ไอริณนั่งดื่มเหล้าอยู่กับเรย์ เขาพาเธอไปนั่งดริ๊งค์ต่อ หลังจากทานอาหารนั่งคุยกันสองคนตามลำพังอย่างสนุกสนาน โดยไม่พ้นสายตาเพื่อนสนิทอีกสองคนซึ่งนั่งอยู่ห่างๆ ดูเพื่อนกำลังคุยอยู่กับแฟนสาวคนใหม่วันนี้
“ได้แฟนทำลืมเพื่อนจริงๆ ไอ้เรย์” วายุบ่นอุบอิบ ไม่นึกเลยว่าสาวผมบ๊อบ จะตกลงปลงใจยอมเป็นแฟนเรย์ได้ง่ายเพียงนี้ มือหนึ่งของปลื้มยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มกับวายุอย่างชิลล์ๆ ใครจะยอมให้เพื่อนได้ฟันสาวไปคนเดียวล่ะ
เสียงหัวเราะของหญิงสาวค่อนข้างระรื่นแบบนั้น เรย์เห็นแล้วว่าเธอกำลังเมา ไม่นึกเลยว่าจะล่อลวงเธอมาดื่มเหล้าได้ง่ายเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาคุยถามเรื่องของไอริณได้ข้อมูลมากมาย เธอเคยเสียตัวให้แฟนสมัยเรียนมัธยมปลาย มันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา หากจะพาเธอไปกอดปลอบใจที่ม่านรูดเสียหน่อย
“เพลียหรือยังล่ะ? จะพาไปพักผ่อน” เรย์ดึงกายบางหญิงสาวเข้ามาสวมกอด พลางกระซิบข้างหู โดยมีเพลงบรรเลงดนตรีสนุกสนานดังคลอจนพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง
“แหม... ไปสิ เหนื่อยแล้วล่ะ” ไอริณพูดลากเสียง สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว สุขใจจริงๆ ที่มาเรียนวันแรก ก็ได้แฟนหนุ่มพาเลี้ยงข้าว เลี้ยงเหล้า อย่างนี้ถ้าเรียนด้วยกันไปตลอดสี่ปี เธอคงจะไม่มีปัญหาเรื่องตอนจบปริญญาแน่ๆ
เรย์โอบไอริณไปด้วยกัน เพื่อมองหาม่านรูดดีๆ สักแห่ง เพื่อสร้างเวลาดีๆ ด้วยกัน ครั้นเหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทอีกสองคน นั่งดื่มเหล้าด้วยแล้วเขารู้สึกไม่ดีแล้วที่พบว่า ถูกติดตามมาด้วย
“เฮ้ย...เดี๋ยวก่อนสิวะ เรย์... เราเป็นเพื่อนกันมิใช่รึ?” ปลื้มรีบเดินตามหลังเรย์ ซึ่งวายุก็รีบไปยืนอยู่ข้างๆ ไอริณ ท่าทางเธอจะไม่เหลือการควบคุมและทรงตัวได้เลย
“ปลื้ม, วายุ พวกแกกลับไปได้แล้วนะ กูจะอยู่กับแฟนกู” เรย์เพิ่งจะคว้าสาวไปเลี้ยงข้าวและเลี้ยงเหล้าได้ไม่ทันไร เขาอยากจะกอดเธอให้เต็มที่ก่อนจะยกให้เพื่อน อย่างนี้มันจะรีบรุมทึ้งไปถึงไหนกันวะ
“เอางี้มั๊ยล่ะ พวกกูสองคนจะช่วยมึงดูแลแฟนมึงให้ คออ่อนเมาเหล้าอย่างนี้ กูว่าเขาคงจำไม่ได้หรอก ว่าจะถูกฟันท่าไหน หรือผัวกี่คน” ปลื้มพูดไปตามตรง โดยที่ไอริณไม่ได้โต้ตอบ นอกจากเอนกายพิงเรย์ สายตาเพื่อนสองคนยืนรุมเรย์ ราวกับว่า ยังไงๆ เขาจะต้องแบ่งสาวคนนี้ให้บ้าง
“เอ่อ...” เรย์รู้สึกใจคอไม่ดีซะแล้ว นึกว่าจะได้สาวมาเป็นแฟนคนเดียว เก็บไว้ฟันคนเดียวเสียอีก
“รีบไปกันเถอะ จะรอให้นางสร่างเมาหรือไง” วายุตัดบท จึงพาเรย์และไอริณ ขึ้นไปกับรถของปลื้ม เพราะเขาเป็นลูกคนมีตังค์อยู่แล้ว จะทำอะไรก็ได้...
******
ปลื้มขับรถพาออกไปชานเมือง เพราะเขาพอจะรู้จักม่านรูดดีๆ สักแห่งที่ยอมให้นศ.ได้ใช้บริการ แค่ถอดเข็ม ถอดตรามหาวิทยาลัย ก็ใช้บริการได้แล้ว...
เด็กบริการรูดม่านปิดรถของปลื้ม และวายุกับเรย์ ช่วยกันพยุงไอริณออกมาจากรถ เพื่อพาเข้าห้อง ประสงค์ต้องการเรือนร่างหญิงสาว ปลดเปลื้องอารมณ์ให้พึงพอใจ...
“กูเปิดก่อน กูเป็นแฟนเขา” เรย์บอกกับเพื่อนหนุ่มทั้งสองแน่นอนว่า เขาแบ่งไอริณให้แน่นอน แต่ต้องต่อคิวหลังจากเขา...
“เออ กูจะยืนรูดรอต่อคิว คนต่อไปกูก็แล้วกัน” ปลื้มพูดในฐานะเขาเป็นคนเปิดห้อง จ่ายเงินและพามา... ทำให้วายุต้องกลายเป็นคนสุดท้ายต่อคิวจากปลื้ม...
ไอริณถูกเปลื้องผ้าโดยไม่รู้สึกตัว เธอรับรู้ได้เพียงอย่างเดียวว่า มีอะไรบางอย่างแทรกมาระหว่างกลางต้นขา และจับสะโพกเธอเอาไว้แน่น เรือนกายของเธอถูกเขย่าตลอดเวลา เพื่อรับแรงกระแทกกับอะไรบางอย่าง
เสียงกระหืดกระหอบ อย่างคร่ำเครียด กำลังทิ้งน้ำหนักเพื่อดันอะไรบางอย่างเข้าไปในกายเธอ ไอริณเสียวกระสันจนน้ำแตกทะลัก เผลอครวญครางแม้จะยังเมาไม่รู้สึกตัว
เรย์จับไอริณถ่างขากว้างๆ ใช้มือล้วงเข้าไปสำรวจภายในช่องสวาท พบว่าเธอกำลังเสียวน้ำแตกหล่อลื่นออกมา ความเป็นชายของเขาแข็งตัวพลางจับส่วนหัวหยักใหญ่ เคลื่อนกายเข้าหาปากทางเข้าแคบๆ ราวกับเคยถูกใช้งานมาแล้ว แต่มันก็ช่างหนีบเล็ก เข้าไปได้อย่างยากลำบาก
“เฮ้ย... เร็วๆ กูก็อยากทำบ้างเหมือนกัน...” ปลื้มเร่งรัดเขาเห็นเรือนกายของไอริณแล้ว ถ้าได้ฟันฟรีโดยไม่ต้องรับผิดชอบ ปล่อยให้เรย์เป็นแฟนและแบ่งกันแบบนี้ มันก็ไม่เลวเหมือนกัน
“เออ แฟนกู !!! พวกมึงก็อย่าแอบมาฟันบ่อยล่ะ หลวมหมดกูอดเสียว” เรย์ตอบพลางยัดปลายองคชาติตนเข้าไปในช่องคลอด เรือนร่างเคลื่อนกายสูง ทำให้มือหนาทั้งสองต้องจับเธอยึดเอาไว้ เพื่ออัดองคชาติเข้าไปภายในอย่างยากลำบาก
ความลื่นเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่ง ทำให้กิจกามครั้งนี้ราบรื่น และแรงกระแทกโหมกระหน่ำใส่ร่างของไอริณนับครั้งไม่ถ้วน โดยที่หญิงสาวไม่รู้สึกตัวหรือขัดขืนว่าเธอจะต้องพบกับ องคชาติอีกสองคนรูดรออยู่จนมันขยายพองใหญ่เต็มที่กว่าของเรย์
ชายหนุ่มเริ่มเสียวซ่าน กระสันอยากจะพวยพุ่งน้ำกามใส่ เพราะภายในของไอริณมันใหม่สดเอี่ยมอ่อง เขากระแทกไม่ยั้งจนน้ำแตกใส่ภายในกายเธอ เสียงหอบเหนื่อยของเรย์จนเคลื่อนกายดึงองคชาติออกอย่างเชื่องช้า ทำให้หญิงสาวครวญครางอย่างสุขสันต์ แต่ดวงตาลืมไม่ขึ้น
******
ปลื้มเป็นรายถัดไป หลังจากดูเรย์ฟันไอริณ เขาขอจัดท่าเธอเสียหน่อย จึงไปอยู่ด้านหลังเพื่อสอดองคชาติเข้าไป พลางใช้แขนยกขาเธอพาดขึ้นสูง หญิงสาวถูกจัดอยู่ในท่าตะแคง แหวกต้นขากว้าง
องคชาติใหญ่ยาวอวบอิ่ม บวมพองขยายตื่นตัว แข็งหนาถูกบดเบียดเสียหญิงสาวขนลุกเสียวซ่าน รู้สึกดีเหลือเกินเมื่อถูกสวมกอดจากเรือนหลัง แรงกระแทกที่ชวนเสียวให้ลุ่มหลง ทำให้เธอรู้สึกกระสันอยากจะขมิบตอดกลับอย่างรู้สึกดี
“เฮ้ย... แฟนมึงขมิบปลายกะปู๋กูว่ะ เสียวชิบ!” ปลื้มพูดโพลงออกมา ในขณะที่เรยไปอาบน้ำล้างตัว เขาค่อนข้างไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนี้จากปลื้ม อุตส่าห์แบ่งแฟนสาวให้ฟัน ทำไมจะต้องมาพูดจากระทบกระเทือนแบบนี้ ชายหนุ่มรู้สึกอยากจะยกไอริณให้ปลื้มเสียเอง เขาฟันเธอไปแล้ว ไม่เห็นจะต้องรับผิดชอบอะไร ต่อจากนี้เลย
ปลื้มยังคงขยับสะโพกพลิ้ว อัดกระแทกใส่ช่องสวาทอย่างรวดเร็ว เสียงเนื้อกายชายดังเป็นจังหวะระหว่างร่องสวาทกำลังแดงบวม มันชวนสร้างอารมณ์ให้วายุ จนเขารูดทนไม่ไหว เกือบจะน้ำแตกอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ยังต้องรอสอดใส่...
“กูทนไม่ไหวแล้วว่ะ ขอกูตอนนี้เลยล่ะกันนะ ไอ้ปลื้ม” เพื่อนซึ่งรอต่อคิว คลานเข้าไปทางเบื้องหน้าของไอริณ ยื่นองคชาติยัดเข้าไปในปากเล็กๆ ของเธอ ดูดกลืนองคชาติอวบอิ่มของวายุจนคับปาก เขาดันมันเข้าไปให้ลึกที่สุด
ยิ่งดันไปเข้า ก็ยิ่งรู้สึกอุ่นองคชาติ พบกับปลายลิ้นกำลังตวัดไปมา ชวนเสียวกระสัน และชนกับลิ้นไก่ ทั้งแคบและบีบปลายหัวองคชาติเขา ชายหนุ่มแทบจะเสียวน้ำแตกใส่ภายในปาก สะโพกวายุขยับอย่างเสียวซ่าน ดันเข้าดึงออกตลอดเวลา พร้อมๆ กับปลื้มสอดองคชาติซอยรัวๆ กินตับไอริณเร็วๆ
เรือนกายหญิงสาวเสียวกระสันกับท่วงท่าถูกองคชาติรุมสองทาง เมื่อเรย์เดินออกมา พบว่าเพื่อนเขาสองคนกำลังรุมโทรมไอริณตอนเมา เขารู้สึกว่าควรจะยกไอริณให้ปลื้มเสียดีกว่าจะเก็บเธอเอาไว้เอง... ถ้าจะต้องแบ่งแฟนแบบนี้ เขาควรจะหาใหม่ และแยกวงกับเพื่อนเสียจะดีกว่า...
ปลื้มเริ่มจะเสียวกระสันสุดๆ เกือบจะเสร็จสมถึงจุดสุดยอด ชายหนุ่มเริ่มหน้าดำหน้าแดง เมื่อกระแทกองคชาติเข้าไปภายในจนสุดทางตัน ยิ่งชนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากจะแตกน้ำกามใส่เธอให้สาสม มือหนากอดเรือนหายหญิงสาว อัดแรงกระแทกทั้งหมด ถาโถมใส่เรือนกายหญิงสาวให้สุดกำลัง และปล่อยสายน้ำอุ่นร้อนพวยพุ่งเข้าไปในกายเธอ
ค่อยดึงมันออกมาอย่างเชื่องช้า และน้ำขุ่นขาวค่อยไหลออกมาหลังจากปลื้มเสร็จกิจกามอย่างสมใจ วายุรัวองคชาติซอยในปากของไอริณ เขาชอบจริงๆ ที่มีปากแคบๆ เล็กๆ ดูดอยู่ยามนี เขาเสียวซ่านขนลุกจนน้ำแตกหลั่งภายในปากเธอ หอบหายใจเหนื่อยเมื่อเขารัวซอยเร็วอย่างสมใจ...
เรือนหน้าเรย์ค่อนข้างเก็บอารมณ์ อยากจะบอกปลื้มให้ชัดเจนว่า เขาจะยกแฟนสาวคนนี้ให้ ถ้าเกิดอยากจะเก็บเอาไว้ฟันบ่อยๆ แก้เครียดตอนเรียน เขาก็ยินดียกให้
“จริงหรือเปล่าวะ เรย์... ขอบใจมากนะเว้ย”
“มึงก็ไปบอกไอริณเองก็แล้วกัน กูได้ฟันไปแล้ว กูหาเอาใหม่ก็ได้” เรย์คิดว่ามันไม่ใช่ความรักหรอก หากเขาจะมีแฟนดีๆ สักคน เอาไว้อยู่กับเขาตามลำพัง เขาจะไม่ให้ผู้หญิงที่เขารัก ถูกเพื่อนสนิทรุมโทรมกันแบบนี้
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้