LOGIN25:
เพื่อนแท้
หลังจากวันที่ฉันเปิดเกมส์ไปแล้ว ตอนนี้ก็แค่รอเวลาเท่านั้น เบื่อๆหลังจากเคลียร์งานเสร็จฉันก็เลยชวนยัยนิดหน่อยไปเดินเล่นที่ห้างดังแก้เซ็งซะหน่อย
"แกๆฉันอยากดูกระเป๋าร้านนี้อ่ะ" ฉันบอกยัยนิดหน่อยเมื่อเล็งเห็นกระเป๋าที่ถูกใจก่อนจะลากแขนนางเข้าไปด้วย "ร้านนี้มันแพงมากเลยนะแก" นางท้วงจ้า "แกมากับใครลืมแล้วหรอ?" "จ้าา..แม่คนรวย" นางหันมาค้อนซ้ำอีกอ่ะ ไม่ใช่ว่าฉันรวยแล้วจะลืมอดีตของตัวเองนะ ฉันยังเป็นคนเดิมใช้ชีวิตเหมือนเดิมแม้จะมีเงินมากมายที่ได้จากธุรกิจตัวเองและเงินเดือนจากพี่ชายที่โอนเข้าบัญชีไว้ให้ฉันใช้ทุกเดือน แต่เพราะอยากซื้อกระเป๋าสักใบให้เพื่อนที่แสนดีของฉันไม่ได้เชียวหรอ "ใบนี้สวยจังเหมาะกับแกดีนะ" ฉันหยิบใบนึงที่ดูแล้วคิดว่าเพื่อนฉันจะต้องชอบแนวนี้แน่ๆส่งให้เธอ "เห้ยยย!ไม่เอาๆมันแพงฉันไม่เอาหรอก" "แต่ฉันเต็มใจที่จะซื้อให้นี่...แกรังเกียจของๆฉันหรอ?" ฉันต้องแกล้งโกรธจนกว่านางจะยอมอะนะ "เห้อออ!ขัดไม่ได้ใช่ป่ะหล่ะ?" "ต้องงี้สิเพื่อนรักฮ่าาๆๆๆ" ฉันก็เลือกๆสีรุ่นส่งให้นางเลือกอีกที "เอ๊ะ!คุณแม่ขาดูสิคะเราเจอใครเอ่ย" อยู่ๆเสียงแจ๋นๆก็ดังขึ้นมาข้างๆกาย "นี่มันนังผู้หญิงที่ตาโซ่เคยเลี้ยงไว้นี่นา...เอ๊ะ!น้ำหน้าอย่างหล่อนมีปัญญาเข้าร้านนี้ด้วยหรอ ร้านนี้เค้าแพงนะหล่อน" เหอะ!อุตส่าห์อารมณ์ดีๆพาเพื่อนมาเที่ยวช็อบปิ้งก็ดันเจอเจ้ากรรมนายเวรซะงั้น คู่หมั้นกับแม่โซ่ไงล่ะ 'ยังไม่เลือกนิสัยดูถูกคนอีกหรอไงกัน' "คุณแม่ขาน้องเพรียวว่าสงสัยไปแอบเป็นเมียเก็บใครรึเปล่านะถึงจะมีเงินซื้อกระเป๋าสักใบได้น่ะค่ะ" ยังแขวะไม่เลิกอีกจ้าเอาที่พวกคุณสบายใจเลยแล้วกัน "ขอโทษนะคะนี่พวกคุณเป็นใครมีสิทธิ์อะไรถึงมาพูดจาดูถูกคนอื่นเค้าแบบนี้กันคะ" ยัยนิดหน่อยอดไม่ไหวเริ่มโวยวายกลับ "แล้วแกล่ะเป็นใครน้ำหน้าอย่างนี้น่าจะไปเดินอยู่ตามตลาดนัดมากกว่าจะเป็นห้างใหญ่ฟแบบนี้นะ" แม่นางฟ้านางสวรรค์เริ่มมาลามปามที่เพื่อนฉันล่ะ "ไม่เป็นไรแกช่างเค้าเถอะ...แค่คนสติไม่ดีล่ะมั้ง" ฉันส่ายหน้าห้ามยัยนิดหน่อยไว้ "กรี๊ดดด!นะนี่แกว่าใครสติไม่ดีกันห๊ะ" นางกรี๊ดเหมือนเจ้าเข้าเลยจ้าปากคอสั่นที่โดนว่าสติไม่ดี แต่ทีเวลาว่าคนอื่นไม่คิดบ้าง "หยุดเถอะค่ะ...เราต่างคนต่างอยู่จะดีกว่านะคะอย่าให้ต้องมีเรื่องกันจะดีกว่า" ฉันตัดสินใจหันไปบอกพวกเขาดีๆเพราะไม่อยากทำอะไรมากกว่านี้อย่างน้อยท่านก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแม่ของโซ่ผู้ชายที่ฉันเคยรัก "ฉันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับพวกหล่อนนี่แค่จะมาซื้อกระเป๋าเท่านั้นเอง" แม่โซ่เอ่ยขึ้นมา "คุณแม่คะน้องเพรียวจะเอาใบนี้ค่ะ...น้องเพรียวชอบ" แล้วนางก็คว้ากระเป๋าสีดำที่อยู่ในมือพนักงานขายเป็นใบที่ยัยนิดหน่อยเลือกไว้แล้ว "ขอประทานโทษค่ะคุณลูกค้าพอดีใบนี้คุณผู้หญิงท่านนี้ได้เลือกไว้แล้วค่ะคุณลูกค้าเลือกใบใหม่ได้ไหมคะยังมีสีอื่นให้เลือกนะคะพอดีใบนี้เป็นคอลเล็คชั่นใหม่เพิ่งมามีแค่อย่างละสีเองค่ะ" "ไม่เอา!ฉันชอบสีนี้ใบนี้...น้ำหน้าอย่างนั้นจะมีปัญญาซื้อกระเป๋าแพงๆอย่างนี้หรอไง?" "คือว่า...เอ่อมีคอลเล็คชั่นใหม่เพิ่งมาสวยๆทั้งนั้นเลยนะคะคุณลูกค้าลองดูก่อนไหมคะ?" "นี่หล่อนหูแตกหรือยังไงกันก็ฉันบอกว่าจะเอาใบนี้ๆเท่านั้น" "ไม่ได้จริงๆต้องขอโทษจริงๆค่ะเพราะคุณผู้หญิงท่านนี้จองไว้แล้วค่ะ" "ไหนดูสิใบละเท่าไหร่กันเหอะ!แสนเก้าหล่อนจะมีปัญญาจ่ายหรอ" ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงไม่มีปัญญาจ่ายจริงๆหรอก แต่ในตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันจะทำให้คนพวกนี้รู้ว่าไม่ควรจะมาถูกคนอื่นเค้าแบบนี้อีก "น้องคะแบบนี้มีกี่สีคะ?" ฉันยิ้มหวานหันไปถามน้องพนักงานขาย "มี6สีค่ะแต่ตอนนี้เหลือแค่5เท่านั้นค่ะ" "งั้นพี่เอาหมดทั้ง5สีเลยค่ะน้อง" "เห้ย!!แกมันแพงนะแกจะเอาไปทำไมนัก" "เอ้าาฉันก็ซื้อให้แกไงล่ะช่างฉันเถอะน่าฉันเต็มใจซื้อให้ก็แล้วกัน" 'ถ้าแลกกับความสะใจเสียเงินเท่าไหร่ฉันยอม' เพราะสองคนนั้นหน้าเหวอไปเลยล่ะค่ะ คงไม่คิดว่าคนอย่างฉันจะซื้อจริงๆล่ะมั้ง แต่กับเพื่อนอย่างนิดหน่อยเท่าไหร่ฉันก็ให้นะเพราะเพื่อนดีๆหายากจริงๆนะจะว่าไปฉันก็อดคิดถึงยัยโซดายัยน้ำหอมอิแจสซี่ไม่ได้ไม่รู้ป่านนี้พวกนางจะเป็นไงกันบ้าง ตั้งแต่เปลี่ยนเบอร์ก็ไม่ได้รับรู้ข่าวคราวพวกนางอีกเลย "รบกวนเซ็นตรงนี้ด้วยนะคะทั้งหมด5ใบเป็นเงินเก้าแสนห้าหมื่นบาทนะคะ" "ค่ะ..." "นี่ค่ะใบเสร็จ...ขอบพระคุณมากนะคะ" "เช่นกันค่ะ...ไปกันเถอะแก" ฉันก็เดินออกมาอย่างสวยๆนี่เป็นครั้งแรกจริงๆนะที่ฉันใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยครั้งนี้ ปกติเคยใช้แค่ใบละ199เอง ฉันให้กระเป๋านิดหน่อยทั้งหมดแต่นางบอกว่าไม่เอาถ้าจะให้นางเอาแค่ใบเดียวพอก็สีดำที่นางเลือกเองนั่นแหละก็โอเคดีกว่าฟังนางบ่นจนหูชาก็แล้วกัน เหลืออีก4ใบจะเอาไปให้ใครดีล่ะเนี่ย นึกไปก็คิดถึงเพื่อนรักทั้งสามจะว่าไปเอาไปฝากนางคนละใบดีกว่า เพราะมีสีที่ทั้งสามคนชอบอยู่พอดี โซดาชอบสีแดง น้ำหอมชอบสีฟ้า ส่วนอิแจสซี่ชอบสีม่วงพอดีเลย เหลืออีกใบสีน้ำตาลฉันเอาไว้ใช้เองก็แล้วกัน ฉันแวะส่งยัยนิดหน่อยกลับไปเคลียร์งานแทนฉันก่อน แล้วฉันก็ขับรถไปหาอิแจสซี่ที่คอนโดมันก่อนเพราะคอนโดมันใกล้สุด คอนโดมันอยู่ชั้น15ฉันต้องหอบของขึ้นลิฟท์ไปหามันพะลุงพะลังเชียวล่ะ 'ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง' กดกริ่งเรียกมันอยู่ตั้งนานก็ไม่มีใครมาเปิด ฉันก็เลยลองบิดประตูดูก็พบว่ามันไม่ได้ล๊อคเอาไว้ ฉันก็เลยลองเดินเข้าไปดูก็ยังไม่เจอใครสักคนเห็นแต่ประตูหลังห้องมันเปิดอยู่ก็เลยลองเปิดไปดู.... แต่ภาพที่เห็นทำให้หัวใจฉันแทบจะหยุดเต้นขึ้นมาทันที เมื่อเพื่อนรักของฉันกำลังยืนอยู่ในสภาพที่หมิ่นเหม่หลังระเบียงขอบตึกมากเหลือเกิน ถ้าหากมีอะไรพลาดไปนิดนึงฉันคงหัวใจสลาย แจสซี่กำลังยืนเหม่อมองไปข้างหน้าแล้วร้องไห้อย่างหนัก "จะ..แจสซี่มึงไปทำอะไรตรงนั้นมึงอยู่เฉยๆนะห้ามขยับนะ" "ใครอ่ะ?ลี่อิลี่หรอมึงมาได้ไงอ่ะ?แล้วมึงหายไปไหนมาห๊ะอิผีทำให้พวกกูเป็นห่วงมากนะมึงรู้ไหม?" "อย่าขยับไงอิแจสกูบอกให้มึงหยุดอยู่เฉยๆก่อน..." ฉันบอกไม่ได้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไรอยู่ รับรู้ได้แค่ว่าเพื่อนเป็นห่วงฉันมากแค่ไหนในขณะที่มันกำลังอยู่ในช่วงความเป็นความตายอยู่ในตอนนี้ ฉันค่อยๆขยับไปหามันช้าๆด้วยลมหายใจที่พร่าหวิวกลัวว่าถ้าพลาดไปฉันจะไม่สามารถช่วยเพื่อนรักฉันได้ "ส่งมือมาให้กูแจสค่อยๆนะแล้วมีอะไรมึงเป็นอะไรค่อยมาคุยกันมึงรู้ใช่ไหมว่ากูรักมึงมากนะ" แจสซี่พยักหน้าพร้อมทั้งร้องไห้ค่อยๆส่งมือมาให้ฉันที่มุดระเบียงออกไปหามันมาให้ฉันจับ ก่อนจะกระชากร่างบอบบางของมันเข้าหาตัวฉันก่อนจะล้มลงไปกองทับกันบนพื้นห้องในระเบียงพร้อมทั้งปล่อยโฮเสียงดังทั้งคู่ เกือบไปแล้วไหมล่ะถ้าหากฉันมาช้ากว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้จะขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ไหนดีที่ดลใจให้ฉันนึกอยากมาหามันวันนี้ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะต้องเสียเพื่อนที่รักไปอีกคนแน่ๆ "เกิดอะไรขึ้น!อิแจสมึงเป็นอะไรห๊ะบอกกูสิบอกกูใครทำอะไรมึง" เสียงโซดาที่วิ่งหน้าตั้งมาพร้อมยัยน้ำหอมตั้งแต่ตัวยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ "อิลี่ๆจริงๆด้วยมาได้ไงมึงอิเพื่อนเลวอิเพื่อนชั่วฮือๆๆๆ" "มึงมันใจร้ายอยู่ๆก็ทิ้งพวกกูไปไม่ลากันสักคำแล้วจะกลับมาทำไมห๊ะ!" มาถึงมันก็ลุมด่าฉันอย่างเอาเป็นเอาตายเลยล่ะ เออ!ก่อนจะด่ากูช่วยสนใจอิแจสซี่ก่อนดีไหมวะ เหมือนมันจะรู้ก็เลยเลิกด่าฉันแล้วหันมาด่าอิแจสซี่แทนที่คิดโง่ๆจะทำร้ายตัวเอง หลังจากซักถามกันไปมาก็เลยได้รู้ว่าอิแจสซี่มันโดนผู้ชายหลอกเอาเงินไปบำเรอชะนีหมดแล้วก็ทิ้งมันไปซะเฉยๆมันรักเขามากจนทนไม่ได้เลยคิดสั้นจะฆ่าตัวตายเลยโดนอิโซดาตบเข้าให้ฉาดใหญ่โทษฐานที่โง่งมงายกับผู้ชายเลวๆจนถึงขนาดจะเอาชีวิตตัวเองไปทิ้ง ด่ากันไปด่ากันมาแล้วต่างก็พากันกอดคอร้องไห้เป็นเด็กๆเลย จากนั้นก็ถึงตาจำเลยอย่างฉันโดนซักฟอกที่หายไปเป็นปีโดยไม่บอกพวกมันสักคำปล่อยให้พวกมันเป็นห่วง มันก็เล่าให้ฟังว่าช่วงแรกที่ฉันหายไปโซ่ก็เปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน เรียนก็แทบจะไม่ไปวันๆชวนแต่กินเหล้าเมาจนต้องโดนอิโซดาตบเปรี๊ยงเข้าให้ฉาดใหญ่ๆถึงจะคิดได้ว่าควรเดินต่อไปข้างหน้า ฉันเองก็เล่าเหตุผลให้มันฟังคร่าวๆว่าทำไมฉันถึงไปโดยไม่บอกแต่ก็ไม่ได้พลาดพิงอะไรไปถึงโซ่หรอก ยังไงซะความสัมพันธ์ฉันเพื่อนของเราก็ยังคงมีอยู่ ส่วนอิกันต์ตอนนี้ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกแทนอิหอมอยู่ตอนนี้ ใช่แล้วมันสองคนแต่งงานและมีลูกกันทันทีที่เรียนจบตอนนี้กำลังอยู่ในวัยน่ารักเดินเตาะแตะๆอยู่ ส่วนโซ่พวกมันก็เล่าว่าถ้ามีเวลาพวกมันก็นัดพบกันเป็นประจำโดยที่โซ่เองก็ไม่เคยพูดถึงฉันอีกเลย หลังจากคุยปรับความเข้าใจกันฉันก็เอากระเป๋าที่ซื้อมาให้มันคนละใบ ทันทีที่เห็นราคาป้ายมันก็ตาโตซักถามกันใหญ่ว่าฉันเอาเงินมาจากไหนตั้งเยอะแยะมาซื้อกระเป๋าให้พวกมันกัน "อิลี่มึงแอบไปเป็นเมียเก็บใครเค้าป่ะเนี่ยทำไมมีเงินเยอะ" อิแจสซี่หายเศร้าล่ะปากหมามาเชียว "อิห่าแจสมึงนี่นะเดี๋ยวเอาคืนซะดีไหมเนี่ย" "มะไม่ๆให้แล้วเอาคืนผัวตายนะมึง" มันแย่งเอากลับมากอดไว้กับตัวเลย "บังเอิญกูยังไม่มีผัว" "ก็แล้วแต่..." "พอๆมึงเลิกกัดกันก่อนสักแป๊บนะ" อิหอมห้ามทับไว้ก่อน "ตกลงมึงเอาเงินมาจากไหนมากมายนักห๊ะ" โซดาคาดคั้นถามอีกฉันก็เลยต้องบอกไปว่าฉันเจอครอบครัวจริงๆของฉันแล้ว เป็นคนมีฐานะคนนึงเท่านั้นพอมีเงินให้ฉันใช้แล้วฉันเองก็ทำงานมีเงินของฉันเอง พวกมันก็ถูกใจกระเป๋าที่ฉันเอามาฝากมากแล้วพวกเราก็เลยว่าจะซื้อของมาทำกินกันที่ห้องอิแจสซี่เพื่อเลี้ยงปลอบใจมันให้ลืมความเจ็บ แล้วฉันก็โทรตามนิดหน่อยมาสมทบทีหลังแล้วก็แนะนำให้พวกมันรู้จักกัน ก็โอเคนะพวกมันเข้ากันได้ดีเชียวล่ะ พวกฉันเลยตัดสินใจว่าจะนอนค้างระลึกความหลังครั้งเก่ากันที่ห้องแจสซี่ซะเลยทุกคน โดยมีฉันโทรไปขออนุญาติคุณย่า อิหอมโทรไปขอผัว ส่วนนิดหน่อยโทรไปขออนุญาติพี่ชายฉัน งงล่ะสิว่าทำไมมันต้องขออนุญาติพี่ภาคด้วยฉันก็งงเหมือนกันฮ่าๆๆๆแต่ถ้าเขาสองคนพร้อมก็คงจะบอกเองอ่ะเนอะ - ---------------------------------------------** จบตอนครุ่นคิดวุ่นวายใจไปก็เท่านั้น อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนวิญญานเมียหลวงมาเข้าสิง สองเท้าก้าวฉับๆโดยมียัยลี่วิ่งตามมาติดๆ ตรงไปยังคนที่ยืนอยู่ร้านข้างหน้าทันที "สวัสดีค่ะ...พี่ภาค!!!" เสียงเย็นๆขุ่นกระด้างมันออกมาของมันเองจริงๆฉันเป็นคนเรียบร้อยนะ แต่เวลาที่ลมเพชรหึงมันแทรกเข้ามาอากัปกิริยามันก็จะกระด้างหน่อยๆ "อ่ะอ้าวนี่สองคนมายังไงกันนี่!" พี่ภาคหันมาเจอฉันแล้วทำไมต้องแสดงอาการตกใจขนาดนี้อ่ะ "ก็ขับรถมากันไงคะถามแปลกแล้วไหนพี่บอกว่าวันนี้ไม่ว่างไงคะแล้วมาได้ยังไงมาทำอะไร แล้วมากับใครอ่ะคะ?" "โห!!!มาเป็นชุดเลยใจเย็นๆก่อนนะตัวเล็กนะ" พี่ภาคมองหน้าฉันแล้วกลั้นขำเล็กน้อย 'ทำไมต้องขำอ่ะนี่ฉันซีเรียสอยู่นะ' "แก...ใจเย็นๆก่อนนะ" ยัยลี่ค่อยๆปลอบประโลมให้ฉันหายโมโห "แล้วคุณเป็นใครกันมาถึงก็ใส่ๆเป็นชุดไม่มีสมบัติผู้ดีเอาซะเลย" ยัยผู้หญิงที่ยืนเล่นหูเล่นตาอยู่ข้างๆพี่ภาคพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ "แล้วเธอล่ะเป็นใคร?มายุ่งวุ่นวายอะไรกับสามีคนอื่นเค้า" ฉันต่อปากต่อคำกับแม่นั่นต่อ "ฉันเคยเป็นคนสำคัญของเขามากๆมาก่อนและตอนนี้ก็ยังสำคัญอยู่" ผู้หญิงคนนั้นว่าและหันไปกอดแขนพี่ภาคไว้ "หรอคะ?สำคัญกว่าเมียขอ
วันนี้เป็นวันเกิดของโซดาเพื่อนสนิทของยัยลี่และเป็นเพื่อนใหม่อีกคนของฉัน คืนนี้เราก็แต่งองค์ทรงเครื่องมากันในธีมย้อนยุคยัยลี่นี่มาในชุดทองกวาวเชียวล่ะ ส่วนฉันก็เสื้อแขนกระบอกกับกระโปรงบานลายดอกเก๋ๆนี่ขนาดแต่งธรรมดานะหนุ่มๆในงานยังมาตาเป็นมันเชียว'สวยเหมือนกันนะนี่เราอิอิ'แน่นอนว่าพี่ภาคต้องสั่งยัยลี่ให้ดูแลฉันให้ดีๆอย่าให้ใครมายุ่มย่ามกับฉันแน่ๆ ปาร์ตี้ในงานก็ผ่านไปได้ด้วยดี ฉันเองก็สนุกไปด้วยจนเพลินเผลอดื่มไปซะเยอะจนเกือบจะเมาไปเหมือนกัน จนกระทั่งพี่เก้าเอาเค้กมาเซอร์ไพส์และขอโซดาแต่งงาน ทุกคนในงานกรี๊ดกร๊าดกันมากรวมถึงตัวฉันด้วยแน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกย่อมฝันที่จะมีการขอแต่งงานแสนหวานอยู่แล้ว โซดาร้องไห้หนักมากเพราะความดีใจเพื่อนๆทุกคนก็ตื้นตันใจและมีความสุขไปกับนางด้วย ไม่รู้ว่าเราปาร์ตี้กันถึงไหนยังไง ฉันมารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าในห้องพักของตัวเองแล้ว พร้อมอาการเจ็บแปลบบริเวณช่วงท้องน้อยและแสบๆบริเวณใจกลางร่าง 'หรือว่าา...''นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะแล้วตกลงฉันกลับมาที่ห้องตัวเองได้ยังไง'ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้วะ'งงในงงไปอีก' เดี๋ยวนะ!แล้วยัยลี่ล่ะยัยลี่ไปไห
"นิดหน่อยๆฮัลโหล...แก!!!"เสียงยัยลี่ตะโกนเรียกชื่อฉันข้างๆหูพร้อมโบกมือผ่านหน้าฉันไปมา"ห๊ะๆอื้อ!...ตกใจหมด"ฉันสะดุ้งหลุดจากภวังค์ทันที หลังจากที่ตกใจเสียงเรียกดังๆของยัยลี่ ในขณะที่เผลอไผลไปคิดถึงคนที่เป็นเจ้าของหัวใจเข้า"เรียกตั้งนานมัวแต่เหม่อคิดถึงพี่ภาคอยู่ใช่ม่ะ?นั่นแน่!""เปล๊าา!ไม่มีอะไรฉันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยต่างหากเล่า""จริง!ว่าแต่คอแกไปโดนอะไรมาทำไมมันเหมือนรอย...""อะ..ห๊ะอ่อฉันโดนยุงกัดอ่ะเกาไปเกามามันเลยแดงไปหมดเลย...ช่างมันเถอะแกมีไรเปล่า?""อ่อยุงตัวนี้ดุเนอะกัดซะแดงเชียว ดูท่าทางจะขี้หวงซะด้วย...ไม่มีไรแกว่าจะชวนลงไปหาไรกินน่ะ""อื้อๆไปสิๆฉันก็หิวเหมือนกัน"หลังจากที่เมื่อเช้าฉันโดนยุงดูดพลังงานไปอีกเยอะจนเกือบจะมาทำงานสายเสียนี่จนไม่ทันได้กินข้าวเช้าเลยด้วยซ้ำนอกจากกาแฟเย็นที่แวะซื้อมากินแก้วเดียวแค่นึกถึงเขาผู้ชายที่เป็นเจ้าหัวใจของฉันในอกก็สั่นสะท้านไม่หยุดหลังจากผ่านค่ำคืนที่วาบหวาบไปแล้ว ในตอนเช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายนอนกกกอดฉันอยู่บนเตียง ท่อนแขนอันอบอุ่นพาดทับเอวบางๆของฉันเอาไว้แผ่วเบาอย่างกลัวฉันจะอึดอัด คางอุ่นๆเกยอยู่บนกระหม่อมฉัน
ความวาบหวาบเข้าเกาะกุมหัวใจเมื่อปลายนิ้วมือเขากอบกุมยอดอกบีบคลึงอย่างกับมันเป็นของเล่น ซาลาเปาสีขาวผ่องที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อนนอกจากเขาคนนี้เท่านั้นเขาขยำขยี้มันเล่นอย่างสนุกสนานจนฉันนึกกลัวว่ามันจะแตกคามือเขาเสียก่อนถึงเขาจะบีบเคล้นเล่นอย่างสนุกมือแต่กลับไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บเลย นอกจากความวาบหวิวแล้วมันยังวูบไหวไปยังจุดอ่อนไหวใต้ท้องน้อยฉันเหมือนเป็นละลอกคลื่นหฤหรรษ์มาทีละนิดๆปลายนิ้วคอยสะกิดปลายยอดเล่น ปากหยักๆก็คอยแต่ดอมดมไซร้ต้นคอหอมกรุ่นอย่างหลงไหล คนตัวเล็กกว่าแหงนเงยใบหน้าขึ้นคอยอำนวยความสะดวกให้ปากหยักเข้าดอมดมได้อย่างสะดวกขึ้นแม้จะบอกตัวเองเสมอว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวไว้อย่าไปใจง่ายให้เขาดูถูกเล่น รู้ตัวอีกทีฉันก็อยากจะพลีกายให้เขาซะแล้วสิ บ้าจริง!"อ...อื้อออ"อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางกระเส่าเมื่อความรัญจวนใจมันเข้าเกาะกุมจิตใจ กายเล็กๆบิดเสียดสีกันไปมากับลำตัวหนาของคนข้างๆ เมื่อคนตัวโตกว่าชักนำพาไปสู่ความหรรษายิ่งขึ้นสองมือหนาเคล้นคลึงเต้างามก่อนจะลากปลายลิ้นเข้าครอบยอดอกชูชันลิ้มรสความหอมหวานจากปลายยอดนั่น ทั้งมือทั้งปากต่างระดมกำลังรีดเคล้นสองเต้าอย่างเม
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่พี่ภาคตามตื้อขอฉันเป็นแฟน จนในที่สุดฉันก็ใจอ่อนยอมตกลงคบกับเขาจนได้ เพียงแต่เรายังไม่ได้บอกใครเท่านั้นว่ากำลังคบกันอยู่ ตอนนี้ฉันมาช่วยงานลี่ที่โรงแรมของนาง โดยที่ยัยลี่จัดที่พักของโรงแรมสุดหรูให้ฉันพักฟรีๆห้องนึงเลยพี่ภาคเองก็มาหาฉันทุกอาทิตย์โทรมาคุยด้วยทุกคืน จนมันเป็นความเคยชินไปแล้วถ้าหากวันไหนที่เขาไม่โทรหามันก็จะรู้สึกแปลกๆกระวนกระวายใจจนต้องเป็นฝ่ายโทรหาเขาเสียเอง แล้วก็จะโดนล้อว่าทนคิดถึงเค้าไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายโทรมาเองเลยวันนี้ยัยลี่ส่งโลเคชั่นให้ฉันตามไปเจอบอกว่าเป็นห้องเพื่อนนางที่คืนนี้จะมีปาร์ตี้กัน พอเลิกงานฉันก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องแล้วนั่งแท๊กซี่ออกไปตามนัดพอมาถึงฉันก็โทรขึ้นไปให้ยัยลี่ลงมารับฉันข้างล่าง แล้วก็พากลับขึ้นไปที่ห้องเพื่อนของนางที่อยู่ชั้น9"ไฮ้...พวกมึงนี่นิดหน่อยแม่...คนที่สองของกูเอง ส่วนนี่น้ำหอม แล้วนี่สามีนางชื่อกันต์ ส่วนที่นอยาวๆชื่อโซดา ส่วนคนหล่อๆคนนี้ชื่อแจสสส...ซี่""โอ๊ยยยอิลี่ต้องบอกว่าคนที่สวยๆสิยะถึงจะถูก" แจสซี่เพื่อนสาวของยัยลี่จีบปากจีบคอตอบพร้อมจิกตาใส่ นางน่ารักดีนะ"อิลี่อิผี...สวยๆอย่างกูจะมีนอได้ยังไ
"แล้วหนูไม่สงสารพี่หรอ?พี่เจ็บนะ"แค่พูดไม่พอผมก็เลยจับมือเธอมาสาธิตให้ดูว่าผมเจ็บ...ตรงไหนบ้างส่งสายตาเว้าวอนให้คนตัวเล็กสงสารและเห็นใจในความทุกข์ทรมานของผม จับมือบางทาบทับขอบกางเกงก่อนจะรูดซิบกางเกงแสล๊คลงช้าด้วยหัวใจที่สั่นระรัว'ให้ตายเถอะ!ทำไมมันตื่นเต้นอะไรขนาดนี้'นี่แค่มือของยัยตัวเปี๊ยกเองนะ แล้วถ้าเป็นอย่างอื่นเช่น....ล่ะจะขนาดไหนกันแค่คิดเจ้างูใหญ่มันก็ประท้วงผงาดเต็มที่เพื่อจะออกมาดูโลกภายนอกเต็มที่ล่ะยัยตัวเปี๊ยกของผมยังกล้าๆกลัวทั้งๆที่ตอนนั้นทั้งจับทั้งขยำเล่นอย่างมันมือด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าล่ะตอนนั้นมันอยู่ใต้ร่มผ้านี่ แต่วันนี้สัมผัสเนื้อแท้เน้นๆเต็มกำมือเชียวล่ะฝ่ามือบางค่อยๆโอบรอบเต็มลำที่แผ่ขยายชี้หน้าอย่างท้าทาย ผมวางมือซ้อนทับมือเล็กๆของยัยเปี๊ยกเอาไว้ก่อนจะนำพามือให้กำแล้วรูดขึ้นรูดลงช้าๆ..."ซี๊ดดดดด..."เสียงแหบพร่าครางแผ่วๆในลำคอ ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบ้เพราะความเสียวซ่าน ภายในอุ้งมือร้อนฉ่าจนเหมือนจะลวกมือเอาซะเลย ท่อนเนื้อกระตุกเป็นจังหวะทั้งร้อนทั้งแข็งจนฉันอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ฝ่ามือข้างที่ว่างของพี่ภาคก็ลดมาเคล้นคลึงสองเต้าสล้างของฉันอย่างสบายอุรา'ทำไมฉันร







