อืมมม" เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อนักเรียนที่เขาพึ่งสอนมาหมาดๆส่งลิ้นเล็กกวาดต้อนลิ้นใหญ่ของเขาอย่างน่ารัก พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว 'ถ
หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายในสายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย"ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา"จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากตรวจสอบโครงสร้างตึกเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนตกแต่งภายใน และบริษัทของนพคุณมีบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อสร้างตึก จนถึงตกแต่งภายใน แต่ทว่างานตกแต่งภายในนี้ เขาไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งมัณฑนากรหรือว่านักออกแบบมาแทน และมัณฑนากรที่มารับงานนี้ก็คือไผ่หลิว เพื่อนสาวของอลิซาเบธนั่นเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้เพชรกล้าหายใจคล่องคอขึ้นมาก เพราะไม่มีก้างมาขวางคอ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีนพคุณอยู่ตรงนี้ อลิซาเบธก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาอยู่ดี เธอจะคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น นอกนั้นก็จะถามคำตอบคำ ชวนไปเที่ยวข้างนอกก็ไม่เคยไป แม้กระทั่งชวนไปทานอาหารข้างๆโรงแรม เธอยังไม่เคยไปกับเขาเลย แต่เพชรกล้าไม่รู้หรอกว่า จริงๆอลิซาเบธใจอ่อนมานานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เธอก็แค่เก็บทรงและกำลังลองใจเขาอยู่แค่นั้นเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกสีผ้าม่านกับไผ่หลิว เธอก็ลอบมองคนตัวโตตลอดเวลา" ฮันแน่ แอบมองอีกแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เพชรหล่อขนาดนั้น ฉันอิจฉาแกจริงๆ " ไผ่หลิวแอบกระซิบกระซาบเพื่อนรัก พลางชะเง้อคอมองชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังเทียบสีของผ้าม่านอยู่อีกมุมอลิซาเบธหันไปดูคนตัวโ