แสงที่ไม่มีต้นกำเนิด อาจไม่ใช่แสง…แต่คือเปลวไฟที่ยังไม่มีใครรู้ว่ามันจะลามไปถึงไหน
รุ่งเช้าในหมู่บ้านยากูระ
ไม่มีคำสั่ง
ที่ลานกลางหมู่บ้าน
ฮากุโร่ มาถึงยากูระในตอนบ่าย
“อย่าเดินกลางถนนมากนักนะ ลุง...”
“เดี๋ยวพวก ‘เงาไม่ศรัทธา’ จะเห็นเข้า”
ภายใต้ร่มไม้
เขากระซิบคำหนึ่งว่า
“แสง...มันไม่ได้ร้อน แต่คนที่อ้างแสงน่ะ น่ากลัวกว่าเปลวเพลิง”
ตัดภาพไปยังเวทีพิธี
แต่มี “หญิงสวมหน้ากากขาว” ยืนอยู่กลางเวที
“ในอดีต...เงาคือเครื่องมือของผู้อ่อนแอ”
“วันนี้ เรามีแสง—ที่ไม่ต้องอธิบาย”
“หากเจ้าเชื่อ...เจ้าจะได้รับการปกป้อง”
“หากไม่...ขอให้เจ้าอยู่ในเงา และหลีกให้แสงผ่าน”
ฮากุโร่ ยืนดูจากไกล
หรือเธอกลับมาอีกครั้ง…ในชื่อใหม่…ในเงาใหม่
ค่ำวันนั้น
เขากระซิบกับเด็กชายข้างเวทีว่า:
“แสงที่ไม่มีต้นตอ...มักซ่อนไฟไว้ข้างใน”
“เจ้ารู้ไหม เด็กน้อย…ไฟมันเผาได้แม้แต่คนที่ยืนอยู่ใกล้เกินไป”
บทจบของตอนนี้
“เงา...อาจกลับมาในคราบแสง”
“และครั้งนี้ มันไม่ต้องขออนุญาตใครอีกต่อไป”
บทที่ 70 — เงาที่ล้มเงาเมื่อคนที่เคยเงียบ...เริ่มพูด,เมื่อคนที่เคยก้มหน้า...เริ่มมองตา,และเมื่อความกลัวหมดฤทธิ์ — ผู้ชำระความจำ…เริ่มสะดุ้งกับเสียงที่ไม่ใช่เสียงตะโกนหมู่บ้านอาเนะโนะ - ยามก่อนรุ่งบนลานหน้าศาลาว่างมีคนยืนเรียงเป็นแถวเงียบ...ไม่มีธูป ไม่มีไฟ ไม่มีผู้นำแต่ทุกคนถือกระดาษแผ่นเล็กหนึ่งใบเด็กคนหนึ่งอ่านออกเสียงช้า ๆ“มิเนะ - ผู้เก็บเงาจากผืนดิน”หญิงชราอีกคนต่อว่า“เร็นโซ - ผู้ไม่เคยสวด...แต่เคยช่วยข้าหนีน้ำป่า”ชายหนุ่มในชุดชาวไร่พูดตาม“ข้า - ผู้เคยลืมชื่อแม่ตนเอง…วันนี้ ข้าจำได้อีกครั้ง”นี่คือ “พิธีชื่อ” ที่ไม่หลบซ่อนอีกต่อไปจัดกลางหมู่บ้านในวันเดียวกับที่ผู้ชำระความจำจะเดินทางมาล้างบันทึกครั้งใหญ่ผู้ชำระความจำกลุ่มหนึ่ง — นำโดยขุนนางหนุ่มชื่อ “อิซุนะ”เดินทางพร้อมนักบันทึก และนักสวดแต่เมื่อมาถึงอาเนะโนะ พวกเขาพบเพียงภาพที่ไม่เคยปรากฏในบันทึกใดคนในหมู่บ้านยืนเรียงกันโดยไม่พูดและบนกำแพงศาลา — มีชื่อของ “คนที่เคยตายตามทะเบียน”ถูกจารไว้อย่างเปิดเผยบางชื่อเป็นเด็ก…บางชื่อคือพ่อแม่ของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอิซุนะพึมพำกับตนเอง:“นี่คือการยั่วยุศรัทธา...หรือคือศรั
บทที่ 69 — คนตายที่เดินอยู่ในเงาพวกเขาไม่ได้กลับมาด้วยความแค้นแต่กลับมาพร้อมคำว่า “ข้าเคยมีตัวตน”สถานที่: ทางเดินใต้ดินเชื่อมหมู่บ้านร้างสามแห่งซึ่งเคยใช้เป็นที่ลี้ภัยในยุคสงครามสายเลือดเก่าเสียงฝีเท้าเบา ๆ กึกก้องในความมืดชายชราเดินนำ สวมเสื้อคลุมปิดหน้าเด็กหญิงสองคนตามหลัง ขนสมุดหนาไว้ในกระสอบเมื่อถึงห้องลับ — แสงจากโคมไร้ไส้สะท้อนผนังเผยให้เห็นใบหน้าของ “ผู้ตายตามทะเบียน”คือคนที่เคยถูกประกาศว่าเสียชีวิตในการชำระศรัทธาแต่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ — ในเงาชายคนหนึ่ง (เคยเป็นช่างไม้):“ลูกข้าเคยถามว่า ทำไมชื่อข้าถึงไม่มีในคำสวดข้าตอบไม่ได้ แต่ข้าจำเสียงหัวเราะของนางได้มันพอแล้ว...ที่ข้ายังอยู่เพื่อฟังเสียงนั้นอีกครั้ง” ซาโยะแอบตามรอยเงาในป่าพบเงาคนสองคนวางกระดาษไว้ใต้ต้นไม้เมื่อหยิบขึ้นมา เธอพบเพียงข้อความว่า:“เราคือคนตายที่เดินอยู่ในเงาแต่ถ้าท่านยังจำ ข้าไม่ใช่วิญญาณอีกต่อไป”ซาโยะไม่พูดอะไรเธอแค่เขียนชื่อเหล่านั้นลงในสมุดของตนต่อเติมบันทึกเงาที่อาคิทิ้งไว้ย้อนอดีตของผู้ชำระความจำคนหนึ่ง (เร็นไซ)เขาเคยเห็นชายชราถูกเผาทั้งเป็นเพราะสลักชื่อเมียลงบนหินคืนหนึ่งในป่า เขา
บทที่ 68 — ดอกไม้ที่เบ่งบานในวันศพบางศพไม่ต้องเผา...ก็ส่งกลิ่นแห่งการเปลี่ยนแปลงสถานที่: หมู่บ้านอาเนะโนะ, ฮานาเระ, มินามิ-ซาวะ และอีกเจ็ดหมู่บ้านเวลา: สัปดาห์ถัดจากเหตุการณ์ไฟไหม้หอสมุดที่ไม่มีใครอ้างตัวรับผิดชอบข่าวลือแพร่ไปทั่วแคว้นในคืนเดียวว่า“เด็กหญิงที่เขียนชื่อคนตาย ถูกจับไปแล้ว”“เธอไม่ได้ร้องไห้แม้แต่คำเดียว”“ก่อนถูกพาไป เธอวางสมุดเล่มหนึ่งไว้ใต้เสื่อ...เขียนคำสุดท้ายว่า ‘อย่าลืมชื่อของพวกเขา’”ไม่มีใครยืนยัน ไม่มีใครเห็นแต่ทุกคน...เชื่อในหมู่บ้านอาเนะโนะ:ยายของอาคิยืนเงียบหน้าศาลาว่างเธอถือโคมไร้ไส้หนึ่งอัน และกล่าวเบา ๆ“ข้าจะไม่พูดว่าหลานข้าตายข้าจะพูดว่า...ความเงียบของเจ้า เปลี่ยนฤดูกาลได้”ฉาก: เด็ก ๆ แต่งชุดขาว เรียงกันบนเนินเขาแต่ละคนถือกระดาษแผ่นเล็ก เขียนชื่อใครบางคนที่เคยถูกลืมแทนพวงหรีด — พวกเขาวางกระดาษเหล่านั้นรอบโคม“นี่คืองานศพที่ไม่มีศพแต่มีคนจำนวนมาก...ที่ตื่นขึ้น”ในหมู่บ้านมินามิ-ซาวะพระผู้เคยเผาแผ่นไม้ กลับเดินมาร่วมพิธีเงียบเขาไม่พูด เขาแค่ถอดผ้าโพกหัววางไว้ข้างชื่อหนึ่งบนกระดาษชื่อที่เขาเคยสั่งให้ลบเสียงกระซิบจากฝูงชน:“นางยังมีชีวิตหร
บทที่ 67 — การล่าคนที่จำเมื่อชื่อกลายเป็นภัยและความจำ…กลายเป็นอาชญากรรมสถานที่: สำนักงานบัญชีศรัทธาแห่งแสง – เขตศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมืองหลวงผู้ควบคุมบัญชีใหญ่ “ท่านเมียวโกะ” ได้รับรายงานจากสายลับภาคสนาม:“มีเอกสารต้องห้ามแทรกซึมเข้าสู่หมู่บ้าน 17 แห่งใน 2 เดือนทั้งหมดเขียนด้วยลายมือคล้ายเด็กหญิง และมีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ที่ถูกขจัดไปแล้ว”ท่านเมียวโกะ (ชายชราในชุดคลุมขาว):“ชื่อคือพันธนาการของวิญญาณหากเราปล่อยให้มันถูกเรียกกลับ...พวกตายจะเดินอีกครั้ง”เขาจึงสั่งตั้งหน่วย “ผู้ชำระความจำ”ประกอบด้วยนักพรต 6 คนพร้อมเด็กฝึกวัยหนุ่มที่เชี่ยวชาญการเผาหนังสือและลบจารึกฉาก: หมู่บ้านโยโระพระหนุ่มนามว่า เร็นไซ มาถึงพร้อมคัมภีร์และไฟเขาไม่ประกาศเจตนา ไม่ถามความสมัครใจเขาแค่พูดเบา ๆ ว่า:“ใครยังเขียนชื่อที่ตายไปแล้ว...นั่นคือผู้ทรยศแสง”อาคิ ถูกซ่อนในห้องใต้ดินเด็กคนหนึ่งร้องไห้บอกว่า“ข้าเผาไม้สลักชื่อไปแล้ว พวกเขาจะปล่อยพวกเรามั้ย?”ซาโยะ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง ได้ข่าว จึงรีบเร่งมาแต่ช้าไปหนึ่งคืนแผ่นไม้สลักชื่อกว่า 100 แผ่น...กลายเป็นเถ้าถ่านผู้ชำระความจำ เริ่มแฝงตัวเป็นคนในหมู่บ้
บทที่ 66 — เด็กหญิงที่ไม่มีชื่อไม่มีใครเรียกชื่อเธอแต่เธอคือเหตุผลที่ชื่อของคนอื่น…ยังคงอยู่สถานที่: ระหว่างเส้นทางลับในป่าลึกเชื่อมหมู่บ้านอาเนะโนะ–ฮิเมะสึรุเธอถูกเรียกเพียงว่า “หนู” หรือ “เด็กคนนั้น” ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของเธอไม่มีใครแน่ใจว่าเธอเป็นลูกใครแต่ทุกหมู่บ้านในเขตศรัทธาเงา ต่างได้รับกระดาษแผ่นเล็กจากเธอกระดาษเหล่านั้นไม่ได้มีบทสวดแต่มี “ชื่อ” คนที่ถูกลืม พร้อมประโยคสั้น ๆ เช่น:“เขาเคยเป็นคนสอนหนังสือให้หมู่บ้านหนึ่ง”“นางเคยเอาข้าวให้คนที่ไม่มีสิทธิ์กิน”“เขาถูกตัดชื่อจากบัญชีศาสนา แต่ลูกสาวยังรอเขาอยู่”เธอไม่พูด ไม่ร้องแต่รู้เส้นทางทุกแยกในป่าที่ไม่มีในแผนที่เธอไม่หยิบดาบแต่รู้ว่าคำพูดไหนต้องหลบคำไหนต้องปล่อยให้คนอื่นได้ยินคืนหนึ่ง ที่หมู่บ้านมิเนะโซโนะเธอวางกระดาษเล็กใต้หมอนของผู้เฒ่าหูตึงคนหนึ่งข้อความเขียนว่า:“ชื่อของลูกชายท่าน ยังไม่ควรหายไป”“มีเด็กคนหนึ่งยังจำได้ว่าเขายิ้มยังไง”เช้าวันถัดมา ผู้เฒ่าคนนั้นจุดโคมไฟไว้หน้าบ้านโดยไม่ใส่ไส้ — เป็นโคม “ไร้ไฟ” แห่งแรกของหมู่บ้านนั้นในเมืองหลวง, ขุนนางผู้ดูแลทะเบียนศาสนาเปิดสมุดบันทึกดูรายชื่อ — แล้วสะดุ
บทที่ 65 — ผู้แบกความทรงจำ ไม่มีสิ่งใดตายจริง หากยังมีใครคนหนึ่ง เรียกชื่อมันได้ สถานที่: หมู่บ้านอาเนะโนะ — ชายป่าทางเหนือของแคว้นมิสุโนะ หมู่บ้านที่เคยเป็นศูนย์กลางของการล้างประวัติศาสตร์เมื่อ 20 ปีก่อน เด็กหญิงคนหนึ่งชื่อว่า อาคิ อาศัยอยู่กับยาย เธอไม่เคยได้เรียนในวัดหลวง ไม่เคยถูกสั่งให้สวด แต่เธอ “จำชื่อคนที่ถูกลืม” ได้มากกว่าผู้ใด เธอเดินจากบ้านสู่ศาลาหมู่บ้านทุกค่ำ ไปนั่งตรงเสากลาง แล้วเขียนชื่อลงในไม้ “ยามาดะ เคย์ซึ” “นัตสึโนะ ซากุระ” “โทริอิ โยเฮ” “มุราเสะ ไดจิ” “คันโนะ เรน” …ชื่อที่ไม่มีในตำราของศาสนจักรแห่งแสง ชาวบ้านถามเธอเสมอว่า: “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าใครเคยมีอยู่?” อาคิ: “ยายข้าเคยได้ยินเสียงพวกเขาร้อง ข้าแค่จดไว้ก่อนที่เสียงนั้นจะจางหาย” วันหนึ่ง ซาโยะ เดินทางมาถึงหมู่บ้านอาเนะโนะ เธอได้ยินเสียงท่องชื่อจากศาลาในยามค่ำ ไม่ใช่บทสวด ไม่ใช่คำอธิษฐาน แต่เป็นการ “จำ” ที่ไม่มีใครสั่ง ซาโยะถามอาคิ: “เจ้ารู้ไหมว่าทำแบบนี้...เจ้ากำลังต่อต้านศาสนจักร?” อาคิ: “ข้ารู้ แต่ถ้าการจำชื่อใครสักคน คือการต่อต้าน งั้นพวกเขาก็กลัวความทรงจำยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก”