LOGIN30:
ตาสว่าง
วันต่อมา
โซ่ขับรถมารับฉันที่บ้านคุณย่า ตอนแรกนางจะฝากตัวเป็นหลานเขยเลยแต่ว่าฉันขอเอาไว้ก่อนว่ายังไม่พร้อม แต่เขาก็เข้าใจนะเพียงแต่แอบงอนๆนิดนึง "โซ่!ถ้าเกิดว่า..." ฉันยังพูดไม่ทันจบโซ่ก็เหมือนจะรู้ว่าฉันจะพูดอะไรต่อ เขาจับมือฉันบีบเบาๆเหมือนจะบอกว่าเขาจะอยู่ข้างๆฉันเอง "ไม่ต้องกังวล...ลี่มีโซ่อยู่นี่ทั้งคน" "อื้อออ" 'นั่นสิ!แย่กว่านี้ก็เจอมาแล้ว' เครียดไปก็ปวดหัวเปล่าๆเอาจริงๆก็อยากจะแก้เผ็ดคนบ้านนั้นกับยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหนดี นั่งไปนั่งมาโซ่ก็พาฉันขับรถมาจอดอยู่ประตูรั้วบ้านหลังนึง ก่อนประตูเหล็กจะเลื่อนออกให้ขับรถเข้าไปได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงจะประหม่าเพราะดูแล้วฐานะของเราตอนนั้นก็ช่างแตกต่างกันมากจริงๆ แต่ในตอนนี้ฉันมีทุกอย่างเท่าเทียมเขาหมดแล้ว ไม่ใช่เพราะคุณย่าหรือพี่ภาคสร้างไว้ให้ แต่เพราะฉันขวนขวายหาเงินเล่นหุ้นบ้างจากตอนแรกฉันลองเล่นๆแค่แสนสองแสนผ่านมาไม่กี่เดือนฉันมีเงินเก็บในบัญชีต่างหากของเองเป็นสิบๆล้านแล้ว ไม่น่าเชื่อเนอะว่าแค่เล่นหุ้นมันจะได้ขนาดนี้เลย แต่เชื่อเถอะฉันทำมาแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ฉันจะอดทนผ่านมันมาให้ได้ สูดลมหายใจเข้าลึกๆเต็มปอดก่อนจะค่อยๆถอนหายใจยาวๆ "หึหึ...ลี่แค่มาพบกับแม่เองทำเหมือนจะไปออกรบไปได้" "ก็มันแปลกๆกลัวๆนิดหน่อยอ่ะ" "ไม่ต้องกลัวนะโซ่เชื่อว่าแม่จะต้องรักลี่เหมือนที่โซ่รัก" โซ่จับมือฉันบีบกระชับก่อนจะจูงมือฉันเดินเข้าบ้านไป "สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่นี่ลี่แฟนผมครับ" "สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่" คุณพ่อโซ่ในวัย60กว่ายังดูหนุ่มอยู่และแข็งแรงมากหันมานับไหว้ฉันในขณะที่คุณแม่โซ่มองนิ่งๆก่อนจะรับไหว้อย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก "หวัดดีลูกมาๆนั่งลงก่อน..เมื่อวานที่โซ่โทรบอกว่าจะแฟนมาบ้านพ่อกับแม่ดีใจมากเลยจะได้มีลูกสะไภ้กับเขาสักที" "เอ่ออ...ค่ะคุณพ่อนี่ของฝากค่ะพอดีคุณย่าท่านฝากมาให้น่ะค่ะ" "หือ...ย่าหนูหรอ?" ท่านถามก่อนจะรับกระเช้าของฝากที่คุณย่าท่านจัดมาให้เมื่อรู้ว่าฉันจะมาที่นี่ เพราะว่าท่านเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กับคุณย่าโซ่เช่นกันน่าเสียดายที่ตอนนี้ท่านไม่อยู่เสียแล้ว "คุณหญิงทับทิม ราชเทวากุลหรอ?หนูเป็นหลานของคุณหญิงทับทิมงั้นหรอลูก" "ใช่ค่ะคุณพ่อ" "เอ้อๆโลกมันก็กลมดีจริงๆนะแต่ก่อนตอนที่ย่าเจ้าโซ่ยังอยู่นะท่านก็แวะเวียนไปมาหาสู่กันประจำ ตั้งแต่ย่าเสียไปท่านก็ไม่ค่อยได้แวะมาแล้ว...ว่าแต่ทำไมพ่อถึงไม่เคยเห็นหนูเลยล่ะลูก?" ฉันก็เลยต้องเล่าเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตให้พวกท่านฟัง แต่เว้นเรื่องที่คุณแม่โซ่ตามไปต่อว่าฉันที่คอนโดนะเพราะมันคงจะไม่ดีแน่ "โถลูกขวัญเอ้ยขวัญมานะลูกนะ...สำหรับพ่อแล้วถ้าโซ่รักใครพ่อก็รักด้วยต่อให้คนๆนั้นจะมาจากไหนหรือฐานะอะไรก็ตาม...จริงไหมคุณ?" หลังจากเล่าจบท่านก็ลูบหัวฉันเบาๆก่อนจะหันไปถามคุณแม่ "ค่ะ..." คุณแม่ท่านลดความกระด้างลงมาหน่อยแล้วก่อนจะตอบรับคำเบาๆ ถ้าฉันมองไม่ผิดมีแวบนึงที่ท่านเหลือบมองฉันด้วยสายตาอ่อนโยนครู่นึงก่อนจะเลือนลางหายไป "แม่บ้านตั้งโต๊ะเสร็จแล้วมั้งไปทานข้าวกันเถอะลูก" คุณพ่อท่านลุกขึ้นยืนก่อนจะชวนไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่ตอนนี้มีกับข้าวลำเลียงมารอเสร็จเรียบร้อยแล้ว "ลี่ทานได้ไหมลูก?" คุณพ่อท่านหันมาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย ก่อนจะหันไปตักกับข้าวใส่จานให้ภรรยาของท่านแล้วหันมาตักให้ฉันอีกคน "ลี่ทานได้ค่ะ...ขอบคุณค่ะ" "คุณแม่ลองชิมอันนี้ดูนะครับจะบอกให้ว่าฝีมือลี่ก็อร่อยไม่เป็นรองใครเลยนะครับ" โซ่ตักกับข้าวใส่จานให้คุณแม่บ้างก่อนจะคุยอวดเรื่องฝีมือการทำกับข้าวของฉัน คุณแม่มองหน้าฉันนิ่งๆเนิบๆ "หล่อนทำกับข้าวเป็นด้วยหรอ?" "ค่ะ...แม่ครูเป็นคนสอนให้ลี่ทำเป็นทุกอย่าง" อันที่จริงก็ต้องขอบคุณแม่ครูที่ช่วยสอนฉันเป็นทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานบ้านงานเรือนหรือจะงานในครัวแม่ครูเคยสอนไว้เมื่อตอนฉันเริ่มจะโตเป็นสาวว่า... "หัดไว้ลูกเผื่อเวลามีครอบมีครัวจะได้ไม่อายใครเค้าว่าเราทำอะไรไม่เป็นวันนึงเราต้องใช้อยู่แล้ว" "ค่ะ...แม่ครู" จะว่าไปแล้วฉันเองก็ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านหลายวันแล้วเหมือนกันคงต้องหาเวลาไปสักหน่อยจะไปดูด้วยว่าที่ฉันส่งช่างไปปรับปรุงบ้านพักเป็นอย่างไงบ้าง "ถ้าอย่างนั้นวันหลังหล่อนก็ลองมาทำให้ฉันชิมดูสิว่าจะกินได้หรือเปล่า" พูดอย่างนี้หมายความว่าท่าน...ชวนฉันมาที่นี่อีกงั้นหรอ? โซ่มองหน้าฉันก่อนจะยิ้มอย่างดีใจ "ยิ้มอะไรฉันก็แค่อยากจะรู้ว่าจะอร่อยจริงรึเปล่าเห็นคุยนักคุยหนา" "ลูกก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยคุณนี่ก็ร้อนตัวจังเลยเนอะ" คุณพ่อท่านก็หันมาแซวคุณแม่อีก "คุณนี่เดี๋ยวเถอะๆ" เอาจริงๆเท่าที่ดูนอกจากเหตุการณ์ตอนนั้นท่านก็ไม่ได้ดูเป็นคนเลวร้ายอะไรนี่ดูเป็นคนรักครอบครัว แต่ท่านคงจะรักโซ่มากคงจะกลัวว่าฉันจะมาปอกลอกจับลูกชายท่านกระมัง แน่ล่ะก็ท่านมีลูกชายแค่คนเดียวนี่นาไม่หวงก็คงแปลก "สวัสดีคร้าาา..คุณพ่อคุณแม่กำลังทานข้าวกันอยู่หรอคะ?อ้าวพี่โซ่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะแล้วๆทำไมนังเอ่ออ...ผู้หญิงคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่อ่ะ" "มานั่งทานข้าวด้วยกันสิ...นี่หนูเพรียวรู้จักพี่ลี่เค้าด้วยหรอ? "เอ่ออ...ค่ะก็เคยๆเจอกันโดยบังเอิญน่ะค่ะคุณพ่อ" "อ่อ...เอาๆกินข้าวกันต่อเถอะ" เราก็เลยได้สมาชิกทานข้าวเพิ่มมาอีกหนึ่ง ที่ตลอดเวลาก็เอาต่อพูดจาฉอเลาะคุณพ่อทีคุณแม่ทีจนน่ารำคาญ เพราะฉันดูยังไงก็รู้สึกว่ามันไม่ได้จริงใจเอาซะเลย คิดว่าคุณพ่อเองก็คงจะดูออกเหมือนกันดูท่าทางท่านก็เฉยๆกับยัยนี่อยู่นะ หลังทานข้าวกันเสร็จฉันก็เลยช่วยป้าแม่บ้านเก็บจานเข้าไปในครัว ก่อนจะบอกให้เค้าไปทำอย่างอื่นก็ได้เดี๋ยวฉันเก็บล้างเอง สักพักยัยเด็กเพรียวก็เดินตามเข้ามายืนกอดอกมองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า "มีอะไรก็พูดมา" ฉันหันหน้าไปถามนางอย่างนึกรำคาญกับกิริยาท่าทางของหล่อน "แกมาที่นี่ทำไม?" "จุ๊ๆๆเป็นเด็กเป็นเล็กพูดจาให้มันเพราะๆหน่อยค่ะแล้วอีกอย่างนะฉันเป็นแฟนโซ่ทำไมจะมาบ้านเค้าไม่ได้" "แก!นังหน้าด้านไร้ยางอาย" นี่หรอลูกผู้ดีมีสกุลเค้าเป็นกัน ยกมือชี้หน้าด่าฉันอย่างกะฉันไปเผาบ้านอย่างงั้นแหละ "ว่าตัวเองก็เป็นเนอะถามจริงๆเถอะตามตื้อเค้ามาเป็นปีผู้ชายเค้าสนใจบ้างป่ะ?" "กรี๊ดดด!อีบ้ากล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้อีไพร่บ้านนอก" 'โหอีเด็กนี่มันน่าโดนจริงๆนะ' อดไว้ก่อนลี่ฮึบไว้ลูกฮึบไว้... บอกเลยว่าถ้าเป็นพวกโซดานะมันกระโดดตบหน้าแหกไปแล้วมั้ง "แล้วผู้ดีเค้าพูดกันแบบนี้หรอ?" "ก็ยังดีกว่าแกแล้วกันหน้าด้าน...ครอบครัวเค้าไม่ต้องการผู้หญิงบ้านนอกแบบแกมาเป็นลูกสะไภ้อุตส่าห์ไล่ไปแล้วก็ยังหน้าด้านกลับมาอีก" 'เอ่อออ...ทำไมเจ็บอ่ะ' "แต่อีกไม่นานท่านก็คงจะเห็นว่าใครเป็นยังไงกันแน่" ใช่ฉันว่าเร็วๆนี้แหละ "แล้วไง?ถ้าให้เลือกยังไงท่านก็ต้องเข้าข้างฉันอยู่แล้ว" "มั่นใจขนาดนั้นเลย?แต่ฉันคิดว่าคุณแม่ท่านฉลาดพอที่จะดูคนออกนะว่าจริงๆแล้วใครเป็นยังไงกันแน่" "เหอะคุณแม่หรอจะฉลาด...โง่จะตายขนาดฉันแค่ไปใส่ไฟนิดหน่อยว่าเธอมันมั่วคบผู้ชายไม่เลือกหน้าเป็นผู้หญิงหน้าเงินต้องการจะจับผู้ชายรวยๆท่านก็เชื่อเสียสนิทใจจนต้องแล่นไปด่าแกถึงที่คอนโด แต่แกก็ยังหน้าด้านกลับมาอีกจนได้" "เธอทำแบบนี้ทำไมกัน?" "เพราะฉันชอบพี่โซ่ไงถ้าฉันได้แต่งงานกับพี่โซ่ครอบครัวฉันก็จะมีเงินปลดหนี้อุ๊บบบ.." "อ๋อ...อย่างนี้นี่เองได้ยินแล้วใช่ไหมคะ? แล้วฉันก็ล้วงโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ตรงกระเป๋าเสื้อด้านหน้ามีสายกดโทรออกไปยังเบอร์ของโซ่และตอนนี้ปลายสายก็ยังฟังอยู่ตลอดเวลา... "ฉันได้ยินแล้ว..." เสียงคุณแม่โซ่ตอบกลับมาเบาๆ "มะไม่นะมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดนะคะไม่ใช่ๆ" ก่อนที่นางจะวิ่งออกไปข้างนอกที่มีทุกคนนั่งฟังอยู่ทั้งหมดละล่ำละลักบอกเสียงสั่น "คุณแม่ขามันไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณแม่เชื่อน้องเพรียวนะคะ" "ฉันมันโง่เองแหละที่หลงเอ็นดูเด็กอย่างเธอจนเห็นกรงจักรเป็นดอกบัวแทน...ออกไปจากบ้านฉันซะแล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก" "คุณแม่..." "ฉันไม่เคยมีลูกแย่ๆอย่างเธอ" "ก็ได้เพรียวไปก็ได้แล้วพวกคุณจะต้องเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้" แล้วนางก็สะบัดหน้าเดินออกไปอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ "ลี่...มะแม่ขอโทษนะที่เข้าใจหนูผิดไป" "ไม่เป็นไรค่ะลี่จำอะไรไม่ได้แล้ว" ฉันหันไปยิ้มให้ท่านอย่างปลอบใจ "ว่าแต่ที่เด็กเพรียวพูดหมายความว่าไงกันคุณ? "เอ่อ...คือ..." "ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณพ่อแค่เรื่องเข้าใจผิดกันน่ะค่ะ" ฉันเลยตอบแทนเมื่อเห็นท่านอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะตอบยังไง จากนั้นฉันกลับกลายเป็นว่าที่ลูกสะไภ้คนโปรดขึ้นมาทันทีเชียวล่ะ --------------------------------------------- คอมเม้นต์บ้าง ไล้ท์บ้างเป็นกำลังใจให้กันนะคะ ขอบคุณค่ะ...ครุ่นคิดวุ่นวายใจไปก็เท่านั้น อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนวิญญานเมียหลวงมาเข้าสิง สองเท้าก้าวฉับๆโดยมียัยลี่วิ่งตามมาติดๆ ตรงไปยังคนที่ยืนอยู่ร้านข้างหน้าทันที "สวัสดีค่ะ...พี่ภาค!!!" เสียงเย็นๆขุ่นกระด้างมันออกมาของมันเองจริงๆฉันเป็นคนเรียบร้อยนะ แต่เวลาที่ลมเพชรหึงมันแทรกเข้ามาอากัปกิริยามันก็จะกระด้างหน่อยๆ "อ่ะอ้าวนี่สองคนมายังไงกันนี่!" พี่ภาคหันมาเจอฉันแล้วทำไมต้องแสดงอาการตกใจขนาดนี้อ่ะ "ก็ขับรถมากันไงคะถามแปลกแล้วไหนพี่บอกว่าวันนี้ไม่ว่างไงคะแล้วมาได้ยังไงมาทำอะไร แล้วมากับใครอ่ะคะ?" "โห!!!มาเป็นชุดเลยใจเย็นๆก่อนนะตัวเล็กนะ" พี่ภาคมองหน้าฉันแล้วกลั้นขำเล็กน้อย 'ทำไมต้องขำอ่ะนี่ฉันซีเรียสอยู่นะ' "แก...ใจเย็นๆก่อนนะ" ยัยลี่ค่อยๆปลอบประโลมให้ฉันหายโมโห "แล้วคุณเป็นใครกันมาถึงก็ใส่ๆเป็นชุดไม่มีสมบัติผู้ดีเอาซะเลย" ยัยผู้หญิงที่ยืนเล่นหูเล่นตาอยู่ข้างๆพี่ภาคพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ "แล้วเธอล่ะเป็นใคร?มายุ่งวุ่นวายอะไรกับสามีคนอื่นเค้า" ฉันต่อปากต่อคำกับแม่นั่นต่อ "ฉันเคยเป็นคนสำคัญของเขามากๆมาก่อนและตอนนี้ก็ยังสำคัญอยู่" ผู้หญิงคนนั้นว่าและหันไปกอดแขนพี่ภาคไว้ "หรอคะ?สำคัญกว่าเมียขอ
วันนี้เป็นวันเกิดของโซดาเพื่อนสนิทของยัยลี่และเป็นเพื่อนใหม่อีกคนของฉัน คืนนี้เราก็แต่งองค์ทรงเครื่องมากันในธีมย้อนยุคยัยลี่นี่มาในชุดทองกวาวเชียวล่ะ ส่วนฉันก็เสื้อแขนกระบอกกับกระโปรงบานลายดอกเก๋ๆนี่ขนาดแต่งธรรมดานะหนุ่มๆในงานยังมาตาเป็นมันเชียว'สวยเหมือนกันนะนี่เราอิอิ'แน่นอนว่าพี่ภาคต้องสั่งยัยลี่ให้ดูแลฉันให้ดีๆอย่าให้ใครมายุ่มย่ามกับฉันแน่ๆ ปาร์ตี้ในงานก็ผ่านไปได้ด้วยดี ฉันเองก็สนุกไปด้วยจนเพลินเผลอดื่มไปซะเยอะจนเกือบจะเมาไปเหมือนกัน จนกระทั่งพี่เก้าเอาเค้กมาเซอร์ไพส์และขอโซดาแต่งงาน ทุกคนในงานกรี๊ดกร๊าดกันมากรวมถึงตัวฉันด้วยแน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกย่อมฝันที่จะมีการขอแต่งงานแสนหวานอยู่แล้ว โซดาร้องไห้หนักมากเพราะความดีใจเพื่อนๆทุกคนก็ตื้นตันใจและมีความสุขไปกับนางด้วย ไม่รู้ว่าเราปาร์ตี้กันถึงไหนยังไง ฉันมารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าในห้องพักของตัวเองแล้ว พร้อมอาการเจ็บแปลบบริเวณช่วงท้องน้อยและแสบๆบริเวณใจกลางร่าง 'หรือว่าา...''นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะแล้วตกลงฉันกลับมาที่ห้องตัวเองได้ยังไง'ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้วะ'งงในงงไปอีก' เดี๋ยวนะ!แล้วยัยลี่ล่ะยัยลี่ไปไห
"นิดหน่อยๆฮัลโหล...แก!!!"เสียงยัยลี่ตะโกนเรียกชื่อฉันข้างๆหูพร้อมโบกมือผ่านหน้าฉันไปมา"ห๊ะๆอื้อ!...ตกใจหมด"ฉันสะดุ้งหลุดจากภวังค์ทันที หลังจากที่ตกใจเสียงเรียกดังๆของยัยลี่ ในขณะที่เผลอไผลไปคิดถึงคนที่เป็นเจ้าของหัวใจเข้า"เรียกตั้งนานมัวแต่เหม่อคิดถึงพี่ภาคอยู่ใช่ม่ะ?นั่นแน่!""เปล๊าา!ไม่มีอะไรฉันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยต่างหากเล่า""จริง!ว่าแต่คอแกไปโดนอะไรมาทำไมมันเหมือนรอย...""อะ..ห๊ะอ่อฉันโดนยุงกัดอ่ะเกาไปเกามามันเลยแดงไปหมดเลย...ช่างมันเถอะแกมีไรเปล่า?""อ่อยุงตัวนี้ดุเนอะกัดซะแดงเชียว ดูท่าทางจะขี้หวงซะด้วย...ไม่มีไรแกว่าจะชวนลงไปหาไรกินน่ะ""อื้อๆไปสิๆฉันก็หิวเหมือนกัน"หลังจากที่เมื่อเช้าฉันโดนยุงดูดพลังงานไปอีกเยอะจนเกือบจะมาทำงานสายเสียนี่จนไม่ทันได้กินข้าวเช้าเลยด้วยซ้ำนอกจากกาแฟเย็นที่แวะซื้อมากินแก้วเดียวแค่นึกถึงเขาผู้ชายที่เป็นเจ้าหัวใจของฉันในอกก็สั่นสะท้านไม่หยุดหลังจากผ่านค่ำคืนที่วาบหวาบไปแล้ว ในตอนเช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายนอนกกกอดฉันอยู่บนเตียง ท่อนแขนอันอบอุ่นพาดทับเอวบางๆของฉันเอาไว้แผ่วเบาอย่างกลัวฉันจะอึดอัด คางอุ่นๆเกยอยู่บนกระหม่อมฉัน
ความวาบหวาบเข้าเกาะกุมหัวใจเมื่อปลายนิ้วมือเขากอบกุมยอดอกบีบคลึงอย่างกับมันเป็นของเล่น ซาลาเปาสีขาวผ่องที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อนนอกจากเขาคนนี้เท่านั้นเขาขยำขยี้มันเล่นอย่างสนุกสนานจนฉันนึกกลัวว่ามันจะแตกคามือเขาเสียก่อนถึงเขาจะบีบเคล้นเล่นอย่างสนุกมือแต่กลับไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บเลย นอกจากความวาบหวิวแล้วมันยังวูบไหวไปยังจุดอ่อนไหวใต้ท้องน้อยฉันเหมือนเป็นละลอกคลื่นหฤหรรษ์มาทีละนิดๆปลายนิ้วคอยสะกิดปลายยอดเล่น ปากหยักๆก็คอยแต่ดอมดมไซร้ต้นคอหอมกรุ่นอย่างหลงไหล คนตัวเล็กกว่าแหงนเงยใบหน้าขึ้นคอยอำนวยความสะดวกให้ปากหยักเข้าดอมดมได้อย่างสะดวกขึ้นแม้จะบอกตัวเองเสมอว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวไว้อย่าไปใจง่ายให้เขาดูถูกเล่น รู้ตัวอีกทีฉันก็อยากจะพลีกายให้เขาซะแล้วสิ บ้าจริง!"อ...อื้อออ"อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางกระเส่าเมื่อความรัญจวนใจมันเข้าเกาะกุมจิตใจ กายเล็กๆบิดเสียดสีกันไปมากับลำตัวหนาของคนข้างๆ เมื่อคนตัวโตกว่าชักนำพาไปสู่ความหรรษายิ่งขึ้นสองมือหนาเคล้นคลึงเต้างามก่อนจะลากปลายลิ้นเข้าครอบยอดอกชูชันลิ้มรสความหอมหวานจากปลายยอดนั่น ทั้งมือทั้งปากต่างระดมกำลังรีดเคล้นสองเต้าอย่างเม
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่พี่ภาคตามตื้อขอฉันเป็นแฟน จนในที่สุดฉันก็ใจอ่อนยอมตกลงคบกับเขาจนได้ เพียงแต่เรายังไม่ได้บอกใครเท่านั้นว่ากำลังคบกันอยู่ ตอนนี้ฉันมาช่วยงานลี่ที่โรงแรมของนาง โดยที่ยัยลี่จัดที่พักของโรงแรมสุดหรูให้ฉันพักฟรีๆห้องนึงเลยพี่ภาคเองก็มาหาฉันทุกอาทิตย์โทรมาคุยด้วยทุกคืน จนมันเป็นความเคยชินไปแล้วถ้าหากวันไหนที่เขาไม่โทรหามันก็จะรู้สึกแปลกๆกระวนกระวายใจจนต้องเป็นฝ่ายโทรหาเขาเสียเอง แล้วก็จะโดนล้อว่าทนคิดถึงเค้าไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายโทรมาเองเลยวันนี้ยัยลี่ส่งโลเคชั่นให้ฉันตามไปเจอบอกว่าเป็นห้องเพื่อนนางที่คืนนี้จะมีปาร์ตี้กัน พอเลิกงานฉันก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องแล้วนั่งแท๊กซี่ออกไปตามนัดพอมาถึงฉันก็โทรขึ้นไปให้ยัยลี่ลงมารับฉันข้างล่าง แล้วก็พากลับขึ้นไปที่ห้องเพื่อนของนางที่อยู่ชั้น9"ไฮ้...พวกมึงนี่นิดหน่อยแม่...คนที่สองของกูเอง ส่วนนี่น้ำหอม แล้วนี่สามีนางชื่อกันต์ ส่วนที่นอยาวๆชื่อโซดา ส่วนคนหล่อๆคนนี้ชื่อแจสสส...ซี่""โอ๊ยยยอิลี่ต้องบอกว่าคนที่สวยๆสิยะถึงจะถูก" แจสซี่เพื่อนสาวของยัยลี่จีบปากจีบคอตอบพร้อมจิกตาใส่ นางน่ารักดีนะ"อิลี่อิผี...สวยๆอย่างกูจะมีนอได้ยังไ
"แล้วหนูไม่สงสารพี่หรอ?พี่เจ็บนะ"แค่พูดไม่พอผมก็เลยจับมือเธอมาสาธิตให้ดูว่าผมเจ็บ...ตรงไหนบ้างส่งสายตาเว้าวอนให้คนตัวเล็กสงสารและเห็นใจในความทุกข์ทรมานของผม จับมือบางทาบทับขอบกางเกงก่อนจะรูดซิบกางเกงแสล๊คลงช้าด้วยหัวใจที่สั่นระรัว'ให้ตายเถอะ!ทำไมมันตื่นเต้นอะไรขนาดนี้'นี่แค่มือของยัยตัวเปี๊ยกเองนะ แล้วถ้าเป็นอย่างอื่นเช่น....ล่ะจะขนาดไหนกันแค่คิดเจ้างูใหญ่มันก็ประท้วงผงาดเต็มที่เพื่อจะออกมาดูโลกภายนอกเต็มที่ล่ะยัยตัวเปี๊ยกของผมยังกล้าๆกลัวทั้งๆที่ตอนนั้นทั้งจับทั้งขยำเล่นอย่างมันมือด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าล่ะตอนนั้นมันอยู่ใต้ร่มผ้านี่ แต่วันนี้สัมผัสเนื้อแท้เน้นๆเต็มกำมือเชียวล่ะฝ่ามือบางค่อยๆโอบรอบเต็มลำที่แผ่ขยายชี้หน้าอย่างท้าทาย ผมวางมือซ้อนทับมือเล็กๆของยัยเปี๊ยกเอาไว้ก่อนจะนำพามือให้กำแล้วรูดขึ้นรูดลงช้าๆ..."ซี๊ดดดดด..."เสียงแหบพร่าครางแผ่วๆในลำคอ ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบ้เพราะความเสียวซ่าน ภายในอุ้งมือร้อนฉ่าจนเหมือนจะลวกมือเอาซะเลย ท่อนเนื้อกระตุกเป็นจังหวะทั้งร้อนทั้งแข็งจนฉันอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ฝ่ามือข้างที่ว่างของพี่ภาคก็ลดมาเคล้นคลึงสองเต้าสล้างของฉันอย่างสบายอุรา'ทำไมฉันร







