ฉันนั่งอ่านหนังสือสัญญาอย่างละเอียดก็ไม่มีข้อไหนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่โอเคหรือมีปัญหาเลย ฉันเลยตัดสินใจลงชื่อบนเอกสารจ้างงานแล้วเดินเอาไปส่งให้กับพี่นุ่นทันที
"พี่นุ่นค่ะ"ฉันเรียก "นี่ค่ะ" ฉันพูดแล้วส่งหนังสือสัญญาให้กับพี่นุ่น "อ่านละเอียดดีแล้วใช่ไหม" "ค่ะ" พี่นุ่นรับสัญญาในมือฉันแล้วหันไปหาพี่บอส "บอสเดี๋ยวพาคุณดาวขึ้นไปรอท่านประธานบนห้องให้พี่หน่อยนะ" พี่บอสทำหน้าตกใจ "เอ่อ~...มันจะดีหรอครับพี่นุ่น ผมว่ารอให้ท่านประธานมาถึงก่อนดีไหมครับผมไม่อยากทำผิดกฎข้อสำคัญ พี่นุ่นก็รู้นิครับว่าท่านประธานไม่ชอบให้ใครเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวก่อนได้รับอนุญาต...โอ๊ะ! เอางี้ไหมครับพวกเราขอร้องให้ชัชจัดการเรื่องนี้ให้แทนดีไหมยังไงซะถึงตอนนั้นถ้าท่านประธานโกรธจริง ๆ ก็คงไม่ว่าอะไรยังไงซะถ้าเป็นชัชก็ดีกว่าพวกเราแน่นอน" ฉันได้แต่สงสัยว่าทำไมเขาต้องห้ามขนาดนั้นด้วยก็แค่ห้องทำงานไม่ใช่เหรอหรือว่ามันมีของมีค่าอะไรอยู่ในนั้นหรือเปล่า "ไม่เป็นไร ท่านประธานเป็นคนบอกกับพี่ไว้เอง" "ฮะ! จริงหรอคะ" พี่แหม่มรีบหันมาถามทันทีเหมือนไม่อยากจะเชื่อ "จริงสิ ไม่งั้นพี่จะกล้าบอกให้บอสพาขึ้นไปหรอ" "ไม่อยากจะเชื่อเลย~ พวกเราทำงานที่นี่มาตั้งนานยังไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าข้างในห้องทำงานของท่านประธานเป็นแบบไหน" พี่เจนพูด "นั่นดิ แต่ว่าคุณดาวมาทำงานในตำแหน่งเลขาหนิเนอะยังไงซะก็ต้องทำงานกับท่านประธาน ท่านประธานจะให้เข้าไปก็คงไม่แปลกหรอก" พี่แหม่มตอบ "พี่ก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน ทำงานที่นี่มาเป็นสิบๆ ปีก็มีแค่ท่านประธานคนนี้แหละที่เป็นแบบนี้ ตั้งแต่เขามารับตำแหน่งแทนท่านประธานคนก่อน พี่ก็เคยมีโอกาสได้ขึ้นไปหาเขาบนห้องแค่ครั้งเดียวเอง" พี่นุ่นพูด "แต่ครั้งนี้ผมขึ้นไปได้จริงๆ ใช่ไหมครับ" พี่บอสถาม "ได้สิ เชื่อพี่" พี่นุ่นตอบ "งั้นก็โอเคครับ" พี่บอสพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินมาหาฉัน "เชิญครับคุณดาว" พี่บอสพูด ฉันมองไปที่บัตรพนักงานของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะแปปนึงก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมาคล้องคอแล้วก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันหน้าไปยิ้มให้พี่บอส "พี่บอสนำดาวเลยค่ะ" พี่บอสพยักหน้าแล้วเดินนำฉันออกไป "พี่บอสทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วค่ะ" ฉันถามเพราะกลัวว่าพี่เขาจะอึดอัด "ผมทำงานที่นี่มา 5 ปีแล้วครับ" พี่บอสตอบ "พี่บอสพูดเป็นกันเองกับดาวได้เลยนะคะถึงดาวจะอยู่ในตำแหน่งเลขาท่านประธานแต่ดาวก็เป็นรุ่นน้องของทุกคน ยังไม่มีประสบการณ์อะไรมากคงต้องลำบากพวกพี่ ๆ ทุกคนดูแลดาวแล้วล่ะค่ะ" "ครับ ให้เรียกเลขาท่านประธานแบบกันเองก็แอบเกร็งอยู่นะครับคงต้องใช้เวลาหน่อยผมถึงจะชิน เชิญคุณดาวครับ" พี่บอสพูดพร้อมกับผายมือส่งให้ฉันเดินออกมาก่อน พอเดินฉันเดินออกจากลิฟท์มาพี่บอสก็ขอตัวกลับทันที "เอ่อ...ขอโทษนะครับแต่ว่าผมขอส่งแค่นี้นะครับ คุณดาวเดินตรงไปจนสุดทางประตูสีขาวห้องในสุดห้องนั้นเลยครับ คุณดาวเข้าไปรอท่านประธานได้เลยนะครับแม่บ้านน่าจะเปิดห้องไว้ให้แล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะพอดีงานผมเยอะมากเลย" พี่บอสพูดท่าทางดูสั่นกลัวแปลก ๆ จากนั้นก็รีบกดปิดลิฟท์ไปเลย ท่าทางท่านปนะธานคนนี้คงเป็นตาแก่ที่ดุมาก ๆ แน่เลยทุกคนเลยกลัวขนาดนี้ ฉันค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ อยากจะบอกว่าชั้นนี้เงียบมากนึกว่าตึกร้างแถมยังมีหลายห้องอีกด้วยแต่ดูแล้วทุกห้องล้วนปิดเงียบไม่มีคนใช้งานเลย ฉันเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงประตูห้องทำงานของท่านประธานหน้าห้องมีโต๊ะทำงานตั้งอยู่ 2 โต๊ะ ฝั่งขวาเป็นโต๊ะเปล่า ๆ ที่มีแค่คอมวางไว้ 1 เครื่องส่วนฝั่งซ้ายมีอุปกรณ์ของใช้และแฟ้มเอกสารที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ฉันเงยหน้ามองประตูหน้าห้องที่มีป้ายเขียนไว้ว่า "ห้องผู้บริหาร" พร้อมกับมีป้ายเล็ก ๆ ห้อยไว้ข้างล่างว่า personal area (พื้นที่ส่วนตัว) แค่เห็นป้ายหน้าห้องฉันก็รู้สึกขนลุกไปหมดแล้ว ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องภาพที่เห็นคือห้องนี้สะอาดและมีกลิ่นหอมมากของทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นระเบียบมากยกเว้นแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะมันเยอะจนรกไปหน่อย ในห้องเป็นห้องที่มีม่านปดกันการมองเห็นจากข้างนอกทุกมุมเหมือนไม่อยากให้คนรู้ว่าห้องนี้มีคนอยู่ อีตาประธานคนนี้มันต้องเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากแน่เลย ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาเพื่อรอท่านประธานมาทำงาน "โห~ แค่โซฟายังดูแพงเลยจะกล้านั่งไหมเนี้ย" ฉันพููดแล้วมองดูโซฟาพร้อมแต่ส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความเว่อร์วังของห้องนี้ ________________________________________________ 08:00 น. รถหรูคันสีดำวิ่งเข้ามาหน้าประตูบริษัทชัชวาลที่นั่งรออยู่ก็รีบวิ่งมารับผู้ที่มาถึงทันที "สวัสดีครับท่านประธาน" ทศราชยื่นกระเป๋าส่งให้ชัชแล้วเดินนำเข้าบริษัทไป ยามก้มหัวเพื่อเป็นการทำความเคารพทันที ออร่าของเขาดูทรงอำนาจมากแค่เห็นทุกคนก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังแล้ว "เธอมาถึงหรือยัง" ทศราชถามด้วยใบหน้านิ่งๆ "เห็นคุณนุ่นว่าเธอมาถึงแต่เช้าแล้วครับตอนนี้น่าจะนั่งรออยู่ในห้องของท่านประธานครับ" ลิฟต์เปิดออกที่ชั้นทำงานของทศราชเขาก้าวเดินออกมานิ่ง ๆ จนถึงหน้าประตูห้องทำงานจากนั้นเขาก็หยุดแล้วหันกลับมาหาชัชพร้อมแบมือไปขอกระเป๋าคืนจากเขา "ครับ" ชัชถามอย่างงงๆ "กระเป๋าผม" "อ๋อ ๆ นี่ครับท่านประธาน" ชัชตอบแล้วส่งกระเป๋าคืนให้กับทศราชแต่ในใจก็ยังแอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมทศราชถึงไม่ให้เขาเข้าไปส่งข้างในเหมือนทุกครั้งเพราะปกติทศราชจะให้ตนเอากระเป๋าเข้าไปวางให้ถึงโต๊ะตลอด "ผมยังไม่ได้กินอะไรมาเลยคุณช่วยไปชงกาแฟให้ผมหน่อยนะ" ชัชตอบรับแล้วรีบเดินออกไปที่ห้องกาแฟทันที เมื่อมาถึงห้องกาแฟชัชก็ได้แต่ครุ่นคิดและก็งงเข้าไปใหญ่เพราะปกติการชงกาแฟไปเสิร์ฟให้ท่านประธานถึงห้องมันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำทุกวันอยู่แล้วเหมือนกันทำไมวันนี้ทศราชต้องออกปากสั่งให้เขาออกมาทำแต่ถึงแม้จะสงสัยแค่ไหนเขาก็ไม่มีสิทธิ์ถามออกไปอยู่แล้ว ทศราชใช้สายตามองตามชัชไปจนมั่นใจว่าชัชเดินเข้าไปที่ห้องกาแฟแล้วจากนั้นเขาจึงหันกลับมามองที่ประตูห้องก่อนที่จะเปิดมันเข้าไป เขาหันขวามาทางโซฟาเห็นดวงดาวที่นั่งรออยู่ทั้งคู่สบตากันอยู่พักนึงก่อนทศราชจะหันกลับแล้วปิดประตูลง ดวงดาวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเขาแต่สายตาของเธอยังคงมองจ้องมาที่ทศราชอย่างไม่วางตา เธอดูตกตะลึงไม่น้อยที่รู้ว่าทศราชทั้งหนุ่มทั้งแน่นรูปร่างสูงโปร่งผิวพรรณดีที่ใครเห็นเป็นต้องหลงกันทั้งนั้น ทศราชเองก็ไม่คิดว่าตัวจริงของดวงดาวจะดูดีกว่าวีดิโอวันนั้นซะอีก1 สัปดาห์ต่อมา ฉัันยังคงมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวันแต่ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือการทำงานของฉันดูราบลื่นขึ้นมากและได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อย ๆ แถมพนักงานหลายๆ คนก็เริ่มให้ความการเคารพฉันในฐานะเลขาของคุณทศบ้างแล้วจากที่ตอนแรกดูจะตึง ๆ และไม่ชอบฉันอย่างเห็นได้ชัด "คุณดาวหลังจากที่ทีมการตลาดได้โฆษณาออกไปผลตอบรับของโครงการหมู่บ้านที่พัทยาเป็นยังบ้าง" คุณ "ดีมากเลยค่ะคุณทศตอนนี้ลูกค้ากำลังให้ความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมากแล้วก็มีสปอนเซอร์รายใหญ่ติดต่อมาหลายบริษัทเลยค่ะ" "งั้นก็ดีแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ" ฉันก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาแล้วมานั่งทำงานของตัวเองต่อเหมือนเดิม พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันฉันก็กดสั่งอาหารมาไว้ให้เขาตามปกติก่อนจะลงไปทานมื้อกลางวันของตัวเองที่โรงอาหาร โรงอาหาร ทุกคนนั่งทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันกันอย่างสนุกสนานมีทั้งเรื่องรถติดบ้าง ทะเลาะกับสามีบ้าง มีปัญหาหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง "น้องดาวเย็นนี้ว่างไหมจ๊ะ" "ก็ว่างนะคะพี่เจนพอดีดาวไม่ได้มีงานด่วนอะไรด้วย" งั้นน้องดาวไปกับพวกเราไหม" พี่เจนถาม "พวกพี่จะไปไหนกันหรอคะ"
"อะไรนะ!!" เสียงของอนุวัฒน์ดังขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทมารายงานข่าวเรื่องที่ดิน ที่เขาเคยยื่นขอเสนอไปแต่ก็ถูกตัดหน้าไปก่อนอย่างหน้าเสียดาย"คึ...คือคุณลดาเธอบอกว่าเธอนำที่ดินไปลงทุนกับบริษัท KTK แล้วครับ" ดนัยตอบ (ลูกน้องของอนุวัฒน์)"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเราติดต่อพูดคุยกับคุณลดาไว้ตั้งแต่หลายเดือนแล้วนิว่าเราจะขอซื้อที่ดินตรงนั้นของเธอด้วยเงินสด ทำไมเธอถึงยังปฎิเสธเราได้อีก นี่แกประสานงานยังไงกันแน่ว่ะ" อนุวัฒน์ถามด้วยความโมโห"คือผมทำตามที่คุณอนุวัฒน์สั่งจริงๆ นะครับแต่ผมทราบมาว่าคุณทศราชผู้บริหารคนใหม่ของทางบริษัท KTK ได้ยื่นขอเสนอให้คุณลดาเป็นหุ้นส่วนโครงการใหม่ที่ทางบริษัทนั่นกำลังจะทำขึ้นในอีกไม่ช้าแถมยังให้เปอร์เซ็นที่สูงอีกด้วย เธอก็เลยเกิดลังเลกับข้อเสนอของเราแล้วตกลงเซ็นต์สัญญากับทางนู้นครับ" ดนัยตอบ อนุวัฒน์รู้สึกโกรธยิ่งขึ้นอีกเมื่อรู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งจะก้าวเข้าวงการของธุรกิจอย่างทศราชมาชิงตัดหน้าเขาไป เขาติดต่อกับคุณลดามาเป็นเวลานานมากกว่าคุณลดาจะยอมเปิดใจอ่านสัญญาซื้อขายกับเขา เสียทั้งเงินทั้งเวลทไปก็ไม่ใช้น้อยเพื่อซื้อใจฝั่งนั้นแต่กลับมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่เ
ฉันค่อย ๆ นั่งลงตามที่คุณทศสั่ง "คุณทศจะไม่กลับบริษัทหรอคะ" "ผมหิวข้าวน่ะ" ฉันตกใจรีบยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาทันทีถึงได้รู้ว่านี่มันเลยเวลาอาหารกลางวันของคุณทศมานานแล้ว "โอ้! จริงด้วย ดาวขอโทษนะคะที่ไม่ได้สั่งอาหารกลางวันมาให้คุณทศ" "เราอยู่กันที่ร้านอาหารนะไม่ใช่บริษัทถึงคุณจะสั่งอะไรมาให้ผมผมก็กินไม่ได้อยู่แล้วป่ะ" "ดาวขอโทษค่ะ" ฉันมัวแต่ลนจนทำขายหน้าคุณทศอีกแล้ว "อยู่กับผมคุณไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรที่ไม่ได้ทำผิด เข้าใจไหม! ได้ยินทีไรล่ะรู้สึกหงุดหงิดทุกที" "ขอโท- " ฉันกำลังจะเผลอพูดคำนั้นออกมาอีกครั้งแล้วแต่ก็เจอเข้ากับสายตาที่มองมาอย่างดุๆ ก็เลยชะงักไปก่อน "เอ่อ~ รับทราบค่ะ" "แล้วนี่คุณไม่หิวหรือไง" คุณทศถาม "ดาวว่าจะกลับไปทานที่บริษัทค่ะ" "นี่มันจะบ่ายสองแล้วกว่าจะไปถึงบริษัทก็เกือบเลิกงานพอดี ผมทนหิวขนาดนั้รไม่ไหวหรอกนะ" คุณทศตอบแล้วยกมือเรียกให้พนักงานมารับออร์เดอร์ "คุณอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" คุณทศพูดแล้วลงไปดูเมนูอาหาร ฉันรับเมนูจากพนักงานมาเปิดดูก็ถึงกับอึ้งไปเลยไม่รู้ทำไมอาหารทุกอย่างมันถึงได้แพงขนาดนี้ ราคาอาหารต่อจานโหดแบบนี้ฉันสามารถใช้เป็น
ฉันกับคุณทศมาถึงร้านได้ประมาณ 30 นาที แล้ว ฉันได้แต่นั่งเงียบไม่กล้าพูดอะไรเพราะเห็นว่าคุณทศกำลังดูอะไรในโทรศัพท์ไม่รู้สีหน้าจริงจังแต่ระหว่างนั้นคุณทศเขาก็ได้สั่งน้ำผลไม้มาให้ฉันด้วยนะ ไม่นานก็มีผู้หญิงผู้ชายคู่หนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเราเมื่อพวกเขาเดินมาถึงคุณทศกับฉันก็รีบยืนขึ้นทักทายทันที "สวัสดีค่ะคุณทศราชรอนานไหมคะ" "สวัสดีครับคุณลดา คุณเอกภพรอไม่นานเลยครับพวกเราเองก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญนั่งก่อนสิครับ" คุณทศพูดด้วยคำสุภาพน้ำเสียงทุ้มน่าฟังสุด ๆ แต่เดี๋ยวนะรอไม่นานอะไรละนี่มันตั้งครึ่งชั่วโมงเลยนะ "คุณลดากับคุณเอกภพสั่งอะไรก่อนดีไหมครับ" "ไม่ดีกว่าครับพวกเราทานมาแล้ว" "เอ่อ! นี่คือคุณดวงดาวเลขาของผมครับ" ฉันรีบก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพและกล่าวแนะนำตัวอย่างมีมารยาท "งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ" พอคุณทศเริ่มพูดฉันก็หยิบแผนโครงการออกมาส่งให้คุณลดากับคุณเอกภพทันที "โครงการนี้คาดว่าจะเปิดพร้อมเข้าอาศัยประมาณสิ้นปีนี้ครับ จะมีบ้านทั้งหมด 25 หลังแบ่งเป็นหลังใหญ่ 10 หลังและบ้านขนาดกลาง 15 หลังครับ ทางเราคาดการงบของโครงการประมาณไว้ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาทครับ ตอนนี้จากก
ฉันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็กำลังนั่งคุณทศอยู่ที่ล็อบบี้ ฉันคิดมาตลอดทางว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชัชเคยทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดต่อความตั้งใจของเขา พอรถของคุณทศมาจอดที่หน้าประตูบริษัทฉันก็รีบเดินไปรอรับเขาทันที ตอนแรกฉันกะว่าจะช่วยเปิดประตูรถให้ด้วยแต่ก็เข้าไปไม่ทันพี่รปภ.ที่ยืนรออยู่ ฉันเลยได้แต่ยืนมองดูด้วยความเสียดายและหลังจากที่คุณทศลงมาจากรถฉันก็ยื่นมืือไปขอกระเป๋าและเอกสารในมือเขาทันที คุณทศมองหน้าฉันแป๊ปนึงก่อนที่จะส่งของทั้งหมดมาให้ ฉันรับมันแล้วเดินตามหลังคุณทศไปติดทๆ ฉันเห็นคุณทศเหล่มองมาที่ฉันหลายครั้งสงสัยคงยังไม่ชินละมั้ง พอประตูลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบเดินตามเข้าไปจนเผลอชนเข้ากับหลังของเขาจัง ๆ "ขอโทษค่ะ" ฉันพูดแล้วรีบถอยตัวหนีทันที "เอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง" "เรียบร้อยแล้วค่ะ" เขาเป็นคนที่เดินเร็วมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะขายาวด้วยหรือเปล่าทำเอาฉันที่สับแทบตายก็ยังตามไม่ทันบวกกับมีรองเท้าส้นสูงด้วยแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่เลย "เดี๋ยวคุณเข้าไปคุยกับผมในห้องด้วยนะ" คุณทศพูดแล้วเปิดประตูเข้าไปห้องให้ฉันเดินเข้าไปก่อน เขาคงเห็นว่าฉันถือของมาเยอะเลยไม่สะดวกเปิดประตู
หลังจากเลิกงานฉันก็ออกมานั่งรอแท็กซี่อยู่ที่หน้าบริษัท "ไปไหนครับ" พี่คนขับถาม "ไปตลาดคุ้มฟ้าค่ะ" "ได้ครับ" เค้ากดมิเตอร์ทันทีก่อนจะขับรถออกไปพอมาถึงตลาดฉันก็รีบหยิบเงินส่งให้พี่คนขับแล้วลงจากรถเพื่อไปหาแม่กับป้าน้อย ปกติหนึ่งวันของบ้านเรานั้นช่วงเช้าแม่กับป้าน้อยจะทำขนมออกมาขายด้วยกันที่ตลาด พอเริ่มสาย ๆ หน่อยคนก็จะซาแล้วป้าน้อยก็จะเดินไปซื้อพวกของสด วัตถุดิบต่าง ๆ ในตลาดเพื่อมาเตรียมทำกับข้าวไว้ขายตอนเย็นต่อเป็นพวกข้าวแกงถุง โชคดีที่ตลาดที่นี่ทำเลดีอยู่ตรงกลางระหว่างโรงงาน โรงเรียน วัดและก็ศาลเจ้าเลยทำให้มีคนเดินพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นวันพระหรือเทศกาลต่าง ๆ นะก็จะยิ่งขายดี ตอนเช้าส่วนใหญ่บ้านเราจะทำเป็นพวกขนมหวานขนมไทยแต่อาจจะมีพวกเค้กกับของหวานอื่นบ้างสลับกันไปมาส่วนช่วงเย็นก็จะเน้นขายพวกกับข้าวถุงซะส่วนใหญ่นอกจากจะมีขนมเหลือจากตอนเช้าบ้างที่จะเขาออกมาขายด้วยแต่รับรองไม่มีขนมค้างคืนแน่นอน ช่วงตอนเย็นกับข้าวร้านเราขายดีมากไม่เคยเหลือเลยสักวันเพราะทั้งถูกและอร่อยๆด้รับการการันตีจากลูกค้าตลอดโดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเราจะเน้นไปที่พนักงานโรงงานที่เลิกเพิ่งเลิกงานกัน ช่วง 5-6