Episode 14
ทำตามคำขอ
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้จบด้วยการผ่าไฟแดง ฉันไม่น่าบ้าจี้กับมันเลยว่าการสัมผัสเพียงแค่นั้นจะทำให้เสร็จได้ สุดท้ายก็ต้องร้องขอให้มันช่วยทำให้สิ้นความเสียดเสียว ฟาดกันเบา ๆ ไปยกหนึ่งในห้องน้ำ
เหนื่อยกับมันจริง ๆ หื่นไม่รู้เมนส์ฉันเลยไอ้ห่านี่!
ครืดดดด
ฉันเลื่อนประตูก่อนจะเดินออกไปริมระเบียง ฮีลมองฉันที่เดินเข้ามาใหม่ก่อนจะจิ้มบุหรี่ลงกับกระถางต้นไม้
“เดี๋ยวต้นไม้ได้ตายกันพอดี” ฉันว่าให้ ใช้สายตาเลื่อนลอยมองท้องฟ้าสีส้มในตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะหมดแสงลง
“…”
พรุ่งนี้วันเกิดฉันแล้วนี่นา จะได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดนะ
“ฮีล” ฮีลไม่ได้ขานรับแต่อย่างใด เลือกที่จะสื่อการรับรู้ออกมาโดยการเอียงหน้ามามองฉัน
ฉันเท้าแขนตรงราวระเบียง เอียงหน้าไปมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเชื่องช้า “นายเคยมีอะไรที่อยากได้ที่สุดแล้วก็ไม่อยากได้มากที่สุดในเวลาเดียวกันไหม”
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป
“มี”
“แล้วมันจะดูตลกเกินไปไหมถ้าสิ่งนั้นคือสิ่งเดียวกัน” ตลกจริง ๆ ฉันอยากให้พ่อกับแม่หย่ากัน แต่ใจจริงลึก ๆ แล้วก็ไม่ได้อยากเสียพ่อไป
“ไม่”
แล้วมันก็ตอบสั้น ๆ ตามสไตล์ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อย
“เหรอ ฉันคิดว่ามันดูตลกซะอีก”
“…”
“ฉันไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าสุดท้ายแล้วตัวเองต้องการอะไรกันแน่”
“…”
“ปิดกั้นความรู้สึก” อ่า หลังจากฟังเงียบ ๆ มันก็เริ่มตอบคำถามของฉัน
ฉันรู้ แต่ฉันแค่อยากปกป้องความรู้สึกของตัวเอง ก็เลยต้องปิดกั้นมันไว้
“แล้วนายล่ะ ปิดกั้นมันอยู่หรือเปล่า”
“…”
“นายกำลังมีความรัก ทำไมไม่ไปหาเธอล่ะ” ฉันจับสังเกตจากวันนั้น ท่าทีอินกับเพลงรักของมันทำให้ฉันเข้าใจว่าฮีลมันต้องตกหลุมรักใครสักคนอยู่แน่ ๆ
“ฉันก็กลัวแบบที่เธอกลัวนั่นแหละ”
หลังจากได้ยินก็เงยหน้ากลั้วหัวเราะ “อย่างนายเนี่ยนะ”
“อือ”
“วันเกิดปีนี้ฉันขออะไรกับนายอย่างหนึ่งได้ไหม” ฮีลพยักหน้าตอบ ซึ่งสิ่งนั้นฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะยากเกินไปหรือเปล่าสำหรับผู้ชายอย่างมัน “ขอให้นายทำยังไงก็ได้ให้ฉันยิ้ม ทำให้ฉันยิ้มที”
ไม่รู้สิ ฉันกลัวคำตอบที่เคยขอพ่อไป
ทางไหนมันก็ไม่ดีสำหรับฉันเลย นี่แหละผลของความรักที่ไม่มั่นคง มันพลอยทำให้ฉันซึ่งได้เห็นตัวอย่างจากบุคคลที่ตัวเองเรียกว่า ‘พ่อ’ กลัวเรื่องนั้นไปเลย
นิยามของคำว่ารักสำหรับฉันแล้วมันก็คือ ‘หัวใจ’ และ ‘น้ำตา’
เวลาหมุนเวียนผ่านไปอีกวัน วันนี้ฉันไม่ได้ไปเรียนอีกเช่นเคย เลือกที่จะนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ อย่างสบายใจเฉิบชนิดที่ว่าบ่าย ๆ ค่อยลุกไปอาบน้ำอาบท่า
วันนี้เป็นวันเกิดฉัน แต่คนอย่างอีมินนี่ซึ่งไม่เคยศรัทธากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ก็เลือกที่จะนอนตื่นสายแทนที่จะตื่นแต่เช้าไปทำบุญ
ถึงจะไม่ได้ศรัทธาแต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าตัวเองไม่ได้บาปในเรื่องนี้
พอช่วงสายหน่อยฉันก็กลับเข้าบ้านไปพร้อมกับน้องสาวแสนดี ซึ่งเปิดเทอมแค่ไม่กี่วันก็ต้องหยุดเรียนเสียแล้ว ในระหว่างขับรถ ฉันก็เผลอกำมือแน่นเมื่ออดนึกถึงเรื่องสำคัญที่พ่อเกริ่นไว้ไม่ได้เลย วันนี้พ่อเป็นคนกำชับให้มิรินหยุดเรียนวันหนึ่ง นั่นเป็นสัญญาณว่าพ่ออาจจะมีคำตอบให้ฉันแล้ว
ฉันใคร่คิดทบทวน เปิดเพลย์ลิสต์ GOT7 ฟังในขณะที่รถแล่น
“พี่มินร้องไห้ทำไมคะ หรือว่าเสียใจที่เขาไม่ต่อสัญญา”
“อือ”
บรื้นนนน บรื้นนนนน
ฉันเหยียบคันเร่งเสียงดังไม่ต่างจากเดิมนัก ดับเครื่องยนต์แล้วเดินเข้าบ้านใหญ่
วันนี้ทุกคนอยู่กันครบเลย แม่ของฉันยังคงยิ้มให้เช่นเดิม ส่วนคนที่ดูจะมีความสุขที่สุดก็คงจะเป็นเมียรองของพ่อ เห็นแบบนี้ฉันก็แทบจะไม่ต้องเดาคำตอบของพ่อเลย
“แม่” ฉันเดินเข้าไปสวมกอดท่าน หอมแก้มนิ่ม ๆ ซ้ายขวาสลับกัน
“ไงจ๊ะลูกแม่ สุขสันต์วันเกิดนะคะคนดี”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่แม่มีอะไรจะให้หนูไหมน้า”
“มีจ้ะ อาหารฝีมือแม่ไง” ฉันมองไปที่โต๊ะอาหาร ทุกอย่างละลานตาไปหมดมีแต่ของโปรดของฉันทั้งนั้น
“ว้าววว ทำไมคุณกานต์ถึงได้ใส่ใจกันขนาดนี้คะเนี่ย ขอบคุณนะคะคุณกานต์ขา”
“เดี๋ยวเถอะ!” แม่ค้อนใส่แบบไม่จริงจังนัก จากนั้นฉันจึงส่งยิ้มให้
“สุขสันต์วันเกิดนะมินนี่” เมียรองของพ่อเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม แล้วยื่นกล่องเครื่องเพชรส่งมาให้
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเงินพ่อฉัน “อือ”
“อันนี้ของมิรินค่ะ” ของยัยมิรินเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ก็เงินพ่อฉันอีกนั่นแหละ
โทษนะ ไม่ครีเอตเลย ฉันแอบเลียนแบบเสียงพี่ปุ้มปุ้ยในใจ
“เอาละ งั้นทานข้าวกันก่อนดีกว่า” คนที่เป็นใหญ่ในบ้านกล่าวขึ้น นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีเลยก็ว่าได้ที่เราทั้งหมดอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา อ้อ ไม่สิ พร้อมคนนอกอย่างมันสองคนแม่ลูก
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบไป เราทั้งหมดทานข้าวกันอย่างเงียบเชียบจนถึงช่วงเวลาที่ต้องเป่าเค้ก ทุก ๆ ปีของวันนี้ฉันมักอยู่กับครอบครัวในตอนเช้า พอตกเย็นฉันก็ไปปาร์ตีกับเพื่อน ๆ ดังนั้นเราจึงเป่าเค้กกันตอนนี้
ฉันซึ่งนั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะสัมผัสได้ว่ามีความหลากหลายของเสียงเพลง น้ำเสียงยินดีปนเศร้าจากใครสักคนทำให้รู้สึกวูบไหว เมื่อทุกอย่างเงียบไปฉันจึงหลับตาลง แต่ ณ ช่วงเวลานี้สมองกับตื้อตึงจนนึกคำขอไม่ถูก
ช่างมัน!
จึงเป่าเทียนให้ดับลงแล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้น
“มิน…” พ่อเกริ่น ฉันจึงเงยหน้ามอง
“คะ”
“ของขวัญวันเกิดของลูกคือหุ้นทั้งหมดที่พ่อมี” หางตาของฉันแอบเห็นว่าสองแม่ลูกมีความไม่พอใจ ใช่สิ อุตส่าห์มาเรียนบริหารเหมือนฉันแบบนี้ถ้าไม่หวังจะฮุบสมบัติจะหมายถึงอะไร
“คะ…คุณพ่อ ละ…แล้วมิรินล่ะคะ”
“พ่อมีอีกเยอะลูก อย่าน้อยใจนะ” พ่อหันไปลูบหัวมัน ยัยสองแม่ลูกคงอยากจะโวยวายมากกว่านี้แต่ก็ทำไม่ได้ จึงเลือกที่จะเงียบไปแล้วใช้สีหน้าแสดงอารมณ์แทน
แสดงว่าพ่อกับแม่คุยเรื่องนั้นกันแล้วสินะ
“ขอบคุณค่ะ มีอะไรอีกไหมคะ”
“บ้านหลังนี้พ่อก็ยกให้”
“คุณ! แล้วเราจะเหลืออะไรคะ” เมียรองของพ่อร้องห้าม
“ผมว่าผมจะเกษียณแล้วหลังจากมินนี่เรียนจบแล้วเข้าดูแลบริษัทเองได้”
ฉันยันตัวลุก มองพ่อซึ่งแววตาลึกซึ้งคู่นั้นกำลังแสดงออกว่าเสียใจ เสียใจอะไร? เสียใจที่ไม่มีแม่อยู่ข้าง ๆ งั้นเหรอ
“แม่โอเคไหมคะ”
“แม่โอเคจ้ะลูก พรุ่งนี้แม่จะย้ายไปสุราษฎร์ฯ แล้ว แม่ว่าจะไปหาลุงของลูกสักหน่อย” สีหน้าของท่านดูโอเคในระดับหนึ่ง ฉันคิดว่าแม่น่าจะทำใจมานานแล้ว จะเหลือก็แต่ใช้ความกล้า ซึ่งวันนี้แม่ได้ทำให้เห็นแล้ว
“ขอบคุณนะคะ” ฉันเข้าสวมกอดแม่อีกครั้ง ก่อนหันไปมองหน้าพ่อ “หนูขอบ้านทุกหลังที่เป็นชื่อคุณ ยกเว้นหลังนี้”
ความทรงจำของที่นี่ฉันไม่อยากเก็บมันไว้
“ได้…ที่นี่ยังเป็นบ้านของลูก มาหาพ่อได้เสมอ”
“ค่ะ ขอบคุณที่ทำตามคำขอ”
ว่าจบก็เดินออกไป ฉันขับรถไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมาย เชื่อไหมว่าสุดท้ายก็มาจบอยู่ที่คอนโดตัวเอง แต่แทนที่ฉันจะขึ้นไปชั้นหกสิบเก้ากลับใช้คีย์การ์ดของไอ้ฮีลแตะเข้ากับเซนเซอร์แล้วไปที่นั่นแทน
ตอนนี้มันน่าจะอยู่คอนโด เพราะถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว
หึ! นี่ฉันกำลังจะมาทวงคำขอเหรอเนี่ย
“อ้าว นั่นไงมาจริง ๆ!” ยัยลูกปลาเจ้าเก่าเอ่ยทัก
“อะ…อะไรเนี่ย!” ฉันแทบเปลี่ยนอารมณ์ในพริบตา นี่คือสิ่งที่มันทำให้ฉันใช่ไหมเนี่ย
หมูสามชั้นซึ่งกำลังย่างเกรียม ๆ กับเตาร้อน ๆ พร้อมน้ำจิ้มสูตรเกาหลี แถมยังมีกิมจิอีกต่างหาก
“ปาร์ตีหมูกระทะไง ไอ้ฮีลมันจัด”
ฉันมองหน้ามันด้วยสายตาว่า ‘จริงดิ’ ก่อนจะยิ้มออกมา อ่าโอเค มันไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่ซื้ออะไรอร่อย ๆ ที่เป็นของชอบของฉันให้ก็เท่านั้น
อะ จริงแหละ ฉันรู้ซึ้งแล้วกับคำว่า ‘เรื่องกินเรื่องใหญ่’ ขนาดพึ่งกินอิ่มมาฉันยังหิวอีกเลย
พอมองนานเข้าก็เผลอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ จึงเดินไปหย่อนสะโพกนั่งรวมกับทุกคน
“อ้ะ” มันคีบชิ้นหมูมาป้อน ฉันจึงเคี้ยวตุ้ย ๆ แล้วเริ่มยิ้มออกมาเมื่อมันหมูแตกพรึ่บ ๆ ในปาก
โคตรฟินนน! อร่อยมากกก
“มินนี่ ขอพูดว่าไอเดียนี้โคตรสิ้นคิดอะ” ไอดีพูดขึ้น วันนี้ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในนี้หมดรวมถึงพี่ฮัทและคุณป๋าของลูกพีชก็อยู่ด้วย
“ใช่! แต่ฉันจะทำเพื่อแกแล้วกันนะ” แสนดีว่า ก่อนจะหยิบอะไรออกมาจากกระเป๋า ในเวลาเดียวกันลูกพีชซึ่งเพิ่งจะลุกขึ้นไปหยิบของก็กลับเข้ามาใหม่พร้อมกับโซจูประมาณสามขวด
ทุกคนเริ่มใส่หน้ากากที่แสนดีหยิบออกมายกเว้นคุณป๋าที่จะต้องคีปลุคหน่อย ๆ คราวนี้ละมึงเอ๊ยยยย! เหมือนสวรรค์
ซงจุงกิ กงยู อีดงอุค แทฮยอง จองกุก และอีมินโฮ
งุ้ยยยยย ฉันแทบม้วนไปหลายตลบ
“อู-รี-เด-อี-ทื่อ-ฮัล-กา-โย?” (เรามาเดตกันไหมครับ)
“อะไรของแกยัยลูกปลา”
“อ้าว! เป็นติ่งประสาอะไรวะ!” น้ำเสียงลูกปลาเหมือนหงุดหงิดมาก “นี่แกกำลังโดนซงจุงกิชวนเดตอยู่นะ”
ฉันยิ้มออกมา อยากจะหงุดหงิดใจแทบขาดที่มันพูดไม่รู้เรื่องแต่พอได้ยินคำว่า ‘เดต’ กับเห็นหน้าซงจุงกิแล้วมันก็รู้สึกฟิน
อะ พึ่งรู้ว่าตัวเองมโนเก่ง
“โอเค ๆ” ถึงจะเป็นติ่งแต่ก็พูดภาษาเกาหลีไม่ได้ งั้นก็พูดอังกฤษมันเสียเลย
“ยัยติ่งเทียมเอ๊ย!” แล้วลูกปลาก็บ่นฉันต่อ
“ถามจริง นี่ใครเป็นคนคิด วันนี้กะให้ฉันมีผัวหกคนเลยไง้”
“ผัวตัวจริงแกไง” ประโยคนี้ลูกปลาก็ตอบอีก ฉันจึงหันไปมองหน้ากงยูแล้วจุ๊บเบา ๆ ตรงหน้ากาก นี่ผัวอันดับหนึ่งของฉันเลยนะ หมายถึงกงยูอะ
“หุ้ยยย เมียจ๋าแล้วไม่จุ๊บแทฮยองบ้างเลยเหรอ” ไอดีแซว
“ไม่อะ พอรู้ว่าเป็นแกฉันก็ไม่อยากจุ๊บแล้ว”
“แรงจังนะเมียจ๋า ผัวแทคนนี้น้อยใจ”
“ไอ้พวกผัวบ้า! หมูไหม้แล้ว รีบพลิกเลย!”
ฉันว่าด้วยรอยยิ้ม ใครจะไปคิดว่าคนไม่โรแมนติกอย่างมันจะสร้างรอยยิ้มให้ฉันได้โดยการทำเรื่องแปลก ๆ คนปกติทั่วไปเขาชวนไปเดตร้านอาหาร ให้ของขวัญแพง ๆ หรือไม่ก็พาไปเที่ยว แต่ดูมันดิ จัดปาร์ตีหมูกระทะพร้อมกับผัวทั้งหก
เออ! แปลก แต่ฉันก็ดันยิ้มออกมา
เนี่ย! แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าครีเอต ขอเลียนแบบเสียงพี่ปุ้มปุ้ยอีกครั้ง
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น