แชร์

ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย
ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย
ผู้แต่ง: เที่ยงคำ

บทนำ

ผู้เขียน: เที่ยงคำ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-24 10:56:31

โรส หญิงสาววัย 24 ปีเป็นลูกครึ่งไทย-จีน พ่อของเธอนั้นเป็นคนจีน แม่เป็นคนไทยอาศัยอยู่จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากเป็นลูกครึ่งไทยจีนเธอจำต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างไทยกับจีนตลอด

เมื่อปี 25x3 เกิดโรคระบาดที่ชื่อว่า โควิด 19 ระบาดอยู่ที่อู่หั่น ซึ่งตอนนั้นโรสได้ไปเที่ยวอยู่ที่นั่นพอดี แต่ไม่ว่าจะโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ประจวบเหมาะกับเธอดันหนีกลับไทยมาก่อนจะระบาดหนัก

แต่แล้วเมื่อกลับไทยได้ไม่นานก็มีอาการไข้ขึ้นสูง พร้อมกับอาการไออย่างหนักกอปรกับเธอเคยเดินทางไปอู่หั่น ทำให้เธอลองไปตรวจที่โรงพยาบาลในตัวเมือง ผลปรากฏว่าเธอติดโควิด 19 เธอได้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานีจนกว่าจะหายดี

ด้วยเนื่องจากโรคระบาดยังไม่มีวัคซีน ทำให้โรสนอนอยู่โรงพยาบาลประมาณเดือนกว่าจึงเสียชีวิตลงด้วยโควิด19 ในวัย 24 ปี

ท่ามกลางความเศร้าโศกของครอบครัวของเธอ ตายญาติไม่สามารถมาทำศพได้ เธอต้องตายอย่างโดดเดี่ยวไม่เห็นหน้าครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย นับว่าน่าเวทนาชีวิตไม่น้อยเลยทีเดียว

ก่อนตายโรสผู้ชื่นชอบการอ่านนิยายย้อนยุคเป็นชีวิตจิตใจ ในห้วงภวังค์ก่อนจะสิ้นใจนึกย้อนไปว่าถ้าเธอได้ย้อนเวลาไปเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณเช่นนางเอกในนิยายทะลุมิติคงจะดี

แต่แล้วคงได้เพียงเพ้อฝันลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้นเพราะเธอไม่รู้ว่าโลกหลังความตายเป็นเช่นไร ไม่มีผู้ใดที่ตายแล้วมาเล่าสู่กันฟังเลยสักนิด จึงไม่รู้ว่าเธอจะล่องลอยไปในทิศทางใดในปรโลกนี้

“ในที่สุดฉันก็ตายแล้ว ยังไม่มีสามี และยังมีอะไรอีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำ พ่อกับแม่ลูกคนนี้อกตัญญูไม่ได้ตอบแทนบุญคุณท่าน ต้องลาจากกันไปไกลเสียแล้ว” เสียงวิญญาณของโรสซึ่งกำลังสิ้นใจ

เหม่อมองร่างที่ไร้วิญญาณของตน ร้องไห้พร่ำพรรณนาถึงเรื่องราวของตนทั้งยังไม่ได้กระทำอีกมากมายในชีวิต นึกถึงพ่อกับแม่ที่เลี้ยงดูมาตลอดระยะเวลา 24 ปีแล้วทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ

โรสในวัย 24ปี จบจากคณะนิเทศศาสตร์ เพิ่งจบมาหมาด ๆ ยังไม่มีงานทำต้องจบชีวิตลงด้วยโรคระบาด ซึ่งลามไปเกือบทั่วโลกแล้ว

ชายชราผมขาวลูบเคราที่ยืดยาวของตน พลางอ่านประวัติ การทำความดีความชั่วก่อนตายในโลกเดิม ความเป็นมาของวิญญาณดวงใหม่นับว่าใช้ชีวิตไม่คุ้มค่าเท่าใดนัก

“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” เสียงของชายชราเอ่ยขึ้น เมื่อได้อ่านเรื่องราวของวิญญาณตนนี้นับว่าอเนจอนาถไปไม่น้อยกว่าผู้ใดเลย

“แม่นางท่านนี้ หยุดร้องไห้ก่อน แล้วปล่อยวางจากโลกเดิมเถิด” ชายชราเห็นวิญญาณตนนี้ร้องไห้จึงบอกให้นางหยุดและปล่อยวาง

“คุณตาเรียกหนูเหรอคะ ฮึก ๆ” หลังจากร้องไห้มาเนิ่นนาน เธอจึงหันไปมองเสียงดังแว่วเข้ามา ปรากฏว่าเป็นชายชราผมขาวหนวดยาว ยืนลูบเคราสีขาวของตนอยู่รัศมีรอบกายสว่างไสวไปทั่วร่าง ดูสูงส่งอย่างมาก

“ใช่ เจ้านั่นแหละ แม่นางข้ามารับวิญญาณเจ้าไปเกิดใหม่” ชายชราลูบเคราของตนพร้อมกับถึงกล่าววัตถุประสงค์ของการมาในครั้งนี้

“หนูเลือกเกิดได้ไหมคะ” เธอนึกถึงยุคจีนโบราณในนิยายดังนั้นจึงลองขอพรดู

“เจ้าลองว่ามาก่อน” ชายชราลูบเคราพร้อมครุ่นคิด ว่าขอในสิ่งที่ให้ได้เถิดนะ

"หนูอยากไปเกิดในยุคจีนโบราณค่ะ" เธอตอบออกไปในทันที สิ่งที่เธอหวังว่าจะไปในโลกใบใหม่

"ได้ ตกลง เอาล่ะ หลับตานะแม่นางข้าขอให้เจ้าโชคดี หึ หึ" ชายชราทบทวนคำขอก็พบว่าไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงที่เขาสามารถทำได้จึงพยักหน้าลูบเคราของตนไปด้วย

"เย้" เธอดีใจอย่างมากที่ได้ไปเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณที่ใฝ่ฝัน อีกไม่นานภาพตรงหน้าพลันดับมืดลงไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เมนูใหม่ ๒

    ทุกคนต่างช่วยกันขนกล้วยกลับเหลาอาหารจนเต็มสองมือ เมื่อมาถึงที่ร้านก็ยามซื่อ (คือ 09.00 - 10.59 น.) กำหนดเวลาเริ่มทำงานของพนักงานในร้านต่างเริ่มปัดกวาดเช็ดถูพื้น โต๊ะ เก้าอี้ และแม่ครัวก็รีบทำตามออร์เดอร์ที่ได้รับมาจากยอดสั่งจองเมื่อวานนี้ ฟางหรงเมื่อเห็นเด็ก ๆ มากันแล้วและยังถือกล้วยมาอีก"ได้กล้วยมาเยอะแยะพวกเจ้าจะเอาไปทำอะไรกัน?""ท่านพ่อ เหมยเอ๋อร์บอกว่าจะทำอาหารแบบใหม่ให้กินขอรับ""ใช่เจ้าค่ะ ข้าจะดูว่าฮุ่ยเหมยจะเอากล้วยดิบมาทำอะไร"ลี่จูกล่าวกับฟางหรง ทำให้ทุกคนในร้านก็อยากรู้เหมือนกัน"งั้นพวกเรามาช่วยกันทำกันเถอะเจ้าค่ะ"ฮุ่ยเหมยเอ่ยบอกกับทุกคนและบอกให้ทุกคนปอกเปลือกกล้วยทั้งดิบและสุกไว้ใส่จาน จากนั้นทุกคนก็เริ่มช่วยกันทำจนปอกเปลือกเสร็จแล้ว ฮุ่ยเหมยจึงบอกขั้นตอนต่อไปทันที"จากนั้นผ่าครึ่งกล้วยดิบและนำไปปิ้งจนสุกได้ที่ก็กินได้แล้วเจ้าค่ะ""อืม เดี๋ยวพี่จะไปปิ้งให้""คุณชายเดี๋ยวข้าช่วยท่านปิ้งเองขอรับ"เย่วเทียนที่ทำความสะอาดร้านเสร็จก็อาสาช่วยอีกแรง"รายการต่อไปคือแกงกล้วยดิบใส่เนื้อเจ้าค่ะ"เมื่อเด็กน้อยเอ่ยขึ้นทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า'หืม มันนำไปแกงได้ด้วยหรือเนี่ย'

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เมนูใหม่ ๑

    ยามเซิน (15.00-16.59 น.) ในตอนนี้ในร้านยังคงมีลูกค้าที่นั่งทานอยู่เต็มร้าน แต่เนื่องจากตอนนี้วัตถุดิบในการทำอาหารหมดแล้ว มีมะละกอ หอยเชอร์รี่และกุ้งฝอย ที่เริ่มหมดและให้พี่เย่วเทียนไปเก็บจากในป่าท้ายตลาดที่ชาวบ้านสามารถเก็บของมาขายได้และนำมากินได้ดังนั้นจึงต้องให้ลูกค้ารอหรือบางคนก็เลือกทานเมนูอื่นแทน ท่านพ่อที่ช่วยกันรับออร์เดอร์กับลุงหานเมื่อเห็นว่าใกล้ยามโหย่ว (17.00-18.59 น.) ที่กำหนดเป็นเวลาปิดร้านจึงตกลงกับลุงหานว่าจะหยุดรับออร์เดอร์สำหรับวันนี้"ข้าคิดว่าจะหยุดรับรายการอาหารวันนี้ไว้ก่อน นี่ใกล้ยามโหย่วแล้ว""อืมได้ ข้าจะแจ้งให้ลูกค้าทราบ"ลุงหานเอ่ยตอบตกลงจึงให้ลูกค้าที่มาสั่งอาหารทีหลังสั่งจองไว้กินวันพรุ่งนี้ ลูกค้าก็เข้าใจจึงตกลงสั่งจองไว้พรุ่งนี้ เมื่อมีคนรู้ว่าสามารถสั่งจองได้จึงรีบต่อแถวสั่งจองอาหารไว้แต่ทั้งสองคนไม่คาดคิดว่ายอดสั่งจองจะมากถึง 45 คิวและแต่ละคนสั่งกัน 8-9 อย่าง ท่านพ่อจึงคิดว่าวัตถุดิบที่นำมาขายในวันพรุ่งนี้ต้องหาให้ได้มากที่สุด"พี่หานข้าวานท่านไปรับซื้อ ปลา หอย ปู กุ้ง จากชาวบ้านในหมู่บ้านให้ด้วยนะ""ได้สิ""ขอบคุณท่านมาก นี่เงิน 500 อีแปะข้าให้ไว้เผ

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เปิดร้านวันแรก

    เมื่อเปิดร้านเสร็จทุกคนก็เริ่มไปประจำที่ ที่ได้รับมอบหมาย นอกจากท่านนายอำเภอแล้วก็มีลูกค้าเพียง 2-3 โต๊ะเท่านั้นตอนนี้ทุกคนล้วนว่างงานโดยเฉพาะไม่ใช่พนักงานที่บริการห้องพิเศษฮุ่ยเหมยอยู่กับท่านแม่ที่โต๊ะรับออร์เดอร์ชั้นสองที่บริการลูกค้าห้องพิเศษ ที่ตอนนี้มีเพียงหนึ่งห้อง เมื่อเสิร์ฟอาหารเสร็จก็เหมือนจะไม่มีงานทำ"ท่านแม่ข้าขอไปข้างล่างนะเจ้าค่ะ" เด็กน้อยนั่งเล่นกับท่านแม่ก็รู้สึกเบื่อ ๆ จึงคิดว่าจะไปเรียกลูกค้าให้ท่านแม่เยอะ ๆ ดีกว่า"ได้ ไปเล่นกับพี่ชายเจ้ากับลี่จูอย่าซนกันนักละ""เจ้าค่ะ"ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของเด็กน้อยเดินลงมาข้างล่างมันเงียบมากจนได้ยินเสียง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นที่ได้ขายไป 7 วันจะขายดีมากแต่เหมือนว่าจะบอกลูกค้าว่ามาขายที่นี่แต่บางทีผู้คนอาจจะไม่รู้จักมากนัก ดังนั้นจึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นไม่มีเงินจ่ายค่าแรง ค่าเช่าโรงเตี๊ยมแน่ ๆ“อ้าว เหมยเอ๋อร์ เจ้าไม่อยู่กับท่านแม่หรือไง?” เสียงหนิงหลงเอ่ยขึ้นถามขณะที่กำลังนั่งหยิบหอยเชอร์รี่เสียบไม้“ข้าจะมาเรียกลูกค้าเข้าร้านนะสิ”ฮุ่ยเหมยเอ่ยตอบและเห็นว่าพี่ชายกับลี่จูช่วยกันเสียบหอยกันอยู่ จึงคิดว่าพวกเขาจะทำปิ

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เปิดร้านอาหาร

    เมื่อฟางหรงแนะนำอาหารและพูดคุยกับท่านลุงนายอำเภอและท่านหลงจู๊ได้สักพักก็ขอตัวออกมาทานข้าวกับครอบครัวอีกห้องหนึ่ง และแนะนำน้ำอ้อยกับชามะนาวให้กับทั้งสามท่านก่อนมารับอาหารเที่ยงกับครอบครัว"อ้อ ข้าขอแนะนำน้ำอ้อยกับชามะนาวให้แก่ท่านทั้งสามด้วยนะขอรับ""อืม อันนี้รสชาติหวานมาก นี่มีรสเปรี้ยวหวาน อืมชุ่มคอแปลกใหม่น้ำทั้งสองอย่างนี้ อร่อยรสชาติดีทีเดียว" เสียงท่านลุงอู๋เจ๋อเอ่ยขึ้นเมื่อลองชิมครั้งแรก"อืม โอ้ ข้าไม่เคยกินน้ำอะไรอร่อยเช่นนี้มาก่อน"ท่านหลงจู๊เอยชิมครั้งแรกและอุทานขึ้นมาด้วยสายตาเป็นประกายและเอ่ยถามขึ้นว่า"น้ำชามะนาวกับน้ำอ้อยนี่ท่านนำมาขายด้วยหรือไม่""ข้านำมาให้ลูกค้าดื่มเฉพาะในร้านเท่านั้นขอรับ""อ้อ ดี ๆ ข้าจะมาซื้ออาหารทุกวันเลย""ขอบพระคุณทุกท่านมากขอรับ งั้นข้าขอตัวก่อนเชิญทุกท่านกินให้เต็มที่ขอรับ""ได้ ๆ เชิญ ๆ"ฟางหรงก็เดินมารับประทานอาหารกับครอบครัว ฮุ่ยเหมยจึงรีบแนะนำ ส้มตำปูปลาร้า ที่ยังไม่เคยใส่ปูดองให้ท่านพ่อชิม"ท่านพ่อลองทานส้มตำปูปลาร้าดูเจ้าค่ะ""รสชาติอร่อยมากเหมยเอ๋อร์"แล้วทุกคนก็เริ่มทานอาหารกัน ทุกคนที่ได้ชิมล้วนชื่นชอบส้มตำปูปลาร้ากันมาก พนักงานที่จ้

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เตรียมตัวเปิดร้านอาหาร

    ฮุ่ยเหมยนั่งเล่นอยู่ดี ๆ รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาของตน พอมองไปก็พบว่าเป็นปูนา 'เฮ้ยยุคนี้มีปูนาด้วย' เมื่อพบเข้ากับปูนาหลายตัวก็คิดเมนูอาหารที่จะกินเย็นนี้ ปูนาสามารถนำมาดองใส่ส้มตำได้และใส่ยำมะม่วงได้ ใช่เลยนี้มันของอร่อยเลยล่ะ "ท่านพ่อเจ้าคะ ข้ามีของอร่อยมานำเสนอเจ้าค่ะ" เมื่อท่านพ่อรู้ว่ามีของอร่อยมาให้กินก็รีบเดินมาหาลูกสาวอย่างรวดเร็ว "อะไรหรือเหมยเอ๋อร์?" ท่านพ่อเอ่ยขึ้นด้วยตาเป็นประกายที่ตนจะได้กินของอร่อย และเด็กน้อยก็หยิบปูให้พ่อของตนดู "นี่เจ้าค่ะ ปูนา" "นี่ นี่ นี่!!! ตัวประหลาดเช่นนี้มันกินได้รึ" เมื่อท่านพ่อได้เห็นก็ถึงกับผงะไปเลยทีเดียว เมื่อตั้งสติได้ท่านพ่อก็เอ่ยถามลูกสาวใหม่เพื่อความแน่ใจ "เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือ เหมยเอ๋อร์!!!" "มันกินได้และนำไปใส่ส้มตำอร่อยมากเจ้าค่ะ" เมื่อได้ยินว่านำไปใส่ส้มตำได้ท่านพ่อก็ยอมตกลงที่จะจับมาให้ลูกสาว เมื่อได้ยินเสียงท่านพ่อร้องตกใจทุกคนจึงเดินมารวมตัวกันที่นี่ "มีอะไรกันท่านพ่อ" หนิงหลงเป็นคนเอ่ยถามขึ้น "เหมยเอ๋อร์นะสิ บอกว่าเจ้านี่มันกินได้" "จริงหรือเหมยเอ๋อร์" "ใช่เจ้าค่ะ มันนำไปทำอาหารได้ ใส่ส้มตำอร่อยมากด้วยนะ

  • ขอเกิดใหม่มาร่ำรวย   เหลาอาหารฮว๋าฮง

    เมื่อตกลงว่าจะเช่าที่ข้างโรงหมอแล้ว และเขียนสัญญากันเรียบร้อย ทุกคนจึงเดินตลาดหาซื้อของเข้าร้าน ฮุ่ยเหมยกำลังคิดว่าจะซื้ออะไรดี มีข้าวเหนียว เสื้อผ้าใหม่ตัดให้พนักงาน มีผ้ากันเปื้อน ผ้าโพกผม และกระดาษสำหรับจดรายการอาหาร และต้องจ้างคนอีกหลายคน"ท่านพ่อท่านแม่ซื้อของไปเก็บไว้ที่โรงเตี๊ยมก่อนไหมเจ้าคะ จะได้ไม่ต้องขนมาจากบ้านอีกทีเจ้าค่ะ""อืมเป็นความคิดที่ดี เหมยเอ๋อร์ลูกพ่อ ช่างคิดรอบคอบจริง ๆ"ท่านพ่อมองลูกสาวตัวน้อยของตนที่มีความคิดที่โตกว่าอายุมาก และลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดูและทั้ง 6 คนก็เดินหาซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ ท่านพ่อเป็นคนจูงลูกสาว ท่านแม่จูงพี่ชายเพราะคนค่อนข้างเยอะ กลัวลูกน้อยของตนจะพลัดหลงกัน ท่านพ่อคิดว่าอย่างแรกที่จำเป็นคือข้าวเหนียว ที่ทุกคนเริ่มชื่นชอบที่จะกินข้าวเหนียว จึงเดินไปยังร้านขายข้าวสารทันที"สวัสดีนายท่านต้องการซื้อข้าวสารแบบใดเชิญแจ้งมาเลยขอรับ" พนักงานในร้านเข้ามาต้อนรับลูกค้าอย่างกระตือรือร้นและแนะนำข้าวสารให้แก่ลูกค้าด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว"เอาข้าวเหนียว 20 ชั่ง ข้าวสารธรรมดา 20 ชั่ง"ท่านพ่อเอ่ยสั่งข้าวสารกับพนักงานและนับเงินจ่ายให้กับหลงจู๊ และบอกว่าให

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status