“ฉันอยากรู้จริงๆ ผู้ชายคนนั้นซื้อเธอด้วยอะไร!? เธอถึงได้กล้าไปจากฉัน!” “ความรักไงวาคิม! เขาซื้อฉันด้วยความรัก แต่คุณซื้อฉันด้วย เงิน!”
Voir plusแรงรักทวงแค้น
[1]
เพราะรัก
_____________
ร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยของ วาคิม กิติบวร ยืนนิ่งตรง สองมือไขว้หลัง สายตาคู่คมทอดลงสู่ผืนแม่น้ำเจ้าพระยาเบื้องล่าง จากชั้นสูงสุดของตึก GB ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำสายนี้ คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อสมองทบทวนเรื่องที่มารดาฝากฝังเอาไว้ ท่านอยากให้เขากับนางแบบสาวอย่างแพรวรุ้งลงเลยกันเสียที ความจริงการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ มันก็มีแต่ผลกำไรจะเพิ่มพูน เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายังไม่คิดหาห่วงมาผูกคอ และแม้ว่า GB ที่เขาเพียรสร้างมาจะไม่รวมนามสกุลกับตระกูลไหนๆ ผลกำไรที่ได้ในแต่ละปี มันก็มากจนมารดาไม่กล้าทักท้วงคำปฏิเสธของเขาเมื่อเย็นวานนี้
“อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ”
เสียงหวานใสดังมาก่อนตัว หญิงสาวร่างบอบบางเดินยิ้มสดใสออกมาจากห้องครัว พร้อมกับอาหารเช้าในจานสวยเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน หล่อนอาจเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากแต่งงาน ไม่ใช่เพราะรัก แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามั่นใจว่า ‘เงิน’ สามารถบันดาลได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งคำว่ารัก โดยไม่สำคัญว่าจะมีการแต่งงานเกิดขึ้นหรือไม่ แล้วเขาจะดิ้นรนหาความรักและการแต่งงานไปทำไม ในเมื่อเงินทองที่เขามีชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด
หล่อนคือผู้หญิงโง่ๆ อีกคน ที่หลงบูชาความรัก ยอมแม้กระทั่งมอบพรหมจรรย์ที่สุดหวงแหนให้แก่เขา ผู้ชายที่ไม่เคยเหลือบแลพรหมจรรย์อันมีค่าของใคร มากไปกว่าความสุขทางกาย ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา หล่อนไม่เคยโอ้อวดกับใครๆ ว่ามีตำแหน่งมากกว่าเลขาหน้าห้อง หล่อนจะสงบเสงี่ยมเจียมตัว ยืนอยู่ในที่ทางที่เหมาะที่ควรเสมอ นี่กระมังคือเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้หล่อนสามารถดำรงตำแหน่ง ‘เมียเก็บ’ ได้นานกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ของเขา
“ฉันให้กวินโอนเงินเข้าบัญชีให้เธอแล้ว อย่าลืมเช็กดู”
เขาเตือนด้วยประโยคที่คุ้นเคย ช่วยย้ำเตือนหล่อนทางอ้อมว่าเพราะเหตุใด หล่อนจึงสมควรได้รับเงินจำนวนดังกล่าว
เกล็ดมุก ตัดพ้อวาคิมทางสายตา เขาจ้องมองกลับมาเพื่อรับรู้ แต่ไม่ใส่ใจ วาคิมที่รัก ได้โปรดเถิดสักนิด ช่วยเหลียวแลหัวใจรักอันบริสุทธิ์ของเธอบ้าง สักนิดก็ยังดี
ความน้อยเนื้อต่ำใจสะท้อนอยู่ในอก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบต่ำเพื่อซ่อนเร้นหยดน้ำตามิให้ชายหนุ่มแลเห็น ปลายจมูกโด่งรั้นเริ่มแดงระเรื่อ เธอรับรู้ถึงของเหลวที่ไหลรวมมาขังคลอที่โพรงจมูก ต้องรีบหยิบกระดาษเนื้อนุ่มมากดซับน้ำมูกน้ำตา เมื่อเขาหันหลังให้อีกครั้ง
“อ่า... ค่ะ ความจริงคุณไม่ต้องให้มุกก็ได้ มุกไม่ได้ใช้อะไร” ตอบเสียงอู้อี้ มือสองข้างยังง่วนอยู่กับอาหารเช้า แม้ว่าเขาจะไม่เคยแตะต้องสักคำ
“ไม่เป็นไร มันคือสิ่งที่เธอสมควรได้ ฉันไม่ชอบเอาเปรียบใคร เธอก็รู้” เขาหันกลับมาอีกครั้ง นัยน์ตาสีนิลวาววับด้วยรำคาญใจ ทำไมหล่อนต้องยุ่งยากอยู่เรื่อย อย่างไรเสียเงินจำนวนนั้นมันก็เข้าไปอยู่ในบัญชีของหล่อนเรียบร้อยแล้ว
เกล็ดมุกลอบถอนหายใจ วาคิมยังยืนยันที่จะให้ในสิ่งที่เธอไม่เคยต้องการ เขาคืออัศวินในดวงใจ คนที่เธอยอมมอบกายถวายหัว คนที่เป็นเหมือนเจ้าชีวิตเมื่อเขาช่วยฉุดเธอขึ้นมาจากทะเลสาบเฉียบเย็นเป็นน้ำแข็ง ให้เธอรอดพ้นจากอุ้งมือมัจจุราชที่อ้าแขนรอคอยอยู่ก้นบึ้งของทะเลสาบ
เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว เขาคงจำไม่ได้ หรือบางทีอาจไม่เคยจดจำ
“อาหารเช้าสำคัญ คุณวาทานสักหน่อยนะคะ” เธอคะยั้นคะยออีกหน ทว่าวาคิมยังยืนนิ่งเงียบอยู่เช่นเดิม สายตาคมกล้าของเขาทอดลงสู่แม่น้ำผืนใหญ่เบื้องล่าง
“อย่าเซ้าซี้ฉัน เธอไม่ใช่แม่บ้านหรือภรรยาที่ต้องตื่นมาทำเรื่องพวกนี้ หน้าที่อย่างเดียวคือ ‘บนเตียง’ ฉันเคยบอกแล้ว” เขาหันกลับมาต่อว่า ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนของเขา จะยอมหน้ามันแผล็บอยู่หน้าเตาเหมือนเจ้าหล่อนสักคน ไม่รู้จะทำให้เหนื่อยทำไม น่าจะเอาเวลาไปหาซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับมาสวมใส่ให้สมกับการเป็นผู้หญิงของท่านประธานแห่ง GB น่าจะเหมาะกว่า
เขาเดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร ไม่ได้จะกินมื้อเช้า แต่เพื่อเปิดสมาร์ตโฟนอ่านข่าว และไม่ยินดียินร้ายต่อใบหน้าหวานที่บัดนี้จืดเจื่อน
เกล็ดมุกยืนนิ่งหน้าชาเมื่อถูกวาจาเชือดเฉือนของเขาตบหน้ารับอรุณ จะรู้สึกแย่ๆ ไปทำไมเกล็ดมุก เขาก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่วันแรกที่เธอเสนอตัวให้เขาแล้วนี่นา ท่องคำนี่เอาไว้สิ อดทนๆ สักวันหนึ่งเขาต้องเห็นความดีกันบ้างละน่า
ปลอบใจตนเองด้วยประโยคเดิมๆ เธอใช้งานมันบ่อยจนจำได้ขึ้นใจแล้ว
“ก็ตามใจคุณนะคะ มุกลงไปทำงานเลยก็แล้วกัน”
เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง และหลีกหนีดวงตาคมกล้าของเขาด้วยการขอตัวลงไปทำงานที่ออฟฟิศด้านล่าง ไม่อยากขัดใจเขาให้มากความ เกรงว่าจะโดนเขี่ยทิ้งเหมือนผู้หญิงอีกหลายๆ คนก่อนหน้าเธอ
“เดี๋ยวก่อน วันเสาร์นี้วันเกิดเธอใช่ไหม”
มือเรียวที่เตรียมเปิดประตูออกไป หยุดชะงัก เขาจำวันเกิดเธอได้อย่างนั้นหรือ เธอรีบพยักหน้าแทนคำตอบ
“อยากได้อะไรก็บอกกวินแล้วกัน” เขาออกคำสั่ง ดวงตาคู่คมยังเพ่งพินิจอยู่กับตัวหนังสือบนจอสมาร์ตโฟน
“ได้ทุกอย่างหรือเปล่าคะ”
เธอยอกย้อน นึกหมั่นไส้สามีทางพฤตินัยเหลือเกิน ขนาดของขวัญวันเกิดยังจะให้คนของเขาหามาให้ ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องก็ได้ค่ะ คุณวาคิม
“ได้ทุกอย่างเกล็ดมุก ยกเว้นทะเบียนสมรส” เขาตอบเสียงเรียบชัดเจนทุกคำ วงหน้าคมคายเงยขึ้นมาจับจ้องคนที่กล้ายอกย้อน นานๆ ทีหรอกถึงจะได้เห็นสักครั้ง ปกติเกล็ดมุกมักจะเก็บคำถ้อยคำจาและอารมณ์ได้เก่งจนน่าเหลือเชื่อ
“มุกทราบดีค่ะ และก็ไม่เคยคิดอยากได้ทะเบียนสมรสเลี่ยมทอง ของคุณเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่มุกอยากได้คือหัวใจของคุณ ให้ได้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอตัวไปทำงานเลยก็แล้วกันค่ะ บอส”
เธอเน้นอีกตำแหน่งให้เขาฟังชัดเจน แล้วรีบเปิดประตูเดินออกมา เกรงว่าถ้าช้ากว่านั้นสักนาที ระเบิดคงได้ลงกลางกระหม่อมเธอ
เมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์เรียบร้อยก็ใช้มือเรียวลูบตรงตำแหน่งหัวใจ มันยังเต้นตุบๆ ถี่ระรัว เพราะเธอตื่นเต้นจนเลือดลมสูบฉีดมากเกินไป เฮ้อ...อุตส่าห์เล่นบทเมียเก็บแสนซื่อผู้น่าสงสารมาได้เกือบครึ่งค่อนปี ท่าจะพลาดเอาก็วันนี้ละ
คิดอย่างปลงๆ พลางก้าวออกไปจากลิฟต์ผู้บริหาร ก่อนจะถึงชั้นที่เธอทำงานอยู่ เพื่อที่จะเดินอ้อมไปลงทางบันไดหนีไฟไม่ให้เป็นที่สังเกต แต่ถึงกระนั้นเธอก็มั่นใจว่ามีหลายคนที่ล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์อันไม่ปกตินี้ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาเพราะเกรงซองขาวจาก กวิน มือขวาของท่านประธาน
“เอาเลยหมอ ชีวิตลูกสาวผมสำคัญกว่า”เจ้าสัวตัดสินใจโดยไม่ต้องคิด อย่างไรเสียชีวิตของบุตรสาวต้องมาก่อน“ไม่! เอาไว้ทั้งสองคนเถอะ ขอร้อง”วาคิมสวนเสียงกร้าว ไม่นำพาต่อสายตาขุ่นเคืองของเจ้าสัว“ลื้อไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่ง นั่นมันลูกสาวอั๊ว” โวยลั่นด้วยความโกรธ มันเริ่มปะทุตั้งแต่เห็นสีหน้าท่าทางของคนจองหองอวดดีคนนี้“นั่นก็เมียกับลูกผมเหมือนกัน มุกรักลูกมากแค่ไหนเจ้าสัวน่าจะรู้ ถ้าไม่มีลูกก็เหมือนฆ่าเธอทั้งเป็น”เจ้าสัวไม่อยากฟัง แทบจะเบือนหน้าหนี“คนไข้อาการแย่มาก แถมเลือดของเธอก็เป็นเลือดกรุ๊ปหายาก หมอเกรงว่าถ้าช่วยเด็กด้วย....”“ผมเลือดกรุ๊ปเดียวกับเธอ! ผมจะให้เลือดเธอเอง เร็วเข้าสิครับหมอ!” ชายหนุ่มเร่งเร้าในที่สุดก็ไม่มีใครขัดประกาศิตเจ้าชายน้ำแข็งได้ ร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจึงได้มานอนให้เลือดแก่หญิงสาวในขณะนี้ หยาดโลหิตจากตัวเขาถูกถ่ายเทให้เกล็ดมุกหยดแล้วหยดเล่า กระทั่งใบหน้าซีดเซียวเริ่มซับสีเลือดขึ้นมาทีละน้อย ทีมแพทย์ที่ทำการรักษา เร่งป
[11]ตัวจริงของเกล็ดมุกตัวปลอมของเมฆา______________________‘ห้อง 211 น.ส. เกล็ดมุก เฉิน’วาคิมกัดฟันกรอดๆ จ้องประตูห้องพักฟื้นไม่วางตา ป้ายเลขห้องไม่ยอกแสยงใจเท่านามสกุลที่แปะอยู่ข้างชื่อของหล่อน มันไม่ใช่นามสกุลที่หล่อนใช้ตอนสมัครงาน แต่เป็นนามสกุลของเจ้าสัวแห่งเพิร์ล“นี่ขนาดจดทะเบียนสมรสกับผัวแก่เลยเหรอ เธอนี่มันแน่จริงๆ’สายตาคมมองผ่านช่องกระจกของบานประตู ก่อนจะหันมาสั่งกวิน“นายรออยู่ข้างนอก อย่าให้ไอ้หัวทองมันเข้าไปจนกว่าฉันจะออกมา”“ครับ เจ้านาย” กวินรับคำ เอื้อมมือไปเปิดประตูให้เจ้านายและปิดมันลงเบาๆ เมื่อชายหนุ่มก้าวเข้าไปในนั้นเรียบร้อยบอดี้การ์ดหนุ่มยืนปักหลักเฝ้าหน้าห้อง เตรียมพร้อมรับมือไอ้หมียักษ์หัวทองที่อาจโผล่มาได้ทุกเมื่อ______________ภายในห้องพักฟื้นร่างเล็กบอบบางนอนแบ็บอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล หลังมือด้านขวาของหล่อนถูกพันธนาการไว้ด้วยเข็มน้ำเกลือ ใบหน้าสวยหวานที่คุ้นเคยบัดนี้ซีดเซียวไร้สีสัน
“นี่! นายจะเอาอะไร ทำไมไม่ยอมพูดล่ะ เอ๊ะ...หรือว่านายเหนียวตัว อยากอาบน้ำ ไม่ๆๆ นายห้ามอาบน้ำเด็ดขาด! อากาศเย็นเกินไปเดี๋ยวไข้ขึ้น หรือว่านายหิวข้าว? เดี๋ยวฉัน...เดี๋ยวฉัน ฉัน...กลับห้องดีกว่า...”วารินทร์สะดุดกึกเมื่อเห็นสายตาเต็มไปด้วยคำถามของเมฆา เธอรีบหยุดความห่วงใยที่ส่งผ่านคำพูดรัวเป็นชุด รีบดึงมือน้อยออกจากการเกาะกุม เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อต้องเตรียมตอบคำถามว่าเพราะเหตุใด เธอถึงยังอยู่ตรงนี้ทั้งที่เมื่อคืนเขาไล่กลับห้องไปแล้ว“ฉะ...ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบเข้ามานะ พอดีฉันได้ยินเสียงนายคราง คงเพราะพิษไข้ ฉันก็เลย...” แก้ตัวไม่ทันจบก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง วารินทร์นิ่งอึ้งไม่ขัดขืน ยินยอมให้ไหล่น้อยๆ ของเธอเป็นที่พักพิงแก่นายเหมืองผู้เอาแต่ใจ เขากอดเธอแน่น เกยศีรษะได้รูปบนบ่าของเธอ“นายเหมือง...เป็นอะไร” เธอถามแต่ไร้ซึ่งคำตอบ เลยนั่งอยู่อย่างนั้นนิ่งนาน กระทั่งแรงสะท้านจากคนตัวใหญ่ทำให้เธอใคร่รู้ เธอดันเขาออกห่าง และได้รู้ว่าบ่าน้อยๆ กำลังเปียกชุ่ม“นะ...นายร้องไห้ทำไม ไม่อยากจะเชื่อ! สงสัยนายคงยัง
[10]แค้นที่แสนหวานสองอาทิตย์กว่าๆ กับชีวิตในเหมืองเถื่อน ดินแดนที่มีเพียงป่าเขาลำเนาไพรและสายน้ำ ขณะที่พื้นราบด้านล่างฟุ้งตลบด้วยฝุ่นแดงๆ แต่พอขึ้นเนินเตี้ยๆ ไปไม่เท่าไร ก็จะปรากฏสรวงสวรรค์ที่แตกต่างจากด้านล่างอย่างสิ้นเชิงทุกวันวารินทร์ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานเหมือนคนงานหญิงคนอื่นๆ บ้างก็รดน้ำพรวนดินที่แปลงผัก บ้างก็ช่วยดูแลเห็ดที่โรงเรือนเพาะเลี้ยง หนักสุดเห็นจะเป็นที่เล้าไก่ แต่ก็ยังดี เพราะหากเขาให้เธอไปประจำที่เล้าหมู คงได้เป็นลมวันละสามเวลาในตอนเที่ยงของทุกๆ วัน เธอต้องมาช่วยป้าน้อมที่โรงครัวซึ่งจะทำอาหารไว้เพียงพอสำหรับทุกคนวันละสองมื้อ เช้ากับเที่ยง ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีเหมือนที่เธอคาดหวัง หากว่าจะตัดเจ้าของเหมืองผู้เอาแต่ใจออกไปบางครั้งวารินทร์ก็นึกชิงชังร่างกายของตนที่ตอบสนองคนบ้าอำนาจในยามค่ำคืน บางทีเขาอ่อนโยน แต่บางทีก็เย็นชา เหมือนในทุกๆ เช้า เธอต้องตื่นมาพบกับความว่างเปล่าอยู่เสมอ ที่นอนข้างๆ เย็นเฉียบ มีเพียงรอยยับย่นบนฟูกหนาที่ยืนยันว่ายามค่ำคืนเขากกกอดเธอเอาไว้
“คุณหนู!” โทนี่เรียกนายสาว สีหน้าของบอดี้การ์ดหนุ่มเต็มไปด้วยความตระหนกวาคิมใจหายวูบ ขนอ่อนในกายลุกเกรียวด้วยความหวาดหวั่น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีถีบโทนี่ออกห่าง ตะเกียกตะกายคลานเข้าหาร่างบางที่แน่นิ่งอยู่บนพื้น เลือดสดๆ ไหลซึมออกมาระหว่างเรียวขาของหล่อน หรือว่าหล่อนจะ...“ไม่นะ! เกล็ดมุก ลืมตามองฉันสิ มองฉัน! อย่าหลับนะ ได้โปรด.. ไม่!”เกล็ดมุกเจ็บร้าวราวถูกเฉือนที่ขั้วหัวใจ น้ำตาไหลหลั่งพรั่งพรูอาบใบหน้า สติใกล้เลือนหายเมื่อความเจ็บปวดวิ่งเข้าแทนที่วาคิมเข้าช้อนร่างหญิงสาวขึ้นแนบอก ก่นด่าตัวเองเป็นร้อยครั้งว่าไม่ควรมาที่นี่ ถ้าเขาไม่มาหล่อนคงไม่ต้องเจ็บตัว แล้วไหนจะลูกของหล่อนอีกเล่า โธ่เอ๋ย...ทำไมเขาทรมานอย่างนี้ อย่าให้เด็กในท้องหล่อนเป็นอะไรเลย เขาขอร้อง!“มุก! ลืมตาสิคนดี มุกอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ!”เหมือนหนึ่งดวงใจที่ใกล้จะหลุดลอย วินาทีนี้วาคิมจมดิ่งอยู่ในห้วงเหวของความทุกข์ทรมานไปแล้ว“คุณหนู!?” โทนี่รีบวิ่งออกไปเรียกหมอ กวินที่เพิ่งฟื้นขึ้นมารีบพยุงกายไปกดปุ่มเรียกพยาบาลที่หัวเต
“งั้นก็เอาสิ ฆ่าเลย! เอาเลย ฆ่าเลย! ฆ่าสามีของเธอด้วยมือของเธอเลย!”เขารุกหนัก วารินทร์สะดุ้งโหยง เผลอกดมีดลงที่เนื้ออ่อนกลางลำคอจนเกิดแผลเล็กน้อย เลือดสดๆ ไหลออกมาอย่างอ้อยอิ่ง น่าแปลกที่มันช่างบีบหัวใจจนเธอรู้สึกว่าไม่มีอากาศพอเข้าไปหล่อเลี้ยงภายในร่าง“รออะไร! ฆ่าเลยสิวารินทร์ โอกาสของเธอแล้วนี่ ฉันพร้อมแล้ว!”วารินทร์หน้าซีดเผือด มองเลือดที่ไหลหายเข้าไปภายในคอเสื้อเขา เธอตัดสินใจถอยหลัง แหวกม่านน้ำที่สูงถึงเอวเพื่อหลบเลี่ยงสิ่งที่สวนทางกับหัวใจ เธอฆ่าเขาไม่ได้ เธอไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดนั้นเสียงฟ้าคำรามใกล้ๆ ทำให้วารินทร์ตกใจขว้างมีดทิ้ง ก่อนที่มันจะเป็นชนวนล่อฟ้า“วารินทร์!?”“มะ...ไม่ ฉะ...ฉันทำไม่ได้! ฉันกลัว นายก็เลิกบ้าซะที! ฉันกลัวเลือด เลือดนายไหลใหญ่แล้ว!” เธอร้องบอก หน้าสวยสลดวูบเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้ขณะที่ตัวเองก้าวขาไม่ออก ดวงตาสีนิลปิดฉับทันทีที่เขาเข้าถึงตัว คราวนี้เธอตายแน่ๆ ได้เหลือแต่ชื่อก็คราวนี้แหละวารินทร์เปรี้ยง! เปรี้ยง!“กรี๊ดดด!!!”แสงสี
Commentaires