Share

๑๓ หลักฐาน

last update Last Updated: 2025-10-17 22:15:30

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ร้านของเยว่ซินก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เหตุการณ์อันธพาลบุกร้านในวันนั้นไม่เพียงแต่ไม่ทำให้กิจการของพวกเขาต้องหยุดชะงัก แต่กลับกลายเป็นยาชูกำลังชั้นดีที่ทำให้ชื่อเสียงของร้านโด่งดังยิ่งขึ้นไปอีก

ชาวบ้านและลูกค้าต่างพากันแสดงความเห็นใจและชื่นชมในความกล้าหาญของครอบครัวหลิน หลายคนถึงกับอาสาเข้ามาช่วยซ่อมแซมร้านโดยไม่คิดค่าแรงด้วยซ้ำ ยอดขายหลังเปิดร้านใหม่พุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เพราะตอนนี้ผู้คนไม่ได้มาซื้อแค่เสื้อผ้า แต่ยังมาเพื่อสนับสนุนความถูกต้องที่ครอบครัวหลินเป็นตัวแทน

บรรยากาศดูเหมือนจะกลับมาสดใส แต่หลินเยว่ซินกลับไม่เคยประมาทแม้แต่วินาทีเดียว เธอรู้ดีว่าการตีงูต้องตีให้ตาย หากปล่อยให้เลื้อยหนีไปได้ มันก็จะย้อนกลับมาฉกกัดเราในวันใดวันหนึ่งอย่างแน่นอน และอสรพิษที่ชื่อซูเหม่ยลี่ก็คงไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ง่าย ๆ แค่นี้แน่

ด้วยความคิดนี้เอง เยว่ซินจึงเริ่มเตรียมการรับมือกับพายุลูกต่อไปอย่างเงียบ ๆ เธอเริ่มรวบรวมและจัดเก็บเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างเป็นระบบ ภาพร่างการออกแบบทุกชิ้นถูกลงวันที่และเก็บใส่แฟ้มอย่างดี ใบเสร็จค่าผ้าทุกใบถูกเก็บรวบรวมไว้พร้อมระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน บัญชีรายรับรายจ่ายถูกทำขึ้นอย่างละเอียด

ณ คฤหาสน์ตระกูลซู ซูเหม่ยลี่แทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความคลั่งแค้นเมื่อได้ยินว่าแผนการใช้อันธพาลของเธอล้มเหลวไม่เป็นท่า แถมยังกลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาสร้างความเห็นใจให้กับศัตรูอีกต่างหาก บิดาของเธอเมื่อทราบเรื่องก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟและสั่งห้ามเธอใช้วิธีการสกปรกเช่นนี้อีก

ในเมื่อวิธีเถื่อน ๆ ใช้ไม่ได้ผล เธอก็จะเปลี่ยนมาใช้วิธีของผู้ดีที่ร้ายกาจยิ่งกว่า!

ซูเหม่ยลี่ใช้เวลาหลายวันในการสืบหาข้อมูลและใช้เส้นสายของบิดา เพื่อเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ระดับกลางคนหนึ่งของสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมประจำอำเภอ เธอไม่ได้ไปในฐานะคู่แค้น แต่ไปในฐานะพลเมืองดีผู้ห่วงใยสวัสดิภาพของผู้บริโภค

“ท่านผู้อำนวยการเฉินคะ” เธอกล่าวกับชายวัยกลางคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย “ฉันมาที่นี่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ไม่อาจนิ่งดูดายต่อความไม่ถูกต้องได้ค่ะ คือร้านเสื้อผ้าที่เพิ่งเปิดใหม่ในเมืองน่ะค่ะ ฉันมีเหตุให้เชื่อได้ว่าทางร้านอาจจะใช้ผ้าที่ย้อมด้วยสีย้อมเคมีราคาถูกจากแหล่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังของผู้สวมใส่ได้”

เธอหยุดไปเล็กน้อย ก่อนจะหยอดเชื้อไฟที่ร้ายแรงกว่าเดิม “ยิ่งไปกว่านั้น แบบเสื้อผ้าของทางร้านยังมีความคล้ายคลึงกับแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากฮ่องกงและต่างประเทศอย่างน่าสงสัย ฉันเกรงว่านี่อาจจะเป็นการลอกเลียนแบบที่ทำลายชื่อเสียงด้านความคิดสร้างสรรค์ของอำเภอเราได้ค่ะ”

คำกล่าวหาของเธอนั้นฟังดูน่าเชื่อถือและเปี่ยมไปด้วยหลักการ มันไม่ใช่การใส่ร้ายด้วยอารมณ์ แต่เป็นการโจมตีด้วยข้อกฎหมายและมาตรฐานที่สามารถเอาผิดได้อย่างเป็นรูปธรรม

เช้าวันอังคารที่แสนวุ่นวายของร้านใบไหวดีไซน์

ขณะที่ลูกค้ากำลังเลือกซื้อของกันอย่างคึกคัก จู่ ๆ ชายในเครื่องแบบเจ้าหน้าที่รัฐสองคนก็เดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทีที่เคร่งขรึมและน่าเกรงขาม บรรยากาศที่เคยจอแจพลันเงียบกริบลงในทันที ลูกค้าทุกคนต่างหยุดชะงักแล้วหันไปมองผู้มาเยือนด้วยความประหลาดใจ

“ใครคือผู้รับผิดชอบร้านนี้?” ชายผู้มีอายุมากกว่าซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ

เยว่ซินก้าวออกมาข้างหน้าอย่างสุภาพ “ฉันหลินเยว่ซิน เป็นเจ้าของร้านค่ะ ไม่ทราบว่าท่านเจ้าหน้าที่มีธุระอะไรหรือคะ?”

“เราได้รับรายงานที่น่าเชื่อถือมาว่า ร้านของพวกคุณอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดต่อข้อบังคับทางการค้า” ผู้อำนวยการเฉินกล่าวเสียงดังฟังชัด จงใจให้ทุกคนในร้านได้ยิน “ข้อกล่าวหาคือใช้และจำหน่ายสินค้าที่ทำจากวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐานและอาจเป็นอันตราย และมีการลอกเลียนแบบสินค้าอันมีลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ!”

พ่อแม่หลินที่ยืนอยู่หลังร้านถึงกับหน้าซีดเผือด การถูกทางการเข้าตรวจสอบในยุคนี้ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่สามารถทำลายชีวิตของคนทั้งครอบครัวได้ในพริบตา พวกท่านมองหน้าลูกสาวด้วยความหวาดวิตกจนตัวสั่น

แต่หลินเยว่ซินกลับยังคงสงบนิ่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เธอไม่ร้องไห้ ไม่โวยวาย ไม่แสดงอาการตื่นตระหนกใด ๆ ทั้งสิ้น เธอเพียงแค่โค้งคำนับให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองอย่างนอบน้อม

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางเรายินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบทุกอย่างค่ะ เพราะเราเชื่อมั่นในความสุจริตของตนเอง” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของทุกท่าน บางทีฉันอาจจะต้องขออนุญาตนำเสนอเอกสารบางอย่างให้ท่านได้พิจารณาก่อนได้ไหมคะ?”

ไม่รอให้เจ้าหน้าที่ได้ตอบรับ เธอก็เดินไปหยิบแฟ้มเอกสารที่เตรียมไว้เป็นอย่างดีออกมาจากหลังเคาน์เตอร์

“ข้อกล่าวหาแรก เรื่องวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน” เธอเปิดแฟ้มหน้าแรกออก เผยให้เห็นใบเสร็จรับเงินค่าผ้าที่ถูกจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ “นี่คือใบเสร็จทั้งหมดจากการสั่งซื้อผ้าของเราค่ะ จะเห็นได้ว่าทุกชิ้นมาจากโรงงานทอผ้าของรัฐและสหกรณ์ผู้ค้าผ้าที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีตราประทับกำกับชัดเจนทุกใบ ท่านสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกับทางโรงงานได้ทุกเมื่อค่ะ”

ความเพียบพร้อมของเอกสารทำให้ผู้อำนวยการเฉินถึงกับเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“ส่วนข้อกล่าวหาที่สอง เรื่องการลอกเลียนแบบ” เยว่ซินเปิดแฟ้มไปยังส่วนถัดไป ซึ่งเต็มไปด้วยภาพร่างการออกแบบเสื้อผ้าที่วาดด้วยมือของเธอเอง “นี่คือภาพร่างต้นฉบับทั้งหมดของฉันค่ะ จะเห็นได้ว่ามีทั้งวันที่กำกับ มีร่องรอยการแก้ไข ทุกแบบล้วนผ่านกระบวนการคิดและพัฒนาขึ้นมาด้วยตัวเองทั้งสิ้น”

จากนั้นเธอก็กล่าวประโยคที่ทำเอาทุกคนต้องนิ่งอึ้ง “ส่วนที่ว่าแบบเสื้อของฉันไปคล้ายกับแบรนด์ดังจากต่างประเทศนั้น เรียนตามตรงค่ะท่านผู้อำนวยการ ครอบครัวของฉันเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา เราไม่มีปัญญาจะหาซื้อนิตยสารจากต่างประเทศมาดูได้หรอกค่ะ แรงบันดาลใจของฉันมาจากธรรมชาติรอบตัว รูปทรงของใบไหว กลีบของดอกทิวลิป และความต้องการที่จะสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่สวยงามและใช้งานได้จริงสำหรับคนในท้องถิ่นของเรา”

เธอหยุดไปเล็กน้อย ก่อนจะตอกกลับอย่างนิ่มนวลแต่เจ็บลึก “ไม่ทราบว่าผู้ที่แจ้งเรื่องให้ท่านมาตรวจสอบ พอจะระบุได้ไหมคะว่าแบบเสื้อของฉันไปเหมือนกับแบรนด์อะไรและนิตยสารฉบับไหน? หากระบุได้ชัดเจนฉันก็พร้อมจะยอมรับผิดทุกอย่างค่ะ”

เธอโยนคำถามกลับไปได้อย่างชาญฉลาด ทำเอาผู้อำนวยการเฉินถึงกับไปไม่เป็น!

เจ้าหน้าที่ทั้งสองมองหน้ากัน พวกเขาเริ่มตระหนักแล้วว่าเรื่องนี้อาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ชอบมาพากล การเตรียมพร้อมของเด็กสาวคนนี้มันสมบูรณ์แบบเกินไป

เพื่อปิดฉากข้อสงสัยทั้งหมด เยว่ซินได้เรียกแม่และพี่สาวออกมา “นี่คือคุณแม่และพี่สาวของฉันค่ะ พวกท่านคือช่างตัดเย็บหลักของร้านเรา เชิญท่านผู้อำนวยการสอบถามถึงขั้นตอนการทำงานได้ทุกอย่างเลยค่ะ”

แม่หลินที่ในตอนแรกหวาดกลัวจนตัวสั่น เมื่อได้เห็นความองอาจและมั่นคงของลูกสาวก็พลันเกิดความกล้าขึ้นมา เธออธิบายขั้นตอนการตัดเย็บด้วยภาษาที่เรียบง่ายและจริงใจ ความซื่อสัตย์ที่ฉายออกมาจากแววตาของเธอคือหลักฐานที่ดีที่สุดที่หักล้างทุกคำโกหก

ในที่สุด ผู้อำนวยการเฉินก็กระแอมไอออกมาเบา ๆ เพื่อทำลายความเงียบ สีหน้าเคร่งขรึมของเขาผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

“ดูเหมือนว่าจะเกิดความเข้าใจผิดกันครั้งใหญ่” เขากล่าวเสียงดังเพื่อให้ทุกคนได้ยิน “จากการตรวจสอบอย่างละเอียด สำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมขอประกาศว่า ร้านของใบไหวดีไซน์ได้ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบทุกประการ เอกสารหลักฐานมีความสมบูรณ์แบบ และถือเป็นแบบอย่างของผู้ประกอบการที่ซื่อสัตย์สุจริต!”

คำประกาศนั้นเป็นดั่งสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้าหลังพายุ มันไม่เพียงแต่ชำระล้างมลทินทั้งหมดให้กับร้านของเธอ แต่ยังเป็นการยกย่องและรับรองคุณภาพอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานของรัฐอีกด้วย

ลูกค้าที่มุงดูอยู่ต่างพากันปรบมือและส่งเสียงแสดงความยินดี

เรื่องราวการตรวจสอบในครั้งนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันได้ทำลายชื่อเสียงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังจนย่อยยับ แม้เจ้าหน้าที่จะไม่ได้เอ่ยชื่อผู้แจ้ง แต่ใคร ๆ ก็เดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือของใคร ซูเหม่ยลี่กลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนทั้งอำเภอ ภาพลักษณ์คุณหนูผู้สูงส่งของเธอบัดนี้ได้ปรากฏรอยร้าวขนาดใหญ่ที่ยากจะประสานเสียแล้ว ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว อย่างแท้จริง

เย็นวันนั้น หลินเยว่ซินยืนมองลูกค้าที่กลับเข้ามาอุดหนุนจนแน่นร้านอีกครั้งด้วยแววตาที่สงบนิ่ง

ซูเหม่ยลี่ที่ล้มเหลวมาแล้วถึงสามครั้งสามครา ทั้งการใช้ข่าวลือ การใช้อันธพาล และการใช้เส้นสายทางราชการ หล่อนจะต้อหาทางกลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่นตรายยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๖ จุดจบของตัวร้าย

    กาลเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของปี 1989 โลกได้หมุนไปข้างหน้าอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง...ณ กรุงปักกิ่ง หลินเยว่ซิน หลินต้าเฉียง และหลินซิวอิงได้กลายเป็นนักศึกษาที่โดดเด่นในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ บริษัทหลิวเยว่ แฟชั่นกรุ๊ปได้เปิดสำนักงานใหญ่และสาขาแฟล็กชิปที่เมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อย และได้กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับชาติที่ทรงอิทธิพลทว่าณ อำเภอหลิวอันที่ห่างไกล ช่วงนี้ได้มีข่าวลือระลอกใหม่เกิดขึ้นในวงน้ำชาของเหล่าแม่บ้าน ข่าวลือที่เกี่ยวกับบุคคลที่แทบจะถูกลบหายไปจากความทรงจำของผู้คนแล้ว“นี่เธอได้ยินเรื่องนั้นหรือยัง?” หญิงคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนบ้าน “เห็นว่านังหนูซูเหม่ยลี่อะไรนั่นกำลังจะกลับมาแล้วนะ”“หา?! กลับมาอะไรกัน?” อีกคนถามด้วยความไม่ใส่ใจ“ก็ฉันได้ยินมาว่าเธอไปเจอผู้อุปถัมภ์คนใหม่ เป็นถึงเถ้าแก่จากต่างเมืองที่ร่ำรวยมากเลยล่ะ เห็นว่าเธอกำลังจะกลับมาทวงทุกอย่างคืน เธอบอกกับคนไปทั่วว่าความจริงทั้งหมดกำลังจะถูกเปิดโปง ที่แท้หลินเยว่ซินนั่นแหละคืออสรพิษตัวจริง!”ในอดีต ข่าวลือที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้คงจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุดไปแล้ว แต่ในวันนี้ปฏิกิริยาของผู้คนกลับแตกต

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๕ คำตอบรับ

    วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ท่านนายพลลู่และภรรยาเดินทางกลับไปแล้ว บ้านของตระกูลหลินก็ยังคงอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขและความตื่นเต้นไม่จางหาย ทุกคนต่างพูดคุยกันถึงเรื่องงานมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขท่ามกลางความชื่นมื่นนั้น หลินเยว่ซินกลับรู้สึกว่าหัวใจของตนเองยังคงมีม่านหมอกบาง ๆ ปกคลุมอยู่ เธอยอมรับการสู่ขอ แต่ทว่าเธอยังไม่เคยได้ให้คำตอบแก่เขาจากหัวใจของเธออย่างแท้จริงเลยบ่ายวันนั้น ขณะที่เธอกำลังนั่งออกแบบเสื้อผ้าชุดใหม่อยู่ในห้องทำงาน ลู่เฟิงในชุดลำลองสบาย ๆ ก็เดินเข้ามาหาอย่างเงียบ ๆ“เยว่ซิน” เขาเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ไปเดินเล่นกับฉันหน่อยได้ไหม?”แม้จะเป็นคำเชิญที่เรียบง่าย แต่กลับแฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง นี่คือการนัดหมายครั้งแรกของพวกเขาในฐานะคู่หมั้นอย่างเป็นทางการเยว่ซินพยักหน้ารับเบา ๆ เธอรู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองเสียทีทั้งสองเดินเคียงข้างกันออกจากตัวเมือง ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่สวยงามหรือโรแมนติกใด ๆ แต่กลับเดินไปตามเส้นทางดินสายเก่าที่ทอดตัวมุ่งตรงไปยังหมู่บ้านหงซิง จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดส

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๔ คำขอจากใจจริง

    ฤดูสารทของปี 1988 ได้นำพาสายลมเย็นสบายและใบไม้สีทองโปรยปรายมาสู่เมืองหลิวอัน ครอบครัวหลินกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เปี่ยมสุขและวุ่นวายที่สุด พวกเขากำลังเตรียมการใหญ่สำหรับการย้ายไปตั้งรกรากที่เมืองหลวงของต้าเฉียง ซิวอิง และเยว่ซินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าท่ามกลางความวุ่นวายนั้นเอง จดหมายฉบับหนึ่งจากลู่เฟิงก็ได้ถูกส่งมาถึง ซึ่งเนื้อหาข้างในนั้นก็ค่อนข้างที่จะสั้นกระชับ แต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของเยว่ซินเต้นไม่เป็นส่ำ เขาเขียนว่าเขาจะกลับมาเยี่ยมบ้านในสัปดาห์หน้า และครั้งนี้เขาจะไม่ได้มาคนเดียวสัญชาตญาณของเยว่ซินร้องบอกว่าการมาเยือนในครั้งนี้จะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด และดูเหมือนว่าทุกคนในบ้านก็จะรู้สึกได้เช่นเดียวกัน แม่หลินถึงกับลงมือทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่และสั่งให้พ่อหลินไปซื้อใบชาต้าหงเผาชั้นดีที่สุดมาเตรียมไว้ต้อนรับแขกเช้าวันหนึ่งที่อากาศแจ่มใส รถยนต์เก๋งหงฉีสีดำมันวาวสองคันแล่นเข้ามาจอดเทียบที่หน้าประตูบ้านทรงลานสี่ทิศของตระกูลหลินอย่างเงียบเชียบแต่แฝงไว้ด้วยบารมีอันน่าเกรงขาม การปรากฏตัวของรถยนต์ระดับผู้นำประเทศเช่นนี้ทำให้เพื่อนบ้านที่สัญจรผ่านไปมาถึงกับต้องหยุดยืนมองด้วยความตก

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๓ ตระกูลใหม่ที่รุ่งโรจน์

    ฟ้าหลังฝนสำหรับครอบครัวหลินแล้ว ท้องฟ้าของพวกเขาในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะสดใสไร้เมฆหมอกบดบัง แต่มันยังประดับประดาไปด้วยดวงดาวแห่งเกียรติยศที่ส่องประกายเจิดจรัสอีกด้วยเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของปี 1988 หนึ่งปีกว่านับตั้งแต่การล่มสลายของตระกูลซู ช่วงเวลาที่ปราศจากมารผจญนี้เองที่ทำให้ธุรกิจใบไหวดีไซน์ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดราวกับมังกรทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์บัดนี้ หลิวเยว่ แฟชั่นกรุ๊ป ไม่ได้เป็นเพียงร้านค้าในอำเภอเล็ก ๆ อีกแล้ว แต่ได้กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีโรงงานตัดเย็บเป็นของตัวเอง มีสาขากระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วทั้งมณฑล และกำลังจะเริ่มขยายตลาดไปยังเมืองหลวงอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ แบรนด์ใบไหวได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นที่ทันสมัย คุณภาพดี และเป็นความภาคภูมิใจของสินค้าที่ผลิตในประเทศอย่างแท้จริงครอบครัวหลินเองก็ได้ย้ายออกจากบ้านหลังเดิมมาอาศัยอยู่ในบ้านทรงลานสี่ทิศ หลังใหญ่ที่เยว่ซินทุ่มเงินซื้อมันมาแล้วตกแต่งใหม่ทั้งหมด ที่นี่กว้างขวางและงดงามราวกับจวนของขุนนางในสมัยก่อน กลางลานบ้านมีสวนหย่อมที่จัดแต่งอย่างสวยงาม มีสระปลาคาร์ปเล็ก ๆ และต้นไหวที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ปร

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๒ เปิดโปงสู่สาธารณะ

    หากคิดจะจับ ก็ต้องแสร้งปล่อยไปก่อนนี่คือกลยุทธ์ที่หลินเยว่ซินและลู่เฟิงได้วางไว้ร่วมกัน...สองวันหลังจากที่ซูเหม่ยลี่ได้จ่ายเงินก้อนสุดท้ายของเธอไป บทความชิ้นเอกอันแสนสกปรกของเฒ่าเหมาก็ได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ใต้ดินฉบับหนึ่ง มันถูกนำไปแจกจ่ายตามร้านน้ำชาและแผงลอยต่าง ๆ ทั่วทั้งเมือง เรื่องราวที่ถูกปรุงแต่งขึ้นอย่างสุดฝีมือได้สร้างความสับสนให้กับผู้คนอีกครั้ง ความสงสัยระลอกใหม่เริ่มซัดสาดเข้าใส่ชื่อเสียงของหลินเยว่ซินอีกคราทางฝั่งร้านใบไหวดีไซน์ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด ยอดขายตกลงเล็กน้อย และมีเสียงซุบซิบนินทาจากลูกค้ามากขึ้น หลินเยว่ซินดูเหมือนจะตกอยู่ในภาวะตั้งรับ เธอเก็บตัวเงียบ ไม่ได้ออกมาโต้ตอบใด ๆ ท่าทีที่ดูเหมือนยอมจำนนนี้เองที่ทำให้ซูเหม่ยลี่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความสะใจ แต่แล้ว ในขณะที่ข่าวลือกำลังคุกรุ่นถึงขีดสุด ร้านใบไหวดีไซน์ก็ได้เคลื่อนไหวในแบบที่ไม่มีใครคาดคิดบัตรเชิญที่ถูกออกแบบอย่างสวยหรูได้ถูกส่งไปยังสำนักข่าวทุกแขนง ทั้งสื่อท้องถิ่นและสื่อสิ่งพิมพ์ระดับมณฑล เนื้อหาในบัตรเชิญระบุว่าทางร้านจะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิ

  • ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ฉันไม่ขอกลับไปตระกูลเดิม!   ๒๑ สิ้นไร้หนทาง

    ลมหนาวในช่วงปลายปี พัดพาเอากลิ่นอายของเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงให้ลอยอบอวลไปทั่วทั้งเมือง บนถนนหนทางประดับประดาไปด้วยโคมไฟสีแดงสดใส ผู้คนต่างมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสจับจ่ายซื้อของเพื่อเตรียมเฉลิมฉลองวันปีใหม่ แต่สำหรับตระกูลซูแล้วฤดูหนาวในปีนี้มันช่างหนาวเหน็บและโหดร้ายเสียเหลือเกินธุรกิจที่เคยยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้ล่มสลายลงโดยสมบูรณ์แล้ว...การที่ข่าวในหนังสือพิมพ์ถูกระงับไปอย่างรวดเร็วผิดปกติ เป็นดั่งสิ่งสุดท้ายที่ทำให้คู่ค้าและธนาคารต่างหมดสิ้นความเชื่อมั่นในตระกูลซู พวกเขารู้ดีว่าตระกูลซูไม่เพียงแต่กำลังจะล้มละลาย แต่ยังไปเหยียบตาปลาของผู้มีอำนาจระดับสูงเข้าให้อีกด้วย ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาอีกตอนนี้พวกเขาอยู่ในสภาวะสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างแท้จริง คฤหาสน์หลังงามกำลังจะถูกยึดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทรัพย์สินเงินทองที่เคยมีก็ร่อยหรอลงไปจนแทบไม่เหลือ พวกเขาไม่มีทางไปอีกแล้วค่ำคืนหนึ่ง ท่ามกลางความเงียบงันอันน่าสมเพชภายในคฤหาสน์ที่เคยโอ่อ่า ซูเจิ้งกั๋วที่บัดนี้ดูแก่ชราลงไปนับสิบปีได้เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“เรายังเหลือหนทางสุดท้าย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status