แชร์

ลิขิตรัก 3 ฝืนลิขิต

ผู้เขียน: ดุจเพชร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-20 21:37:25

ลิขิตรัก 3

ฝืนลิขิต

“ท่านจะไปจริงๆหรือ…” เสียงทุ้มลึกของนักฆ่าหนุ่มผู้มากความสามารถเอ่ยถามอย่างสงสัย โฉมหน้าภายนอกนั้นผู้พบเห็นเป็นต้องลุ่มหลงมัวเมาด้วยรูปลักษณ์แต่ใครจะล่วงรู้ว่าเขาได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่โหดเหี้ยม ฆ่าผู้อื่นได้อย่างเลือดเย็นหากมาขวางทางราชินีของตน แววตาเย็นชาทำให้ปีศาจสาวหลายตนอยากถวายตัวให้ยิ่งนัก แต่ก็ต้องเศร้าใจเพราะดวงใจของเขาไม่มีไว้ให้ผู้ใดนอกจากหญิง ‘ผู้นั้น’   แม้มิอาจเอื้อม ทำได้เพียงแหงนมองเสมือนสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตว์มองเจ้านายก็ตาม

“ข้าตัดสินใจแล้วซันซัส” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา เหม่อมองทิวทัศน์เห็นธรรมชาติสุดแสนจะงดงาม เวลานี้ไม่ใช่เวลามาชื่นชมความงามของมัน ภายในใจกระวนกระวายด้วยความสับสนยามคิดถึงคำพูดของบิดา

บัดนี้นางกำลังทิ้งหน้าที่อันใหญ่หลวงเพียงต้องการทำตามเสียงเรียกร้องของดวงใจ แม้นางจะยืนกรานอยากไปแต่ใครจะรู้ว่าใจนางนั้นแสนจะสับสนและกลัว…

“ท่านกำลังสับสน…”  ปีศาจหนุ่มถามขึ้น นัยน์ตาสีแดงเข้มจองมองเข้าไปในดวงตาที่กำลังสั่นไหวด้วยเหตุผลบางอย่างต้องการค้นหา ภายในห้องโถงใหญ่เกิดความเงียบเข้ามาทันที

“…”

“ข้าได้ยินจากเสนาปีศาจพวกนั้นพูดกัน ท่านจะไปหาชายคนรัก…”  เห็นว่าสตรีตรงหน้าสีหน้าไม่ดีนักจึงแสร้งเปลี่ยนเรื่อง แม้น้ำเสียงพูดจะปกติแต่ภายในใจปีศาจหนุ่มสุดแสนจะปวดร้าวและเจ็บปวดเหมือนโดนแทงซ้ำด้วยกริซ เมื่อต้องเอ่ยถึงชายคนรักของนาง หลายร้อยปีมาแล้วนางไม่เคยลืมชายผู้นั้นเลย  เขาพยายามใกล้ชิดกลับยิ่งถอยห่าง คล้ายดวงใจนี้มีไว้ให้คนผู้นั้นผู้เดียว

“ใช่ ข้ากำลังไปพบเขา”

“แล้วหน้าที่ท่าน…” เอ่ยแย้งขึ้นทันที ตนรับใช้ราชินีมาหลายร้อยปี ภาระหน้าที่ของราชินีนั้น หนักหนาสาหัสนักกับสตรีเพียงคนเดียว ไม่เคยมีจารึกในประวัติศาสตร์ใดมาก่อนว่าผู้ปกครองโลกปีศาจเป็นสตรี  หากถามว่าเขารู้ได้ยังไง  คงต้องเล่าย้อนไปถึง ‘อดีต’ ของเขาที่ได้พบกับนาง

“อย่ารู้เหตุผลของข้าเลย”  ความคิดสับสนคราแรกเริ่มเลือนหายไป  เมื่อคิดว่าตนนั้นกำลังได้พบกับชายคนรัก  แววตาทอประกายความมุ่งมั่น  ผิวขาวราวหิมะสะท้อนกับดวงจันทร์สว่างไสวเบื้องหน้า พานให้ผู้พบเห็นใจสั่นขึ้นมาทันที

“…”

“เพราะอาจทำให้ท่านตำหนิข้าได้”  หันหลังเพื่อสบตากับบุรุษผู้ซื่อสัตย์ที่มองนางจากด้านหลัง  นางเป็นราชินี ความรักกับหน้าที่ หน้าที่ย่อมมาก่อน แต่ขอแค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นที่นางจะเห็นแก่ตัว ทำตามใจสักครั้ง

“ข้ารู้ ราชินี ข้าเคารพการตัดสินใจของท่าน…”  แม้ใจจะปวดร้าวคล้ายโดนหอกแทงซ้ำแต่ปีศาจหนุ่มกลับเลือกพูดไปแบบนั้น  การแอบรักคนที่ไม่คู่ควรมักได้รับความเจ็บปวดเป็นผลตอบแทนเสมอ แต่แค่เห็นสตรีตรงหน้ามีความสุข  ชีวิตชายนักฆ่ามือเปื้อนเลือดอย่างเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วยแล้ว ฉะนั้นเขาจึงยิ้มอย่างส่งกำลังใจเพื่อให้นางมั่นใจมากขึ้น

“ขอบคุณเจ้ามาก ซันซัส” ลันเซียซึ้งใจยิ่งนัก  บริวารบางคนอาจยังไม่เข้าใจและอยากตำหนินาง  แต่ชายตรงหน้าผู้เปรียบเสมือนเพื่อน และพี่ชายคอยอยู่เคียงข้างไม่สนว่านางจะทำผิดแค่ไหน พร้อมปลอบนางเสมอยามมีเรื่องทุกข์ใจ ทั้งที่นางพยายามเข้มแข็งเมื่ออยู่ต่อหน้าบริวาร ซันซัสกลับมองออกในทันทีว่านางอ่อนล้าเหลือเกิน

“แล้วท่านจะไปยามใด” เป็นที่รู้ดีว่าหลักๆมี 3 โลกด้วยกัน คือสวรรค์ชั้นฟ้าเป็นที่ที่สวยงาม เทพทุกตนมีตบะบริสุทธิ์และรักสงบ ต่อมาคือโลกมนุษย์ อยู่กั้นกลางระหว่างสวรรค์กับภพปีศาจ จิตใจมนุษย์ย่อมมีหลายรูปแบบ บางคนแสนดีมีจิตใจเมตตา  บางคนต่ำช้ายิ่งกว่าปีศาจหรือสัตว์ในนรก ที่สำคัญเข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน และสุดท้ายโลกปีศาจ ส่วนนรกไม่นับเป็นโลกเพราะอยู่ต่ำสุดยังนรกภูมิ

โลกปีศาจแค่นามก็จำกัดความหมายอยู่แล้วว่าปีศาจ แม้รูปลักษณ์จะอัปลักษณ์แต่จิตใจปีศาจด้วยกันนั้นรู้ดีว่าแค่ภายนอก  ไม่ใช่ปีศาจทุกตนจะเป็นคนดีและขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ทุกตนที่จะเลว อย่างไรก็ตามมีด้านสว่างย่อมมีด้านมืดและด้านมืดที่พูดถึงคงหนีไม่พ้นพวกนอกรีต เป็นปีศาจที่ลุ่มหลงและมัวเมาในรูปลักษณ์และกามา พวกมันสามารถสมสู่และเปลี่ยนคู่ครองได้เหมือนสัตว์เดรัจฉาน  มักแปลงกายไปยังบนโลกมนุษย์เพื่อสนองตัณหาและแย่งชิงพลังตบะ  ล่างใต้สุดคือนรก ที่ที่ใครหลุดเข้าไปแล้วจะไม่สามารถออกมาได้อีกเลย

“ข้าจะไปยามสอง” ยามสองในโลกปีศาจคือช่วงใกล้เที่ยงคืน ซึ่งเวลานั้นเป็นยามที่โลกมนุษย์เงียบสงัด  จึงเหมาะกับการเดินทางมากที่สุด

“กาลนั้นได้เวลาแล้วพะย่ะค่ะ”

“จริงสิ…” นางแหงาหน้ามองท้องฟ้า มีพระจันทร์สว่างไสว คล้ายกำลังสะท้อนความเดียวดายของตนให้ผู้ที่พบเห็นได้รับรู้

“ข้าสงสารพระจันทร์เหลือเกิน  แม้อยากอยู่กับสุริยะแค่ไหนก็มิอาจอยู่เคียงข้างได้ แม้รักสุริยะแค่ไหนก็มีเวลากั้นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสอง…” สุรเสียงราชินีปีศาจเจ็บปวดระคนสงสาร

ข้ารู้เพราะต่อให้ข้ารักท่านแค่ไหน กำแพงที่ท่านสร้างก็กั้นกลางเราทั้งสอง  ปีศาจหนุ่มทำได้เพียงคิดในใจ

 “เหมือนข้ากับท่านอาคเนย์ยิ่งนัก แม้รักแค่ไหนก็มีชะตาลิขิตกั้นขวาง  แต่ข้าไม่เหมือนพระจันทร์หรอกนะ ข้าไม่ยอมอยู่เฉยๆเพื่อให้ได้พบกัน”

เพราะข้าจะเป็นคนไปหาคนรักเอง !!

“ลูกพร้อมหรือไม่ลันเซีย” เสียงทรงอำนาจเอ่ยถามบุตรี บัดนี้ตนและเหล่าบริวารต่างยืนอยู่บริเวณรอบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อรอส่งราชินีของปีศาจทั้งปวง โดยปีศาจที่เปลี่ยนตัวเองเป็นมนุษย์ผ่านบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นจะไม่สามารถกลับมายังโลกปีศาจได้หากยังไม่สิ้นอายุขัย อายุขัยมนุษย์สำหรับปีศาจนั้นช่างผ่านไปไวคล้ายหลับฝันไปไม่กี่ตื่นเท่านั้นเมื่อเทียบกับปีศาจซึ่งจะมีอายุหลายพันปี

“พร้อมเพคะ” 

เซเปโย อัลโกนาโด

วูบบบบบบบ !

แสงมากมายสว่างจ้าเมื่อจอมมารกล่าวจบแล่นออกจากตัวลันเซียที่เซเล็กน้อยเนื่องจากพลังมากมายมหาศาลหลั่งไหลออกจากร่างตน

ใช่ ท่านพ่อของนางทำอย่างที่กล่าวไว้จริงๆ  นางจะขึ้นไปบนโลกมนุษย์เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น ไม่มีพลังตบะใดๆ  หน้าสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ซีดเผือด ร่างกายกำลังปรับตัวกับสภาพความเป็นมนุษย์ ดวงตาสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนอย่างสวยงาม ผมสีฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทเฉกเช่นรัตติกาลคืนนี้

“เจ้าเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์แล้ว บุตรีแห่งข้า…” จอมมารมองบุตรของตนอันเกิดจากชายาที่รักอย่างห่วงใย  หากนางกลับจากจำศีลรู้เข้าคงได้เป็นลมไปแน่ เนื่องจากนางรักบุตรีมาก ยิ่งไปบนโลกมนุษย์ด้วยสภาพเช่นนี้  คงต้องรีบขึ้นไปตามบุตรสาวแน่ๆ หวังว่าลันเซียจะตามหาชายคนรักเจอก่อนที่มารดานางจะกลับมา พลางมองอาภรสีดำของบุตรีที่มิอาจปกปิดความงดงามของนางได้เลย

หากเปรียบกับมนุษย์ ถึงอย่างไรบุตรีของเขาก็เป็นเพียงหญิงสาววัยแรกแย้ม

 “ท่านพ่อ” ลันเซียวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดบิดา  หน้างดงามซบลงอกแกร่งต้องการที่พักพิง บัดนี้นางได้ยินเสียงหัวใจนางเต้นเหมือนมนุษย์ ย้ำเตือนว่านางได้กลายเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แล้ว

“เจ้าต้องเข้มแข็ง ลันเซีย’ เสียงอบอุ่นของผู้เป็นจอมมารดังขึ้น  เขาเชื่อในการตัดสินใจของบุตรสาว

“ราชินีจงเจริญ”

“ทรงเข้มแข็งนะพะย่ะค่ะ”

“อย่ายอมแพ้นะเพคะ” เสียงบริวารชั้นน้อยใหญ่ดังดึกก้อง แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้พวกเขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอีกต่อไป ตอนนี้พวกตนอยากเห็นราชินีมีความสุขหลังจากนางได้ปกครองโลกปีศาจอย่างสงบสุขตลอดมา

“พะ พวกเจ้า…” ลันเซียมองบริวารของตนอย่างซึ้งใจ

“พ่อและชาวเมืองมีของขวัญอยากมอบให้ลูก..”  จอมมารจับไหล่บุตรสาวให้ผละออก พร้อมหยิบดาบสีดำเงาวาว สลักด้วยอักษรโบราณรอบๆตัวดาบ  ชาวปีศาจเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดที่ดาบเล่มนี้ตัดไม่ขาดและพลังของดาบร้ายกาจขนาดไหน  มันคือดาบต้องห้ามหรือเรียกอีกชื่อว่าดาบศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่จะใช้มันต้องแลกมาด้วยอายุขัยที่ลดลง 1 ปี หากใช้ในทางที่ผิด ดาบนั้นจะคืนสนองสู่คนที่ใช้มัน จึงไม่มีใครใช้ได้นานนัก  ว่ากันว่าแม้แต่เหล่าเทพชั้นสูงๆยังไม่กล้าใช้ เนื่องจากมันมีทั้งคุณและโทษ พวกเขาจึงไม่กล้าเสี่ยงหากต้องยอมแลกพลังชีวิตกับการได้ใช้มัน

“ท่านพ่อก็รู้ว่ามัน…”  นางเคยจับดาบเล่มนี้ครั้งหนึ่งเมื่อ 300 ปีก่อน แม้ลันเซียไม่เคยกลัวว่าดาบเล่มนี้จะคืนสนองสู่ตน  เพราะมันจะไม่ทำอันตรายใดๆต่อนายที่มันเลือก สัญลักษณ์โบราณสลักที่อกนางย่อมเป็นหลักฐานว่าดาบต้องห้ามเลือกนางเป็นนายแล้วตั้งแต่ 300 ปีก่อน

แต่ก็อดตกใจไม่ได้ ดาบเล่มนี้เป็นดาบเก่าแก่  อยู่คู่เมืองปีศาจมาหลายชั่วอายุ แม้แต่ท่านพ่อเองก็ไม่กล้าเสี่ยงใช้มัน

“พ่อรู้ว่าลูกต้องใช้มันในทางที่ดี”

“ลูกไม่แน่ใจ…”

“เพราะลูกเป็นบุตรสาวของจอมมารและเทพธิดาสรวงสวรรค์”  จอมมารเอ่ยขึ้นทันควัน  เขาเชื่อมั่นว่าบุตรีจะไม่มีทางใช้ดาบในทางที่ผิดแน่นอน

“ลูกจะไม่ทำให้ผิดหวังเพคะ” 

จอมมารมองบุตรสาวเดินลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิด้วยความห่วงใย  ถึงแม้นางจะปกครองเหล่าบริวารปีศาจหลายร้อยหลายพันตน แต่นั่นแตกต่างกับสิ่งที่นางต้องพบเจอ โลกมนุษย์จะสอนบทเรียนให้นางเติบโตขึ้น

พ่อขอให้เจ้าโชคดีบุตรีแห่งข้า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 13 อนุคนแรก

    ลิขิตรัก 13 อนุคนแรก“อ๊ะ อื้มมมม” ไม่ทันได้ตอบกลับ ริมฝีปากโดนปิดด้วยริมฝีปากหนาของคนที่คร่อมอยู่ทันที มือของเขาอยู่ไม่นิ่ง จับร่างกายไปทุกส่วน ข้าสะดุ้งทันทีที่เขาจงใจกดร่างกายท่อนล่างกับส่วนนั้นของข้าทั้งที่ตัวเองยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบ แต่มันก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้“อื้มมม” เขาครางกระหึ่มอย่างพอใจและยิ่งกระหายในกายข้ามากยิ่งขึ้นเมื่อมือแกร่งจับมือนิ่มของข้าให้เลื่อนลงไปสัมผัสกลางลำตัวที่บัดนี้โป่งพองแข็งสู้มือข้าจนแทบจะระเบิด แต่ดูเหมือนเขาพยายามข่มอารมณ์ไว้คล้ายอยากเล่นสนุกกับร่างกายข้ามากกว่านี้“อ้าปาก” ดุเสียงเข้มเมื่อข้าปิดปากไม่ให้ลิ้นร้อนนั่นเข้ามาได้อีก“อ๊ะ!” เขากัดริมฝีปากข้าเมื่อเห็นว่าข้ายังดื้อไม่ยอมเปิดปากตามเขาสั่ง ก่อนจะครางอย่างพอใจเมื่อลิ้นร้ายกาจเข้ามาไล่ต้อนข้าได้อย่างจนมุมปากหนายังไซร้คอข้าอยู่และมีทีท่าว่ากำลังจะเลื่อนลงมายังหน้าอกหน้าใจที่มันใหญ่จนล้นมือเขา มือทำหน้าที่ไม่อยู่นิ่ง บีบคลึงหน้าอกอย่างมันมือ ส่วน

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 12 หลอกใช้

    ลิขิตรัก 12 หลอกใช้เพล้ง !“เป็นอันใดหรือเจ้าคะท่านพี่เฟยหลง” เสียงหวานเอ่ยถามชายคนรัก เมื่อเห็นร่างสูงปล่อยความกดดัน จนแจกันแตกเป็นเสี่ยงๆ“มิเป็นอันใด ต้องขออภัยเหมยเอ๋อร์ด้วยแล้วที่ทำให้เจ้าตกใจ” ชายหนุ่มหันมองหญิงคนรักที่เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ สบถในใจที่เผลอใช้พลังจนอาจเกือบทำให้หญิงคนรักบาดเจ็บ“น้องมิเป็นอันใดเจ้าค่ะ ว่าแต่ผู้ใดหนอที่ทำให้ท่านพี่อารมณ์ไม่ดีเช่นนี้”“เรื่องงานหน่ะ” ร่างสูงไม่ได้โกหก ทุกคืนเขาจะออกไปตรวจในเมืองโดยรอบ จนบางวันปะทะเข้ากับพวกนอกด่านแทบไม่ได้นอน แต่ส่วนหนึ่งคิดไปถึงต้นตอที่ทำให้ตนเป็นเช่นนี้อีกเรื่อง อยากจัดการกับหญิงไร้ยางอายนั่นเด็ดขาด แต่ทำไมใจมันถึงสั่นตลอดเมื่ออยู่กับนางอาคเนย์ที่นางใช้เรียกเขานั้นไม่รู้เป็นชายใด แต่พอนางพูดชื่อนี้ ใจเขามันหงุดหงิดทุกครั้ง แทบอยากกระชากร่างบางให้หยุดเรียกชื่อนั้น แล้วจดจำเพียงชื่อเขา พลันความคิดต้องหยุดชะงักลงยามเขาได้จับไปที่สร้อยท

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 11 ไร้ยางอาย

    ลิขิตรัก 11 ไร้ยางอาย “อุ้ย พี่เฟยหลง”“เดินระวังๆสิ เหมยเอ๋อร์” เสียงทุ้มที่เดินตามหลังประคองร่างบอบบางของคนรักไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม สายตาคมดุคนในอ้อมแขนไม่จริงจังนัก“คิกๆ เหมยเอ๋อร์รู้อยู่แล้วว่าพี่ต้องไม่ปล่อยให้เหมยเอ๋อร์เป็นอันใด” เสียงหวานใสตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม“พี่อยู่กับเจ้าได้มิตลอด เจ้าก็ต้องระวังตัวให้มาก” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความเป็นห่วง พลันครุ่นคิดเรื่องที่ได้ยินมาตลอดเวลา ศัตรูย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเร้นหาจุดอ่อน หากพวกมันรู้ว่าเขามีคนรักต้องหาทางทำร้ายนางเป็นแน่“อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างงั้นสิเจ้าคะ เหมยเอ๋อร์มิเป็นอันใดง่ายๆหรอกนะ” นางบอกคนรักที่ทำหน้ากลัดกลุ้มใจอย่างชัดเจน“พี่ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น”“จริงสิ สร้อยที่น้องให้...”“พี่ใส่ติดตัวไว้ตลอดเลยล่ะ” หยางหลงสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปก่อนจะยกแขนข้างขวาที่สวมสร้อยลูกปัด ซึ่งคนรักร้อยเองกับมือขึ้นมาให้ดู เขาใส่ต

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 10 ไม่เชื่อใจ

    ลิขิตรัก 10ไม่เชื่อใจ“เจิ้นมิเคยเห็นเจ้าทำหน้าเครียด มีเรื่องทุกข์ใจอันใดหรือ” ชายหนุ่มบนบัลลังก์เอ่ยถามสหายที่ยามนี้เหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“หามิได้พะย่ะค่ะ” ร่างหนาผู้ถูกถามตอบกลับคล้ายปฏิเสธกลายๆ“อืมม หรือเจ้ากำลังคิดถึงหญิงนางนั้น” สายตาคมปราดมองอย่างหยอกล้อ หญิงนางนั้นที่ว่าคงหนีไม่พ้นนางที่ลานประลองแคว้นเฟิง“กระหม่อมมิสนผู้ใจนอกจากเหมยฟาง” และเขาก็ยังคงกล่าวออกมาเช่นเดิม สายตาเย็นชาช่างราบเรียบคล้ายเหนื่อยหน่ายกับทุกสิ่ง จนผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นต้าเช่นเขานึกอยากเห็นว่าจะมีหญิงใดในหล้าทำให้แม่ทัพใหญ่ผู้นี้เปลี่ยนไปได้หรือไม่ ซึ่งแม้กระทั่งคู่หมายที่เป็นบุตรสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้ายเองก็ยังมิอาจทำได้“หึ ๆ เจิ้นก็ยังตรัสคำเดิมว่าจะรอดู”“หากหวงช่างเชิญมาเพียงเท่านี้ กระหม่อมขอลา” ชายหนุ่มลุกขึ้นโดยยังไม่ได้รับอนุญาต หน้าตานิ่งเฉยบ่งบอกว่าไม่เกรงกลัวอาญาเลยแม้แต่น้อย“ดะ เดี๋ยวเจิ้นมีเรื

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 9 พบเจอ

    ลิขิตรัก 9พบเจอหนึ่งชั่วยามผ่านไปจบเสียที…กี่ตัวกันนะ 10 ตัว 50 ตัว หรือมากกว่านั้น ข้าทิ้งตัวลงนอนที่พื้นอย่างคนหมดแรง เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด คิดว่าถ้ากลับไปต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วยามกว่าจะล้างมันออกหมด ตามร่างกายมีรอยกรงเล็บที่ร่างกายสมานบาดแผลไม่ทันเนื่องจากมันมีเยอะเกินไปโฮกกกกกเหลืออีกตัวหรือ ข้าหันไปมองทางต้นเสียง เห็นมันหนึ่งตัวขู่คำราม เห็นเขี้ยวแหลมคมที่สามารถฉีกร่างกายมนุษย์พร้อมกินอย่างไม่เหลือแม้แต่กระดูก มันทำท่าพร้อมกระโจนเข้ามาทุกเมื่อ แต่ข้าหมดแรงแล้วนะ คิดในใจทว่าสมองสั่งให้ลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับหนักอึ้งแขนขาขยับได้อย่างยากลำบากอาจเป็นเพราะนี่มันเลยขีดจำกัดของความเป็นมนุษย์มามากแล้ว สุดท้ายจึงล้มตัวลงนอนที่เดิม จบแล้วสินะ ชีวิตข้าคงมาได้เพียงเท่านี้ ข้าขอโทษท่านพ่อท่านแม่ที่มิอาจกลับไปหาพวกท่าน ลาก่อนท่านอาค

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 8 เทพเซียน

    ลิขิตรัก 8 เทพเซียนยามจื่อ (23.00 - 24.59 น.)“ฝั่งนั้นมีกี่ตัว” ข้าสวมชุดสีดำทะมัดทะแมง พร้อมผ้าคาดผืนบาง เหลือเฉพาะดวงตา มองไปมาเหมือนนักฆ่าไม่มีผิด“2 ตัวขอรับ” ฮุ่ยเฉินที่แต่งตัวไม่ต่างจากข้าเอ่ยบอก ตอนนี้บาดแผลเขาสมานกันดีแล้ว เหลือเพียงรอยขีดข่วนจากกรงเล็บที่แขนนั่นนิดหน่อย พละกำลังก็เหมือนจะฟื้นตัวแล้วด้วย ข้าคงลืมบอกอีกอย่างสินะ เลือดของข้าหน่ะ นอกจากจะรักษาบาดแผลแล้วยังฟื้นฟูพลังตบะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงไม่อยากให้ผู้อื่นรู้เรื่องนี้ เพราะข้าเกลียดความวุ่นวาย“จัดการ” ข้าบอกเขาเสียงเรียบก่อนที่ตัวเองจะปรี่ตัวเข้าไปจัดการอีกฝั่งที่มี 5 ตัว ลักษณะของมันแตกต่างจากซือเป่าลิบลับ เหมือนสัตว์อสูรกายมากกว่าเป็นสัตว์อสูร มันมองมาอย่างหิวโหยแต่ก่อนที่มันจะกระโจนใส่ ข้าชิงเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาก่อนจะฟันไปที่ลำตัวของมันจนเลือดสีดำคล้ำสาดกระเด็นเปื้อนชุดข้าและนี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกหยิบชุดสีน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status