องคชาติลากยาวสอดใส่ ไหลลื่นอย่างง่ายดาย เมื่อปากทวารปรับตัวเข้ากับขนาดของท่อนเนื้ออวบใหญ่ เรือนหน้าของกานดาละเมอเพ้อสุขจนหมดเรี่ยวแรง
หม้ายหนุ่มครวญอย่างเสียวกระสัน หน้าดำหน้าแดงกระแทกองคชาติหนักๆ หลายๆ ครั้งซ้ำๆ บ่อยครั้ง กระทั่งกดน้ำหนักกายบางเข้าหาองคชาติทั้งลึก ทั้งรุนแรง สายน้ำขุ่นแตกใส่ทวารล้นละลักออกมา หม้ายหนุ่มเสร็จสมอย่างสุขใจ เมื่อเปิดซิงทวารเด็กสาว น้ำเมือกใสแตกพวยพุ่งออกช่องสวาทมากมาย
หม้ายหนุ่มปล่อยกายบอบบางออกจากวงแขน วางร่างบางนอนหงายราบบนเตียง พลางโน้มตัวลงต่ำเพื่อบุกรุกพื้นที่สงวนของลูกสาว เพราะบัดนี้ภายในช่องสวาทไหลหยาดเยิ้มราวกับเปิดก๊อกน้ำ เธอเสียวทวารจนน้ำแตกทะลักออกมามากมาย
เด็กสาวนอนหอบเหนื่อย หายใจหน้าอกกลมกระเพื่อมขึ้นลงอย่างอ่อนแรง หลังจากพ่อปล่อยน้ำอุ่นใส่ภายในกาย ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน หม้ายหนุ่มดึงองคชาติออกจากร่องทวาร ติดน้ำขุ่นอยู่ปลายองคชาติอ้วนใหญ่
เขาเดินลับหายไปในห้องน้ำอีกครั้ง ปล่อยให้เด็กสาวนอนหลับพักผ่อนให้หายเหนื่อย แต่หม้ายหนุ่มกลับยังมีความต้องการอีก เมื่อเขาไปล้างตัวด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ครานี้... เขาจะทำตามใจอย่างที่ต้องการ...
หม้ายหนุ่มเดินกลับมา พบว่าเด็กสาวนอนหลับตะแคงข้าง จึงคลานเข้าไปใกล้ร่างบางเล็ก ซึ่งหลับหายใจโดยไม่รู้สึก พลางพลิกตัวเธอนอนคว่ำลง และตัวเขาชันเข่า พลางลุกขึ้น เพื่อจะดันองคชาติรอบนี้ใหม่อีกครั้ง
ภายในช่องสวาทยังคงชื้นฉ่ำแฉะ เมื่อปลายนิ้วหนาแหย่ลองเชิง มันฉ่ำเปียกอยู่ องคชาติตื่นตัวแข็งใหญ่ ยืดยาว พร้อมกับอารมณ์กำหนัดคุกกรุ่น เรือนกายชายหนุ่มร้อนรุ่มหนัก หน้ามืดแน่นหน้าอกอีกครั้ง
เด็กสาวเหมือนจะรู้สึกตัว เมื่อช่วงล่างถูกยกชันเข่า แต่หน้าเธอทิ่มอยู่กับเตียง แววตาเธอปรือตื่นอย่างกะทันหัน เมื่อปลายองคชาติอวบอิ่ม บวมกลมกำลังปะทะกับกลีบช่องสวาท พยายามแหวกทางเข้าไปอย่างยากลำบาก
แม้จะบีบรัดปลายองคชาติ เสียวกระสันหม้ายหนุ่ม เขายังคงค่อยๆ ตอดปากทาง ค่อยแยงเข้าไปอย่างเบาๆ ถูไถไปมา น้ำเมือกไหลเยิ้มไหลลื่นให้เธอเคลิบเคลิ้มได้อีกสักพัก... องคชาติอวบอิ่มบวมกลม กำลังแยงลงไปในช่องสวาทแคบ ค่อยๆ ไหลทะลักเข้าไปอย่างง่ายดาย เมื่อเด็กสาวหยุดหดเกร็ง ม่านพรหมจรรย์เปิดปากกว้าง ไร้ความเจ็บปวด
“อ๊า...อ๊า...อ๊า!!!” กานดาครวญร้องจากเสียงเบา ค่อยๆ ดังเป็นจังหวะ เมื่อมันกำลังไหลลึกเข้ามาเรื่อยๆ เสียงสุดท้ายเธอกรีดร้องดัง เมื่อมันอัดมวลหนาแน่นขององคชาติเข้ามาลึกมาก
กลีบอวบอูมได้ปะทะกับเรือนกายหม้ายหนุ่ม กรุ่นด้วยอุณหภูมิร้อนยามชนกับเรือนก้นนวล เด็กสาวพยายามหายใจเมื่อความหนาแน่นอัดเข้ามาภายในกาย ซึ่งต่างกับเข้ามาทางทวารในคราแรก
“หนูต้องการร่วมเพศมาก จนปากทางเข้าเปิดออก” ธีรสิทธิ์นึกแปลกใจ เด็กสาวคงมีอารมณ์ความต้องการสูงมาก จนม่านพรหมจรรย์ ยอมเปิดทางให้ไหลเข้าไปอย่างง่ายดาย โดยมิได้ฉีกขาด
ยามเมื่อดึงองคชาติออกมาช้าๆ มันดูดท่อนเนื้อกลมมน หนืบหนาบราวปากเล็กๆ ของเด็กสาวดูดกลืนไม่ปาน หม้ายหนุ่มเสียวสะท้าน เมื่อม่านพรหมจรรย์ดูดองคชาติแนบแน่นขนลุกจนตัวสั่น
กานดาเสียวซ่านแขนสั่น เธออ้าปากเพราะเสียวกระสันจนร้องไม่ออก ยามเมื่อองคชาติอวบอิ่มแทงลึกเข้ามา และดึงออกอย่างเชื่องช้า เด็กสาวแอ่นสะโพกเล็กกลมอย่างลืมตัว พร้อมให้หม้ายหนุ่มทำตามอำเภอใจ
เพราะครานี้ เธอเสียวยิ่งกว่าตอนถูกแทงทางทวารมากกว่าเดิม เรือนรอบดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาใสๆ สุขใจแทบร้องไห้เมื่อพ่อทำให้บทรักของลูก เต็มไปด้วยความสุขเมื่อได้กอดร่วมกัน มันช่างทำให้กานดา ไม่อยากหยุดเลย...
“พ่อจะเร่งความเร็วแล้วนะ” หม้ายหนุ่มยึดสะโพกเด็กสาวด้วยสองมือหนา พลางขยับสะโพกกระแทกเบาๆ ไหลลื่นชวนเร้าอารมณ์เธอ กานดาชันข้อมือยันกายสูง แอ่นสะโพกรับแรงกระแทกจากเบื้องหลัง
“หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะ หนูรักพ่อ! ...หนูรักพ่อมากที่สุด...เลย” เธอเว้นระยะพูด เพราะแรงกระแทกอัดเข้ามาเน้นแรงเป็นระยะ ยิ่งทำให้เสียวจนหลงลืมตัว เพ้อถึงความเสียวที่ถาโถมอัดแน่นเข้ามาภายใน
“ฟิตดีจริงๆ” หม้ายหนุ่มเปรยจนริมฝีปากสั่น อดทนกลั้นไม่ไหว เร่งความเร็วหนักหน่วง ดันท่อนเนื้อองคชาติกระแทกกับทางตันภายใน เด็กสาวกรีดร้องเพราะความเสียวเมื่อร่างเล็กบาง ถูกดึงเขย่าเข้าหากายหนุ่มเบื้องหลัง
เนื้อหนุ่มกระทบกับก้นนวลสวย เกิดเสียงปะทะระหว่างอากาศนานนับครึ่งชม. เด็กสาวเสียวซ่านจนน้ำแตกทะลักใส่องคชาติอวบอิ่ม ใหญ่ยาวล้วงทะลวงลึกนับไม่ถ้วน ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกมีความสุขเมื่อเขาได้กำชัยครั้งนี้ โดยลูกสาวมิขัดขืน
หม้ายหนุ่มเร่งแรงกระแทกใส่ร่องสวาท แม้ม่านพรหมจรรย์ยังคงไม่ขาด ไหลลื่นเมื่อเด็กสาวเสียวซ่าน ดูดท่อนเนื้อยามเมื่อดึงองคชาติออกมา และมันก็คับแคบเมื่อดันกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เด็กสาวครวญจนแทบทนไม่ไหว ยิ่งเสียวซ่านจนชาภายในกาย แรงกระแทกแทบทำให้อ่อนแรงจนหมดสติ แต่เธอมีความสุขที่ได้รับความรักจากพ่อในรูปแบบนี้ เธอต้องการมัน และไม่อยากให้พ่อมีใครอื่น นอกจาก...เธอ
หม้ายหนุ่มกระแทกย้ำรัวเร็ว ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรง สองมือหนาดึงสะโพกเล็กกลมเหมาะมือ ย้ำหนักเข้าหากายหนุ่มบ่อยครั้ง กระทั่งแทบเสร็จสมเมื่อใจต้องการ เขาดึงมันออกไม่ทัน เผลอพวยพุ่งน้ำขุ่นกามใส่ช่องสวาทเด็กสาวอย่างสุขใจ กานดาหอบแลบลิ้นอย่างอ่อนแรงเหนื่อยล้า รู้สึกดีเมื่อได้รับความอุ่นจากภายใน เมื่อหม้ายหนุ่มหยุดกิจกาม...
หม้ายหนุ่มใช้มือหนาดึงองคชาติออกจากช่องสวาท พลางใช้สองมือแหวกดูอีกครั้ง ม่านพรหมจรรย์ยังคงคาอยู่ ไม่ฉีกขาด กานดาคงมีอารมณ์ความต้องการร่วมเพศมากจน หน้าดำหน้าแดง ออกอารมณ์งี่เง่าอ้อนพ่ออยากกอด
น้ำขุ่นไหลย้อนตามแรงโน้มถ่วง ทะลักออกจากช่องสวาท ไม่ต่างกับทวารยังคงมีน้ำใสไหลปิ่มออกมาเล็กน้อย กานดาหมดแรงนอนคว่ำสลบสไล หน้าตามีความสุขหลับไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ธีรสิทธิ์ทรุดกายลงขอบเตียง กุมขมับตนเองอย่างกลุ้มใจ นี่เขา... มีอารมณ์หนักมากจนห้ามใจตัวเองไม่อยู่ เผลอร่วมเพศกับลูกเลี้ยงตัวเอง จนหน้าดำหน้าแดงอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป กานดาจะรักเขาอย่างตอนที่ร่วมรักหรือเปล่านะ
ธีรสิทธิ์เกรงว่าถ้ากานดาตื่นขึ้นมา เธอจะยังยืนยันคำพูดเดิมหรือเกลียดเขาก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่นอน...เธอคือลูกเลี้ยงคนเดียว และเป็นลูกสาวซึ่งเขาเลี้ยงมาอย่างถนุถนอม...
หม้ายหนุ่มเอนกายนอนลงราบ พลางหมดแรงหลับตาพักผ่อน... เอาไว้ค่อยคุยกับกานดาในคราวหน้า....
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้