นักศึกษาทั้งคณะวิศวะและคณะที่เหมยเรียนอยู่พากันรวมตัวและช่วยกันทาสีโรงเรียนเด็กบนดอย
ทุกคนที่มาถึงก็ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์กันอย่างขยันขันแข็ง รวมถึงธิดาและธง "เหมยครับ พี่เอาน้ำมาให้ ดื่มน้ำก่อนสิ" ธงที่จงใจทำตัวเหมือนเป็นแฟนที่แสนดี ทั้งที่เหมยยังไม่ได้เอ่ยปากตกลงปลงใจว่าจะคบหากับธง "แหม พี่ธงจะหยิบน้ำมาให้แค่เหมยหรอค่ะ" เจสซี่รู้สึกหมั่นไส้จึงเบะปากมองบนแล้วก็พูดตอบกลับ "ไม่เอาน่าเจสซี่" เหมยเอ่ยปรามเพื่อนรัก "ก็ไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย ก็รู้สึกหิวน้ำเหมือนกัน" "อ่ะ นี่ของน้องเจสซี่ครับ" ธงยื่นน้ำขวดหนึ่งให้กับเจสซี่ เจสซี่ทำท่าเอื้อมมือจะไปรับน้ำจากมือหนาของธง แต่ก็จงใจทำเป็นรับวืดจนขวดน้ำหลุดลงพื้น "อุ๊ย ขอโทษค่ะ พอดีจับไม่ทัน" เจสซี่ที่กวนบาทาของธงเสร็จก็เดินลากธิดาออกจากมุมทาสี "เจสซี่ ทำไมเธอทำแบบนั้นล่ะ เดี๋ยวธงจะรู้สึกแย่นะ ไม่น่าทำแบบนั้นเลย" "เหมย เธอไม่รู้นิสัยของผู้ชายแบบพี่ธง นิสัยมันแย่จะตาย ผู้หญิงเกลื่อนเต็มไปหมด" เจสซี่พยายามเตือนเพื่อนรัก "เอาหน่า เขาอาจจะปรับปรุงตัวก็ได้ แต่ฉันก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจสักหน่อย" "ฉันเป็นห่วงเธอไงยัยบื้อ ฉันไม่อยากให้เธอโดนไอ้พวกนั้นมันหลอกเอา" เจสซี่ที่มองออกตั้งแต่แรก "ไม่เถียงกับเธอแล้วเจสซี่ เราไปช่วยเด็กๆ ทาสีห้องข้างในก็ได้ป่ะ" เหมยลากเพื่อนรักเข้ามาในห้องเรียนเพื่อให้อยู่ห่างจากธง ไม่ให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน ผ่านไปสักพัก ห้องด้านในและห้องด้านนอกภายในอาคารไม้ก็ดูสวยสดใสเหมือนใหม่ เมื่อเหล่าบรรดานักศึกษาที่มาทัศนะศึกษาบำเพ็ญประโยชน์ในครั้งนี้ช่วยกันคนละไม้คนละมืออย่างทะมักเขม้นอย่างมีความสุข "เอาน้องๆ ทุกคน ในฐานะรุ่นพี่วิศวะ พี่ธงกับพี่ต๊อบวันนี้จะเลี้ยงข้าวรอบกองไฟทุกคนเอง" ต๊อบและธงที่ค่อนข้างมีฐานะในรุ่นพี่และเป็นเดือนมหาวิทยาลัย ก็ทำให้สาวๆ ทุกคณะน้อยใหญ่ต่างพากันกรี๊ดกร๊าดแทบสลบ "โอ้โห พี่ธงกับพี่ต๊อบหล่อมากเลยอ่ะ" สาวๆ พากันเอ่ยชื่นชมทั้งสองไม่หยุด "เสียดายอ่ะ พี่ธงไปจีบยัยเด็กเนิร์ดนั่นซะแล้ว ไม่เห็นคู่ควรกับพี่ธงตรงไหนเลย ฉันยังสวยกว่าอีก" นักศึกษาปี 3 คนหนึ่งเอ่ยขึ้น "ขอโทษนะ ถ้าพวกเธอสวยจริงอ่ะ พี่ธงคงมองพวกเธอไปแล้วแหละ" ใบเฟิร์นที่ได้ยินดังนั้นก็เลยเดินมาบอกสาว ๆ ทั้งสอง "แล้วเธอเป็นใคร มาพูดกับพวกฉันแบบนี้ได้ยังไง" "ฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ต๊อบ พวกเธอมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่า" ใบเฟิร์นที่เบะปากมองบนรู้สึกไม่ชอบใจที่ธงทำท่าทางเหมือนจะไปจีบยัยเด็กเนิร์ดคนนั้น "นั่นยัยใบเฟิร์น ปี 1 น้องสาวแท้ๆ ของ พี่ต๊อบ เดือนมหาลัยปี 4 อย่าไปยุ่งกับหล่อนเลย" "ได้ข่าวว่าหล่อนน่ะแรงมาก ที่บ้านรวยไง เมียคนตามใจนิสัยเสีย แถมมีพี่ชายเป็นเดือนมหาลัยก็จะเบ่งๆ อย่างนี้แหละแก" สองสาวพากันเดินหนีแล้วก็ซุบซิบนินทาใบเฟิร์น "งั้นเราไปกันเถอะ อย่าไปยุ่งกับนางเลย" ใบเฟิร์นที่รู้สึกหงุดหงิดที่เห็นผู้ชายของตัวเองอย่างไอ้ธง ที่เมื่อก่อนตามจีบเธอเป็นว่าเล่น แต่อยู่ดี ๆ ก็หายหน้าไปแล้วกลายมาเป็นข่าวว่ามาจีบยัยเด็กเนิร์ดหน้าเจื่อนที่ชื่อเหมย ใบเฟิร์นรีบไปหาพี่ชายอย่างต๊อบเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ "พี่ต๊อบ เฟิร์นขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ป่ะ" ใบเฟิร์นที่ทำหน้าเซ็ง ๆ เดินมาหาพี่ชายที่ใส่ชุดลำลองขณะที่กำลังเตรียมของรอบกองไฟ "เป็นอะไรของแก ทำหน้าเป็นตูดเชียว" ไอ้ต๊อบที่หันไปถามใบเฟิร์นน้องสาวสุดที่รัก "ก็อยู่ดีๆ อ่ะ พี่ธงก็หายหน้าไปจากเฟิร์น แล้วไปโผล่จีบยัยเด็กเนิร์ดหน้าจืดนั่น" เฟิร์นยืนกอดอกทำท่าทางอารมณ์เสีย "เอาน่า มันเป็นบททดสอบลูกผู้ชายสัก หนึ่งอาทิตย์อ่ะ เดี๋ยว มันก็กลับไปตายรัง แกเชื่อฉันสิ" ต๊อบที่กำลังทำอาหารอยู่เตรียมของอยู่ก็หันไปพูดกับน้อง "หมายความว่าไงพี่" ใบเฟิร์นที่ได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าสงสัยเล็กน้อยในสิ่งที่พี่ชายตัวเองพูด "ไม่มีอะไรหรอกน่าแกไปเหอะ แค่ฉันพาแกตามมาด้วยเนี่ย คนอื่นก็ว่าฉันทั้งมหาลัยแล้ว" ต๊อบที่ทำหน้าเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะว่าใบเฟิร์นเป็นเด็กปี 1 เพียงคนเดียวที่ต้องตามต๊อบมาด้วย เพราะใช้ข้ออ้างว่าพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ต้องอยู่กับพี่ชายมหาวิทยาลัยที่เห็นแก่ต๊อบที่เป็นพรีเซ็นเตอร์มหาวิทยาลัย ที่คู่กับธงก็เลยอนุโลมให้ใบเฟิร์นตามมาด้วย "พี่พูดความจริงกับเฟิร์นมาเดี๋ยวนี้เลยนะว่ามันหมายความว่ายังไง" ใบเฟิร์นพยายามเค้นเอาความจริงจากพี่ชายอย่างไม่ลดละ "เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลาเดี๋ยวแกก็รู้เอง ไปช่วยคนอื่นเขาทำงานไป ไหนๆ ก็มาแล้ว ทำตัวให้มันเป็นประโยชน์สมกับเป็นน้องฉันหน่อย" ต๊อบหันไปทำหน้าเหนื่อยหน่ายกับน้องสาวที่เอาแต่ใจตัวเอง "ไม่รู้ไอ้ธงนี่มันหลงอะไรคนอย่างแกเนี่ยฮะยัยเฟิร์น" "นี่ขนาดหลงเฟิร์นนะ แต่ไปจีบยัยเด็กเนิร์ดนั่น แหกหน้าเฟิร์นชัดๆ อะไรก็ไม่รู้" ใบเฟิร์นที่พูดจบก็เดินกระแทกเท้าออกไปบริเวณลานกางเต็นท์รอบกองไฟของรุ่นพี่ปี 3 และปี 4 ที่กำลังขะมักเขม้นช่วยกันกางเต็นท์ "เหมยลี่ครับ เราไปเจอดอกไม้สวยดีนะก็เลยเก็บมาให้ ดอกไม้ป่าคล้ายๆ ดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนๆ" ธงที่เห็นว่ามันสวยก็เลยเก็บมาฝากเหมยลี่ "แหม พี่ธงนี่ไม่ลงทุนเลยนะคะ ดอกไม้ก็เก็บจากข้างทางมาให้ยัยเหมยเหรอ" เจสซี่ก็ยังคงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับธงเสมอโดยไม่มีการลดราวาศอกใส่กัน ธงที่ได้ยินอย่างนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพราะรู้ว่าเจสซี่ไม่ชอบขี้หน้าตัวเอง แต่เพื่อไม่ให้แผนการที่วางมาทั้งหมดล่ม ต้องจำใจทนเจสซี่เพื่อนของเหมยลี่ไปก่อน "จะให้ผมลงทุนอะไรล่ะเจสซี่ ในเมื่อในนี้มันมีแต่ถิ่นทุรกันดาร แต่ผมคิดถึงเหมยลี่ตลอดเวลา ผมก็อยากให้เหมยลี่เห็นของสวยงามอย่างที่ผมเห็น" ธงพูดจาหวานจนดูเลี่ยน ใบเฟิร์นที่ยืนดูห่างๆ ไม่มากนักกลับได้ยินทุกคำพูดของธงก็สะบัดมือเด็ดกิ่งไม้ด้วยความโมโห "อะไรของพี่ธง อยู่ดีๆ ก็ทิ้งฉันไปหายัยหน้าจืดเนี่ยนะ อุ๊ย หงุดหงิดจริงๆ เลยเว้ย" ใบเฟิร์นที่ยืนหงุดหงิดคนที่กำลังเตรียมของไปมาต่างพากันส่ายหัวให้กับใบเฟิร์นที่ทำตัวเจ้าอภิสิทธิ์....ทางด้านธงและดารินก็ยังคงไม่ยอมแพ้ แม้ว่าดารินจะแพ้อย่างราบคาบเมื่อเจออาชาเล่นไม้แข็ง ให้บอดี้การ์ดลากเธอออกจากไร่ชาพรหมเทพอย่างไม่ใยดี แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ดารินเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของเขาอีก ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ที่โรงแรมเดิม ธงที่รู้สึกถึงแรงแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะยิ่งวิ่งเข้าใกล้เหมยมากเท่าไหร่ เหมยก็ยิ่งวิ่งออกห่างเขามากเท่านั้น ธงรู้สึกเหมือนเสียศักดิ์ศรีและโดนหยามหน้า "ดารินครับ ทำไมคุณถึงได้ทำพลาดขนาดนั้น คุณไม่เคยรู้เลยเหรอว่าไอ้อาชามีหลานสาว" ธงที่นอนอยู่บนตักของดารินก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ "แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะคะ ว่าอีเด็กเปรตนั่นจะเป็นหลานสาวของอาชา" ดารินก็รู้สึกโมโหไม่น้อยที่อยู่ดี ๆ ก็ต้องมาล้มละลายเพียงเพราะเด็กคนเดียว "แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะครับดาไหนจะมีไอ้เมฆินทร์อีกคนนึงที่มาตามป้วนเปี้ยนจีบเหมย" ธงก็ยังคงอยากเอาชนะอาชาและเมฆินทร์อยู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเหมยและอาชาได้ก้าวหน้าเกินกว่าที่เขาจะแตะถึง "เหลือแต่คุณแล้วค่ะที่ต้องเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของสองคนนั้น เอาให้ทั้งสองคนมันแตกหัก ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันยิ่งดี แล้ว
เมฆินทร์ที่กลับจากการทำธุระของตัวเองก็คิดถึงเหมยไม่แพ้อาชาหรือธง วันนี้เขาตั้งใจจะเข้าไปเจอเหมยที่คาเฟ่และซื้อของมากมายกลับมาฝากเธอ “ถังลี่ วันนี้กูจะเข้าไปที่ไร่ชาพรหมเทพ จะเอาของที่กูซื้อไปฝากคุณเหมย มึงให้เด็กเอาของขึ้นรถให้กูด้วย” เมฆินทร์หันไปสั่งบอดี้การ์ดคู่ใจ “ผมจัดการให้นายเรียบร้อยแล้วครับ นายจะไปเลยไหมครับ” ถังลี่หันมาถามผู้เป็นนาย เมฆินทร์พยักหน้า เขาลุกออกจากห้องนั่งเล่นในคฤหาสน์หรูแล้วก้าวขึ้นรถสไตล์ยุโรป ใจของเขาอยากจะเจอหน้าสวย ๆ ของเหมย และเขาก็อยากจะเข้าไปสืบหาเรื่องราวของอาชาที่จะทำการเซ็นสัญญากับมิสเตอร์จางเพื่อตัดหน้าบริษัทของเขาด้วย “ได้ครับนาย แต่ว่านายมั่นใจเรื่องที่ดินที่เราซื้อไว้ให้มิสเตอร์จางจริง ๆ ใช่ไหมครับ” ถังลี่รู้สึกว่าอาชามีความเงียบผิดปกติ “มีอะไรหรือเปล่าวะ” เมฆินทร์หันมาถามขณะกำลังดูตารางงานอยู่ด้านหลังรถ “ผมว่าบอดี้การ์ดของไอ้อาชาและตัวมันเงียบผิดปกติ เพราะโครงการนี้มันเคยคิดจะสู้กับเราหลายหน ทำไมมันถึงเงียบหายไป” ถังลี่รู้สึกถึงความผิดสังเกต “มันก็จริงอย่างที่มึงพูด ส่งคนของเราจับตาดูมันทุกฝีก้าว ลองดูว่ามันจะบินไปสิงคโปร์เมื่อไหร่
อาชาปลดพันธนาการที่ข้อมือเหมยออก ช้า ๆ แต่ยังคงจับมือเธอไว้มั่น เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "เราลองเปลี่ยนท่ากันหน่อยดีไหมครับคนดีของพี่..." เหมยพยักหน้าเล็กน้อยด้วยใบหน้าแดง ระเรื่อ เธอเชื่อใจเขาอย่างเต็มเปี่ยม อาชาจึงค่อย ๆ พลิกร่างบางของเหมยให้นอนคว่ำลงช้า ๆ จากนั้นใช้เนคไทผูกข้อมือทั้งสองข้างของเธอไขว้ไปด้านหลังอย่างชำนาญ การถูกมัดในท่านี้ทำให้เหมยรู้สึกอ่อนแอแต่ก็ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นระรัว "แบบนี้... เราจะรู้สึกถึงพี่ได้ชัดเจนขึ้น พี่จะเอาเหมยจน เหมยร้องขอให้พี่หยุด..." อาชากระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของเหมย ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาทำให้ขนอ่อน ๆ ทั่วร่างของเธอตั้งชัน เหมยพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงก็ติดอยู่ในลำคอ อาชาโน้มตัวลงไปจูบแผ่นหลังเนียนนุ่มของเหมยช้า ๆ ไล่ขึ้นไปตามกระดูกสันหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสอันเร่าร้อนของเขาทำให้เหมยบิดกายเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่พุ่งพล่านขนลุกซู่ไปทั้งกาย "พะ พี่... อาชาขา.....อ้าส์ ซี๊ด..." เหมยครางชื่อเขาเบา ๆ น้ำเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ "ใช่ครับ... พี่อยู่นี่แล้ว" อาชาตอบ พลางใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแนวสะโพกผายของเธออย่างยั่วยวน เ
หลังจากผ่านพ้นเรื่องของดารินไปอาชาสั่งห้ามบอดี้การ์ดทุกคนห้ามให้ดารินกลับมาเหยียบไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยทุกพื้นที่ของตระกูลเขา ห้ามดารินเข้ามาก้าวก่ายโดยเด็ดขาด "ไอ้เสือบอกบอดี้การ์ดทุกคน ถ่ายทอดคำสั่งของกูลงไป ห้ามให้ดารินเหยียบเข้ามาทุกพื้นที่ของตระกูลกู แม้แต่เงาก็ห้ามให้มาใกล้..! อาชาเขารู้ว่าผู้หญิงอย่างดารินทั้งอันตรายและเจ้าเล่ห์จึงเลือกที่จะปกป้องเหมยและลิลลี่ให้ออกห่างจากผู้หญิงอย่างดาริน "ครับนายผมจะรีบถ่ายทอดคำสั่งของนายทุกคำออกไปในกลุ่มบอดี้การ์ดของเราครับนาย" "คืนนี้ผมว่าเป็นคืนที่ดีนะครับนาย" "มันเป็นคืนที่ดียังไงวะ" อาชาสงสัยเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆเสือก็พูดขึ้นมา "เพราะคืนนี้นายธงมักจะออกไปทุกคืน วันเสาร์และกลับมาในวันจันทร์เช้า เพื่อทำงาน ผมอาจจะใช้โอกาสทองและจังหวะนี้" "ในการหาข้อสงสัยของผมเพราะมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลที่ผมสัมผัสได้" เสือรายงานบางอย่างให้กับอาชาได้ฟังเพราะเขาก็แอบสงสัยพฤติกรรมของธงมานานแล้ว "ดีกูเองก็ไม่ไว้ใจมัน มันจงใจปล่อยข่าวเสียหายให้กับเหมย เรื่องของมันกับเหมยในอดีตกูคงจะยอมง่าย ๆ ไม่ได้หรอก" อาชาเองก็ไม่ได้ละทิ้งเรื่องพวกนี้แต่เขาให้มันเป็นเพี
ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนที่คาเฟ่ ดารินก็ได้พบกับ อาชา ในที่สุด เธอเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้มหวานหยด ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนั่งรออาชาหลายชั่วโมงกว่าที่อาชาจะยอมให้เธอเข้าพบ "อาชาคะ ดาคิดถึงคุณจังเลยค่ะ" ดารินเอ่ยเสียงหวาน พร้อมกับทำท่าจะโผเข้ากอด แต่อาชากลับถอยห่างออกมาเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉย "คุณดาริน มาทำอะไรที่นี่" อาชาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ต้องการจะข้องแวะกับอดีตที่เลวร้าย "อะไรกันคะอาชา ทำไมพูดกับดาแบบนี้ล่ะคะ ดาก็แค่อยากมาเยี่ยมคุณ มาทวงถามความรักเก่า ๆ ของเราคืน" ดารินแสร้งทำเป็นตัดพ้อ ใบหน้าแสดงความเศร้าสร้อยอย่างจงใจ "สงสัยความรักที่ผมเรียกคุณไป 10 ล้านคงไม่พอซะแล้วมั้ง คุณยังมีแรงมาระรานวุ่นวายกับผมอยู่แบบนี้"อาชาพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันและรู้สึกรังเกียจผู้หญิงอย่างดารินที่สุด "โธ่อาชาคะ คุณไม่เห็นจะต้องแจ้งความเอาเรื่องดารินขนาดนั้นเลยค่ะ คุณก็รู้ว่าดารินไม่มีอะไรที่จะสู้กับคุณได้" "ดารินแค่อยากมาถามหาความเห็นใจจากคุณบ้างก็เท่านั้น ใจดีกับดารินหน่อยนะคะ" ดารินเกาะแข้งเกาะขาอาชาไม่ยอมปล่อยเอาแต่ทำท่าทีออดอ้อนออเซาะเพื่อให้อาชาใจอ่อน เหมือนฝันของดารินกำ
ธงเริ่มปฏิบัติการตามแผนของดารินอย่างเคร่งครัด เขายังคงส่งของขวัญและดอกไม้ให้เหมยเช่นเคย แต่คราวนี้มาพร้อมข้อความที่ดูเหมือนจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเหมยมากยิ่งขึ้น เช่น "รู้ว่าเธอเหนื่อย พักผ่อนบ้างนะ" หรือ "หวังว่าดอกไม้ช่อนี้จะทำให้วันของเธอสดใสขึ้นมาบ้าง" ซึ่งเป็นข้อความที่ดารินแนะนำให้ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์"พี่ส่งดอกไม้ให้ครูเหมยทุกวันเลยอ่ะผมเป็นครูเหมยนี้ผมละลายหมดแล้วนะ"ไอ้เต้เดินมาแซวธงเมื่อเห็นว่ายังคงใช้ให้เต้ไปส่งดอกไม้"มันก็ต้องขยันหน่อยเว้ย.!!อยากได้เขากลับมาก็ต้องเอาใจเขาบ้าง"ธงพูดลอยๆ"คราบพี่" ไอ้เต้กับไอ้ต้นหนาวถึงกับหลุดหัวเราะในขณะเดียวกัน ธงก็เริ่มหาโอกาสพูดคุยกับเหมยมากขึ้น โดยอาศัยสถานการณ์ที่พบกันโดยบังเอิญในที่ทำงาน หรืออ้างเรื่องงานเข้ามาพูดคุย "อรุณสวัสดิ์ครับเหมย" ธงที่มาคาเฟ่แต่เช้าเพื่อมาดักรอเหมยและลิลลี่ที่จะมานั่งในห้องประจำเพื่อเรียนหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศไม่ใช่ภายในบ้านพักตากอากาศ"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ธง"เหมยยิ้มให้อย่างเป็นมิตรช่วงนี้เธออาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย