สามชาติภพที่เวียนว่ายนางสามารถจดจำเรื่องราวได้ทุกสิ่ง แต่ไม่ว่าจะทำเช่นไรก็หนีไม่พ้นจอมมารผู้หนึ่ง คนที่นางมั่นใจว่าเป็นผู้สังหารตนในชาติที่สอง ชาติสุดท้ายนางต้องใช้ชีวิตให้ดีหลีกหนีจากจอมมารให้จงได้
ดูเพิ่มเติมแค่ก ๆ ๆ
ความแสบร้อนที่เกิดขึ้นในทรวงอกราวกับกลืนน้ำร้อนลงไปก็ไม่ปาน ยามนี้หากจะคายชาจอกนั้นออกมาก็ไม่ทันเสียแล้ว ซ้ำร้ายผู้ที่กำลังจับปากนางอ้าออกและกรอกชาที่เต็มไปด้วยยาพิษก็ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่กลับกลายเป็นสามีที่นางรักนั่นเอง
‘หนิงอัน’ นึกสงสัยในตนเอง นางเป็นสตรีเฝ้าครองเรือนหลังดูแลบ้านให้เรียบร้อย สามเชื่อฟังสี่กตัญญูไม่เคยขาดตกบกพร่อง เหตุไฉนเขาจึงต้องการกำจัดตน
เพียงเพราะความมั่งคั่ง รุ่งเรืองเช่นนั้นหรือ
เพราะนางเป็นเพียงสาวชาวนาไม่สามารถกลายเป็นคู่ครองที่ดีของขุนนางได้ เช่นนั้นก็ควรปลดภรรยาเอก ตั้งภรรยาใหม่เอาที่เขาสบายใจ มิใช่ทำร้ายกันจนตายเช่นนี้
นึกย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าก็ยิ่งเจ็บใจ ตนเองเชื่อฟังสามีทุกอย่างกระทั่งเสียชีวิตลงเพราะสามีไม่ใยดีปล่อยทิ้งขว้าง หลังจากสามีสอบติดได้งานราชการทั้งที่ลำบากมาด้วยกันมากมายแต่พอเขาสบายกลับทิ้งขว้างนางจนตายรู้สึกเหมือนคำสั่งสอนที่บิดามารดาสั่งสอนมาตลอดชีวิต คำสอนหญิงสามเชื่อฟังสี่จรรยานี้ไม่ใช่เรื่องดีแม้แต่น้อย
เชื่อสามีแล้วอย่างไร เพราะเป็นหญิง เพราะเป็นลูกหลานจึงต้องกตัญญู โดยที่ไม่ต้องคำนึงเลยหรือว่า อีกฝ่ายจะปฏิบัติต่อตนอย่างไร
เช่นนั้นในชาตินี้หนิงอันก็ไม่เสียใจอะไรแล้ว คงมีแต่ชาติหมาเท่านั้นที่อกตัญญู และสามีนางในชาตินี้ก็เป็นยิ่งกว่าชาติหมาเสียอีก เพราะหากคิดดูดี ๆ แล้ว หนิงอันต่างหากที่เลี้ยงดูฟูมฟักเขาจนสามารถกลายเป็นขุนนางได้อย่างในตอนนี้
แต่สามีชาติหมาดันอกตัญญู นอกจากจะไม่ดูแลนางให้ดีแล้วยังจับกรอกยาพิษให้ตาย จากนั้นก็ระริกระรี้ไปแต่งงานกับสาวชาวเมืองผู้มั่งคั่ง มีหน้ามีตามาเป็นภรรยาเอกที่เหมาะสมแทน
‘ข้าไม่นึกเสียใจจริง ๆ เพราะตัวข้านั้นทำดีที่สุดแล้ว’ คิดอย่างนั้นได้ดวงตางามก็ค่อยปรือตาขึ้น
“ว้าย!” เห็นเพียงชายชุดดำยืนหน้าถมึงทึง ไม่ตกใจก็แปลกแล้ว
“ท่านเป็นผู้ใดกัน เข้ามาในห้องของข้า…” มองไปรอบ ๆ นี่ไม่ใช่ห้องของตน เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด แปลกประหลาดยิ่งนัก หรือนี่คือชีวิตหลังความตาย
“ข้าตายแล้ว เช่นนั้นท่านที่มองเห็นข้าก็คือ ผะ…ผะ…”
“ยมทูต ไม่มีตัวอักษรผะ” ชายหนุ่มชุดดำกล่าวตอบเสียงเรียบ ใบหน้านั้นดูไร้อารมณ์อย่างยิ่ง
“ท่านยมทูต!” ไม่ตกใจสิแปลก ชีวิตหลังความตาย คิดว่าทุกอย่างจะหายฟึ่บแล้วไปเกิดใหม่ หรือไม่ก็ต้องมีเฮยไป๋อู่ฉางมานำทางสู่ปรโลกถูกตัดสินว่าต้องชดใช้อย่างไร ไปเกิดใหม่หรือตกนรกไม่ใช่หรือ คิดไม่ถึงว่าจะมียมทูตหนุ่มชุดดำรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาปรากฎกายขึ้นตรงหน้าเช่นนี้ มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นยมทูตหนุ่มชุดขาว แสดงว่าไม่ใช่เฮยไป๋อู่ฉางอย่างแน่นอนแล้ว
“มองหาสิ่งใด”
“มองหายมทูตสีขาว”
“ข้าไม่ใช่เฮยไป๋อู่ฉาง” ยังคงตอบเสียงเรียบ
“เช่นนั้น ข้าต้องทำอย่างไรต่อเจ้าคะ ข้าไม่รู้สึกเสียใจต่อสิ่งใดในชีวิตนี้แล้ว หากเลือกได้ชาติหน้าข้าก็อยากจะเกิดเป็นชายดีกว่ากลายเป็นหญิง หญิงสาวช่างมีชีวิตรันทดยิ่งนัก”
“เจ้าคงต้องผิดหวังแล้ว” ว่าแล้วชายชุดดำก็หยิบกระดาษขึ้นมาเล่มหนึ่งใบหน้าขยับเป็นครั้งแรก คิ้วขมวดขึ้นเป็นปมขณะเอ่ยชื่อคนในเอกสาร
“หนิงอัน”
“ข้าเองเจ้าค่ะ ถูกคนแล้ว ไม่ผิดคนแน่นอน”
“เนื่องจากเจ้าทำความดีระดับสูงเอาไว้ตลอดมา จึงมีโอกาสสามชีวิตในชาติภพนี้”
“แปลว่าข้าดั่งนางแมวเก้าชีวิตหรือเจ้าคะ ที่ข้าตายแล้วก็ตายได้อีก ตายได้เรื่อย ๆ คือข้าจะฟื้นขึ้นมาหรือเจ้าคะ” นางนึกถึงร่างของตนเองที่ถูกนำไปโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี คาดว่าหากไม่โดนสัตว์ป่ากินจนไม่เหลือซาก ก็คงโดนแผ่นดินฝังกลบจนยากจะกู้คืนแล้ว
“หาเป็นเช่นนั้นไม่ กล่าวคือเจ้าจะได้มีโอกาสย้อนกลับไปในช่วงต้นของชีวิต ครั้งที่หนึ่งใช้ไปแล้ว”
“แปลว่า…ข้ายังตายได้อีกหนึ่งครั้ง ใช่หรือไม่?” หนิงอันเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ “หรือข้ายังตายได้อีกสองครั้ง”
“เจ้าตายได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อตายครั้งที่สองก็จะกลับคืนสู่ปรภพ เวียนว่ายตายเกิดอีกครา”
“ข้าทำความดีไว้ขนาดนั้นเชียวหรือเจ้าคะ” หนิงอันยังนึกสงสัย
เคยได้ยินว่าทำดีไว้ในชาติก่อนชีวิตต่อมาอะไรก็ราบรื่น แต่นี่บอกว่าทำดีระดับสูงไว้ แต่ชีวิตนางในชาติภพนี้กลับเป็นลูกคลื่นเรื่องร้ายถาโถมมาไม่หยุดหย่อน แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน
หากว่าผู้หญิงคนเดิมของเขายังเป็นหนิงอันผู้แสนดี ร่าเริง และเป็นดั่งแสงสว่างอยู่เสมอเช่นนี้ เขาก็ไม่สามารถรักใครได้อีก“ความสงบเดียวของข้ากำลังจะจากไป อย่ามาทำเสียงวุ่นวายข้างหูข้าอีก!” ชุนหรงปลดปล่อยความกดดัน แต่ดูเหมือนหัวหน้าองครักษ์เงาจะไม่กลัว แม้กระอักเลือดออกมาคำโตก็ยังพูดต่อ“แค่ก ๆ นายท่าน นี่เกี่ยวกับหญิงสาวที่หอนางโลม”“เกิดอะไรขึ้นกับนาง…ผู้อาวุโสสาม?”ชุนหรงหันไปมอง ก่อนจะชะงักไป เขาผุดลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปยังหอนางโลมทันที‘หนิงอัน อย่าเป็นอะไรไปนะ’เห็นท่าทางร้อนใจของนายท่านองครักษ์เงาก็รีบตามไปขณะเดียวกันก็เล่าสิ่งที่เขาสืบพบขึ้นมา“ผู้อาวุโสสามต้องการใช้ยาควบจิต เพื่อควบคุมจิตใจและทำให้นางหลงไหลในตัวท่าน นายท่าน…เขาต้องการใช้นางเป็นหุ่นเชิดเพื่อควบคุมท่านอีกทีต่างหาก”“บัดซบ!” ชุนหรงหน้ามืดจนเท้าลื่น เกือบจะตกจากหลังคาบ้านใครก็ไม่รู้เด็ก ๆ ที่เงยหน้าขึ้นมองเห็นคนกระโดดผ่านไปล้วนแต่ตกใจร้องไห้จ้า องครักษ์เงาบางคนรีบเอาลูกกวาดไปหลอ
คิดแล้วก็อดขำในใจไม่ได้ตอนนั้นหนิงอันหัดปักผ้า คนแรกที่นางนึกถึงก็คือตัวเขา แต่ชุนหรงคิดว่านางมีชายคนอื่นที่ต้องการมอบผ้าเช็ดหน้าผืนแรกให้ ไหน้ำส้มเขาแตกใส่ตัวเองอย่างไม่รู้ตัวหลังจากนั้นเมื่อเห็นผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นทีไร ก็อดหัวเราะไม่ได้ทุกทีนางมีเพียงเขาในชีวิต เขาก็มีเพียงหนิงอันเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มรู้สึกว่าการที่ตนเองรักษาความบริสุทธิ์มาตลอดชีวิตนั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง และเขาพร้อมที่จะมอบมันให้หนิงอันแต่เพียงผู้เดียว“เป็นข่าวดีมาก ๆ ด้วย ท่านต้องร่วมยินดีกับข้านะ”มองหญิงสาวกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาของเขาราวกับจะยิ้มได้ ชุนหรงไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่นางตื่นเต้นยินดีถึงเพียงนี้ แต่เขารู้สึกยินดีด้วยจริง ๆ“ข้ากำลังจะไถ่ตัวออกจากที่นี่ ข้ากำลังจะเป็นอิสระแล้ว!”คำถามแรกที่ผุดขึ้นในใจคือตนได้ยินผิดไปหรือไม่ เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า ชุนหรงก็รู้ว่าตนไม่ได้ยินผิดไป หนิงอันต้องการไถ่ตัวออกจากหอนางโลมนี้จริง ๆ“...” เขาอยากจะถามว่าทำไม แต่บางอย่างตีบตันอยู่ในลำคอ ราวกับตนเองโดนคนที่รักมากทอดทิ้ง เขายังไม่ทันได้สา
แต่จนแล้วจนเล่า นอกจากเฝ้ามองห่าง ๆ ชุนหรงก็ไม่ได้ทำอะไรอีก เมื่อสังเกตเห็นว่าของมีค่าต่าง ๆ ไม่เข้าตาหญิงสาว เขาก็ตัดสินใจแอบดูเพื่อสังเกตว่านางชื่นชอบอะไรกันแน่ชายหนุ่มเกือบโมโหทันทีเมื่อได้ยินรายงาน“นางมักจะแอบนัดพบกับคนเฝ้าประตู มีการติดต่อกันอย่างลับ ๆ หลายครั้ง ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร นายท่านต้องการให้ข้าสอบสวนหรือไม่” องครักษ์เงาไม่ได้ทำเกินหน้าที่ เขาเกรงว่าผิดพลาดนิดเดียวจะโดนทำโทษ จึงกลับมารายงานก่อน“สอบสวนคนเฝ้าประตู” แน่นอนชุนหรงอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคืออะไร ตอนนี้ในใจเขาราวกับมีไฟเผา มันเป็นความรู้สึกราวกำลังมีคนต้องการแย่งของเล่นกับตนเอง และเขาไม่มีวันยอมให้ถูกแย่งไป“...” องครักษ์ลับกลับมาด้วยสีหน้าพูดไม่ออกเล็กน้อย“ตกลงได้ความว่ายังไง พวกเขาเป็นอะไรกัน”“คือ…คนเฝ้าประตูกล่าวทั้งน้ำตาว่า ทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรกันจริง ๆ ขอรับนายท่าน”“เช่นนั้นมีเหตุผลอะไรต้องแอบลักลอบพบกัน!” ชุนหรงไม่เชื่อ ชายหญิงแอบพบกันในที่ลับตา จะมีอะไรไปได้น
ตอนพิเศษจอมมารกับนางโลมอันดับหนึ่งเลือดถูกชโลมลงบนพื้นไหลออกมาจากร่างที่เคยถูกกล่าวว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่ง สอง สาม หรืออันดับใดก็แล้วแต่เมื่อพวกนางเลือกที่จะปีนเตียง ‘จอมมาร’ ประมุขวังมารผู้นี้ก็ล้วนมีจุดจบเดียวมอบให้คือความตายแต่เพื่อให้ประมุขได้มีผู้สืบทอดต่อไปผู้อาวุโสเหล่านั้นยอมทำทุกวิถีทาง ในตอนแรกพวกเขาส่งลูกหลานของตนเองขึ้นมาเพื่อสั่งสมอำนาจ แต่หลังจากได้รับรู้ความโหดเหี้ยมไร้หัวใจของผู้เป็นนาย เหล่าผู้อาวุโสก็ไม่กล้าส่งลูกหลานไปตายอีกพวกเขาค่อย ๆ เลือกจากลูกหลานผู้ใต้บังคับบัญชา หญิงงามประจำเมืองและแคว้นต่าง ๆ องค์หญิงจนถึงบุตรสาวของขุนนางที่ต้องการอำนาจของวังมาร ทุกคนล้วนหลงกลคำลวงของเหล่าผู้อาวุโสและส่งลูกหลานซึ่งเป็นถึงหญิงงามมาตายคนแล้วคนเล่าที่รอดไปได้ก็กลายเป็นบ้า!ข่าวลือเริ่มหนาหูว่าท่านจอมมารไม่มีความรักหยกถนอมบุปผา อย่าว่าแต่ให้ถนอมเลย แค่ให้แตะต้องก็ว่ายากแล้วสุดท้ายเหล่าผู้อาวุโสก็ยอมแพ้ เวลาล่วงเลยไปกว่าห้าปีหลังจากที่ยอมแพ้เรื่องทายาทของผู้เป็นนาย ในที่สุดก็มีคนคิดเรื่อ
“จอมเผด็จการ”“นั่นคือคำจำกัดความโดยทั่วไปของจอมมาร” ชุนหรงลอยหน้าลอยตาอย่างน่าหมั่นไส้ สุดท้ายก็กลับเข้าเรื่องอีกครั้ง“ให้ข้าเล่าต่อ ในตอนนั้นพวกเขายอมแพ้ไปราวห้าปี แต่ก็เริ่มกลับมาหาวิธีอื่น”“วิธีอื่นคือส่งท่านเข้าหอนางโลม?” หนิงอันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้นางได้พบกับชุนหรง คงต้องขอบคุณผู้อาวุโสเหล่านั้นจริง ๆ“ใช่” ไม่ปฏิเสธเลยว่าเพราะเหตุนั้นทำให้เขาได้พบกับภรรยาที่รัก นึกขอบคุณผู้อาวุโสเหล่านั้น คงต้องให้วันหยุดพวกเขาได้พักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้างเพื่อตอบแทน“ข้าได้พบกับเจ้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าไป มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นทำให้ข้าไปอยู่ตรงนั้น เจ้าอาจเข้าใจผิดว่าข้าคือองครักษ์ของหอนางโลมเนื่องจากเจ้าเพิ่งมาใหม่” หน้าตาของจอมมารเป็นที่รู้จักกันทั่วเมือง หลังจากวันนั้นเขาถึงได้เปลี่ยนชุดที่สวมจากดำเป็นขาวและสวมหน้ากากเพื่อเข้าหานาง“ท่านเลยปลอมตัวเพื่อเข้าหาข้า ท่านตกหลุมรักข้าตั้งแต่แรกพบ”“ใช่” ชุนหรงไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าเป็นเพรา
กลับมาทางวังมาร เรือนลับของจอมมารตอนนี้บรรยากาศภายในเรือนเงียบลงเล็กน้อยเมื่อไม่มีต้าเซ่า หนิงอันขยับตัวลุกขึ้นเดินด้วยตัวเอง ชุนหรงก็รีบเข้าไปประคองนางเดินทันที“ข้าเดินเองได้”“ข้ารู้ แต่หากเป็นไปได้ข้าอยากอุ้มอาอันตลอดเวลาด้วยซ้ำ ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร”“ข้าตัวหนัก” หนิงอันกล่าวปฏิเสธกลาย ๆ“ไม่หนักแม้แต่น้อย แม้อาอันจะตัวใหญ่เท่าพ่อครัวใหญ่ของวังมาร ข้าก็ยังอยากอุ้มเจ้าอยู่ดี”หนิงอันไม่เคยเห็นพ่อครัวใหญ่ของวังมาร แต่เชื่อว่าเขาต้องเป็นชายร่างใหญ่รูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์อย่างแน่นอน ให้นางอ้วนขนาดนั้นคงไม่ไหว ชุนหรงนี่ช่างเอาใจเหลือเกิน“อย่าคิดว่าพูดเอาใจแล้วข้าจะไม่คิดบัญชีกับท่าน”“...” ชุนหรงที่ถูกจับได้ ทำได้เพียงใช้สายตากลมโตไร้เดียงสามองหน้าว่าที่ภรรยาราวกำลังบอกว่า‘ข้าเป็นคนดีของศรีภรรยาคนเดียวจริง ๆ นะ’ “ในเมื่อเหลือแค่เราแล้ว เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ของภรรยา คนเป็นสามีอย่างชุนหรงราวกับเกิดปฏิกริยาอย่างไม่รู้ตัว มือของเขาเริ่มอย
ความคิดเห็น