“ ถึงจะต้องแต่งเพราะสัญญาแต่เธออย่าคิดว่าเธอจะรอดเรื่องบนเตียง หน้าที่เมีย เธอควรทำมัน “
View More“ คุณดินแดนปล่อยน้ำมนต์ไปเถอะนะคะ ” น้ำมนต์ไม่ได้ต้องการแบบนี้ สาวน้อยนั่งตัวสั่นเทาอยู่บนโซฟาหรูในบ้านหลังใหญ่ที่มีแค่เธอกับเขาเพียงสองคนเท่านั้น
“ หึ !! ฉันปล่อยแน่สาวน้อย แต่ฉันจะปล่อยในตัวเธอนะ ” ริมฝีปากหยัดเหยียดยิ้มอย่างร้ายกาจ สายตาหยาบโลนที่เขามองมายังเธอมันทำให้เธอ…รู้สึกกลัว พรึบ !!!! กรี๊ดดดดดด !! น้ำมนต์ลุกขึ้นหมายจะวิ่งหนีออกไปจากบ้านนี้ ไปให้พ้นเสือร้ายอย่างผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ช้ากว่าเขาอยู่ แขนแกร่งจับหมับเข้าที่ต้นแขนเรียวเล็กของน้ำมนต์ แล้วดึงเธอเข้ามากอดจากทางด้านหลังหญิงสาวกรีดร้องเสียงหลงออกมา “ จะหนีไปไหนน้ำมนต์ เธอไม่มีสิทธิ์หนีฉันไปไหนทั้งนั้นถ้าฉันไม่อนุญาติ “ ปากหยักพูดใกล้ๆกับใบหูเล็ก มือหนาลูบเบาๆที่หน้าท้องแบบราบเบาๆพลางบีบฃย้ำที่เอวคอดกิ่วทร่างบางขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีกับสัมผัสของชายหนุ่ม ” ฮือ !!! คุณดินแดนอย่าทำอะไรน้ำมนต์เลยนะคะ ปล่อยน้ำมนต์ไปเถอะนะคะ “ เรียวปากสวยเอ่ยบอกคนตรงหน้าออกไป ดวงตาสวยมีน้ำสีใสไหลออกมา เธอกลัวเขาเหลือเกินร่างบางยืนตัวสั่นเทาไปหมด ” ฉันบอกแล้วไงว่าปล่อยแน่แต่ปล่อยในนะ อย่ามาทำเป็นสำออยร้องไห้น้ำมนต์ “ ดินแดนพยายามปลุกปล้ำร่างเล็ก ทำให้คนตัวเล็กหวาดกลัวร่างบางนอนสั่นเท่าอยู่ใต้ร่างหนาของดินแดน กระบอกตาสวยปล่อยน้ำสีใสออกมาอาบแก้มนวลแต่อีกคนหาได้สนใจ…เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือ ร่างกายของเธอ “ ปล่อย ! ช่วยด้วย ! ใครก็ได้ช่วยด้วย! ” น้ำมนต์ร้องตะโกนเสียงดังลั่นหวังให้ใครสักคนมาช่วยเธอ “ หึ ! ร้องให้ตายก็ไม่มีใครมาช่วยเธอ ” ดินแดนหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะเอ่ยบอกน้ำมนต์ออกไปจริงอย่างที่เขาว่าต่อให้เธอร้องจนคอแหกก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเธอ “ ไหนๆเธอกับฉันเราก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว ได้กันมันก็ไม่เห็นเป็นไรเลยน้ำมนต์บ้านเธอติดหนี้ครอบครัวฉันจนต้องยกเธอให้เพื่อ…ขัดดอก เธออย่าลืมสิ เพราะฉะนั้นทำตัวให้เป็นลูกหนี้ที่ดี ฉันจะหลับหูหลับตาเอาผู้หญิงมือ 2 อย่างเธอสักครั้งไม่ดีเหรอ…ฉันอาจจะใจดีลดหนี้ให้เธอก็ได้นะ ” ดินแดนเอ่ยพูดออกไปยาวเหยียด “ ไม่ ! ปล่อยน้ำมนต์นะคะ ปล่อย! ” “ อย่าร้องไห้เหนื่อยเลยน้ำมนต์เก็บเสียงเธอไว้ครางตอนโดนฉันกระแทกดีกว่านะ ” ดินแดนเอ่ยบอกน้ำมนต์ แคว้ก! สิ้นประโยคนั้น…เสื้อสายเดี่ยวเนื้อดีถูกมือหนาของดินแดนฉีกจนขาดเผยให้เห็น 2 เต้าสวยที่มีแผ่นซิลิโคนสีเนื้อปกปิดยอดจุกสองข้างอยู่กระบอกตาคมเอาแต่จ้องมองเนินอกขาวเนียนทั้งสองข้างไม่วางตาก็จะยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างรู้สึกชอบใจ น้ำมนต์กลับรู้สึกไม่ชอบรอยยิ้มร้ายๆของเขาเอาซะเลย “ …อื้อ ! ปล่อยน้ำมนต์นะคะ ปล่อย ! ” เรียวปากสวยเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อใบหน้าหล่อก้มลงไปซุกไซ้ที่ต้นคอขาวเนียน ร่างบางดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างหนาของดินแดนเพื่อให้หลุดออกไปจากการกักขังอยู่ใต้ร่างของเขา ปัก! อ๊าก! ดินแดนร้องเสียงหลงออกมาเมื่อคนตัวเล็กใช้ช่วงจังหวะที่เขาเผลอแทงเข่าไปตรงใจกลางความเป็นชายที่แข็งขื่นอยู่แม้มันจะไม่แรงมากจากเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอแต่ก็ทำเอาชายหนุ่มจุกจนร้องเสียงหลงออกมา ” หึ! ก็ดีเธอทำฉันเจ็บเองนะ รอรับผลจากการกระทำของเธอได้เลย “ ดินแดนหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะเอ่ยบอกคนใต้ร่างออกไป “…อ อื้อ! ” ริมฝีปากหยักก้มลงไปบทจูบที่เรียวปากสีหวานมันไม่มีความอ่อนโยน นุ่มนวลอยู่ในจูบนั้นเลยมันมีแต่ความดุเดือดร้อนแรง ดินแดนพยายามส่งลิ้นหนาเข้าไปในโพรงปากเล็กแต่อีกคนกลับปิดปากไว้ซะสนิท…ดินแดนที่ไม่เคยคิดจะจูบใครกลับฉกจูบน้ำมนต์อย่างลืม “ อ้าปาก น้ำมนต์ ” ดินแดนผละจูบออกพลางเอ่ยสั่งคนใต้ร่างออกไปอีกคนแม้จะได้ยินคำสั่งนั้นชัดเจนแต่เธอก็เลือกที่จะปิดปากตัวเองไว้แน่นไม่ยอมทำตามความต้องการของอีกคน “ หึ! ” ดินแดนหัวเราะเบาๆในลำคอแกร่ง ใบหน้าหล่อก้มลงไปจูบเรียวปากสวยอีกครั้ง เมื่อเธอไม่ยอมทำตามคำสั่งเขาก็มีวิธีจัดการในแบบของเขา “ …อ อื้อ! ” น้ำมนต์ร้องเบาๆอยู่ในลำคอเมื่อฟันคมกัดไปที่เรี่ยวปากสวยจนเธอเผลออ้าปากให้เขา กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งจนน้ำมนต์รู้สึกได้ ดินแดนส่งลิ้นหนาเข้าไปในโพรงปากเล็กก่อนจะไล่ต้อนลิ้นเล็กแบะดูดดึงมันอย่างหยาบโลน คิ้วคมต้องขมวดเข้าหากันเมื่อคนใต้ร่างทำราวกับไม่เคยจูบกับใครมาก่อน แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดสนใจยังคงบดจูบไปที่เรียวปากสวย มือหนาไม่ปล่อยให้วางดึงแผ่นซิลิโคนออกจากเต้าสวยทั้งสองข้างเผยให้เห็นยอดไตสีชมพูหวาน “…อือ อ่อย! อ่อย! ” คนตัวเล็กเอาแต่ร้องประท้วงเพื่อให้อีกคนปล่อยแต่มันก็ไม่ได้ผลอยู่ดี ^^ ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงเนื้อหาในนิยายเรื่องนี้ นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใครทั้งชื่อ-สกุลของตัวละคร สถานที่เป็นเพียงเรื่องสมมุติของนักเขียนเท่านั้น Credit… Story : ไพลินสีเงิน Cover : Hanil Zibzibgao Typo : Duckywee@บริษัท Star Group เอี๊ยด! รถสปอร์ตหรูขับเข้ามาจอดยังช่องจอดรถของผู้บริหาร ร่างหนาลงจากรถมาเงียบๆคนที่โดยสารมาด้วยก็รีบลงตามมาเงียบๆด้วยเช่นกัน ในช่วงเช้าของวันภายในตึกมีพนักงานที่กำลังเดินทางมาทำงานค่อนข้างเยอะร่างหนาเดินสาวเท้าเร็วๆเข้าไปในตึกท่ามกลางสายตาพนักงานมากมาย น้ำมนต์ที่เห็นอีกคนรีบก็คิดไปว่าเขาคงไม่อยากให้เธอเดินใกล้เลยเดินเลี่ยงไปยังร้านคาเฟ่ชื่อดังที่อยู่ในตึกหวังจะรอให้เขาขึ้นไปก่อนเธอค่อยเดินตามเขาขึ้นไป “ ลูกค้ารับอะไรดีครับ ” เจ้าของคาเฟ่ที่วันนี้มีพนักงานลาหาคนแทนไม่ได้ก็เลยต้องมาช่วยขายเองเอ่ยถามลูกค้าที่เปิดประตูเข้ามาอย่างมีมารยาท ชานนท์นิ่งไปทันทีเมื่อเห็นใบหน้าแสนน่ารักของลูกค้า “ เอาชาเขียวหวานน้อย 1 ค่ะ ” น้ำมนต์เอ่ยบอกออกไป ชานนท์ก็ยังยืนมองใบหน้าสวยใสนิ่งราวกับโดนมนต์สะกดไม่ได้ยินในสิ่งที่ลูกค้าสั่ง “ พี่ค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ ” น้ำมนต์เอ่ยเรียกเมื่อเห็นอีกคนนิ่งไป “ คุณนนท์คะ คุณนนท์ ” พนักงานอีกคนที่กำลังล้างอุปกรณ์อยู่ที่ซิ้งค์เอ่ยเรียกเจ้านายเบาๆ “ อะ อ๋อ…ครับ รับอะไรนะครับ ” ชานนท์เอ่ยถามออกไปอีกครั้ง “ ชาเขียวหวานน้อย 1 ค่ะ ”
~ เช้าวันใหม่ ภายในบ้านพักของดินแดน ~ คนที่เพิ่งตื่นนอนอาบน้ำแต่งตัวสาวเท้าลงมาจากชั้น 2 ของบ้านเพื่อเตรียมตัวไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน “ นายครับทำไม… ” ภูมิเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพนายเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน “ กูนอนไม่หลับ ไอ้เหี้ยปวดหัวชิบหาย ” มือหนายกขึ้นมาคลึงๆนวดๆที่ขมับตัวเองกว่าเขาจะได้ขึ้นไปนอนก็เกือบเช้าของอีกวันในสมองมันมีแต่ภาพน้ำมนต์จนทำให้เขานอนไม่หลับ “ นายเครียดเรื่องที่จะต้องแต่งงานเหรอครับ” ภูมิเอ่ยถามอย่างนึกเป็นห่วง “ ไม่ แม่ให้แต่งกูก็จะแต่ง ” ดินแดนเอ่ยบอกภูมิ เพราะเขารู้ดีว่ายังไงพ่อกับแม่ก็ต้องไม่ยอม “ ก็ดีงั้นวันนี้ลูกไปรับหนูน้ำมนต์พาน้องไปบริษัทด้วย ” ดินแดนรีบหันไปมองตามเสียงก็เห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในบ้าน ” ทำไมต้องพาไป ? “ ดินแดนเอ่ยถามด้วยความสงสัยแค่ให้แต่งงานด้วยก็แย่พอทนนี่ให้พาไปบริษัทด้วย คืออะไร ” พาน้องไปทุกคนในบริษัทจะได้รู้จักน้อง “ ” จะต้องรู้จักทำไมครับ พาไปทำอะไรก็ไม่เป็นพาไปก็เป็นภาระเกะกะ “ ดวงตาที่เริ่มเหี่ยวย่นจ้องมองลูกชายอย่างเอาเรื่องทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น “ ครับ ครับ ครับ เดี๋ยวผมไปรับเล
“ ฉันขี้เกียจมานั่งอธิบายกับคนหัวดื้ออย่างแกอีกแล้ว อย่างเดียวที่แกต้องทำคือแต่งงานกับหนูน้ำมนต์แล้วอย่าลืมกลับไปคิดทบทวนทุกอย่างดูให้ดีๆแกรู้ทุกอย่างอยู่แก่ใจ “ ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกชายของตัวเองออกไป นั่นยิ่งทำให้ดินแดนสงสัยหนักเข้าไปใหญ่ เพราะความดื้อรั้น เอาแต่ใจ และมีแนวคิดแบบฝรั่งมันเลยทำให้ดินแดนไม่ฟังใคร เขาอิสระทางความคิด การใช้ชีวิตมาโดยตลอดทำให้ผู้เป็นพ่อกับแม่เบื่อที่จะพูดคุยกับลูกชายตัวเองเต็มแก่ ~ ย้อนกลับไปหลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกับปู่ภาคิน ~ @วัดแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง งานศพของปู่ภาคินถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติโดยมีท่านเตโชเป็นคนดำเนินการทุกอย่างให้เพื่อนเพียงคนเดียวของเขา ผู้คนหลังไหลกันมาร่วมแสดงความเสียใจอย่างหนาแน่นทุกคืน หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นภายในงานมีบอดี้การ์ดนับร้อยชีวิตคอยดูแลความปลอดภัยให้กับทายาทตระกูลมาเฟียนั่นคือ ดินแดน และมันก็เป็นช่วงเวลาเดี๋ยวกันกับที่ดินแดนจะต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเตรียมตัวเข้าศึกษาในชั้นอนุบาล “ ปู่คินครับ ดินจะต้องเดินทางแล้วดินโตดินจะกลับมาแต่งงานกับน้องนะครับ ” ร่างเล็กของเด็กชายในวัย 2 ขวบปลายๆ เดินไปนั่งหน้าหี
“ พี่กรทำไมทุกคนถึงทำแบบนี้กับน้ำมนต์คะ ไม่สงสารน้ำมนต์กันบ้างเหรอคะ ยุคสมัยนี้แล้วยังมีอีกเหรอที่ต้องแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่เลือกไว้ให้ ฮือ! “ น้องสาวเอ่ยถามพี่ชายเสียงสั่นเครืออยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ เธอไร้ซึ่งแสงสว่างในหัวใจแล้วตอนนี้ทุกอย่างมืดดับไปหมด ” น้ำมนต์อย่าคิดแบบนั้นสิ ทุกคนรักและหวังดีกับน้ำมนต์นะคุณปู่คิดทุกอย่างมาดีแล้ว พี่เชื่อว่าสักวันไอ้ดินมันต้องแพ้ให้กับความน่ารักของน้องสาวพี่แน่นอน “ มือหนาลูบไปที่เรือนผมสวยของน้องพลางเอ่ยบอกออกไป ” น้ำมนต์ไม่ได้ต้องการให้พี่เขามารักนะคะน้ำมนต์แค่ไม่อยากแต่งงาน “ น้ำมนต์เอ่ยบอกพี่ชายออกไป “ น้ำมนต์มากับพี่ ” กรที่เห็นน้องสาวเอาแต่ร้องไห้ มือหนาจูงมือเรียวเล็กของน้องเดินตรงไปห้องพระที่อยู่บนชั้น 2 ของบ้าน มือหนาเปิดประตูห้องพระเข้าไปภายในมีพระพุทธรูปและพระดังๆมากมาย รวมทั้งภาพของปู่ยา ตายายของทั้งสอง “ ฮือ… คุณปู่คะ สัญญาอะไรเหรอคะที่คุณปู่ถึงกับต้องให้น้ำมนต์แต่งงานกับพี่เขาคุณปู่บอกน้ำมนต์หน่อยได้ไหมคะ “ สองขาเรียวทรุดกายลงนั่งตรงหน้ารูปภาพของปู่ที่ล่วงลับไปแล้วทันที พลางเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ น้ำมนต์ คน
สองขาแกร่งสาวเท้าเร็วๆเดินตามน้องมายังสวนหลังบ้าน กระบอกตาคมกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณสวนที่มีต้นไม้ ดอกไม้ปลูกเอาไว้สวยงาม “ ฉันก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอหรอกนะ เธอควรไปบอกพ่อแม่ของเธอให้ฉีกไอ้สัญญาบ้าๆนั้นทิ้งไปซะ “ เสียงคมเข้มเอ่ยบอกน้องที่นั่งไหล่เล็กสั่นไหวอยู่ ไม่ต้องเห็นหน้าเขาก็รู้ว่าคนที่เอาแต่ยิ้มแววตาสดใสเมื่อกี้กำลังร้องไห้อยู่ “…..” เงียบ น้องเอาแต่นั่งเงียบไม่เอ่ยพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว “ เงียบทำไม ? หรือว่าเธอเองก็อยากจะแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น ” ดินแดนเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นน้องเอาแต่นั่งเงียบ เขาไม่ชอบเอามากๆเวลาที่สนทนากับใครแล้วอีกฝ่ายเงียบใส่มีแค่ตัวเขาเองเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้กับคนอื่นได้ “ เอาอะไรมาอยากแต่งค่ะกับคนที่ทำตัวราวกับเป็นศาลพระภูมิแบบพี่ดินแดนนะเหรอที่น้ำมนต์จะอยากแต่งงานด้วย ” แม้จะโกรธในประโยคนั้นของเขาเอามากๆแต่น้องก็ยังไม่ละทิ้งมารยาทที่มีต่อคนอื่นเสมอ “ เธอกล้าดียังไงมาว่าฉันเป็นศาลพระภูมิ ไอ้ผู้หญิงจืดชืด ติ๋มๆแบบเธอแค่คิดว่าจะต้องแต่งงานด้วยฉันก็สะอิดสะเอียนจะแย่ ” ขวับ! ใบหน้านวลสวยหันขวับไปมองยังคนพี่ทางด้านหลังทันที ร่างบ
น้ำมนต์แม้จะยิ้มรับคุณหญิงในใจได้แต่รู้สึกว่า ดวงตาสีนิลคู่นั้นมันเฉยชาแข็งกร้าวสิ้นดี ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยดุจผืนน้ำนิ่ง แถมยังนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปปั้น… “ คุณหญิงคะ โต๊ะอาหารพร้อมแล้วค่ะ ” ป้าศรีแม่บ้านเดินมาบอกเจ้านายทันทีที่เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย “ ไปทานอาหารกันเถอะนะคะ ” คุณหญิงเดือนเอ่ยชวนแขกทั้ง 3 ทุกคนพากันเดินมายังห้องอาหารที่บนโต๊ะมีอาหารหน้าตาน่าทานวางอยู่เต็มโต๊ะทุกจานถูกจัดไว้อย่างสวยงามราวกับเชฟร้านอาหาร 5 ดาวมาจัดเตรียมเอาไว้ “ นี่ฝีมือหนูน้ำมนต์หมดเลยเหรอลูก ” คุณหญิงกาญจนาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ “ ใช่ค่ะ คุณป้าลองชิมก่อนนะคะว่าอาหารถูกปากรึป่าว ” น้ำมนต์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดินแดนเอาแต่ยืนมองแม่กับหญิงสาวคุยกันเงียบๆ “ เชิญครับ เชิญครับ ดินนั่งเลยลูก ” ท่านธงชัยเอ่ยบอกแขกคนสำคัญออกไป “ ครับ ” ดินแดนรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆแม่ของตัวเอง ทุกคนนั่งประจำที่ของตัวเองด้วยเช่นกัน ทว่าในตาคมเอาแต่จ้องมองคนตรงข้ามอยู่บ่อยครั้งเขาแปลกใจมากว่า ทำไมเธอถึงดูเป็นคนสดใส อารมณ์ดี มีแต่รอยยิ้มอยู่ตลอด “ ดินทานเยอะๆนะล
Comments