“ไอ้หื่น” เขาชกแก้มฉันไปเบาๆ หนึ่งทีราวกับจะแก้เขิน ร่างสูงทำท่าเหมือนจะหันหน้าหนี แต่ฉันก็คว้าข้อมือเขามาประสานมือเอาไว้แน่น
“ถ้ารู้ว่าเค้าหื่น” ฉันกระซิบชิดแก้มเขา ตอนที่แอบเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้โหนอีกนิดอย่างหยอกล้อ “ก็สนองนี๊ดเค้าหน่อยสิ เชื่อมั้ยว่าเราไม่เจอกันมากี่วันแล้ว”
“มันเกี่ยวด้วย?” เขาย้อนกลับมา ราวกับจะไม่ยอมทำตามความต้องการของฉันง่ายๆ โหนนี่เล่นตัวมากกว่าที่คิดนะเนี่ย
ฉันทำหน้ามุ่ยออกมาทันที
“เกี่ยวสิ” ฉันย้ำกับเขา พร้อมกับนึกอะไรทะเล้นทะลึ่งขึ้นได้
ฉันคว้ามือหนาของโหนมาสัมผัสที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง ร่างสูงเบิกตากว้าง ในขณะที่หัวใจฉันเองก็เต้นตึกตักสู้มือเขา
“...!”
“ถ้าไม่คิดถึง คงไม่เต้นแรงขนาดนี้หรอกเนอะ”
โหนไม่แม้แต่จะตอบอะไรกลับมา เขาสบตาฉัน ในขณะที่ฉันเองก็มองใบหน้าเขาอย่างต้องการ มือของเราทั้งคู่ต่างคนต่างจับที่หน้าอกของกันและกัน แล้วฉันก็พบว่าหัวใจของโหนเองก็เต้นสู้มือไม่ต่างกันเลย
“แสบจริงว่ะ” โหนแค่นหัวเราะ ตอนนั้นเขาขยำหน้าอกฉันแรงขึ้นจนฉันสะดุ้งน้อยๆ หัวใจเต้นโครมครามเมื่อเขาค่อยๆ เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ แล้วกดริมฝีปากลงมาอย่างอ้อยอิ่ง
โหนแทรกลิ้นอุ่นๆ เข้ามาในริมฝีปากเล็กๆ ของฉัน เขาเคล้าคลอด้วยความอบอุ่นที่มี มือที่จับหน้าอกฉันเลื่อนลงไปที่ชายเสื้อ รั้งมันขึ้นมาจนเห็นหน้าท้องที่ขาวผ่องของฉัน
วินาทีนั้นฉันหลับตาปี๋อย่างตื่นเต้นและสั่นไหว
“ยั่วเค้าเอง”
“...”
“แต่ตัวสั่นได้ไง” โหนกระชิบเสียงหนักข้างๆ ริมฝีปากของฉัน รั้งเสื้อฉันขึ้นไปกองไว้บนหน้าอก บราสีชมพูอ่อนสะกดสายตาเขาจนร่างสูงต้องหยุดมองอย่างชื่นชม
“อื้อ... อึดอัดจัง” ฉันขยับตัวอย่างยากลำบากเมื่อถูกโหนกักไว้ภายใต้อ้อมแขนแกร่ง เขาจูบซอกคอฉัน พร่ำไปด้วยรอยกัดที่ไหปลาร้าและใต้หน้าอก ฉันรู้สึกทั้งเจ็บ ทั้งสั่นไหวจนต้องครางในลำคอ
“ใหญ่ขึ้นปะเนี่ย” เขาถามตอนที่ผลักฉันลงไปนอนบนเตียง คงหมายถึงหน้าอกแหละ หัวใจฉันเต้นหนักไม่หยุดจนเขาดึงชั้นในไปกองไว้บนหน้าอก รู้สึกเหมือนว่าโหนจะชอบเหลือเกินเวลาที่เราทำด้วยกันโดยที่ชุดยังคาไว้อยู่
ยอดอกฉันชูชัน เขาบีบมันอย่างคุ้นเคย ฉันก้มลงมองการกระทำของเขาอย่างอายๆ แม้ว่าจะเคยทำด้วยกันมาครั้งนึง แม้ว่าพยายามจะอ้อนเขายั่วเขาสักเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกเมื่อโดนสัมผัสมันไม่เคยชินสักครั้งเลย
“ไม่รู้สิ”
“...”
“แล้วทำไมโหนถึงแข็งล่ะ?”
ท้ายประโยคฉันย้อนเขากลับไปอย่างซุกซน ตอนที่สังเกตเห็นเป้ากางเกงของเขาที่ตุงขึ้นมาอย่างชัดเจน
โหนแค่นหัวเราะ เขาลูบไล้ที่ปลายยอดอกจนฉันสะดุ้งเฮือก
“ก็ใครมานอนเปลือยนมให้เค้าดูอยู่ตอนนี้อ่ะ”
“ก็ใครเป็นคนถอดมันออกอ่ะ”
“ชอบเถียงเหรอวะ” เขาพูดแล้วเริ่มสะกิดยอดอกฉันแรงขึ้น ฉันสะดุ้งอีกครั้ง พยายามห้ามเขาทางสายตา แต่ไม่ทันแล้ว ดูเหมือนอารมณ์หวามไหวจะควบคุมโหนจนเขาเต็มไปด้วยความต้องการ
โหนแลบลิ้นอุ่นๆ เลียส่วนสีชมพูและแข็งตัวชูชันอย่างหยอกล้อ ก่อนที่เขาจะดูดกลืนมันเข้าไป แล้วดูดไปจนถึงฐานเต้านม
“... อื้อ!” ฉันครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน จิกทึ้งเส้นผมของเขาไว้แน่นเมื่อโหนพยายามจะดูดดึงยอดอกฉันแรงๆ อย่างตั้งใจ
เขาผุดลุกขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อออกทางศีรษะ ดวงใจเล็กๆ ของฉันสั่นไหวเมื่อเขารั้งกางเกงในฉันลงมาทันทีราวกับทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ต้องหรอก แค่เขาเล้าโลมที่หน้าอก ฉันก็เปียกชื้นให้เขาแล้ว
โหนรูดซิปลงเพื่อคว้าท่อนเนื้อยาวของเขามารูดขึ้นรูดลง มันผงาดและตึงเครียด ฉันก้มลงมองที่ระหว่างขาของตัวเอง ตอนที่โหนคว้าเรียวขาของฉันให้เลื่อนทั้งตัวลงไปที่ขอบเตียง ในขณะที่เขาเองก็ลงไปยืนที่พื้น
โหนถูท่อนเอ็นไล้ไปมาตามกลีบเนื้อสาวที่เยิ้มแฉะ ก่อนที่เขาจะสอดใส่มันเข้าไปทีละนิด แต่หัวใจฉันแทบกระเด็นหลุดออกมา เมื่อรับรู้ได้ว่าคราวนี้เขาไม่ได้ใส่ถุงยางอีกแล้ว
“อะ อ๊ะ โหน!” ทันทีที่สอดท่อนกายไปได้ โหนก็ขยับสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรงตามที่เขาเคยชินจนฉันหัวสั่นหัวคลอน ฉันกรีดร้องชื่อของเขาออกมาในขณะที่โหนยกเรียวขาของฉันขึ้นมาพาดบ่าเขา
เขารุนแรงอีกแล้ว เป็นมุมที่ฉันไม่ค่อยได้เห็นจากโหนเวลาอยู่ด้วยกัน ตอนเขามีอะไรด้วยนี่เขาจะชอบทำแบบนี้ใช่มั้ยนะ
ฉันถูกเขารุกจูบตอนที่โหนดันต้นขาฉันลงมาพร้อมกับตัวของเขาจนแทบจะชิดกับตัวฉัน ฉันหลับตาแน่น กรีดร้องใส่ปากเขาตอนที่โหนขยับเข้าออกถี่รัวจนแทบกระอัก
“หะ โหน เค้าจะเสร็จ” ฉันร้องบอกเขาเสียงสั่นพร่าตอนที่โหนไม่ยอมผ่อนแรงลง พอได้ยินแบบนั้นแทนที่เขาจะขยับเบาลง โหนกลับขยับแรงขึ้นจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อเสียงดังลั่น
ฉันฉี่ราดออกมาอีกแล้ว แต่คราวนี้โหนไม่ยอมหยุด เขาสอดตัวตนเข้าออกถี่ขึ้น ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับแรงกายจะไม่ยอมหมดลงง่ายๆ ขยับตัวเข้าออกรุนแรงจนคราวนี้ฉันเสร็จออกมาหลายต่อหลายครั้งพร้อมๆ กัน
ในขณะที่วินาทีนั้นร่างสูงเองก็กระตุกถี่ แล้วทำท่าจะขยับท่อนกายออกจากฉันเพื่อมาชักเอาน้ำออกเพราะเขาจะระแวดระวังไว้ก่อนเสมอ แต่ฉันกลับหนีบขาเข้ากับเอวสอบของเขาเอาไว้แน่นอย่างลืมตัว
จนโหนทนไม่ไหว เขาฉีดพุ่งน้ำรักที่อุ่นร้อนเข้ามาในตัวฉันจนทะลักออกมา ฉันสะดุ้งเฮือก ผวาเอาเรียวขาออกจากเอวของเขา แต่ก็ไม่ทันแล้ว
โหนเสร็จ... ข้างในตัวฉันเลย
[พาร์ท : โหน]
ผมนั่งดูดบุหรี่อยู่ข้างนอกห้อง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง
หันไปมองบนโต๊ะ มันมีแผงยาคุมอยู่ ผมมองมันนิ่ง ในขณะที่จะพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวงกว้าง
ก็เคยแตกในมาบ้าง แต่นี่แม่งครั้งแรกจริงๆ ที่รู้สึกกลัว
กลัวชูใจจะท้อง
ร่างเล็กที่เหนื่อยล้านอนหลับอยู่ในห้องนอน ผมนึกเขินเมื่อรู้สึกว่าที่มันแตกในเพราะเธอหนีบขาไว้กับเอวผมแน่นเกินไปไม่ยอมเอาออก ผมลูบหัวตัวเอง แค่นหัวเราะออกมาเมื่อรู้สึกว่าชูใจเธอชอบเซ็กซ์ของผมมากกว่าที่คิดไว้
ก็นะ ถ้าเกิดว่าเธอท้องขึ้นมาจริงๆ
เรื่องพ่อแม่เธอจะทำยังไง ในเมื่อผมมันก็เป็นคนที่แม่เธอไม่ได้ชอบ
แกรก
ผมชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอน เห็นชูใจโผล่หน้าออกมา เราสบตากัน แล้วเธอก็ก้มหน้างุดอย่างอายๆ
“ว่าไง” ผมทัก เธอสะดุ้งน้อยๆ
“อะ อื้อ”
“...”
“ขอโทษนะที่พอตอนที่จะเสร็จ... เค้าหนีบขาไว้” เธอพูดแล้วเอาประตูมาบังหน้าตัวเองไว้ ผมเองก็หน้าร้อนขึ้นมา จะพูดไงดีวะ เอาเป็นว่าพูดเรื่องยาคุมก่อนละกัน
“ไม่เป็นไร”
“...”
“กินยาคุมดิ เดี๋ยวก็ท้องหรอก”
[พาร์ท : โหน]ผมนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์นิ่งงันShoujai Chutimon : โหนShoujai Chutimon : ว่างอยู่มั้ย เรามีอะไรจะปรึกษาหน่อยข้อความที่ไม่ได้อ่านของชูใจโผล่ขึ้นบนหน้าจอ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความพยายามที่จะลืมเธอพังลงก็วันนี้ไม่คิดว่าเธอจะทักมา ทำเหมือนเราเป็นเพื่อนกันอย่างสนิทใจขนาดนั้นเธอคงไม่รู้ ว่ามันลืมยากขนาดไหน กับการที่ต้องพยายามใช้ชีวิตโดยไม่มีเธอโดยที่ต้องเตือนตัวเองทุกวันว่ากูคือเพื่อน กูต้องเป็นเพื่อนแต่ก็คงเป็นเรื่องสำคัญมั้ง ถึงได้ทักมาได้ข่าวว่าไอ้ลูกโชนแทบไม่ยอมให้เธอออกห่างจากตัวเลยระหว่างสองอาทิตย์ที่ผ่านมา สองคนนั้นดูชัดเจนกันมากผมเคารพการตัดสินใจของเธอนะชื่อ โหน : รอเดี๋ยวนะชื่อ โหน : เราอยู่กับแฟนแต่ผมก็คงต้องเริ่มต้นใหม่เหมือนกันผมไม่ได้โกหก แค่พูดไม่หมดทุกอย่าง ว่าแฟนที่ว่าตอนนี้ก็แค่คุยๆ กัน ยังไม่ได้ตกลงคบกันจริงจัง เพราะผมยังตัดใจไม่ได้ชูใจชัดเจนขนาดนั้นแล้วว่ะ จะให้ผมเข้าไปแทรกกลางในฐานะอะไร ลูกก็ไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรที่จะผูกมัดเราให้อยู่ด้วยกันอีก เข้าใจใช่ปะว่าแม่งไม่มีทางแล้วผมไม่ได้ไม่พยายาม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันตัดกำลังกูไปหมดแล้ว
ผมเมามาย ขับมอเตอร์ไซค์กลับไปที่ห้อง นอนกดแชทเฟสดูข้อความเก่าๆ ของผมกับชูใจที่คุยกันผมนึกยิ้มตอนที่นึกไปถึงสมัยที่คบกับเธอแต่เป็นได้แค่เพื่อนสนิท ไม่สามารถเป็นไรที่มากกว่านั้น อาจเพราะใจผมไม่กล้าพอ หรือไม่เธอแม่งก็ซื่อบื้อเกินไปแต่ก็นึกเสียใจว่ะ ที่วันนี้มันไม่มีวันนั้นอีกแล้วเป็นเพื่อนก็คงดีกว่า เพราะว่าเพื่อนไม่มีวันเลิกกันติ๊งเสียงแจ้งเตือนเฟสทำให้ผมชะงักที่จะเลื่อนดูแชทของเรา พอเปิดเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นแจ้งเตือนเฟสของชูใจที่ผมตั้งติดตามเธอไว้เวลาเธออัพอะไร มันขึ้นเหมือนว่าเธอจะลงรูปใหม่ใจผมเต้น ตอนที่กดเข้าไปดูมันใช่รูปเธอกับไอ้ลูกโชน เป็นภาพที่เธอเซลฟี่คู่กับมัน ในฐานะแฟนผมมองภาพนั้น ใจแม่งชายิบ ฉีกยิ้มออกมาตอนที่กดพิมพ์ข้อความส่งไปในแชทของเธอสั้นๆชื่อ โหน : ยินดีด้วยนะชูใจกดอ่านทันที ผมเผลอคิดว่าเธอจะรอผมอยู่ แต่ก็ใจแฟบลงเมื่อเธอพิมพ์ตอบกลับมาShoujai Chutimon : ขอบคุณนะShoujai Chutimon : โหนเอง ก็เป็นเพื่อนที่ดีเหมือนกันจงใจใช่มั้ยวะจงใจพิมพ์คำว่าเพื่อนให้ผมรู้สถานะตัวเองในตอนนี้ใช่ปะผมรู้อยู่แล้วชื่อ โหน : ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะชูใจชื่อ โหน : เรายังเป็นเพื่อนเ
พี่ลูกโชนมาส่งฉันที่หอพักอย่างเคย เหมือนทุกๆ วันที่เขามาส่งฉันแต่ก็แปลกนะ... ที่ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลยหัวใจเล็กๆ ที่เติบโตอยู่ในท้อง มันถูกตีตราว่าเป็นลูกของเขาคนนั้น เป็นลูกของคนที่เลือกจะปล่อยฉันไปแค่เพราะว่าพ่อแม่ฉันไม่ยอมรับเขา“เลิกคบกับมันแล้วเหรอ น้องชูใจ” ฉันชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงของพี่ลูกโชนที่กำลังขับรถอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มีความมั่นคง มีรถ บ้านมีฐานะ เรียนวิศวะ ผู้ชายแบบนี้สินะที่พ่อแม่ฉันต้องการ“หมายถึงใครคะ?”“ไอ้ขี้ก้างนั่น” เขาเรียกโหนแบบไม่มีความเกรงใจ ฉันคลี่ยิ้มบางออกมา“ไม่ได้คบหรอกค่ะ ทำไมเหรอ?”“พี่แค่อยากรู้ว่าหนูคิดยังไง ที่พ่อแม่หนูให้หนูหมั้นกับพี่” พี่ลูกโชนหันมาถามอย่างต้องการคำตอบ ฉันนิ่งไปฉันในตอนนี้ต้องรู้สึกอะไรเหรอ?ก็เป็นแค่ตุ๊กตาล้มลุกที่พ่อแม่จับให้เดินไปทางไหนก็ได้ แม้กระทั่งเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองฉันยังทำอะไรไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับการที่ฉันจะต้องแสดงความคิดเห็นกับเขาว่าฉันชอบหรือไม่ฉันยังคงยิ้มอยู่ แต่หัวใจแตกสลาย“ชูใจคงรู้สึกอะไรไม่ได้ นอกจากยินดีค่ะ” ฉันเลือกที่จะตอบอย่างเป็นกลางที่สุด แม้มันจะดูให้ความหวังคนตรงหน้าก็ตาม “พ่อแม่เลื
ผมเดินเข้าไปที่หลังตึกวิทยาลัยช่างที่เป็นอริกัน เห็นไอ้พันนั่งดูดบุหรี่อยู่กับเพื่อนวิทยาลัยนี้อยู่ไม่ไกลมือผมกำหมัดแน่น สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรไอ้พันมันสังเกตเห็นผมก่อนตอนที่ผมเหยียบใบไม้แห้งเสียงดัง มันที่นั่งยองๆ อยู่ลุกขึ้นยืนแล้วล้วงกระเป๋าสบตาผม ในขณะที่ผมเองก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามัน“มึงมาที่นี่ทำไมวะ” มันถามผมขึ้นมา ใจผมนึกถึงชูใจแล้วก็คลายหมัดออก สบตากับมันอย่างเงียบงัน “เราไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว มึงคงไม่มีธุระอะไรกับกู”“...”“อีกอย่าง ช่วงนี้กูก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเมียมึงแล้ว...”“แล้วถ้ากูอยากให้มึงกลับมายุ่งกับชูใจอีก มึงจะว่าไง?” ผมแทรกมันขึ้นมา ไอ้พันชะงักไป มันมีสีหน้าไม่เชื่อ“พูดบ้าอะไร”“กูยุ่งกับชูใจไม่ได้แล้วตอนนี้” ผมจ้องตามัน ก่อนที่จะแค่นยิ้ม “กูทำชูใจท้อง แล้วพ่อแม่ชูใจไม่คิดยอมรับกู”“...!”“ถ้าเป็นมึง เขาอาจจะยอมรับ อีกอย่างชูใจก็เคยชอบมึง”ไอ้พันเบิกตากว้างเมื่อผมสารภาพออกมาว่าผมทำชูใจท้อง มันเซไปนิดหน่อย แต่เพื่อนมันคว้าแขนไว้ ผมเข้าใจดี เอาจริงๆ มันก็รักชูใจไม่ต่างกับผม ผมมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด ถ้าไม่ใช่ผม มันคงเป็นใครก็ได้“ชูใจท้อง...?” มั
“เค้าไม่พร้อมจะมีลูก ไม่พร้อมเหี้ยไรทั้งนั้น”“...”“เค้าไม่มีอนาคตว่ะเธอ เค้าเรียนยังไม่จบ เค้าไม่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง” ผมร้องไห้ออกมา สุดท้ายก็อ่อนแอต่อหน้าเธอ ผมรู้ว่าร้อยทั้งร้อย ผู้ชายอายุยี่สิบต้นๆ มาเจอเรื่องแบบนี้คงตันไปหมดทุกทางเหมือนผมผมไม่พร้อมเลยจริงๆ ว่ะ“...”“ให้เวลาเค้าหน่อยนะชูใจ” ผมพูดคำนั้นออกมา เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะทำหน้าที่พ่อที่ดีได้มั้ย ในเมื่อทุกวันนี้ผมยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เคยคิดถึงเรื่องอนาคต ลำพังที่ขยันเรียน เพราะหลงรักเธอแค่นั้น “ให้เวลาเค้าสักสองเดือน”“...”“เค้าขอเวลาแค่สองเดือน” ชูใจมองผมทั้งน้ำตา เธอเองคงเจ็บช้ำกับคำพูดผมมากพอ ลำพังแค่ทำตัวแบบนี้ก็ทำลายความเชื่อใจลงไปมากแล้วกับแฟนที่กำลังตั้งท้องอยู่ แถมยังให้เธอรอผมอีกรอแม่งตั้งสองเดือน เป็นใครก็ไม่รอหรอกว่ะ“... งั้นโหนก็ไปตามทางของโหนเถอะ” ชูใจโพล่งขึ้นมาอย่างหนักแน่น เหมือนเธอรู้แล้วว่าคนอย่างผมมันไม่มีอะไรดีจริงๆ“...”“เค้าพร้อมจะลาออกเมื่อท้องโต และเค้าจะเลี้ยงลูกเอง”ผมกลับมาที่ห้อง หลังจากเมามายไม่ได้สติผมทรงตัวไม่อยู่ ร้องไห้ตลอดเวลาเลยว่ะ ผมได้แต่โทษตัวเอง ว่าเป็นเพราะผม ชูใจถึงได้ท
[ชูใจมีน้องแล้วนะคะ!]หัวใจผมแทบหยุดเต้นซะเดี๋ยวนั้น ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือถือที่กำไว้แทบหลุดจากมือหลังจากที่เพื่อนของชูใจโทรมาบอกว่าเธอท้อง ผู้หญิงคนนั้นบอกทางไปคลีนิคเสร็จสรรพก่อนจะวางสายไปเพราะต้องเข้าไปดูอาการชูใจ ผมก็ขับไปอย่างไร้จุดหมาย เรื่องที่ผมกลัวที่สุดแม่งเกิดขึ้นแล้ว ชูใจท้องแล้ว แล้วผมจะทำไงต่อไปดีวะ?ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะมีลูกมาก่อน เท่าที่คิดได้คือ... ต้องไปหาเธอต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าเธอท้องจริงๆ!ผมเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม แต่เพราะความเหม่อลอยของผม มารู้สึกตัวอีกทีรถมอเตอร์ไซค์ของผมก็พุ่งเข้าชนเสาอย่างแรงเปรี้ยง!!เฮือกสุดท้ายผมคิดถึงชูใจ ก่อนที่จะคิดถึงลูกลูกของผม[จบพาร์ท : โหน]ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในความเงียบ พอรู้สึกตัวก็เห็นว่ามีมินตันนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเป็นห่วง เธอกุมมือฉันไว้ ในขณะที่ฉันเองก็รู้สึกอ่อนแรง“มินตัน...” ฉันเรียกชื่อเพื่อนออกมา ก่อนที่จะลูบหน้าท้องของตัวเองอย่างลืมตัว“ตื่นแล้วเหรอ” เธอสบตาฉัน ในความรู้สึกนั้นเหมือนเธอจะตำหนิกลายๆ ด้วยสายตา “ถ้ารู้ว่าไม่ไหวก็อย่าฝืนมาเรียนสิ”ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ไม่อยากยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ